สามก๊ก ฉบับนักบริหาร:บทที่ 6 ขุนนางคิดฆ่าตั๋งโต๊ะด้วยน้ำตา

พ.ศ.733เมื่อสิ้นปรปักษ์ฝ่ายค้านกล้าแสดงออกของขุนนางอย่างโลติดกับอ้วนเสี้ยวสามารถคุมเสียงในสภาขุนางได้แล้ว ตั๋งโต๊ะทำการเหิมเกริมพลิกแผ่นดินด้วยการถอดหองจูเปียนโอรสแห่งสวรรค์ลงจากราชบัลลังก์ แล้วประกาศแต่งตั้งหองจูเหียบเป็นฮ่องเต้ถวายพระนามว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ ในขณะที่มีพระชันษาเพียง 9 พรรษา

ส่วนฮ่องเต้องค์เดิมหองจูเปียนที่ถูกถอดกับพระมารดานางโฮเฮาถูกนำตัวไปคุมขังไว้ ต่อมา ด้วยความอัดอั้นในพระทัย หงจูเปียนได้เขียนโคลงปิดไว้ที่ผนังตำหนักใจความว่า หากผู้ใดซื่อสัตย์ต่อพระราชบิดาเรา ขอให้ช่วยถอนแค้นในอกเราได้ คุณนั้นจะหาอุปมามิได้เลย

ครั้นตั๋งโต๊ะทราบเนื้อความก็โกรธ สั่งให้ลิยูคุมบู๋ซู Dead Squad สิบคนให้ไปฆ่า 2 แม่ลูกเสีย ลิยูยื่นจอกสุราที่ใส่ยาพิษให้หองจูเปียนเสวย หลอกทูลด้วยเล่ห์ว่าบัดนี้บ้านเมืองสงบสุข ตั๋งโต๊ะจึงให้ข้าพเจ้าเอาสุรามาถวาย นางโฮเฮาจึงว่าที่ตั๋งโต๊ะเอาสุรามาให้เสวยนั้นชอบแล้ว แต่ตัวท่านผู้เอามาจงกินให้เราเห็นก่อน จึงจะให้บุตรเรากิน

ลิยูได้ยินก็โกรธ จึงเอาโซ่ตรวนกับกระบี่ให้แม่ลูกเลือกเอาว่าจะตายแบบไหน ในที่สุด ลิยูกับพวกก็ฆ่านางโฮเฮากับพระสนมตาย ก่อนตายนางโฮเฮาได้ลำเลิกด่าพี่ชายโฮจิ๋นว่าไร้ความคิด พาโจรเข้าเมืองหลวงเขตพระราชฐาน จนทำอันตรายแก่นางและบุตรครั้งนี้ เมื่อสิ้นนางโฮเฮาแล้ว ลิยูจึงเอาสุราที่ไส่ยาพิษนั้นกรอกปากหองจูเปียนจนตาย

นับตั้งแต่นั้นมา ตั๋งโต๊ะแต่งตั้งตัวเองเป็นสมุหนายกถืออาญาสิทธิ์เผด็จการเบ็ดเสร็จ มีอำนาจเหนือฝ่ายทหารและพลเรือน นับวันก็ยิ่งทำความหยาบช้าปล้นยึดทรัพย์สินของประชาราษฏร์ เข้ายึดเมืองยงเซีย เก็บกวาดเอาทรัพย์สิ่งของเข่นฆ่าผู้ชายเป็นจำนวนมาก แล้วตัดศีรษะคนตายบรรทุกเกวียนต้อนผู้หญิงเอาไว้
แล้วประกาศแก่ขุนนางและประชาราษฏร์ว่า ยกทัพไปจับโจรได้จึงตัดศีรษะเสีย ขุนนางกับประชาชนทั่วไปนับวันยิ่งเกลียดชังตั๋งโต๊ะมากขึ้น มีขุนนางหลายคน หนึ่งในจำนวนนั้นชื่อเงาฮู พกมีดพยายามจะฆ่าตั๋งโต๊ะ ลิโป้วิ่งเข้าสะกัดช่วยไว้ทัน ตั๋งโต๊ะจึงสั่งให้ทหารจับเงาฮูนำไปแล่เนื้อจนสิ้นชีวิต ผู้คนก็ยิ่งเกลียดกลัวตั๋งโต๊ะมากขึ้นทุกวัน

ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับโฮจิ๋น ผู้นำที่กำหนดวันตายของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ตั๋งโต๊ะจึงเป็นผู้นำอีกคนหนึ่งที่กำหนดวันสิ้นสุดอำนาจของตัวเองไว้ล่วงหน้าโดยไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน หลงผิดคิดว่า อำนาจที่ตนยึดมาได้นั้น จะยั่งยืนจีรังไปตลอดกาล จอมทรราชย์เหิมเกริมจนชะล่าใจ หารู้ไม่ว่านอกจากผู้คนที่คอยสาปแช่งทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ยังมีขุนนางกับทหารที่รักชาติบ้านเมือง คอยทีหาโอกาสกำจัดทรราชย์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ว่าจะเป็นการรักชาติบ้านบ้านเมืองจริง หรือแอบอ้างชาติบ้านเมืองเพื่อรวบอำนาจให้แก่ตัวเองที่มีปรากฏมาทุกยุคทุกสมัย

รวมทั้งอ้วนเสี้ยวผู้ปะทะวาจากับตั๋งโต๊ะสบัดก้นออกจากที่ประชุม แต่ก็ยังถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองปุดไฮด้วยกุศโลบายประชานิยมของตั๋งโต๊ะ เพื่อสร้างภาพลักษณ์เสริมบารมีอวดปวงประชาว่า ภายใต้อำนาจตัวเอง ยังมีอ้วนเสี้ยวผู้มีปูมหลังมาจากตระกูลขุนนางถึง 4 ชั่วคนรับราชการอยู่ด้วย

อ้วนเสี้ยวได้ยินกิตติศัพท์ตั๋งโต๊ะทำการหยาบช้าฆ่าพระนางโฮเฮากับหองจูเปียน อีกทั้งยังทำการข่มเหงราษฏรเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า จึงแต่งหนังสือลับไปถึงอ้องอุ้นขุนนางในเมืองหลวง หาคนร่วมกันคิดล้างตั๋งโต๊ะ ตนเองแม้อยู่ที่เมืองปุดไฮ ก็หาได้นิ่งนอนใจเร่งฝึกฝนทหารกับส้องสุมกำลังอาวุธ หากอ้องอุ้นเห็นพร้อมด้วยก็จงเร่งคิดการในเมืองหลวง ได้เวลาดีจะยกกองทัพมากำจัดศัตรูแผ่นดินให้สิ้นซาก

อ้องอุ้นขุนนางผู้ใหญ่ส่งเทียบเชิญขุนนางกับพวกที่เกลียดชังตั๋งโต๊ะมาชุมนุมที่บ้านต่างร่วมปรับทุกข์ถึงความอัดอั้นที่ต้องทนดูตั๋งโต๊ะใช้อำนาจกระทำการหยาบช้าต่อแผ่นดิน เล็งมิเห็นผู้ใดที่จะช่วยคิดทำนุบำ รุงสุขให้แก่แผ่นดินได้ แล้วขุนนางทุกคนต่างก็นั่งร้องไห้ มีโจโฉคนเดียวที่ลุกยืนขึ้นและตบมือหัวเราะด้วยเสียงอันดัง อ้องอุ้นกับขุนนางโกรธนักจึงว่า ทุกคนกำลังกลัดกลุ้มที่คิดการล้างตั๋งโต๊ะไม่ได้ ไฉนตัวถึงได้มาตบมือหัวเราะดังนี้

โจโฉจึงตอบว่า ข้าพเจ้าขันเพราะเห็นทุกท่านคิดจะฆ่าตั๋งโต๊ะด้วยน้ำตา ต่อให้พวกท่านร้องไห้ถึงเช้า น้ำตาท่วมพื้น น้ำตาจะฆ่าตั๋งโต๊ะได้เรอะ? ข้าพเจ้ามิได้หัวเราะเยาะ แต่สังเวชใจที่ไม่มีใครคิดสังหารตั๋งโต๊ะ แม้ข้าพเจ้าจะเป็นผู้น้อยด้อยฝีมือ แต่ขออาสาตัดหัวตั๋งโต๊ะเอามาแขวนประจานไว้ทดแทนคุณชาติ พร้อมกับย้ำว่าคนที่จะฆ่าตั๋งโต๊ะได้นั้น จะต้องเป็นคนที่ตั๋งโต๊ะไว้ใจและอยู่ใกล้ชิดที่สุด ทุกวันนี้ที่ตนเพียรทำดีให้ตั๋งโต๊ะใช้สอย ใช่จะเห็นแก่ลาภสักการะสิ่งใดหามิได้ แต่คิดจะฆ่าตั๋งโต๊ะเสียให้จงได้

อ้องอุ้นจึงให้ทุกคนกลับ พาโจโฉไปที่ห้องลับ ซักถามถึงแผนการที่จะเข้าไปฆ่าตั๋งโต๊ะ อ้องอุ้นท้วงว่างานนี้เสี่ยงมาก ท่านโจโฉอาจจะเป็นเหมือนเงาฮูที่พยายามลอบฆ่าตั๋งโต๊ะที่ประตูวัง โจโฉตอบว่า ท่านถูกเพียงครึ่งเดียว สถานการณ์การต่างกันย่อมส่งผลออกมาที่ไม่เหมือนกัน คนที่จะฆ่าตั๋งโต๊ะได้นั้น ต้องเป็นคนที่ตั๋งโต๊ะไว้ใจที่สุด อ้องอุ้นยินดียิ่งนัก ลุกขึ้นคุกเข่าคำนับแล้วรินสุราคารวะโจโฉ พร้อมกับมอบดาบกระบี่สั้นโบราณให้โจโฉ เพื่อเหน็บไว้ในชายเสื้อสำหรับไปฆ่าตั๋งโต๊ะตามแผนการ

โจโฉเป็นที่ไว้ใจของตั๋งโต๊ะ เข้านอกออกในทำเนียบสมุหนายกได้ เห็นตั๋งโต๊ะเอนกายหันหลังอ่านหนังสืออยู่ จึงชักกระบี่สั้นจะเข้าแทง ตั๋งโต๊ะเห็นเงาโจโฉในกระจก จึงหันหน้ากลับมาถลึงตาถามว่า มึงจะทำร้ายกูหรือ ประจวบกับลิโป้โผล่เข้ามาในห้องพอดี โจโฉตกใจจนเหงื่อท่วมตัว รีบคุกเข่าลงพร้อมชูกระบี่ยื่นด้ามให้ตั๋งโต๊ะ แก้ตัวว่ากระบี่โบราณเล่มนี้มีค่ามาก ตกทอดมาหลายชั่วอายุคน จึงขอนำมาเพื่อสนองคุณท่าน ตั๋งโต๊ะเป็นคนโลภเห็นแก่ได้อยู่แล้ว จึงรับกระบี่ไว้ โจโฉจึงอำลาออกจากตำหนักควบม้าออกไป

ขณะที่ตั๋งโต๊ะกำลังชื่นชมดาบโบราณ ลิโป้ติงขึ้นมาว่า ท่านมิรู้หรือว่ามันกำลังจะฆ่าท่าน ตั๋งโต๊ะฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงสั่งให้ลิโป้ไปจับตัวโจโฉมา พอดีกับที่ลิยูกุนซือเข้ามาทราบเรื่องจึงยกมือห้ามไว้ อย่าเพิ่งรีบร้อนจับตัวโจโฉ ไปดักดูที่บ้านโจโฉก่อน ถ้ามันคิดจะฆ่าท่านตั๋งโต๊ะจริง มันจะไม่กลับบ้าน แต่จะต้องหนีออกจากเมือง ถ้ามันไม่หนีก็ยังคงเป็นเพียงแค่สงสัยในพฤติกรรมไว้ก่อน

นี่คือความฉลาดหลักแหลมของลิยู ถ้าลิโป้ผลีผลามรีบด่วนไปจับตัวโจโฉมา โจโฉก็ยังคงแก้ตัวสารพัดให้หลุดพ้นจากข้อหาได้ แต่เหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่ลิยูขุดหลุมพรางดักไว้ โจโฉตัดสินใจขี่ม้าหนีออกจากเมืองกลางดึกในคืนนั้น ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าถูกตั๋งโต๊ะจับฆ่า

ลิยูจึงว่าที่โจโฉคิดทำการครั้งนี้ ต้องมีคนสมรู้ร่วมคิดกันหลายคน จึงทำการใหญ่ได้ถึงเพียงนี้ จำต้องจับตัวโจโฉมาให้ได้เพื่อขยายผล สืบเอาพวกที่ร่วมมือกันจึงจะสิ้นเสี้ยนหนาม ตั๋งโต๊ะเห็นด้วย จึงให้เขียนรูปโจโฉ แต่งหนังสือแจ้งไปยังทุกหัวเมือง ผู้ใดที่จับส่งโจโฉมาได้ จะได้รับปูนบำเหน็จเลื่อนให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ ทองคำหนัก 10 ชั่ง พร้อมทั้งให้สิทธิ์ในการเก็บส่วยหนึ่งหมื่นครัวเรือน

โจโฉมอบดาบ ได้เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตโจโฉ ที่ถูกชาวจีนวิพากย์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องมาหลายร้อยปี เขาวิจารณ์กันว่า โจโฉเป็นคนเจ้าเล่ห์ โหดร้าย ปลิ้นปล้อน สับปรับ คิดเอาแต่ตัวรอด หรือเป็นคนรักชาติ รักแผ่นดิน กล้าหาญเด็ดเดี่ยว กล้าตัดสินใจ กล้าได้กล้าเสีย มีลำหักลำโค่น แล้วนักบริหารอย่างท่านละครับ คิดว่าโจโฉเป็นคนอย่างไร?

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘