การเติบโตของ SET เทียบกับ Real Growth

การเติบโตที่แท้จริงของ SET กับ SET index มันต่างกันอย่างไร --- ก่อนอื่นต้องเข้าใจพฤติกรรมของตลาดหุ้นคือ ถ้าขึ้นก็จะขึ้นเกิน ถ้าลงก็จะลงมากเกิน นี่เป็นสาเหตุทีทำให้คนเล่นหุ้น มีความเสียง (และหาเงินได้ นั่นเอง)

ตัว SET จะมีการเติบโตใน Cycle แบบ U-shape แต่ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นลงแบบ V-shape (งง.....ไหมครับ ลองไปคิดเอาเอง เพราะ ถ้ามองให้ดี คือ สมมุติธุรกิจขึ้น 50% แต่หุ้นอาจวิ่งขึ้นไป 150% ก็ได้ ในขณะที่ถ้าธุรกิจแย่ลงไป 10% หุ้นอาจวิ่งลงไป 50% ก็เป็นได้)

ประเด็นที่ผมจะพูดถึงคือ การมองหา U-shape ของ SET Index ถ้าเราสมมุติการเติบโตของตลาดคือ 7% ต่อปีตั้งแต่ก่อตั้งตลาดขึ้นมา จะได้
year1 : 100 11 : 197 21 : 387
2 : 107 12 : 210 22 : 414
3 : 114 13 : 225 ( นี่เป็นตัวอย่าง ดังนั้นในปีนี้ถ้าเทียบตาม Real Growth ที่ 7% ต่อปี
4 : 131 14 : 241 ตอนนี้เข้าปีที่ 36 Index เทียบ อยู่ที่ 1,068 จุด ซึ่ง ณ SET 680
5 : 131 15 : 258 ในปัจจุบันถือว่า ไม่สูง --- ดังนั้น ถ้าเราเทียบต้องการลงทุนยาวคือ
6 :140 16 : 276 ตอนนี้ไปจนถึง 10 ปี ข้างหน้า Index จะวิ่งอยู่ระหว่าง
7 : 150 17 : 295 1,068 - 2,100 ซึ่งกรอบนี้ถือเป็นตัวกำหนดความสูงต่ำของตลาด
8 : 161 18 : 316 เป็นกรอบแห่งเหตุผลนั่นเอง )
9 : 172 19 : 338
10 : 184 20 : 362

หมาย เหตุ --- ในช่วง ปี 1987 -2003 จะเห็นได้ว่า SET index วิ่งไปเลยกรอบของ Index แท้จริงมาก ทำให้พอถึงปี 1997 -1998 ตลาดตกอย่างรุนแรงมาก

--- จากสถิติตั้งแต่เปิดตลาดจนถึงปัจจุบัน ช่วงเวลาที่ขาดทุนก็คือ ระหว่างปี 1989 -1997 คือ ใครก็ตามที่ซื้อหุ้นในช่วงเวลาดังกล่าวคือ พัง..เสีย.. และ โดดตึกตาย ดังนั้น ถ้ามองตาม History เรากำลังเข้าสู่ ยุคขึ้นต่อ เพื่อไปเก็บกวาดอีกครั้งในอีก 10 ปี ข้างหน้า

หัวใจของการทำกำไรในตลาดหลักทรัพย์คือ "Timing ใครสามารถรู้ ผู้นั้นย่อมสามารถรวยอย่างไร้ขีดจำกัด" รวย...รวย...รวย...

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓ วันเสาร์ ที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓