สามก๊ก ฉบับนักบริหาร:บทที่ 11 คนชั่วช้าแม้ศพยังไม่มีให้เผา

เมล็ดพืชแห่งความระแวงได้ถูกหว่านลงไปแล้ว แผนนารีพิฆาตของอ้องอุ้น ขุนนางอาวุโสที่จะโค่นล้มตั๋งโต๊ะ เต็มไปด้วยความล้ำลึก ในขณะเดียวกันขั้นตอนของการปฏิบัติการ มีความเสี่ยงต่อภยันตรายอย่างยิ่ง พลาดพลั้งนิดเดียวย่อมหมายถึงความหายนะจะเกิดขึ้นแก่ตัวอ้องอุ้นเองกับคนในครอบครัว จะถูกฆ่าบั่นคอกันเจ็ดชั่วโคตรโทษฐานกบฏ

ลิยูยังมองไม่ออกถึงแผนการทำลายตั๋งโต๊ะ แต่ก็เห็นชัดเจนว่าผลเสียกำลังจะตามมา ลิยูรู้ว่าตั๋งโต๊ะอยู่ในอำนาจได้เพราะมีลิโป้เป็นฐานอำนาจ การขัดใจกับลิโป้ก็เท่ากับว่า ตั๋งโตะกำลังทำลายฐานอำนาจของตนเอง แต่คนที่กำลังมัวเมาอำนาจอย่างตั๋งโต๊ะ มักจะลืมตัวมองไม่เห็นความสำคัญในจุดนี้

ยิ่งถูกมายาอิสตรีเข้ามามอมเมา ตั๋งโต๊ะจึงกลายเป็นปลาใหญ่ที่กำลังจะตายน้ำตื้น เตียวเสี้ยนใช้มายาหญิงทุกกระบวนท่าหลอมหัวใจชายอกสามศอกอย่างลิโป้กับตั๋งโต๊ะให้หลงละลายจนถึงขั้นจะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

อ้องอุ้นจับจุดอ่อนของลิโป้กับตั๋งโต๊ะได้อย่างแม่นยำ บุคคลผู้มีอำนาจทั้ง 2 มีจุดอ่อนของความเป็นมนุษย์มากถึง 3 ข้อ คือ โลภในสมบัติหนึ่ง โลภในอำนาจหนึ่ง และ ลุ่มหลงในอิสตรีเพศกลกามอีกหนึ่ง และ ยัง เป็นความโลภที่ไม่มีขีดจำกัด แม้บุคคลทั้งสองจะมีกุนซือที่ปรึกษาตาเหยี่ยวอย่างลิยูกับลิซกที่อยู่เคียงข้างก็ตาม นับได้ว่าอ้องอุ้นวางแผนดำเนินการรุกโจมตีจุดอ่อนของอำนาจบ้านเมืองในยุคนั้นได้อย่างมีผลที่สุด

วิเคราะห์ให้ลึกซึ้งแล้ว การทำให้ลิโป้กับตั๋งโต๊ะแตกคอกันได้ อ้องอุ้นมิได้ใช้เพียงแค่เตียวเสี้ยนเป็นสิ่งล่อใจคนโฉดทั้งสองเท่านั้น แต่อ้องอุ้นได้สื่อให้ทั้งคู่แอบคิดกำเริบในใจ การโค่นล้มตั๋งโต๊ะได้ เป้าหมายใหญ่อาจจะเป็นราชบัลลังก์ที่ตั๋งโต๊ะหมายปองอยู่สำหรับตัวลิโป้เองก็ได้

การกระซิบนำเสนอราชบัลลังก์แก่ตั๋งโต๊ะ กลายเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้ปัญญาของจอมทรราชถูกบดบังด้วยความละโมบเหิมเกริมจนมืดมิด สร้างความขัดแย้งในผลประโยชน์ระหว่างลิโป้กับตั๋งโต๊ะ นัก การทหารที่กำลังจะกลายเป็นนักการเมืองอย่างตรงเป้าที่สุด นอกเหนือไปจากการแก่งแย่งหญิงงามคนเดียว

เมื่ออ้องอุ้นเชื่อว่าได้ใจลิโป้ในการกำจัดตั๋งโต๊ะแน่แล้ว จึงรีบปรึกษาวางแผนกับพรรคพวก แต่งรับสั่งปลอมของพระเจ้าเหี้ยนเต้ว่าทรงประชวร จะสละราชสมบัติให้แก่ตั๋งโต๊ะ เพื่อลวงตั๋งโต๊ะเข้าเมือง แต่หาคนถือหนังสือที่น่าเชื่อถือไม่ได้ พอดีกับที่ลิซกเพื่อนลิโป้กุนซือที่อาสาตั๋งโต๊ะไปกล่อมลิโป้จนฆ่าเต็งหงวนตาย

แล้วมาสวามิภักดิ์ต่อตั๋งโต๊ะ แต่เมื่อทำการสำเร็จในครั้งนั้น ตั๋งโต๊ะไม่ยกย่องเลื่อนยศปูนบำเหน็จให้ลิซกตามควรแก่กรณี ลิซกจึงน้อยใจแปรพักตร์ เข้าร่วมมือกับอ้องอุ้น รับเป็นผู้ถือสารไปลวงตั๋งโต๊ะด้วยตนเอง

ตั๋งโต๊ะสอบถามลิซกด้วยความตื่นตะลึงในข่าว ไม่แน่ใจว่าทุกอย่างได้เกิดขึ้นจริง ลิซกยืนยันว่าที่พระเจ้าเหี้ยนเต้จะสละราชสมบัติให้ท่านนั้น เป็นเพราะอ้องอุ้นเป็นผู้ทูลเสนอ และขุนนางทั้งปวงก็เห็นพ้องต้องกันด้วย บัดนี้อ้องอุ้นได้จัดแจงตราสำหรับว่าราชการแผ่นดินไว้ให้ท่านแล้ว

ตั๋งโต๊ะหลงเชื่อจึงจัดแจงมอบงานให้นายทหารสนิทลิฉุย กุยกี เตียวเจ หวนเตียวให้รักษาเมืองแล้ว ได้เข้าไปหามารดาอย่างตื่นเต้นดีใจว่า บัดนี้ พระเจ้าเหี้ยนเต้จะสละราชสมบัติให้แก่ข้าพเจ้า ท่านผู้เป็นมารดาจะได้เลื่อนเป็นสมเด็จพระพันปีหลวง

มารดาตั๋งโต๊ะแก่มากแล้วอายุถึง 90 เศษ บอกว่า ได้พึ่งบุญลูกแค่นี้แม่ก็มีความสุขมากแล้ว แต่ครั้งนี้แม่มีลางสังหรณ์เขม่นไปทั้งกายและใจ เข้าเมืองหลวงหนนี้ลูกต้องระมัดระวังตัวให้จงดี แล้วตั๋งโต๊ะก็ร่ำลาเตียวเสี้ยนเล่าเรื่องทั้งปวงให้ฟัง พลางหยอกล้อว่าถ้าได้ครองราชย์สมบัติ จะแต่งตั้งให้เตียวเสี้ยนเป็นมเหสีฝ่ายซ้าย เตียวเสี้ยนได้ฟัง ก็รู้ทันทีว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นแผนอุบายของอ้องอุ้น จึงทำเป็นชื่นชมยินดี ตั๋งโต๊ะก็ยิ่งกำเริบใจในลาภยศที่ตนจะได้รับ หาได้เฉลียวใจไม่ว่า กำลังเดินเข้าไปสู่กับดักแห่งความตาย

ความจริงตั๋งโต๊ะน่าจะรู้ตัว พอขบวนรถยาตราเคลื่อนไปได้ครู่เดียว รถที่ตั๋งโต๊ะนั่งเพลาหัก ตั๋งโต๊ะจึงเปลี่ยนมาขึ้นม้าต่อ ม้าก็พยศจนสายบังเหียนขาด ตั๋งโต๊ะจึงหันมาถามลิซกว่า ที่เพลารถหัก สายบังเหียนม้าขาดเยี่ยงนี้ ท่านเห็นเป็นลางดีหรือร้ายประการใด ลิซกจึงปั้นคำทำนายแบบนักการเมืองขี้ฉ้อว่า เหตุที่เกิดเช่นนี้เพราะบุญของท่านจะได้ครองราชย์สมบัติ ท่านจะไม่ต้องขี่รถกับม้าพรรค์นี้อีก ต่อไปข้างหน้าจะทรงราชรถประดับด้วยหยกเทียมด้วยม้าพระที่นั่ง ตั๋งโต๊ะได้ฟังลิซกว่าดังนั้น ก็ยิ่งเคลิบเคลิ้มหนักเข้าไปอีก

พอล่วงเข้าเวลาเย็น เกิดลมพายุใหญ่ ท้องฟ้ามืดมัวเมฆหมอกลงหนาทึบ ลิซกก็ยังปั้นคำทำนายว่า บุญท่านจะได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกร ฟ้าดินจึงบันดาลให้เห็นอานุภาพของท่าน ก็พอดีถึงประตูเมือง ขุนนางน้อยใหญ่มาคอยรับตั๋งโต๊ะ น่าสังเกตว่าลิยูอ้างป่วยอยู่มิได้มารับด้วย ลิโป้ก็มาคำนับตามหน้าที่ ตั๋งโต๊ะนึกผิดอยู่อยากเอาใจลิโป้บอกว่า ถ้าได้ราชสมบัติ จะแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพคุมทหารทั้งปวง ลิโป้แสร้งทำเป็นยินดีรับคำแล้วก็ลาจากไป

คืนนั้นเดือนหงาย ตั๋งโต๊ะได้ยินเด็ก ๆ ลูกชาวบ้านออกมาวิ่งเล่นหน้าทำเนียบ ร้องเพลงโศกพร้อมกันใจความว่า โอ้ว่าอนิจจาเอ๋ย หญ้าเขียวขจีใบสดชุ่มอยู่ ไม่ถึงสิบวันพลันก็ตาย ตั๋งโต๊ะถามลิซก ลิซกก็ตอบว่า ที่เด็กร้องนั้นหมายถึงราชวงศ์ที่มาจากคนแซ่เล่าจะถึงที่สิ้น แซ่ตั๋งจะรุ่งเรืองสืบไป ตั๋งโต๊ะได้ฟังก็ยินดี

ครั้นวันรุ่งขึ้น ตั๋งโต๊ะเข้าไปถึงประตูวัง ลิซกออกอุบายให้ตั๋งโต๊ะสั่งทหารให้รอด้านนอก แล้วนำรถตั๋งโต๊ะเข้าสู่ในรโหฐานที่เฝ้า พลันเห็นอ้องอุ้นกับขุนนางทั้งปวงถือกระบี่อยู่ทุกคน ตั๋งโต๊ะตกใจพลันได้ยินเสียงอ้องอุ้นร้องประกาศว่า อ้ายโจรกบฏชั่วมาแล้ว ทหารที่ซุ่มอยู่วิ่งตรูเข้าแทงตั๋งโต๊ะที่หน้าอกด้วยทวนจนล้มลง จอมทรราชย์รำลึกถึงลิโป้ได้ก็ร้องว่า ลิโป้ลูกพ่ออยู่ที่ไหน ช่วยพ่อด้วย

ลิโป้กระโดดเข้าประชิดตั๋งโต๊ะร้องตอบว่า กูอยู่นี่ มึงเป็นศัตรูราชสมบัติมาร้องให้กูช่วยไปใย ว่าแล้วลิโป้พุ่งทวนถูกตั๋งโต๊ะที่ซอกคอทะลุเลือดกระฉูดตกจากรถตาย แล้วลิโป้ก็กรากเข้าตัดศีรษะตั๋งโต๊ะยกชูขึ้น ร้องประกาศว่า มีพระราชโองการให้ประหารชีวิตตั๋งโต๊ะ และข้าได้ทำสำเร็จแล้ว

บรรดาขุนนางที่อยู่ในที่นั้น ต่างเปล่งเสียงถวายพระพรองค์ฮ่องเต้ ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น พระเจ้าเหี้ยนเต้มิได้ทรงทราบเรื่องเลยแม้แต่น้อย เพราะบ้านเมืองอยู่ภายใต้ระบบอำมาตยธิปไตยเต็มรูปแบบ อะไรที่ขุนนางแม่ทัพที่กุมอำนาจบอกว่าถูก มันก็ต้องถูกทั้งนั้น แล้วอ้องอุ้นจึงสั่งให้เอาศพตั๋งโต๊ะแห่ตระเวนรอบเมือง นำหัวไปเสียบประจานไว้ที่ทางสามแพร่ง เอาชุดใส่ลงในรูสะดือศพ จุดไฟเหมือนกับที่ตามตะเกียง

สมัครพรรคพวกของอ้องอุ้นและผู้คนที่เกลียดชังตั๋งโต๊ะ รวมทั้งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมีใจเจ็บแค้นชวนกันมาด่าว่าหน้าศพ บ้างก็ถ่มน้ำลายรด เอามือชี้ ชกหัว บ้างก็เอาเท้าถีบ จนศพตั๋งโต๊ะแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี ตำนานบอกว่า คนชั่วช้าแม้ศพยังไม่มีให้เผาจึงเป็นเช่นนี้แล

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘