วิเคราะห์ INDEX กับ IKEA ใครแน่กว่ากัน
วันก่อนผมไปเดิน Index ผมเห็นเก้าอี้ตัวนึงใน Catalog มันเท่ห์มาก ผมเลยจะไปสั่ง --รู้ไหมที่ Index เขาบอกว่า หมดคงอีกนานกว่าจะมี -- ผมถามว่าบ้านป้าคุณขายของอย่างนี้หรือ!!(ล้อเล่น ผมแค่คิด ...หุ หุ)
----ผมเจอเหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกรวมถึงการบริหารทั้งหมดของ Index ทันที ในฐานะนักลงทุน ผมมองว่าขณะนี้ Index บริหารงานขยายสาขาเร็วไป เร่งเปิดสาขาโดยที่ผลิตไม่ทัน ส่งผลให้ต้นทุนสูง หรือ มีสิทธิขาดทุนสูง ประกอบกับกำลังซื้อที่ลดลงในตอนนี้ ผมมองว่าถ้าภาพรวมไม่ฟื้น Index ต้องมีปัญหาแน่
ถ้าเทียบกับ IKEA เขาใหญ่กว่า Index มาก แต่วิธีการเขาไม่เปิดสาขาตะบันเหมือน Index ..เช่น Auatralia ใน Sydney --IKEA มีสาขาเดียว แต่ใหญ่มาก ดังนั้น Stock ทุกอย่างรวมอยู่ที่เดียว ไม่ใช่กระจัดกระจาย แบบมีของบ้างไม่มีของบ้างเหมือน Index
ดังนั้น ที่ IKEA ส่วนใหญ่ของจะมี Stock ดังนั้น คนซื้อจะได้ของ ..แต่ Index ถ้าคนซื้อไปซื้อในสาขาไม่มีของก็ไม่ได้ของ .....แต่จริงๆแล้วของชิ้นนั้นอาจวางโชว์อยู่อีกสาขาที่ไม่มีคนซื้อ--- ดังนั้น การวาง Stock แย่ๆอย่างนี้ ทำให้ยอดขายไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น --"Index น่าจะทำได้ดีกว่านี้".... แต่ไม่เขาไม่ฉลาดพอ ฮ่า ฮ่า ช่างเขาเถอะ
เอาเป็นว่า Overhead และ ต้นทุนของ IKEA ต่ำกว่า index มาก และมีการ Matching Stock ของเขาได้ตรงกับ Demand ของลูกค้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไม IKEA จึงเป็น Brand ระดับโลกจริงไหมครับ!!
ปล. จริงๆแล้วตอนนี้ผู้บริหาร Index คงเริ่มรับรู้จากผลการดำเนินงานแล้ว แต่เนื่องจาก ที่ต่างๆที่เร่งขยาย ได้เซ็นสัญญาผูกมัดตัวเองในระยะยาวแล้ว (เห็นได้ชัดว่า วิสัยทัศน์ ไกลมาก )... ไกลและเร็ว จนลืมมองเรื่อง Customer Service เพราะถ้า ในอนาคตการบริการยังไม่ปรับปรุง...ผมฟันธงได้เลยว่าอีกไม่นาน ต้องมีปัญหาแน่ !!--- เพราะถ้าคิดว่าการบริการยังไงก็ไม่ดี ก็น่าจะขายแบบ Self Serve เหมือน IKEA ไปเลย
(ของพวกนี้ต้องเรียนผ่านประสบการณ์ ครับ IKEA เขาผ่านวิกฤตมาก่อน จริงๆน่าจะใช้เขาเป็น Case Study ไม่ใช่เรียนแบบ แต่กรอบๆเช่น มีกล่องดินสอ กับ สายวัดกระดาษ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ...ขำดีฮะ)
----ผมเจอเหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกรวมถึงการบริหารทั้งหมดของ Index ทันที ในฐานะนักลงทุน ผมมองว่าขณะนี้ Index บริหารงานขยายสาขาเร็วไป เร่งเปิดสาขาโดยที่ผลิตไม่ทัน ส่งผลให้ต้นทุนสูง หรือ มีสิทธิขาดทุนสูง ประกอบกับกำลังซื้อที่ลดลงในตอนนี้ ผมมองว่าถ้าภาพรวมไม่ฟื้น Index ต้องมีปัญหาแน่
ถ้าเทียบกับ IKEA เขาใหญ่กว่า Index มาก แต่วิธีการเขาไม่เปิดสาขาตะบันเหมือน Index ..เช่น Auatralia ใน Sydney --IKEA มีสาขาเดียว แต่ใหญ่มาก ดังนั้น Stock ทุกอย่างรวมอยู่ที่เดียว ไม่ใช่กระจัดกระจาย แบบมีของบ้างไม่มีของบ้างเหมือน Index
ดังนั้น ที่ IKEA ส่วนใหญ่ของจะมี Stock ดังนั้น คนซื้อจะได้ของ ..แต่ Index ถ้าคนซื้อไปซื้อในสาขาไม่มีของก็ไม่ได้ของ .....แต่จริงๆแล้วของชิ้นนั้นอาจวางโชว์อยู่อีกสาขาที่ไม่มีคนซื้อ--- ดังนั้น การวาง Stock แย่ๆอย่างนี้ ทำให้ยอดขายไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น --"Index น่าจะทำได้ดีกว่านี้".... แต่ไม่เขาไม่ฉลาดพอ ฮ่า ฮ่า ช่างเขาเถอะ
เอาเป็นว่า Overhead และ ต้นทุนของ IKEA ต่ำกว่า index มาก และมีการ Matching Stock ของเขาได้ตรงกับ Demand ของลูกค้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไม IKEA จึงเป็น Brand ระดับโลกจริงไหมครับ!!
ปล. จริงๆแล้วตอนนี้ผู้บริหาร Index คงเริ่มรับรู้จากผลการดำเนินงานแล้ว แต่เนื่องจาก ที่ต่างๆที่เร่งขยาย ได้เซ็นสัญญาผูกมัดตัวเองในระยะยาวแล้ว (เห็นได้ชัดว่า วิสัยทัศน์ ไกลมาก )... ไกลและเร็ว จนลืมมองเรื่อง Customer Service เพราะถ้า ในอนาคตการบริการยังไม่ปรับปรุง...ผมฟันธงได้เลยว่าอีกไม่นาน ต้องมีปัญหาแน่ !!--- เพราะถ้าคิดว่าการบริการยังไงก็ไม่ดี ก็น่าจะขายแบบ Self Serve เหมือน IKEA ไปเลย
(ของพวกนี้ต้องเรียนผ่านประสบการณ์ ครับ IKEA เขาผ่านวิกฤตมาก่อน จริงๆน่าจะใช้เขาเป็น Case Study ไม่ใช่เรียนแบบ แต่กรอบๆเช่น มีกล่องดินสอ กับ สายวัดกระดาษ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ...ขำดีฮะ)