แกะรอย Private Equity ซากเน่าที่ยังคงเหลืออยู่จากวิกฤต!!



ก่อน Sub-prime ใครๆก็รู้ว่า Private Equty แจ๋วขนาดไหน "ถ้าจำกันได้ ช่วงเวลานั้น Private Equity เกือบซื้อทั้งโลก ...สาเหตุหลักๆก็มาจาก Easy Credit (ช่วงเวลานั้นผมยังทำงานอยู่ใน Australia เลย..เห็นเศรษฐีดังๆ ขายกิจการตัวเองให้ Equity firm กันอย่างยกใหญ่ด้วยราคาที่สูง)

ณ เวลานั้น ผมมองย้อนไป ก็นึกอิจฉา Private Equity Firm เหล่านั้นเป็นยิ่งนัก เพราะวันๆอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ก็เห็น Private Equity แห่งนั้น แห่งนี้ ...กู้เงินมหาศาลแล้วก็ Take Over กิจการใหญ่ๆ ..ย้อนมามองดูตัวผมเองในเวลานั้นก็ กำลังขยายกิจการร้านอาหาร อย่างรีบเร่งด้วยหนี้สินมหาศาลเช่นกัน (แล้วอะไรเกิดขึ้นล่ะ !!)

วันนี้ ผมอ่านบทความเกี่ยวกับ Private Equity ชื่อบทความว่า "The Easy Money Gone" บทความนี้ List เอา Asset ที่ก่อนหน้านี้ Private Equity เข้าไปซื้อด้วยราคาแพง "เอามาดูว่าตอนนี้ Asset นั้นๆเหลือมูลค่าเท่าไหร่"

(ยกตัวอย่าง)
KKR เข้าซื้อ First Data กู้เงินมาซื้อไป 27.5 billion ตอนนี้เหลือมูลค่า 60c ต่อ 1 ดอลล่าห์ (มูลค่าลดลงไป 40%)

อีกบริษัทก็อย่าง Energy Future Holdings กู้มาซื้อไป 43.2 billion ตอนนี้เหลือ 30c ต่อ 1 ดอลล่าห์

หรืออย่างกรณีของ Apollo กู้มาซื้อ Harrah's Entertainment ในราคา 30.7 billion ตอนนี้เหลืออยู่ 63c ต่อ 1 ดอลล่าห์

นี่แค่ยกตัวอย่าง Top Private Equity อย่าง KKR และ Apollo นะครับเนี่ย ไอ้ที่ไม่ Top นี่เจ๊งกันไประนาวแล้ว

ประเด็น ที่ชี้ใด้ชัดจากตัวอย่างนี้ก็คือ Cycle ของธุรกิจ ..การที่เราไม่เข้าใจ Cycle ของธุรกิจ มันบ่งชี้ถึงหายนะของกิจการเลยทีเดียว ..อย่างกรณีที่ผมยกขึ้นมา มันเป็นได้ชัดว่า เศรษฐีที่ขายกิจการตัวเองให้กับเหล่า Private Equity ก็แสดงว่าเขามอง ออกว่า ณ เวลานั้น ธุรกิจของเขาอยู่ในช่วง Peak สูงสุด --- "สิ่งที่ฉลาดที่สุดเท่าที่เศรษฐีเหล่านั้นจะทำได้ ก็คือ Cash out โดยการขายกิจการทิ้งไป"

และหลังจากนั้น เช่น เวลานี้ ถ้าเขาอยากได้กิจการตัวเองคืน ก็กลับมาซื้อด้วยราคาที่ถูกกว่าเดิม

เรื่อง นี้สอนให้เรารู้ว่า "อย่าหลงระเริงกับ Cycle ขาขึ้น เงินสะพัดของธุรกิจ เพราะเมื่อใดที่เงินสะพัด เมื่อนั้นมันกำลังบอกถึงจุด Peak ที่อันตราย"

ใน มุมกลับกัน พอเศรษฐกิจย่ำแย่ก็อย่าหลงมัวเมากับความกลัวจนไม่กล้าทำอะไร "เพราะนั่นเป็นจังหวะ ที่คุณควรกระโดดเข้ามาลงทุนมากที่สุดนั่นเองครับ"

เอ๋!! แล้วตอนนี้อยู่ในช่วงไหนครับเนี่ย (ไว้จะไปถามคุณเจริญ"เจ้าของราชา Take over เมืองไทย" ..เห็นท่านซื้อกิจการเป็นว่าเล่น"ตอนนี้ก็เล็งซื้อ Carrefour" ไม่รู้ท่านคิดอะไรอยู่!!")...น่าคิดตาม แต่ทรัพย์จาง ไม่เหมือนท่านอ่ะครับ ฮ่า ฮ่า

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘