สามก๊ก ฉบับนักบริหาร:บทที่ 26 โจโฉจาบจ้วงพระเจ้าเหี้ยนเต้

ฤดูหนาว ค.ศ. 198 โจโฉปราบปรามกวาดล้างลิโป้ได้สำเร็จ ยึดเมืองชีจิ๋ว สำเร็จโทษลิโป้ไปเรียบร้อย ก็มาถึงการพิจารณาโทษเตียวเลี้ยวนายทหารเอกของลิโป้ โจโฉเห็นเตียวเลี้ยวท่วงทีสง่างาม อยากได้คนเก่งมาเข้าด้วยกับตนจึงชมว่าตัวเจ้านี้แม้เป็นนักรบ แต่หน้าตาสะอาดหมดจด ดูเหมือนข้าจะเคยเห็นเจ้าจากที่ไหนมาก่อน

เตียวเลี้ยวแม้เป็นเชลย ก็มิได้สะทกสะท้าน กลับตอบอย่างเย้ยยโสว่า ก็เห็นกันที่เมืองปักเอี้ยงยังไงเล่า โจโฉถามว่า เจ้าจำข้าได้หรือ เตียวเลี้ยวตอบว่า จำได้สิ แต่ยังเสียดายอยู่มิหาย โจโฉถามว่า เสียดายอะไร เตียวเลี้ยวตอบว่า เสียดายไฟที่เราเผาเมืองปักเอี้ยงน้อยไป ไม่พอที่จะเผาอ้ายศัครูราชสมบัติให้เป็นผีในครั้งนั้น

โจโฉได้ยินดังนั้นเกิดความอัปยศนักฉุนโกรธตวาดว่า ตัวมึงเป็นเชลย คอจะขาดจากบ่าอยู่แล้ว ยังอวดดีดูหมิ่นกู ว่าแล้วโจโฉจึงชักกระบี่ออกเงื้อจะฟันเตียวเลี้ยว แต่เตียวเลี้ยวแทนที่จะเกรงกลัว กลับมิได้สะทกสะท้านยื่นคอให้โจโฉตัดแต่โดยดี

กวนอูที่ยืนอยู่ด้านหลังโจโฉ เข้ายุดมือโจโฉไว้คำนับแล้วว่า ข้าพเจ้าขอชีวิตเตียวเลี้ยวไว้เถิด นายทหารผู้นี้เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต ท่านควรชุบเลี้ยงไว้เป็นนายทหารของท่าน ถ้าสืบไปในภายหน้า เตียวเลี้ยวเอาใจออกห่างทรยศคิดร้ายท่าน ท่านจงตัดศีรษะข้าพเจ้าแทนเมื่อนั้นเถิด

โจโฉโยนกระบี่ทิ้งไปข้างตัวแล้วว่า ข้าพเจ้าทราบดีว่า เตียวเลี้ยวเป็นนายทหารที่สัตย์ซื่อนัก กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ข้าพเจ้าทำดังนี้เป็นแค่ลองใจเตียวเลี้ยว อยากเห็นว่าเป็นนักรบที่เกรงกลัวต่อความตายหรือไม่ แล้วโจโฉก็แสดงน้ำใจนักเลง เดินเข้าไปแก้มัดเตียวเลี้ยวด้วยมือตนเอง เอาเสื้อผ้าอย่างดีมาให้เตียวเลี้ยวสวม แล้วจูงมือมานั่งที่อันสมควร

เตียวเลี้ยวชื่นชมในความปราณีของโจโฉ ก็ตั้งสัตย์ว่าจะรับใช้โจโฉไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ โจโฉจึงแต่งตั้งเตียวเลี้ยวให้เป็นจงล่งเจียง นายทหารผู้ใหญ่ระดับโทในที่นั้น และเตียวเลี้ยวนายทหารผู้นี้แหละ ที่จะทำคุณประโยชน์ให้แก่โจโฉอย่างมีคุณมหันต์ในอนาคต

โจโฉจึงให้เตียวเลี้ยวไปเกลี้ยกล่อมจงป้ากับทหารที่แตกทัพของลิโป้มาเข้าเป็นพวกด้วย
ขอบันทึกไว้ ตอนท้ายนี้ว่า โจโฉไว้ชีวิตลูกเมียลิโป้ สั่งให้คุมตัวไปไว้ที่เมืองฮูโต๋ ชะรอยโจโฉอาจเห็นความดีแต่หนหลังของเตียวเสี้ยนที่เคยทำความดีให้แก่แผ่นดินยุคโค่นล
้มตั๋งโต๊ะ

โจโฉพาเล่าปี่กลับถึงเมืองหลวง โจโฉจึงเข้าเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ เสนอปูนบำเหน็จแก่ทหารน้อยใหญ่ พร้อมทั้งกราบทูลว่า เล่าปี่ทำราชการมีความชอบเป็นอันมาก พระเจ้าเหี้ยนเต้ขอดูตัวเล่าปี่เมื่อทอดพระเนตรแล้วรับสั่งว่า "โหงวเฮ้งไม่ธรรมดา ขอทราบเชื้อสายของท่าน"

เล่าปี่ทูลว่า"ข้าพเจ้าเป็นบุตรเล่าเหงและบิดาข้าพเจ้าสืบเชื้อสายจากพระเจ้าจางเช็งอ๋องแห่งต
งสาน โอรสพระเจ้าฮั่นเกงเต้ เป็นหลานเล่าฉอง" พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงให้อารักษ์เรียกพงศาวลีมาเปิดดู จึงพบว่าพระเจ้าเกงเต้มีโอรส 14 องค์ เล่าเสงเป็นองค์ที่ 7 มีบุตรชื่อเล่าเจิน และมีบุตรสืบสกุลต่อ ๆ ไป ชื่อ เล่าอัง เล่าลู่ เล่าเลี่ยน เล่าเอี๋ยน เล่าอิง เล่าเจี้ยน เล่าอาย เล่าเสียน เล่าซู เล่าอี้ เล่าต๋า เล่าปู้อี้ เล่าฮุย เล่าฉองและเล่าเหงผู้เป็นบิดาของเล่าปี่

พระเจ้าเหี้ยนเต้ทรงดีพระทัยยิ่งนักลุกจากพระที่นั่งราชบัลลังก์ลงมาจูงมือเล่าปี่พร
้อมทั้งรับสั่งเรียกเล่าปี่ว่า พระเจ้าอา โจโฉมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความคาดไม่ถึง พร้อมทั้งรู้ว่าบัดนี้พระเจ้าเหี้ยนเต้มิได้เป็นยุวกษัตริย์อย่างแต่ก่อนแล้ว ทรงเริ่มเข้าพระทัยในเหตุการณ์บ้านเมือง

เมื่อปลอดศึกโจโฉเริ่มแผ่อิทธิพลในเมืองหลวง ซุนฮกจึงบอกแก่โจโฉว่า บัดนี้พระเจ้าเหี้ยนเต้นับถือเล่าปี่เป็นเชื้อพระวงศ์ นานไปจะเป็นภัยแก่ท่าน ด้วยพระเจ้าเหี้ยนเต้จะทรงใช้เล่าปี่โค่นล้มท่าน โจโฉตอบว่า ถึงพระเจ้าเหี้ยนเต้ถือว่าเล่าปี่เป็นเชื้อพระวงศ์ แต่สิทธิ์ขาดการว่าราชการเป็นของเราทั้งสิ้น เล่าปี่อยู่ในเมืองหลวงจึงเท่ากับเราขังเสืออยู่ในกรง ดีกว่าปล่อยให้เพ่นพ่านอยู่ข้างนอก ซุนฮกก็เห็นด้วย

การเมืองในฮูโต๋รุนแรงขึ้น โจโฉกำจัดฝ่ายตรงข้ามถอดเอียวปิวเสนาบดีญาติอ้วนเสี้ยว อ้วนสุด มีขุนนางในราชสำนักชื่อเอียวงัน เห็นช่องให้คนทั้งปวงเกลียดโจโฉ ปล่อยข่าวว่าโจโฉจาบจ้วงพระราชอำนาจ โจโฉจึงให้ทหารจับตัวเอียวงันฆ่าเสีย

การช่วงชิงอำนาจระหว่างพระเจ้าเหี้ยนเต้กับโจโฉรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ จน จนเทียหยกที่ปรึกษาโจโฉแนะนำให้โจโฉ ทำรัฐประหารยึดอำนาจถอดพระเจ้าเหี้ยนเต้เสีย โจโฉมิเห็นด้วยโดยเห็นว่า พวกที่จงรักภักดีต่อฮ่องเต้ยังมีอยู่มาก พลาดพลั้งเสียทีจะพากันตายหมด ในชั้นนี้จะทูลเชิญเสด็จพระเจ้าเหี้ยนเต้ประพาสป่า หยั่งดูเชิงสักคราวหนึ่งก่อน แบ่งแยกให้ชัดเจนว่าใครอยู่ซีกไหนของอำนาจ

โจโฉทูลเชิญเสด็จประพาสป่า พระเจ้าเหี้ยนเต้นึกแคลงพระทัย รับสั่งว่าการเล่นป่าป่วยการเปล่า มิเป็นประโยชน์ใดแก่แผ่นดิน โจโฉทูลว่าเป็นประเพณีกษัตริย์แต่โบราณ เสด็จประพาสป่าทุกฤดูกาล เป็นการแสดงกำลังอำนาจ เป็นการฝึกทหารให้ชำนาญศึก ฮ่องเต้จึงขัดโจโฉมิได้จำพระทัยรับคำ โจโฉสั่งให้จัดทหารสิบหมื่น พร้อมสรรพด้วยอาวุธ พระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จขึ้นม้าพระที่นั่ง โจโฉขี่ม้าเคียงข้างตามเสด็จ

พอถึงชายป่ากว้าง รับสั่งให้ทหารทั้งปวงหยุด ตรัสแก่เล่าปี่ว่า อยากดูฝีมือเกาทัณพ์พระเจ้าอา เล่าปี่ถวายบังคมแล้วขึ้นม้ายิงเกาทัณฑ์ ไปถูกกระต่ายป่าที่กำลังกระโดดอยู่ตายคาที่ พระเจ้าเหี้ยนเต้ทรงพระแสงเกาทัณฑ์ยิงกวางไป 3 ดอกแต่ไม่ถูก จึงตรัสแก่โจโฉว่าท่านจงลองดูบ้าง

โจโฉทูลว่าถ้าพระองค์ใคร่จะเห็นฝีมือข้าพเจ้า ขอทรงให้ยืมพระแสงเกาทัณฑ์ ข้าพเจ้าจะยิงถวาย พระเจ้าเหี้ยนเต้ยื่นพระแสงเกาทัณฑ์ให้ โจโฉน้าวศรยิงไปถูกกวางล้มลงทันที ข้าราชบริพารเห็นลูกเกาทัณฑ์ทองเกลียวมังกร ก็สำคัญว่าเป็นฝีพระหัตถ์พระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็โห่ร้องถวายพระพรให้ทรงพระเจริญหมื่นๆ ปี โจโฉจึงขับม้าไปข้างหน้าแล้วแกล้งร้องถามเพื่อหักพระพักตร์ฮ้องเต้ว่า เกาทัณฑ์ที่ข้ายิงไปถูกกวางหรือ บรรดาข้าราชบริพารได้ยินดังนั้นต่างตกตะลึง

กวนอูเห็นว่าโจโฉจงใจหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จึงชักม้าขยับเงื้อง้าวจะเข้าไปฟันโจโฉ เล่าปี่ตกใจรีบขยิบตาให้กวนอูถอยออกไป เหตุการณ์นี้ตังสินขุนนางในราชสำนักสังเกตเห็นโดยตลอด ในขณะเดียวกันเล่าปี่จึงแสร้งคำนับโจโฉว่า ฝีมือเกาทัณฑ์ของท่านสมุหนายกยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ โจโฉแสร้งถ่อมตัวว่า เป็นเพราะพระบารมีปกเกล้าฯ ว่าแล้วก็สะพายพระแสงเกาทัณฑ์เฉวียงบ่า ควบม้าเข้าถวายบังคม แต่มิได้ถวายคืนพระแสงนั้นแก่พระเจ้าเหี้ยนเต้ เป็นการสำแดงอำนาจจาบจ้วงพระเจ้าเหี้ยนเต้โดยเจตนา

ครั้นการเสด็จประพาสป่าเสร็จสิ้นลง ขบวนเสด็จกลับถึงเมืองหลวงแล้ว กวนอูยังไม่หายข้องใจถามเล่าปี่ว่า เหตุใดพี่ใหญ่จึงห้ามข้ามิให้ฆ่าโจโฉคนหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทำหยาบช้าต่อองค์ฮ่องเต้
เสีย เล่าปี่ตอบว่า เมื่อเจ้าจะขว้างหนู จงระวังอย่าให้พลาดไปโดนแจกันหยก ถ้าเจ้าฆ่าโจโฉในเวลานั้น ทหารโจโฉอาจจะรุมฆ่าพระเจ้าเหี้ยนเต้ แล้วเราจะสู้เขาไหวหรือ

กวนอูจึงว่า ถ้าเราไม่รีบขจัดโจโฉเสียแต่บัดนี้ เห็นทีจะเกิดกลียุคใหญ่ในภายหน้า เล่าปี่ถอนใจใหญ่แล้วเตือนกวนอูว่าน้องเอ๋ย คนเราจะคิดการสิ่งใด จงคิดให้รอบคอบ เรื่องใหญ่โตอย่างนี้พูดกันเล่น ๆ ทำกันเล่น ๆ หาได้ไม่ พลาดพลั้งแพร่งพรายออกไปรังแต่จะมีโทษหนัก กวนอูได้ยินคำเตือนนี้ก็ได้แต่ก้มหน้านิ่งอยู่

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘