ตอนที่ 84. คนคิดไม่อาจฝืนลิขิตฟ้า

ทั้งโจโฉและกุยแกเห็นพ้องต้องกันว่าเล่าปี่เป็นวิญญูชน แม้ต้องการกำจัดให้พ้นทางแต่จะใช้มือตนเข้าทำการไม่ได้ หากต้องยืมมือคนอื่น โจโฉครั้นได้ฟังข้อเสนอของกุยแกแล้วก็สงสัยว่าจะทำประการใด           

            กุยแกจึงว่าเมืองอิจิ๋วซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองเสียวพ่ายนั้นยังไม่มีเจ้าเมือง ขอให้ท่านกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้แต่งตั้งเล่าปี่เป็นเจ้าเมือง แล้วให้เล่าปี่ยกไปตีเมืองเสียวพ่าย ลิโป้ก็จะยกไปป้องกันเมืองเสียวพ่ายรบด้วยเล่าปี่ คงจะตกตายกันไปข้างหนึ่งแล้วค่อยกำจัดคนที่เหลือต่อไป

            โจโฉฟังแผนการของกุยแกแล้วดีใจยิ่งนัก จึงว่าข้าพเจ้าตกลงใจทำตามแผนของท่าน รุ่งขึ้นโจโฉจึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ กราบบังคมทูลเสนอให้โปรดเกล้าแต่งตั้งเล่าปี่เป็นเจ้าเมืองอิจิ๋วตามแผนการของกุยแก พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็โปรดเกล้าแต่งตั้งตามที่เสนอ โจโฉจึงกราบถวายบังคมลากลับออกมา

            พอมาถึงจวนเทียหยกที่ปรึกษาซึ่งเป็นเจ้าเมืองตังเป๋งได้มารอพบอยู่ก่อน โจโฉเห็นเทียหยกมาก็ยินดี และเล่าความที่เล่าปี่มาขออาศัยแล้วพระเจ้าเหี้ยนเต้โปรดแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองอิจิ๋ว แต่แผนการและความคิดของกุยแกนั้น โจโฉไม่ได้เล่าให้เทียหยกทราบ

            เทียหยกจึงว่าเล่าปี่เป็นผู้มีสติปัญญา ที่จะยอมเป็นผู้น้อยในบังคับของท่านนั้นหายั่งยืนไม่ ต่อไปภายหน้าเล่าปี่ย่อมเอาใจออกห่างคิดตั้งตัวเป็นใหญ่ ขอให้ท่านตัดไฟเสียแต่ต้นลมจับเล่าปี่ฆ่าเสีย

            โจโฉจึงว่าซุนฮกได้มาหาและมีความเห็นเช่นเดียวกับท่าน แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าการฆ่าเล่าปี่เป็นการไม่ชอบ ด้วยบัดนี้เรากำลังทำการใหญ่เพื่อรวบรวมแผ่นดิน ต้องเอาใจผู้คนเพื่อระดมคนดีมีฝีมือเข้ามาช่วยทำการ หากสังหารเล่าปี่เสียแล้ว ใครไหนจะกล้าเข้ามาทำการด้วยเราเล่า ข้าพเจ้าได้ปรึกษาเรื่องนี้กับกุยแกและตกลงแผนการกันเรียบร้อยแล้ว ท่านจงวางใจเถิด

            เทียหยกยินความที่โจโฉกล่าวว่ากำหนดแผนการเสร็จสิ้นแล้วก็คลายใจ จึงขอลาโจโฉกลับไป
 พอเวลาใกล้เที่ยงเล่าปี่ได้เข้ามาหาโจโฉ โจโฉจึงแจ้งแก่เล่าปี่ว่าวันนี้ได้เข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ กราบทูลเสนอให้แต่งตั้งท่านเป็นเจ้าเมืองอิจิ๋ว ทรงโปรดเกล้าตามเสนอและจะมอบพระบรมราชโองการและตราตั้งต่อไป ให้เล่าปี่รีบเดินทางไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองอิจิ๋ว แล้วว่าข้าพเจ้าจะจัดทหารให้กับท่านสามพัน เมื่อถึงเมืองอิจิ๋วแล้วให้ท่านยกไปตีเมืองเสียวพ่าย แล้วเตรียมทหารไว้ให้พร้อมที่จะยกไปตีเมืองชีจิ๋ว ข้าพเจ้าจะเตรียมการทางนี้ไว้ให้พร้อม แล้วจะแจ้งกำหนดให้ท่านทราบ จะได้ยกทหารไปตีเมืองชีจิ๋วพร้อมกัน

            เล่าปี่ลุกขึ้นคารวะแสดงความขอบคุณโจโฉที่ส่งเสริม แล้วรีบลาโจโฉกลับออกไปที่อยู่ พอโจโฉให้คนคุมทหารสามพันมามอบให้อยู่ในบังคับบัญชาเล่าปี่ และข้าหลวงเชิญพระบรมราชโองการพร้อมตราตั้งเป็นเจ้าเมืองอิจิ๋วมามอบแล้ว เล่าปี่จึงยกทหารและครอบครัวออกจากเมืองฮูโต๋ไปเมืองอิจิ๋ว

            การที่เล่าปี่รับคำโจโฉว่าจะยกไปตีเมืองเสียวพ่าย เท่ากับเป็นการยอมเดินไปตามแผนการของกุยแก ซึ่งนับว่าเป็นแผนการที่ลึกล้ำร้ายกาจ แต่ไม่มีใครทราบว่าเล่าปี่แจ้งในกลอุบายนี้หรือไม่

            ก่อนหน้านี้โจโฉได้อ้างเอาบุญคุณที่กราบทูลเสนอให้ตั้งเล่าปี่เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋ว และให้เล่าปี่คิดกำจัดลิโป้ซึ่งเป็นคู่อาฆาตเสีย แต่เล่าปี่ไม่ทำตาม โจโฉจึงลวงอ้วนสุดให้ยกไปกำจัดเล่าปี่ แต่ลิโป้เข้าขวางไว้ ครั้นเล่าปี่หนีลิโป้มาพึ่งโจโฉที่เมืองฮูโต๋ แม้ว่าใจจริงโจโฉอยากจะประหารเล่าปี่แต่ทำไม่ได้ เพราะเกรงจะเป็นอุปสรรคต่อการรวบรวมแผ่นดิน ดังนั้นโจโฉจึงเอาอกเอาใจเล่าปี่เรียกเป็นพี่เป็นน้อง และยังเสนอตั้งเป็นเจ้าเมืองอิจิ๋วแล้วมอบทหารให้อีกสามพัน การกระทำทั้งปวงของโจโฉนี้ความจริงจึงไม่ใช่การช่วยเหลือเล่าปี่ แต่เป็นการเดินตามแผนที่ต้องการให้เล่าปี่รบกับลิโป้ ไม่ว่าลิโป้จะฆ่าเล่าปี่หรือเล่าปี่จะฆ่าลิโป้ ย่อมเป็นประโยชน์แก่โจโฉทั้งสิ้น เพราะเท่ากับยืมมือของศัตรูกำจัดศัตรู โดยเสียทหารเพียงสามพันเป็นค่าใช้จ่ายเท่านั้น นับเป็นการลงทุนที่เกินคุ้มจริง ๆ และต้องนับว่าเป็นแผนการที่ลึกซึ้งรอบคอบแทบจะไม่มีทางผิดพลาดได้เลย

            ครั้นเล่าปี่ยกไปแล้ว โจโฉจึงสั่งให้เตรียมทหารให้พร้อมเพื่อจะยกไปตีเอาเมืองชีจิ๋ว การเตรียมการทั้งนี้ย่อมแสดงว่าโจโฉได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่าเล่าปี่ต้องพ่ายแพ้แก่ลิโป้เป็นแน่แท้ จึงเหลือเพียงลิโป้ที่จะต้องกำจัด และแม้ว่าลิโป้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้  โจโฉก็จะยึดเอาเมืองชีจิ๋วได้โดยง่าย ทั้งเป็นการป้องกันมิให้เล่าปี่ยกล่วงเข้ามายึดเอาเมืองชีจิ๋วได้อีกทางหนึ่งด้วย

            ทว่าความคิดเป็นของคน แต่ความสำเร็จกลับเป็นของฟ้า ความคิดคนแม้จะลึกล้ำรอบคอบสักเพียงไหนก็ไม่อาจฝืนลิขิตแห่งฟ้าได้ เหตุนี้ความผันแปรนอกเหนือความคิดของผู้คนจึงย่อมเกิดขึ้นได้

            โจโฉยังไม่ทันที่จะได้ยกทัพออกจากเมืองฮูโต๋ เหตุการณ์นอกเหนือความคาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากหัวหน้ากองข่าวได้มารายงานแก่โจโฉว่าบัดนี้เตียวเจลูกน้องเก่าของตั๋งโต๊ะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ทหารเอกของตั๋งโต๊ะและเคยร่วมทำการรัฐประหารกับลิฉุย กุยกี และหวนเตียว ได้ยกกองทัพจะมาตีเมืองฮูโต๋แต่ปะทะกันที่ชายแดน เตียวเจถูกเกาทัณฑ์ถึงแก่ความตาย เตียวสิ้วผู้หลานได้รวบรวมทหารเตียวเจและเกณฑ์ชายฉกรรจ์จำนวนมากเข้าร่วมในกองทัพและได้กาเซี่ยงที่ปรึกษาเก่าของลิฉุยมาเป็นที่ปรึกษา ขณะนี้เตียวสิ้วยึดได้เมืองอ้วนเซียตั้งเป็นฐานที่มั่น แล้วชักชวนเล่าเปียวเจ้าเมืองเกงจิ๋วให้ยกกองทัพมาตีเมืองฮูโต๋พร้อมกันเพื่อจะชิงเอาพระเจ้าเหี้ยนเต้

            โจโฉได้ทราบรายงานแล้วก็โกรธเตียวสิ้วและเล่าเปียวเป็นอันมาก เพราะการที่เตียวสิ้วและเล่าเปียวจะยกกองทัพมาตีเมืองฮูโต๋ครั้งนี้คือการทำลายแผนการที่จะกำจัดเล่าปี่และลิโป้ ที่ได้เตรียมการไว้แล้วเป็นอย่างดี เพราะหากโจโฉจะยกไปตีเมืองชีจิ๋วก็อาจต้องเสียเมืองฮูโต๋และหากพระเจ้าเหี้ยนเต้ถูกช่วงชิงไป อำนาจรัฐทั้งปวงที่มีอยู่ก็จะมลายสูญไปสิ้น

            ดังนั้นโจโฉจึงต้องปรับเปลี่ยนแผนการมาคิดกำจัดเตียวสิ้วเสียก่อน แต่ครั้นจะยกทหารไปกำจัดเตียวสิ้วก็ห่วงหลังว่าลิโป้จะยกมาตีเมืองฮูโต๋ จึงเรียกซุนฮกมาปรึกษาว่าจะคิดอ่านประการใด จึงจะป้องกันลิโป้ไม่ให้ยกกองทัพมาตีตลบหลังเอาเมืองฮูโต๋

            ซุนฮกจึงว่าลิโป้เป็นคนโลภ และหาความคิดมิได้ ดังนั้นจึงขอให้ท่านกราบบังคมทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้โปรดเกล้าแต่งตั้งลิโป้เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋วอย่างเป็นทางการ ลิโป้เห็นประโยชน์ดังนี้ย่อมมีใจยินดี และไม่ยกมาทำอันตราย โจโฉจึงว่าข้าพเจ้าได้สั่งเล่าปี่ให้ยกไปตีเมืองเสียวพ่าย ท่านมีความคิดเห็นเป็นประการใด

            ซุนฮกจึงว่าถ้าเล่าปี่กับลิโป้รบกันในช่วงระยะนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ท่านพะวงหลังเท่านั้น แม้ฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำลงท่านก็ไม่มีโอกาสซ้ำเติมเอาประโยชน์ ดังนั้นจึงขอให้ท่านมีหนังสือไปถึงลิโป้และเล่าปี่ให้ปรองดองกัน อย่าได้ทำศึกสงครามต่อกันให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ราษฎร

            โจโฉเห็นชอบกับความคิดของซุนฮก จึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้กราบบังคมทูลเสนอแต่งตั้งลิโป้เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋ว พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ทรงโปรดเกล้าตามคำกราบบังคมทูล โจโฉออกจากที่เฝ้าแล้วก็ให้ทหารเชิญพระบรมราชโองการไปให้ลิโป้ และมอบหนังสือตามคำซุนฮกไปถึงลิโป้และเล่าปี่

            จากแผนการที่วางไว้ให้เล่าปี่กับลิโป้รบราฆ่าฟันกันเอง มาถึงบัดนี้แผนการใหม่ได้ปรับเปลี่ยนเป็นให้ลิโป้กับเล่าปี่ต้องปรองดองไม่ทำศึกสงครามต่อกัน เท่ากับความคิดตามแผนการเก่าต้องสูญสลายไป ไม่อาจฝืนลิขิตแห่งสวรรค์ได้ เหตุนี้เล่าปี่จึงหลุดรอดออกจากกลอุบายของกุยแก

            ครั้นจัดแจงการทางด้านลิโป้และเล่าปี่เสร็จแล้ว โจโฉจึงสั่งให้จัดทหารสิบห้าหมื่น ให้แฮหัวตุ้นและอิกิ๋มเป็นกองทัพหน้า โจโฉเป็นกองทัพหลวง ยกออกจากเมือง   ฮูโต๋เพื่อจะไปกำจัดเตียวสิ้วที่เมืองอ้วนเซีย ครั้นกองทัพของโจโฉเคลื่อนไปถึงแม่น้ำหยกซุย ชายแดนเมืองอ้วนเซีย จึงให้ตั้งค่ายลงไว้

            ฝ่ายเตียวสิ้วครั้นได้ข่าวว่าโจโฉยกกองทัพใหญ่จะมาตีเมืองอ้วนเซียก็ตกใจจึงปรึกษาด้วยกาเซี่ยงว่าจะคิดอ่านประการใด กาเซี่ยงจึงว่ากองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก คงจะรับมือโจโฉไม่ได้ และว่าตัวท่านกับโจโฉไม่เคยมีความผิดพ้องหมองใจมาแต่ก่อน ดังนั้นถ้าหากท่านยอมสวามิภักดิ์ โจโฉคงจะรับไมตรี ท่านก็ยังเป็นเจ้าเมืองอ้วนเซียอยู่เหมือนเดิม ทหารแลราษฎรก็จะไม่ต้องลำบาก

            เตียวสิ้วเห็นด้วยกับความคิดของกาเซี่ยง จึงให้กาเซี่ยงเป็นทูตไปเจรจาความกับโจโฉ ณ ค่ายของโจโฉ ฝ่ายโจโฉเมื่อทราบว่ากาเซี่ยงเป็นทูตมาเจรจาความเมืองจึงให้ทหารรับกาเซี่ยงเข้ามาพบ ณ ค่ายบัญชาการ

            กาเซี่ยงเข้าไปพบโจโฉ กระทำคารวะแล้วจึงว่ากิตติศัพท์ชื่อเสียงของท่านอัครมหาเสนาบดีได้ขจรไกลว่ามีน้ำใจโอบอ้อมอารีต่อคนทั้งปวง ทั้งมีอุดมการณ์มั่นคงที่จะทำนุแผ่นดินให้เป็นสุข ดังนั้นเตียวสิ้วจึงมีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก บัดนี้ทราบว่าท่านยกกองทัพมาจึงให้ข้าพเจ้าเป็นทูตมาเจรจาขอสวามิภักดิ์เป็นข้าช่วงใช้ตลอดไป

            โจโฉเห็นกาเซี่ยงมีบุคลิกลักษณะสมกับเป็นผู้มีสติปัญญา ทั้งเคยได้ยินกิตติศัพท์ของกาเซี่ยงแต่ครั้งช่วยวางแผนคิดการให้ลิฉุย กุยกีได้ครองอำนาจรัฐ ครั้นได้ฟังคำเจรจาก็เห็นหลักแหลม ก็กระหายใคร่ได้ตัวกาเซี่ยงไว้ทำราชการ จึงว่าบัดนี้เมื่อเตียวสิ้วยอมสวามิภักดิ์ด้วยเราแล้ว หากท่านพร้อมใจทำราชการในเมืองหลวง เราก็จะตั้งให้ท่านเป็นที่ปรึกษา

            โจโฉแม้จะอิ่มด้วยอำนาจวาสนา แต่มีความหิวกระหายใคร่ได้เสวนาหาคนดีมีฝีมือมาร่วมทำการไม่เคยสร่าง ดังนั้นเมื่อกาเซี่ยงเป็นทูตมาเจรจาขอสวามิภักดิ์ แทนที่โจโฉจะพิจารณาและกล่าวถึงเรื่องขอสวามิภักดิ์ กลับเชิญชวนให้กาเซี่ยงมาเป็นที่ปรึกษา

            แต่กาเซี่ยงยังคงมั่นคงอยู่กับเตียวสิ้ว จึงบ่ายเบี่ยงว่าข้าพเจ้าเคยทำราชการอยู่ด้วยลิฉุย กุยกี ซึ่งบัดนี้เป็นขบถต่อแผ่นดิน มลทินมัวหมองจึงพลอยต้องตัวข้าพเข้าเปรอะเปื้อนไปด้วย จึงขอเวลาไว้ให้ข้าพเจ้าได้ทำความชอบลบล้างมลทินแลความผิดให้สิ้นก่อน อนึ่งนั้นเล่าเตียวสิ้วมีคุณแก่ข้าพเจ้า ทั้งยังขาดผู้คนเป็นที่ปรึกษา หากละทิ้งมาในยามนี้ก็เหมือนหนึ่งไม่รู้คุณคน แลเตียวสิ้วเมื่ออยู่สวามิภักดิ์ด้วยท่านแล้ว ก็เหมือนข้าพเจ้าอยู่ด้วยท่านเช่นเดียวกัน

            โจโฉฟังคำกาเซี่ยงก็รู้ว่ายังไม่พร้อมที่จะมาอยู่ทำราชการด้วยจึงว่า ท่านจงกลับไปบอกเตียวสิ้วให้ออกมาพบเราเถิด เราจะไว้ไมตรี กาเซี่ยงจึงลาโจโฉกลับไปเมืองอ้วนเซีย รายงานเหตุการณ์ให้เตียวสิ้วฟังทุกประการ เตียวสิ้วทราบรายงานแล้วก็มีความยินดี

            รุ่งขึ้นกาเซี่ยงจึงพาเตียวสิ้วพร้อมของกำนัลและตราสำหรับเมืองไปที่ค่ายของโจโฉ ครั้นโจโฉทราบว่ากาเซี่ยงและเตียวสิ้วมาหาก็มีความยินดี หลังจากคารวะโอภาปราศรัยตามธรรมเนียมแล้ว โจโฉจึงถามว่าภายในเมืองอ้วนเซียมีปัญหาประการใดบ้างหรือไม่

            เตียวสิ้วรายงานว่าภายในเมืองอ้วนเซียมีความปรกติดีทุกประการ ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข บัดนี้ข้าพเจ้าขอเชิญท่านอัครมหาเสนาบดีได้ยกเข้าไปในเมืองเพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่ราษฎรสืบไป โจโฉก็รับคำ แล้วสั่งแม่ทัพนายกองให้รักษาค่ายนอกเมืองไว้ให้มั่นคง ตัวโจโฉพาทหารที่สนิทสองร้อยคนเข้าไปในเมืองอ้วนเซียแล้วพักที่เรือนรับรองแขกเมืองพิเศษ

            เตียวสิ้วเอาใจปรนนิบัติโจโฉเป็นอันดี ทุกวันแต่งโต๊ะเลี้ยงโจโฉและบรรดาทหารที่ติดตามมาเป็นที่สำราญ โจโฉได้รับการเอาอกเอาใจจากเตียวสิ้วอย่างเต็มที่ก็พอใจว่าเตียวสิ้วสวามิภักดิ์มั่นคงจึงวางใจและให้เตียวสิ้วคงว่าราชการเมืองอ้วนเซียต่อไปตามเดิม

            อยู่มาวันหนึ่งโจโฉมีความเบิกบานใจยิ่งนัก เชิญเตียวสิ้วและบรรดานายทหารดื่มสุราชนจอกกับทุก ๆ คนจนเมามาย เลิกกินโต๊ะแล้วโจอันบิ๋นผู้หลานต้องพยุงโจโฉกลับที่พัก แต่โจโฉนั้นยังเมาสุราอยู่อารมณ์คึกคักเป็นพิเศษ จึงเรียกโจอันบิ๋นหลานคู่ใจมาถามว่าในเมืองนี้มีสตรีใดรูปโฉมงดงาม มีเสน่ห์แพรวพราวบ้าง

            ความปรารถนาดังนี้ของโจโฉเป็นธรรมดาของชายชาติทหารที่จากบ้านไปแดนไกล หลังจากวางท่าอำนาจเป็นสง่ามาหลายวัน แต่ครั้นเมาสุราก็แสดงธาตุแท้ตัวตนจริงออกมา และทำให้ได้เห็นถึงรสนิยมอิสตรีของโจโฉว่าต้องรูปงามอย่างหนึ่ง และต้องพราวเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง คือไม่เพียงแต่ต้องเป็นดอกกระดังงาเท่านั้นหากต้องลนไฟอีกด้วย.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร