คุณว่า “Trader” กับ “Value Investor” มันคุยกันรู้เรื่องอะเปล่า!!



ถ้า เทียบว่า Trader เป็น “ขั้วโลกเหนือ” .. Value Investor ก็ต้องเป็น “แก่นกลางโลก” เพราะมันยิ่งกว่าขั่วโลกใต้ ..มันถึงขั้นเดินทางไปไม่ถึง!!

ผมเคยคุยกับทั้ง Value Investor และก็ Trader ตัวเป็นๆ ชนิดเผาขน หลายต่อหลายครั้ง…เอ้า!! ผมจะแถลงไขให้ท่านฟัง!!

Value Investor คือ คนประเภทนึง ที่ไม่ได้มีความสุขจากการใช้เงิน แต่ความสุขอยู่ตรงที่นึกว่าเงินเป็นต้นไม้ “จึงชอบดูมันเติบโต” การเล่นหุ้นของ Value Investor เขาแทบไม่รู้จักคำว่าขาย (เพราะการเข้าซื้อหุ้นของเขา เหมือนการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจการ…ดังนั้น การที่เขาแทบไม่เคยมอง Capital Gain เลย มันทำให้ ไม่ว่าราคาหุ้นจะขึ้นเท่าใด เขาก็แทบไม่เคยขาย (งั้น Buffet ก็อาจจะไม่ใช่ Value Investor ของจริง เพราะดันไปขาย Petro China ทิ้ง…อิ อิ)

…(อย่างเจ้าสัวธนินท์ กับ เจ้าสัวเจริญ ตอนนี้ หุ้นขึ้นกระจาย “รวยเพิ่มสุดขีด”แต่เขาไม่ขาย …คำถามคือเขาเป็น Value Investor หรือเปล่า ) สังเกตไหมครับ ว่าเจ้าสัวทั้งสองเลย limit ของการทำเงินไปแล้ว ดังนั้น การขึ้นลงของหุ้น ไม่ได้ทำให้เขา จิตใจหวั่นไหว แต่อย่างใด เพราะ “มันเลย limit ของการใช้เงิน ..เงินในมุมมองของ เจ้าสัวทั้งสองจึงเป็นเพียงตัวเลข) ..ดังนั้น คนที่จะรวยได้มากจริงๆ ไม่ใช่การเป็นนักลงทุนที่ Focus ใน Capital Gain ..โอเค ปล่อยเจ้าสัวทั้งสองไปเถอะครับ เขาอยู่คนละ level กับเรา..อิ อิ

ความ ประหลาดของพวก Value Investor คือ “ความมั่นใจอย่างสุดโต่ง ในการตัดสินใจของคนเอง” ซึ่งโดยธรรมชาติของตลาดหุ้น ที่ภายในระยะ 5 ปี ไม่แปลกที่หุ้นตัวหนึ่งๆ จะตกวูบกลับมาเจอ ราคาเดิมเมื่อตลาดตกมากๆ

พูด อีกนัยคือ Value Investor ในช่วงต้นๆของอาชีพ จะเห็น Port ของตัวเอง “ขาดทุน” หรือ “จมน้ำอย่างหน้าตาเฉย” ---“มึงบ้าไปแล้ว…ทำได้ไง --- มันมีน้อยคนนักที่ทำได้” ผมเห็นหลายคนแล้ว บอกว่าตัวเองเป็น Value แต่เอาเข้าจริง พอหุ้นขึ้นลงแรงๆหน่อย “นุ่น..สติแตก!!”

(เอาเป็นว่า คนกลุ่มนี้เรายกให้แล้วปล่อยให้เขาเดินไป ..ตามวิถีของเขา “จริงๆผมก็พยายามจะเป็น Value Investor แต่พยายามทีไร -- ออกมาเป็นหมัดเมาทุกที!!..อิ อิ)

มาถึง วิธีของ Trader (จริงๆผมมองว่า คนไทยส่วนใหญ่ เล่นแนวทางนี้นะ) คือ หลักการมันก็ Make Sense คือ “คุณจะทำกำไรไปกับขาขึ้น let profit run และคุณก็จะต้องไม่อยู่ในหุ้น ในช่วงขาลง…ถูกไหม!!” ฟังดูง่ายแต่พอทำจริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่พูด อะดิ!!

ดังนั้น ถ้าเรามาวิเคราะห์กับนิสัยของคนไทยแล้ว จะเห็นได้ว่า “น้อยคนนักที่จะมีความมั่นใจในตัวเองอย่างสุดโต่ง + สามารถเห็น Port ของตัวเองจมน้ำได้” … “ไม่แปลก ที่คนไทยควรจะต้องมาศึกษา Technical อย่างจริงจัง (เพราะมันเป็นอะไรที่สอดคล้องกับ นิสัยของคนไทยมาก!!)

เอา ละ ครับ เราก็พอจะเห็น ภาพคร่าวๆของ “มนุษย์ทั้งสองที่อยู่กันคนละ Specie นั่นเอง” ท้ายสุด ผมก็ยังคงยืนยันว่า “แต่ละคน” ในที่สุด ก็จะ develop “หมัดเมา” ในรูปแบบของตัวเองขึ้นมา (ดังนั้น การเดินตามคนอื่น มันไม่ไช่ทางสำเร็จแน่นอน!! เดินเอง เลือกเองครับ!!)

…. “หมัดเมา..แต่อย่า เมาหมัด (เดี๋ยวซวย…หุ หุ)”

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘