MEGA trends

แนวทางในการลงทุนของผมที่ผ่านมา อาจจะพูดได้ว่าเน้นหนักไปที่การดูแนวโน้มใหญ่ ซึ่งหมายถึงความเปลี่ยนแปลงชนิดที่เปลี่ยนโลกหรือสังคมที่เป็นอยู่แบบหน้า มือเป็นหลังมือ
แท้จริงแล้วความเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่จะไม่เป็นแบบเส้นตรงซะทีเดียว คือการเปลี่ยนแปลงจะค่อย ๆ เริ่ม ซึ่งอาจจะสังเกตเห็นได้ไม่ง่ายนักและกินเวลานาน แต่จะเปลี่ยนไปเร็วขึ้น จนถึงจุดหนึ่งที่เปลี่ยนรุนแรงชนิดพลิกชั่วข้ามคืน
ผมคงไม่เล่า Mega trends ของเมืองไทย เพราะขึ้นอยู่กับมุมมอง และหาอ่านได้ทั่วไป แต่อยากจะแชร์ Megatrend ของประเทศจีน ที่อาจารย์ของผม (David Li) ซึ่งเก่งมาก ๆ ระดับเป็นที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลสอนผมมาอีกทีในขณะที่เรียน MBA ผมคิดว่าแง่มุมเหล่านี้ นำมาปรับใช้ในไทยได้ และแนวโน้มของจีน ก็มีผลกับประเทศไทยมากในอนาคต
1. Mega cities and new economic geography เมืองใหญ่ในจีนจะใหญ่ขึ้นเร็วมาก เกิดการย้ายเข้าสู่สังคมเมืองและเกิดคลัสเตอร์ในแต่ละภูมิภาค สังคมเมืองที่โตขึ้นจะเกิดการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมารองรับ เศรษฐกิจแบบ planned economics ของจีน ก็ยิ่งสนับสนุนการเติบโตแบบนี้ เมืองใหญ่จะรองรับประชากรได้มากกว่า เนื่องจากรัฐสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ทันความต้องการ
2. The service sector will be the fastest growth segment in China อุตสาหกรรมการบริการจะเป็นตัวเร่งของการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในอนาคต เนื่องจากทรัพยากรประเทศมีจำกัดจึงจะหวังพึ่งภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนไม่ ได้ บางคนอาจจะไม่รู้ว่า ค่าจ้างแรงงานของจีนแพงกว่าไทยแล้ว โดยเฉพาะมณฑลทางชายฝั่งตะวันออก อีกไม่นานบริษัทจีนคงใช้ไทยหรือเวียดนามเป็นฐานการผลิต อย่างไรก็ดีการย้ายฐานการผลิตใหญ่ ๆ ของโลกอาจจะยังไม่เกิดขึ้นอีกเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากจีนมีขนาดที่ใหญ่พอที่จะรองรับการเติบโตอีกระดับหนึ่ง
3. New and unique technologies will be adopted first in China ประเทศจีนจะเป็นแหล่งกำเนิดนวัตกรรม ผมเห็นว่าบริษัทบางแห่งอย่าง Huawei (ผมศึกษาบริษัทนี้ตอนทำรายงานตอนจบ) ก็มีำจำนวนสิทธิบัตรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และหลายอย่างจีนก็ซื้อมาใช้ และนำมาปรับปรุงต่อ ดังนั้นเครื่องจักร และเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นอีก ถ้าอยากให้การเปลี่ยนแปลงนี้ง่าย ๆ ก็ลองสังเกตตลาดสินค้าอิเล็คโทรนิคในเมืองไทย
4. Large scale industrial re-organization and China-based large multinationals จะเกิดการปรับโครงสร้างใหญ่ของบริษัทต่าง ๆ ในประเทศจีน ซึ่งแนวโน้มนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว หลังจากที่รัฐบาลจีนปฏิรูปรัฐวิสาหกิจใหญ่ ๆ (SOEs) ถ้าใครติดตาม Fortune 500 จะเห็นว่าบริษัทจดทะเบียนในจีน ติดอันดับเพิ่มขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มที่จะเป็น Multinational enterprises มากขึ้น
5. China will be one of the world’s largest international investors คนจีนเหมือนเอเชียที่เป็นนักออมตัวยง ซึ่งคนชั้นกลางที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดทุนจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าโอกาสในการลงทุนในประเทศ จีนจะเริ่มเป็นนักลงทุน และที่ผ่านมาจีนก็เน้นหนักที่จะลงทุนในทรัพยากร เนื่องจากต้องการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศ
6. RMB will become an international currency เมื่อใดก็ตาม ถ้ารัฐบาลจีนสามารถปล่อยเงินหยวนให้สามารถทำธุรกรรมได้เป็นอิสระ เงินหยวนก็จะเป็นสกุลเงินสำรองสกุลหนึ่งของโลก ตรงนี้ทำให้จีนจะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่สามารถพิมพ์เงินใช้เอง ได้(Seigniorage) เหมือนสหรัฐฯ สภาพคล่องในโลกอาจจะเพิ่มขึ้นอีก
อย่าลืมว่ามอง Mega trends ออก ก็สำคัญไม่แพ้กับซื้อหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขันและได้ประโยชน์จากแนว โน้มนี้ “ในราคา Mega sales ด้วยครับ”

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘