การสูญพันธ์ของ One Man show (กุด..ว่างั้น!!)



เรื่อง นี้เกิดขึ้นกับตัวผมเอง ตามประสาคนหนุ่มที่มักมองว่า “ข้าที่แหละเก่งที่สุดในจักรวาลแล้ว” ..เรื่องราวของผมมันเริ่มจากความมั่นใจไร้สติ ที่เข้าไปลงทุนทำกิจการร้านอาหารในออสเตรเลีย --“ไม่ใช่แค่เปิดร้านอาหารเดียว ผมเปิดมันที 5 สาขา..กะว่า ปีหน้า กูจะ Challenge แมคโดนัลด์ก็คราวนี้แหละ!!” ขณะนั้น Cycle ของ ร้านอาหารในออสเตรเลียกำลังอยู่ในช่วงของขาขึ้น (จึงทำให้ผมฮึกเหิม!!)

สิ่ง ที่ผมมองข้ามก็คือการวิเคราะห์เชิงลึกใน Industry ร้านอาหาร -- การทำงานแบบ One Man Show ทำให้ผมขาดความรอบครอบ คือ ไม่ได้ศึกษา Industry และ Cycle ของธุรกิจอย่างจริงจัง …หลายคนคงมองไม่ต่างกับผมว่า “การเปิดร้านอาหารในต่างประเทศมีแต่รวย ไม่ใช่หรือ” นั่นเป็นความคิดที่ไร้เดียงสายิ่งนัก (ระหว่างเจ้าของร้านอาหารมักจะรู้กันว่า ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่เปลี่ยนมือสูงมาก เพราะเป็นอะไรที่แบบว่า “คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า” เข้ามาตายนี่แหละ..หุ หุ)

..มาเข้าประเด็นที่ผมมองข้าม นั่นก็คือ Salary Structure ของอุตสาหกรรมอาหาร คือ เน้นค่าแรงที่ต่ำกว่า Industry Award (พูดภาษาคนก็คือ เป็นธุรกิจประเภทที่กดค่าแรงนั่นเอง)

การเป็นธุรกิจ ประเภท Low Salary ทำให้ ด้านหนึ่งเป็นการ Block คู่แข่งขัน (จึงไม่แปลกที่ร้านอาหารอย่าง แมคโดนัลด์ที่รสชาติอาหาร ไม่เอาไหนเลย กลับสามารถทำกำไรอย่างงาม เพราะแท้จริงแล้ว แมคโดนัลด์ก็ไม่ต่างกับ Toyota หรือ Dell ที่เป็น Cost Leader ใน Industry ของตัวเอง) …ดังนั้น โอกาสของคู่แข่งที่ สายป่านสั้น แทบจะไม่มีโอกาสชนะธุรกิจอย่างนี้ได้เลย

อีก ประเด็นที่ผมมองข้ามคือ Cycle ของธุรกิจ ..ผมกระโจนเข้าสู่ธุรกิจใน Cycle ขาขึ้น มันเป็นอะไรที่ปัญญาอ่อนมาก เพราะแน่นอนในช่วงขาขึ้น Cost ทุกอย่างจะสูง ไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่า , ค่าแรง , การแข่งขัน หรือ แม้แต่ต้นทุนของวัตถุดิบ (ยกตัวอย่างคุณเซ็นสัญญาเช่าร้านในช่วง เศรษฐกิจดี ค่าเช่าของคุณก็จะแพง จากนั้นทุกปีค่าเช่าคุณก็จะมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่างกับคนที่ เซ็นสัญญาเช่าในช่วงเศรษฐกิจแย่ “คนเช่าน้อย” เจ้าของก็จะลดค่าเช่า )ดังนั้น มันเป็นการไม่ฉลาดเลย หากเราคิดจะทำธุรกิจใน Cycle ขาขึ้นของอุตสาหกรรมนั้นๆ

ที่กล่าวมาคือ 2 ประเด็นใหญ่ ที่ “ตอกหน้า One Man Show อย่างผม จนหน้าหงาย” ..อย่างที่บอกแหละครับ คนเราจะเรียนรู้จริงๆเมื่อมันเกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้น (ผมจึงไม่แปลกใจว่าในอนาคต ก็ต้องมีคนอีกมากมายที่ไม่ได้สนใจคำแนะนำของผม แล้วก็ไปทำผิดพลาดเหมือนกับผม)
กลับมาที่เรื่องของ One Man show ..หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วควรจะทำอย่างไร เอาเป็นว่า ผมจะมาเล่าวิธีแก้ One Man show ในบทความหน้าละกันครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘