สอนลูกอย่างนักลงทุน Jim Rogers

จากหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่ชื่อ A Gift to My Children: A Father’s Lessons for Life and Investing

Jim Rogers เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Quantum fund กับ George Soros สรรพคุณคงไม่ต้องบรรยายว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาขนาดไหน สร้าง Quantum fund ด้วย return มหัศจรรย์ถึง 4000 กว่า% เทียบกับ S&P500 ที่โตแค่ไม่ถึง 50% ในช่วงทศวรรษ 70
นอกจากนั้นในช่วงวัยเกษียณ Jim ใช้เวลา 3 ปี เดินทางรอบโลกกว่า 100 ประเทศ ระยะทาง 245,000 กิโล (ถูกบันทึกสถิติใน Guiness book of World Record) เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักสะพายเป้หลาย ๆ คน รวมถึงตัวผมด้วย
หลังจากที่ผมเห็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มนี้ก็ไม่รอช้าที่จะพลิกขึ้นมาอ่าน มันอัดแน่นไปด้วยสิ่งที่ Jim อยากถ่ายทอดให้ลูกสาวทั้งสองคนของเค้า ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และการลงทุน (โดยจะหนักไปที่เรื่องแรก)
สิ่งที่เห็นในหนังสือ สะท้อนบุคลิกของ Jim อย่างเต็มตัวที่เต็มไปด้วยการมองภาพใหญ่และแนวโน้มในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสังคม การเมือง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม BRICs (Brazil, Russia, India, China) มุมมองที่ Jim มีต่อจีน ผมค่อนข้างเห็นด้วยในหลาย ๆ ประเด็น ซึ่งเป็นมุมมองที่แสดงให้เห็นว่า Jim ได้เข้าไปสัมผัสจีนด้วยตนเอง และยังเป็นหนึ่งในนักลงทุนต่างชาติไม่กี่รายที่เข้าใจจีนและเก็บเกี่ยวจาก มันได้มากขนาดนี้
ประเด็นหลักในหนังสือ
1. Swim your own race แปลง่าย ๆ คือจงเป็นอิสระทางความคิดต่อกระแสต่าง ๆ สิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการลงทุน และการตัดสินใจสำคัญ ๆ ในชีวิต หากมีคนมากมายไม่เห็นด้วยในความคิดของคุณ นอกจากความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นจากคำแนะนำของคนรอบตัวแล้ว อีกแง่หนึ่งคุณควรจะแอบคิดด้วยว่าความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มักจะเกิดจากเพียงแค่คนกลุ่มเล็ก ๆ
2. Focus on what you like สิ่งที่คุณชอบและจดจ่อมันจะขยายผล ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบและเริ่มทำมันให้เร็วที่สุด การที่คุณทำในสิ่งที่ชอบ คุณจะทำมันได้ดีและทุ่มเท (นิยามของการทำงานและงานอดิเรก มักจะขีดเส้นโดยใช้การสร้างรายได้เป็นตัววัด แต่ผมคิดว่า ความชอบในสิ่งที่ทำต่างหาก คือเส้นแบ่ง)
3. Be persistent: จงสม่ำเสมอ หรือ จะเรียกว่ามีวินัยที่จะรักษาเส้นทางที่มุ่งสู่ความสำเร็จ เพราะความสำเร็จเกิดจากการสะสมความได้เปรียบเล็ก ๆ อย่างยาวนาน ดังนั้นวินัยจึงเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้คุณอยู่ในลู่เป็นเวลาเพียงพอ
4. Let the World be the part of your perspective อันนี้ผมเชื่อจริง ๆ การได้เห็นโลกกว้าง (ไม่ว่าจะด้วยตนเอง หรือผ่านเลนส์ของผู้อื่น) ช่วยให้คุณกว้างและมีวิสัยทัศน์ ทุกการเดินทางผมจะได้มุมมองใหม่ ๆ และประสบการณ์ที่นำมาปรับใช้ได้เสมอ
5. Learn philosophy, history, and language ปรัชญาสอนให้คุณคิดเป็น การมองเห็นไม่เพียงพอให้เกิดมุมมองใหม่ ๆ (เสียดายที่วิชาปรัชญาไม่เคยอยู่ในตำราเรียนไทยในยุคสมัยผมเลย) ประวัติศาสตร์ สอนคนให้เรียนรู้ว่า ทุกสิ่งมักจะเกิดขึ้นซ้ำรอย แม้จะดูต่างกัน แต่มันเป็นเรื่องเดียวกัน ภาษาคือสิ่งที่ช่วยถ่ายทอดความคิด และยังเป็นความได้เปรียบที่จะได้เรียนรู้โลกได้ลึกกว่าเดิม
6. Understand your weakness and acknowledge your mistakes ทุกคนมีจุดอ่อนของตัวเอง จากเข้าใจจุดอ่อนและอย่าไปอยู่ในเกมส์ที่คุณถูกบังคับให้ใช้จุดอ่อนคุณเล่น ความไม่เหมือนกันนี่เองทำให้ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับทุก ๆ เรื่อง ไม่เว้นเรื่องการลงทุน ดังนั้นจงเรียนรู้ตัวเองก่อนที่จะไปเรียนรู้จากคนอื่น ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเหมือนใครบางคนคุณถึงจะประสบความสำเร็จ จงวิ่งในลู่ตัวเอง!!! และการเรียนรู้จากข้อผิดพลาด คือการเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ของตัวคุณเอง แม้มันมักจะซ้ำรอย และคนที่สำเร็จมักจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกได้ง่าย ๆ
7. Recognize change and embrace it ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คนที่ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้จะถูกขับออกจากเกมส์ คนที่ฉกฉวยโอกาสได้คือผู้ชนะคนถัดไป ไม่มีสิ่งไหนสุดยอดตลอดกาล ไม่มีเว้นตัวหุ้นหรือกิจการ จงเฝ้าจับตาดู และ
หนังสือทั้งเล่มค่อนข้างกลมกล่อมและไหลลื่น Jim ถ่ายทอดหลายสิ่งหลายอย่างออกมาได้อย่างง่าย ๆ และเห็นภาพ (แม้ว่าจะปฏิบัติตามได้ไม่ง่ายนัก) แม้หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ทุกสิ่งอย่างที่ Jim อยากจะเล่า และไม่ใช่หนังสือที่สอนคุณลงทุนอย่างชื่อ แต่หนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้คุณลงทุนได้ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘