สามก๊ก ฉบับนักบริหาร:บทที่ 23 ตันเต๋งหักหลังลิโป้
ซุนฮกได้ยินกุยแกจำแนก 10 ข้อดี 10 ข้อด้อยของโจโฉกับอ้วนเสี้ยวก็เห็นด้วย ช่วยส่งเสริมเชลียร์ให้กำลังใจเจ้านายว่าทุกอย่างไม่มีผลเสีย มีแต่ผลได้ ซุนฮกจึงว่าที่กุยแกชี้แจงมานั้นข้าพเจ้าเห็นด้วย กองทัพของอ้วนเสี้ยวถึงจะมีจำนวนมาก แต่อ้วนเสี้ยวเป็นผู้นำที่หาความคิดตัวเองมิได้ จะต้องพ่ายแพ้แก่สติปัญญา ของท่านเป็นแน่แท้
กุยแกจึงว่า ที่ท่านแต่งตั้งลิโป้ไว้นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่า ลิโป้เป็นคนหยาบช้า มิรู้บุญคุณคน ทุกวันนี้ยังคิดคอยทีจะทำร้ายท่าน อุปมาเหมือนหนามเหน็บอยู่ในอกท่าน ถ้าไปตีอ้วนเสี้ยวตอนนี้ ลิโป้อาจจะยกมาตีฮูโต๋ บัดนี้อ้วนเสี้ยวยกทัพไปตีกองซุนจ้าน
ถ้าท่านยกไปตีกำจัดลิโป้ เห็นจะได้โดยง่ายเมื่อศัตรูฝ่ายตะวันออกราบคาบแล้ว จึงยกล่วงไปตีเอาเมืองอ้วนเสี้ยว ไม่ต้องพะวงหน้าหลัง โจโฉเห็นด้วยจึงสั่งเกณฑ์ทหารเตรียมยกไปตีเมืองชีจิ๋ว ซุนฮกจึงว่าแก่โจโฉว่าถ้าท่านจะยกทัพไปตีลิโป้ ควรมีหนังสือไปบอกเล่าปี่ที่เมืองเสียวพ่ายให้คิดกำจัดลิโป้ พร้อมทั้งมีหนังสือถึงอ้วนเสี้ยวลวงให้ตายใจว่า ฝ่ายเราจะยกทัพไปช่วยตีกองซุนจ้านตามที่ขอมา พร้อมกับมีหนังสือเป็นพระบรมราชโองการแต่งตั้งอ้วนเสี้ยวเป็นเจ้าเมืองกิจิ๋ว เมืองเป๊งจิ๋ว เมืองอิวจิ๋ว เมืองเซียงจิ๋ว ให้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของอ้วนเสี้ยว เจอกับกลยุทธ์นี้อ้วนเสี้ยวหลงกลเชื่อโจโฉสนิทยกทัพไปตีกองซุนจ้านที่เมืองปักเป๋ง คนมีอำนาจรัฐในมือ จะทำสิ่งใดเป็นกลลวงฝ่ายตรงข้าม ย่อมทำได้สะดวกเช่นนี้แล
ลิโป้เสวยสุขอยู่ในเมืองชีจิ๋วโดยมีตันกุ๋ยรัฐบุรุษแห่งชีจิ๋วกับตันเต๋งลูกชายคอยพู
ดจาสรรเสริญว่าลิโป้มีปัญญาน้ำใจโอบอ้อมอารี ตันก๋งกุนซือคู่ใจลิโป้ตอนตกยากเห็นสองพ่อลูกแกล้งยกยอลิโป้จนเกินเหตุ วันหนึ่งจึงบอกเตือนลิโป้ว่า ให้ระวังตันกุ๋ยกับตันเต๋งให้จงหนัก ด้วยใจมันคิดจะทำร้ายท่านอยู่มิได้ขาด
แทนที่ลิโป้จะฉุกคิดคำเตือนของตันก๋งกลับตวาดกลับว่าท่านเห็นเรามีน้ำใจเอ็นดูตันกุ๋
ยกับตันเต๋ง ตัวริษยาแกล้งเอาความร้ายยุยงให้เราทำร้ายคนซื่อสัตย์เสีย ตันก๋งได้ยินดังนั้นก็หน้าชา เดินหนีออกมาทอดใจใหญ่ รำพึงว่า ลิโป้นี้หา ปัญญามิได้ เราซื่อต่อกลับว่าร้าย นานไปเราจะพลอยเป็นอันตรายไปด้วย คิดจะทิ้งละลิโป้ไปอยู่ที่อื่นก็กลัวคำครหานินทา ตันก๋งคนอาภัพเจ้านายครุ่นคิดวิตกอยู่หลายเพลา
วันหนึ่ง ตันก๋งพาพวก 4-5 คนขึ้นม้าไปเที่ยวล่าเนื้อในป่าใกล้เมืองเสียวพ่าย ไปดักจับได้ทหารโจโฉที่ถือหนังสือควบม้าออกมาแต่เมืองเสียวพ่าย ตันก๋งจึงจับทหารโจโฉมัดส่งตัวให้ลิโป้ ค้นได้หนังสือเล่าปี่มีถึงโจโฉใจความว่า ข้าพเจ้าเล่าปี่แจ้งในหนังสือมหาอุปราชให้ช่วยคิดอ่านกำจัดลิโป้ ข้าพเจ้ายังทำการนี้มิได้ด้วยมีกำลังทหารน้อยกว่าลิโป้ ถ้ามหาอุปราชยกทัพมาเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะสมทบช่วยกำจัดลิโป้ให้จงได้
ลิโป้แจ้งในหนังสือก็โกรธจึงว่า อ้ายโจโฉมันคิดร้ายต่อกู มันคิดว่ากูหรือจะกลัวมัน ว่าแล้วลิโป้สั่งให้นำทหารโจโฉไปฆ่าเสีย สั่งตันก๋งให้ติดต่อพันธมิตรทั้งหลายเท่าที่มีอยู่ ยกกำลังไปตีเมืองต่าง ๆ ให้โกซุ่นกับเตียวเลี้ยวยกไปตีเมืองเสียวพ่าย เล่าปี่พอรู้ข่าวจึงให้ซุนเขียนทำหนังสือให้ตันหยงถือไปฮูโต๋ขอกำลังทหารจากโจโฉ
เตียวเลี้ยวนายทหารลิโป้คุมทหารเข้าตีกำแพงเมืองด้านที่กวนอูรักษาการอยู่บนเชิงเทิน
เห็นเตียวเลี้ยวรูปร่างสง่างามสมเป็นขุนนางนายทหาร จึงร้องถามเป็นทางไมตรีว่า ตัวท่านมีท่วงทีที่บริบูรณ์ เราเห็นว่าเป็นคนมีสติปัญญาแลรู้ผิดชอบชั่วดี เหตุไฉนจึงมาอยู่ด้วยกับคนอย่างลิโป้ซึ่งเป็นคนชั่วช้าสาระเลว เราเห็นเป็นการไม่สมควร
เตียวเลี้ยวได้ยินก็เกิดความละอายใจ คอตกมิได้โต้ตอบ ไม่อยากปะทะกับกวนอู เพราะในใจนิยมชมชอบกวนอูอยู่ กวนอูเห็นกิริยาเตียวเลี้ยว ก็มิได้พูดเสียดแทงใจอีก เตียวเลี้ยวจึงคุมทหารถอยออกมาย้อนไปตีประตูด้านตะวันออกที่เตียวหุยรักษาการอยู่ เตียวหุยคุมทหารจะออกรบกับเตียวเลี้ยว เตียวเลี้ยวเห็นเตียวหุยก็ตกใจกลัวถอยหนี กวนอูเรียกให้เตียวหุยกลับ เล่าเนื้อความให้ฟังว่า เตียวเลี้ยวมีสติปัญญา มีความรู้สึกผิดชอบ รบด้วยความลังเลใจ เห็นทีเตียวเลี้ยวจะคิดเอาใจออกห่างลิโป้ เตียวหุยจึงสรรเสริญว่า พี่ท่านมีปัญญาประมาณน้ำใจคนได้ถูก เตียวหุยจึงชักม้ากลับเข้าเมือง
ฝ่ายโจโฉกับกุนซือทั้งหลายเมื่อได้รับใบบอกจากเล่าปี่ จึงสั่งยกทัพเพื่อไปกำจัดลิโป้ตามแผน ให้แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน ลิยอย ลิเตีย คุมทัพหน้าไปช่วยเล่าปี่ที่เสียวพ่ายก่อน โจโฉคุมทัพหลวงตามมา ทัพแฮหัว ตุ้นปะทะกับทัพลิโป้ที่นำโดยโกซุ่น สู้รบกันห้าสิบเพลง โกซุ่นสู้ฝีมือแฮหัวตุ้นไม่ได้ ก็ชักม้ากลับเข้าค่าย แฮหัว ตุ้นได้ทีขับม้าไล่ตาม โจเสงจึงเอาเกาทัณฑ์ยิงถูกตาซ้ายแฮหัวตุ้น ลูกเกาทัณฑ์ปักอยู่
แฮหัวตุ้นร้องเสียงดังแล้วดึงเกาทัณฑ์ออก เห็นลูกตาติดปลายเกาทัณฑ์ จึงว่า ดวงตาแก้วอันประเสริฐที่พ่อแม่ให้มา ไม่ควรทิ้งเสีย ว่าแล้วก็กลืนลูกตานั้นลงท้องไป พอดีลิโป้คุมทัพใหญ่มาสมทบ ทัพแฮหัวตุ้นจึงแตกพ่ายยับเยิน เมืองเสียวพ่ายแตก บิต๊กถูกจับ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุยหลบหนีไปได้ ลิโป้จึงควบคุมครอบครัวเล่าปี่กับบิต๊กเข้าชีจิ๋ว
เมื่อโจโฉคุมทัพหลวงมาถึงด่านเสียวก๊วน ซึ่งเป็นด่านสำคัญของเมืองชีจิ๋ว ตันเต๋งเขียนหนังสือผูกลูกเกาทัณฑ์ยิงออกไปเป็นสัญญาณนัดหมายให้เข้าตี ตันเต๋งตัวแสบลวงลิโป้ให้ยกทัพออกจากเมืองชีจิ๋วเพื่อป้องกันด่าน ในขณะเดียวกันลวงตันก๋งผู้รักษาด่านว่า ลิโป้สั่งให้ทิ้งด่านกลับชีจิ๋ว พอตันก๋งทิ้งด่าน ตันเต๋งจุดเพลิงสัญญาณขึ้น โจโฉยกเข้ายึดด่านเสียวก๋วนไว้ได้
ทัพตันก๋งกับทัพลิโป้หลงรบพุ่งกันเองจนรุ่งสว่างถึงรู้ว่าหลงกลถูกตันเต๋งทรยศ ลิโป้รีบกลับเมืองชีจิ๋ว พอถึงหน้ากำแพงเมืองเรียกทหารในเมืองให้เปิดประตูรับ กลับถูกทหารในเมืองยิงเกาทัณฑ์ใส่ ถึงรู้ว่าเมืองชีจิ๋วถูกบิต๊กยึดไว้แล้ว บิต๊กตะโกนบอกลิโป้ว่าเมืองนี้มิใช่ของเจ้า แต่เป็นเมืองของเล่าปี่นายเรา เจ้ามาตีชิงไป บัดนี้เรายึดคืนนายเราได้แล้ว ให้ยกทหารไปอยู่ที่อื่นเถิด
ลิโป้ตกใจปรึกษาตันก๋งว่าจะทำอย่างไรดี ตันก๋งว่าจะยกหักเข้าเมืองชีจิ๋วคงขัดสน ควรยกไปชุมนุมที่เสียวพ่าย อย่างน้อยก็ยังมีโกซุ่นกับเตียวเลี้ยวอยู่ที่นั่น ลิโป้เห็นด้วยจึงเร่งคุมกำลังที่เหลือไปเมืองเสียวพ่าย ระหว่างทางพบโกซุ่นกับเตียวเลี้ยวนำทัพรีบรุดมา ลิโป้ยิ่งตกใจร้องถามว่า เราให้ท่านทั้งสองอยู่รักษาเมืองเสียวพ่าย เหตุไฉนจึงทิ้งเมืองมาเสีย โกซุ่นกับเตียวเลี้ยวจึงรายงานว่าตันเต๋งไปบอกว่า โจโฉกำลังล้อมจับท่านอยู่ให้รีบยกทหารมาช่วย
ลิโป้ร้องว่า เจ้าสองพ่อลูกตันกุ๋ยกับตันเต๋งทรยศกูได้ กูจะต้องไปตัดศีรษะพวกมันให้ได้ พอถึงเมืองเสียวพ่าย ลิโป้เห็นธงโจโฉโบกสะบัดอยู่เชิงเทินอย่างสง่างาม ลิโป้โกรธจัดควบม้าไปที่หน้ากำแพงเมืองร้องตะโกนด่าตันเต๋งด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตันเต๋งยืนอยู่บนเชิงเทิน ชี้หน้าด่าลิโป้ว่า กูเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ไม่ใช่เป็นข้าของมึง มึงเป็นขบถ ทรยศต่อแผ่นดิน กูคบกับมึงไม่ได้
ลิโป้ขยับม้าสั่งตีเมืองเสียวพ่าย แต่ก็ปรากฏว่ามีฝีเท้าม้าอึกทึกอยู่ด้านหลัง เหลียวไปมองเห็นเตียวหุยคุมกองทัพเข้าตีทุกลิโป้ มิหนำซ้ำโจโฉยกทัพมาสมทบ ลิโป้เห็นสู้ไม่ได้จึงสั่งถอยทัพ เตียวหุยได้ทีควบม้าไล่ตาม ลิโป้หนีได้พักใหญ่ก็เผชิญหน้ากับทัพของกวนอูอีกกองหนึ่ง ลิโป้สู้กับกวนอูไม่นานจึงผละหนีเอาตัวรอดเข้าสู่เมืองแห้ฝือ ระดมกำลังทหารขึ้นรักษาเชิงเทิน เมืองแห้ฝืออุดมสมบูรณ์ด้วยเสบียงอาหาร คูเมืองกว้างลึก ลิโป้กับตันก๋งไม่มีทางเลือก จึงตั้งใจปักหลักสู้ตายอยู่ในเมืองนี้
กุยแกจึงว่า ที่ท่านแต่งตั้งลิโป้ไว้นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่า ลิโป้เป็นคนหยาบช้า มิรู้บุญคุณคน ทุกวันนี้ยังคิดคอยทีจะทำร้ายท่าน อุปมาเหมือนหนามเหน็บอยู่ในอกท่าน ถ้าไปตีอ้วนเสี้ยวตอนนี้ ลิโป้อาจจะยกมาตีฮูโต๋ บัดนี้อ้วนเสี้ยวยกทัพไปตีกองซุนจ้าน
ถ้าท่านยกไปตีกำจัดลิโป้ เห็นจะได้โดยง่ายเมื่อศัตรูฝ่ายตะวันออกราบคาบแล้ว จึงยกล่วงไปตีเอาเมืองอ้วนเสี้ยว ไม่ต้องพะวงหน้าหลัง โจโฉเห็นด้วยจึงสั่งเกณฑ์ทหารเตรียมยกไปตีเมืองชีจิ๋ว ซุนฮกจึงว่าแก่โจโฉว่าถ้าท่านจะยกทัพไปตีลิโป้ ควรมีหนังสือไปบอกเล่าปี่ที่เมืองเสียวพ่ายให้คิดกำจัดลิโป้ พร้อมทั้งมีหนังสือถึงอ้วนเสี้ยวลวงให้ตายใจว่า ฝ่ายเราจะยกทัพไปช่วยตีกองซุนจ้านตามที่ขอมา พร้อมกับมีหนังสือเป็นพระบรมราชโองการแต่งตั้งอ้วนเสี้ยวเป็นเจ้าเมืองกิจิ๋ว เมืองเป๊งจิ๋ว เมืองอิวจิ๋ว เมืองเซียงจิ๋ว ให้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของอ้วนเสี้ยว เจอกับกลยุทธ์นี้อ้วนเสี้ยวหลงกลเชื่อโจโฉสนิทยกทัพไปตีกองซุนจ้านที่เมืองปักเป๋ง คนมีอำนาจรัฐในมือ จะทำสิ่งใดเป็นกลลวงฝ่ายตรงข้าม ย่อมทำได้สะดวกเช่นนี้แล
ลิโป้เสวยสุขอยู่ในเมืองชีจิ๋วโดยมีตันกุ๋ยรัฐบุรุษแห่งชีจิ๋วกับตันเต๋งลูกชายคอยพู
ดจาสรรเสริญว่าลิโป้มีปัญญาน้ำใจโอบอ้อมอารี ตันก๋งกุนซือคู่ใจลิโป้ตอนตกยากเห็นสองพ่อลูกแกล้งยกยอลิโป้จนเกินเหตุ วันหนึ่งจึงบอกเตือนลิโป้ว่า ให้ระวังตันกุ๋ยกับตันเต๋งให้จงหนัก ด้วยใจมันคิดจะทำร้ายท่านอยู่มิได้ขาด
แทนที่ลิโป้จะฉุกคิดคำเตือนของตันก๋งกลับตวาดกลับว่าท่านเห็นเรามีน้ำใจเอ็นดูตันกุ๋
ยกับตันเต๋ง ตัวริษยาแกล้งเอาความร้ายยุยงให้เราทำร้ายคนซื่อสัตย์เสีย ตันก๋งได้ยินดังนั้นก็หน้าชา เดินหนีออกมาทอดใจใหญ่ รำพึงว่า ลิโป้นี้หา ปัญญามิได้ เราซื่อต่อกลับว่าร้าย นานไปเราจะพลอยเป็นอันตรายไปด้วย คิดจะทิ้งละลิโป้ไปอยู่ที่อื่นก็กลัวคำครหานินทา ตันก๋งคนอาภัพเจ้านายครุ่นคิดวิตกอยู่หลายเพลา
วันหนึ่ง ตันก๋งพาพวก 4-5 คนขึ้นม้าไปเที่ยวล่าเนื้อในป่าใกล้เมืองเสียวพ่าย ไปดักจับได้ทหารโจโฉที่ถือหนังสือควบม้าออกมาแต่เมืองเสียวพ่าย ตันก๋งจึงจับทหารโจโฉมัดส่งตัวให้ลิโป้ ค้นได้หนังสือเล่าปี่มีถึงโจโฉใจความว่า ข้าพเจ้าเล่าปี่แจ้งในหนังสือมหาอุปราชให้ช่วยคิดอ่านกำจัดลิโป้ ข้าพเจ้ายังทำการนี้มิได้ด้วยมีกำลังทหารน้อยกว่าลิโป้ ถ้ามหาอุปราชยกทัพมาเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะสมทบช่วยกำจัดลิโป้ให้จงได้
ลิโป้แจ้งในหนังสือก็โกรธจึงว่า อ้ายโจโฉมันคิดร้ายต่อกู มันคิดว่ากูหรือจะกลัวมัน ว่าแล้วลิโป้สั่งให้นำทหารโจโฉไปฆ่าเสีย สั่งตันก๋งให้ติดต่อพันธมิตรทั้งหลายเท่าที่มีอยู่ ยกกำลังไปตีเมืองต่าง ๆ ให้โกซุ่นกับเตียวเลี้ยวยกไปตีเมืองเสียวพ่าย เล่าปี่พอรู้ข่าวจึงให้ซุนเขียนทำหนังสือให้ตันหยงถือไปฮูโต๋ขอกำลังทหารจากโจโฉ
เตียวเลี้ยวนายทหารลิโป้คุมทหารเข้าตีกำแพงเมืองด้านที่กวนอูรักษาการอยู่บนเชิงเทิน
เห็นเตียวเลี้ยวรูปร่างสง่างามสมเป็นขุนนางนายทหาร จึงร้องถามเป็นทางไมตรีว่า ตัวท่านมีท่วงทีที่บริบูรณ์ เราเห็นว่าเป็นคนมีสติปัญญาแลรู้ผิดชอบชั่วดี เหตุไฉนจึงมาอยู่ด้วยกับคนอย่างลิโป้ซึ่งเป็นคนชั่วช้าสาระเลว เราเห็นเป็นการไม่สมควร
เตียวเลี้ยวได้ยินก็เกิดความละอายใจ คอตกมิได้โต้ตอบ ไม่อยากปะทะกับกวนอู เพราะในใจนิยมชมชอบกวนอูอยู่ กวนอูเห็นกิริยาเตียวเลี้ยว ก็มิได้พูดเสียดแทงใจอีก เตียวเลี้ยวจึงคุมทหารถอยออกมาย้อนไปตีประตูด้านตะวันออกที่เตียวหุยรักษาการอยู่ เตียวหุยคุมทหารจะออกรบกับเตียวเลี้ยว เตียวเลี้ยวเห็นเตียวหุยก็ตกใจกลัวถอยหนี กวนอูเรียกให้เตียวหุยกลับ เล่าเนื้อความให้ฟังว่า เตียวเลี้ยวมีสติปัญญา มีความรู้สึกผิดชอบ รบด้วยความลังเลใจ เห็นทีเตียวเลี้ยวจะคิดเอาใจออกห่างลิโป้ เตียวหุยจึงสรรเสริญว่า พี่ท่านมีปัญญาประมาณน้ำใจคนได้ถูก เตียวหุยจึงชักม้ากลับเข้าเมือง
ฝ่ายโจโฉกับกุนซือทั้งหลายเมื่อได้รับใบบอกจากเล่าปี่ จึงสั่งยกทัพเพื่อไปกำจัดลิโป้ตามแผน ให้แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน ลิยอย ลิเตีย คุมทัพหน้าไปช่วยเล่าปี่ที่เสียวพ่ายก่อน โจโฉคุมทัพหลวงตามมา ทัพแฮหัว ตุ้นปะทะกับทัพลิโป้ที่นำโดยโกซุ่น สู้รบกันห้าสิบเพลง โกซุ่นสู้ฝีมือแฮหัวตุ้นไม่ได้ ก็ชักม้ากลับเข้าค่าย แฮหัว ตุ้นได้ทีขับม้าไล่ตาม โจเสงจึงเอาเกาทัณฑ์ยิงถูกตาซ้ายแฮหัวตุ้น ลูกเกาทัณฑ์ปักอยู่
แฮหัวตุ้นร้องเสียงดังแล้วดึงเกาทัณฑ์ออก เห็นลูกตาติดปลายเกาทัณฑ์ จึงว่า ดวงตาแก้วอันประเสริฐที่พ่อแม่ให้มา ไม่ควรทิ้งเสีย ว่าแล้วก็กลืนลูกตานั้นลงท้องไป พอดีลิโป้คุมทัพใหญ่มาสมทบ ทัพแฮหัวตุ้นจึงแตกพ่ายยับเยิน เมืองเสียวพ่ายแตก บิต๊กถูกจับ เล่าปี่ กวนอู เตียวหุยหลบหนีไปได้ ลิโป้จึงควบคุมครอบครัวเล่าปี่กับบิต๊กเข้าชีจิ๋ว
เมื่อโจโฉคุมทัพหลวงมาถึงด่านเสียวก๊วน ซึ่งเป็นด่านสำคัญของเมืองชีจิ๋ว ตันเต๋งเขียนหนังสือผูกลูกเกาทัณฑ์ยิงออกไปเป็นสัญญาณนัดหมายให้เข้าตี ตันเต๋งตัวแสบลวงลิโป้ให้ยกทัพออกจากเมืองชีจิ๋วเพื่อป้องกันด่าน ในขณะเดียวกันลวงตันก๋งผู้รักษาด่านว่า ลิโป้สั่งให้ทิ้งด่านกลับชีจิ๋ว พอตันก๋งทิ้งด่าน ตันเต๋งจุดเพลิงสัญญาณขึ้น โจโฉยกเข้ายึดด่านเสียวก๋วนไว้ได้
ทัพตันก๋งกับทัพลิโป้หลงรบพุ่งกันเองจนรุ่งสว่างถึงรู้ว่าหลงกลถูกตันเต๋งทรยศ ลิโป้รีบกลับเมืองชีจิ๋ว พอถึงหน้ากำแพงเมืองเรียกทหารในเมืองให้เปิดประตูรับ กลับถูกทหารในเมืองยิงเกาทัณฑ์ใส่ ถึงรู้ว่าเมืองชีจิ๋วถูกบิต๊กยึดไว้แล้ว บิต๊กตะโกนบอกลิโป้ว่าเมืองนี้มิใช่ของเจ้า แต่เป็นเมืองของเล่าปี่นายเรา เจ้ามาตีชิงไป บัดนี้เรายึดคืนนายเราได้แล้ว ให้ยกทหารไปอยู่ที่อื่นเถิด
ลิโป้ตกใจปรึกษาตันก๋งว่าจะทำอย่างไรดี ตันก๋งว่าจะยกหักเข้าเมืองชีจิ๋วคงขัดสน ควรยกไปชุมนุมที่เสียวพ่าย อย่างน้อยก็ยังมีโกซุ่นกับเตียวเลี้ยวอยู่ที่นั่น ลิโป้เห็นด้วยจึงเร่งคุมกำลังที่เหลือไปเมืองเสียวพ่าย ระหว่างทางพบโกซุ่นกับเตียวเลี้ยวนำทัพรีบรุดมา ลิโป้ยิ่งตกใจร้องถามว่า เราให้ท่านทั้งสองอยู่รักษาเมืองเสียวพ่าย เหตุไฉนจึงทิ้งเมืองมาเสีย โกซุ่นกับเตียวเลี้ยวจึงรายงานว่าตันเต๋งไปบอกว่า โจโฉกำลังล้อมจับท่านอยู่ให้รีบยกทหารมาช่วย
ลิโป้ร้องว่า เจ้าสองพ่อลูกตันกุ๋ยกับตันเต๋งทรยศกูได้ กูจะต้องไปตัดศีรษะพวกมันให้ได้ พอถึงเมืองเสียวพ่าย ลิโป้เห็นธงโจโฉโบกสะบัดอยู่เชิงเทินอย่างสง่างาม ลิโป้โกรธจัดควบม้าไปที่หน้ากำแพงเมืองร้องตะโกนด่าตันเต๋งด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตันเต๋งยืนอยู่บนเชิงเทิน ชี้หน้าด่าลิโป้ว่า กูเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ไม่ใช่เป็นข้าของมึง มึงเป็นขบถ ทรยศต่อแผ่นดิน กูคบกับมึงไม่ได้
ลิโป้ขยับม้าสั่งตีเมืองเสียวพ่าย แต่ก็ปรากฏว่ามีฝีเท้าม้าอึกทึกอยู่ด้านหลัง เหลียวไปมองเห็นเตียวหุยคุมกองทัพเข้าตีทุกลิโป้ มิหนำซ้ำโจโฉยกทัพมาสมทบ ลิโป้เห็นสู้ไม่ได้จึงสั่งถอยทัพ เตียวหุยได้ทีควบม้าไล่ตาม ลิโป้หนีได้พักใหญ่ก็เผชิญหน้ากับทัพของกวนอูอีกกองหนึ่ง ลิโป้สู้กับกวนอูไม่นานจึงผละหนีเอาตัวรอดเข้าสู่เมืองแห้ฝือ ระดมกำลังทหารขึ้นรักษาเชิงเทิน เมืองแห้ฝืออุดมสมบูรณ์ด้วยเสบียงอาหาร คูเมืองกว้างลึก ลิโป้กับตันก๋งไม่มีทางเลือก จึงตั้งใจปักหลักสู้ตายอยู่ในเมืองนี้