คุณสงสัยไหมว่าทำไม SET หุ้นที่ดีๆไม่มีสภาพคล่อง แต่หุ้นปั่นมี!!

ช่วง นี้ผมก็นั่งพล่ามว่า "เอ๋!! ทำไมหุ้นที่เขาเอามาปั่น มันมีแต่หุ้นที่พื้นฐานห่วยๆ หรือ ไม่มีพื้นฐาน" ผมเลยไปถามเซียน ..แกตอบผมมาเลยว่า "ไอ้น้อง..เอ๊งคิดดูซิ ถ้าเอ๊งเป็นเจ้าของบริษัท แล้วบริษัทนี่ ดีเยี่ยม แต่ราคาหุ้นถูกสุดขีด ..ถามหน่อย เอ็งในฐานะเจ้าของบริษัท จะขายหุ้นไหม!!" (โห..ใช่เลย ตรงประเด็นผมถึง "บางอ้อ" เลย..ว่าทำไมตลาดเรามันถึงมี Liquidity น้อยมาก

ถ้าย้อนไป ดู ตั้งแต่ "วิกฤตต้มยำกุ้ง ตั้งแต่ปี 1997" ตลาดเรา พังซ้ำพังซาก ..คิดดูจากวันนั้น ถึงวันนี้ GDP ขยายตัวไม่รู้กี่เท่า รายได้คน รายได้บริษัท เพิ่มขึ้นมหาศาล... แต่ตลาดหุ้น "ห่วย" เล็กเหมือนเดิม

ปัญหา ก็คือ "เจ้าของบริษัทดีๆ ก็มองว่า หุ้นตัวเองถูกเกินไป ก็ไม่ยอมขายหุ้น ..คนเห็นหุ้นนิ่ง ก็ไม่เข้ามาซื้อขาย "เข้าประเด็น -- มึงเริ่มก่อนดิ!!" ..สรุปคุณรู้ไหม ใครเริ่ม (ใช่ครับ) ก็ไอ้บริษัท เน่าๆที่ร่วมมือกับขาใหญ่ -- นี่มันเริ่มก่อนเลย --- คือบริษัทพื้นฐานแย่ๆ พวกนี้ อยากขายหุ้นตัวเอง ใจจะขาดอยู่แล้ว !!

เรื่องมันอยู่ที่การ "โคจรมาพบกัน ของ เจ้าของบริษัทห่วย กับนักปั่นหุ้น ... และนี่คือ จุดกำเนิดของความเน่า อย่างสนุกสนานในตลาดบ้านเรา"

จริงๆ ประเด็นนี้ผมได้เคยคุย กับผู้บริหารระดับสูงของ Broker แห่งนึง(ไม่ขอออกนาม) เขาก็บอกว่า "ตลาดก็อยากให้คนมาซื้อขาย ..ผมฟังไปก็ขำไป" -- ปัญหาคือ "ของมันเน่า ใครจะอยากลงทุนวะ ผมนี่ งง มาก"

จริงๆ มันต้องคุยกันที่ Fact ตลาดหุ้น คุณต้องเข้าใจว่า จริงๆมันเกิดได้เพราะ Greed (ความโลภ) .."ผู้บริหารตลาดหุ้นไทย อ่านเกมไม่ขาด แต่กลายเป็นว่า (เจ้าของกิจการเน่ากับนักปั่น อ่านเกมขาด!!) ..เขารู้นี่ว่า Greed ประเด็นเดียวเท่านั้น ที่จะชักจูงคนมาเล่นหุ้นได้ -- ไม่ใช่การจัดสัมมนา การลงทุน "โห!! เซ็ง ฟังแล้วหลับ"

ต่างกันเลย "นักปั่น นี่ปั่นหุ้นบ้า !!..ปั่นปั๊บพุ่ง !! --- คนแรกเห็น เข้ามาซื้อ "อ้าว!! เฮ้ย (มันรวยเว้ย!!) ..คุณคิดดู อยู่ดีๆ เพื่อนคุณลงไป 1 แสน ได้มา 3 เท่า ..(หันไปข้างๆ เดี๋ยว เพื่อนอีกคนได้เงินอีกแล้ว !!...) ...คุณคิดดู สุดท้าย "ทนไม่ได้ ต้องเข้าตลาด " ...แต่ปรากฏว่า พอเข้ามาหารู้ไม่ "ไอ้หุ้นร้อนแรง --พุ่งๆ.. มันไม่มีพื้นฐานสักตัว"

"เป็นอะไรที่น่า สงสารจริงๆ แต่ทำไงได้ --ก็กูอยากรวยบ้างนี่ !!" ไม่รู้ล่ะ ผมโทษ กลต. ก่อนเลย ไม่ยอมเป็นหูเป็นตา ...อ้าว สรุป ตกลงคนผิด ไม่ใช่ความโลภของมัน กลายเป็น กลต. กับ ตลาดหุ้น "เป็นแพะ ไป อิ อิ"

ผมว่าจริงๆ นะทางออก คือ ตลาดหลักทรัพย์ ต้องเข้าไปคุยกับเจ้าของกิจการ ต้องไปคุยกับ Broker ไปคุยกับรายใหญ่ ..ไปเอาของดีมาให้เล่นกันบ้าง --- ไม่ใช่ให้เขาไปนั่งจับกลุ่มกันมืดๆ "หุ้นที่ แรงขึ้นมาก็เลยมีแต่ อีแบบ -- มืดๆ แบบนี้ ผมว่ามันเศร้านะเนี่ย"

เอาว่าฝากไว้ ไม่ว่าจะเป็นตลาด กลต. หรือ ขาใหญ่ นักปั่นน่องเหล็ก ..คุณไปเอาหุ้นดีๆมาเล่นบ้าง "อย่าเรียกปั่นเลย ฟังแล้วห่วย เรียก โครงการ คืนสภาพคล่องสู่หุ้นพื้นฐานดี ดีกว่า"

ปัญหาวันนี้ ผมว่า ทุกคนมองสั้น ต้องการทำเงินเร็ว "ตลาดเราเลยไม่ไปไหน" จริงๆ SET มันควรเลย 2,000 จุดไปเป็นชาติแล้ว ..คุณดูเจ้าของหุ้นที่เก่งๆ อย่าง BJC , IVL , BLA , CPF หุ้นพวกนี้เจ้าของเขามองยาว ราคาหุ้นวิ่งสุดๆเขาก็ไม่โกยกำไร ทุบหุ้นตัวเอง ...อย่างนี้สิครับ ตลาดมันถึงจะคึกคัก

ไม่ใช่ไอ้ หุ้นสามวันขึ้น สองวันทุบ "บ้าหรือ" ...ผมว่า กินยาวๆ พอหุ้นคุณแพงติดลมบน ในที่สุด "ราคาหุ้น คูณ กับจำนวนหุ้น ก็จะกลายเป็น กิจการระดับ เป็นหมื่นเป็นแสนล้าน" ดู IVL พอติดลมบน คราวนี้ทุนต่างชาติก็สามารถลงในกิจการคุณได้ เพราะมันใหญ่พอให้เขาเล่น ---- "ไอ้อย่างปัจจุบัน ไม่มีการซื้อขายไม่มีสภาพคล่อง ไม่ไหวๆ"

ดูกันไป จริงๆโอกาสมาแล้ว ผมว่า ทุกคนควรให้ความสำคัญกับตรงนี้นะ "ช่วยกันๆ"

"คืนสภาพคล่องสู่หุ้นพื้นฐานดี อิ อิ" น่าจะดี.... (หยุดคืนสภาพคล่องสู่หุ้นห่วยที่ทำกันอยู่ตอนนี้เถอะครับ มันทุเรศ!!!)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘