รวยไปกับ “Hi-speed Train” Mega Project 7 แสนล้าน (ตามข่าวไป!!)



ช่วง นี้ข่าวการลงทุน "อู่ฟู่" กันจริงๆ ..อย่างวันนี้เห็น Forbes จัดอันดับความรวยเศรษฐีไทย CP / กระทิงแดง / เบียร์ช้าง .. ปีนี้รวยกันหลักแสนล้าน (ปีก่อนยังหมื่นล้าน กันอยู่เลย) ..บางคนบอก โถ!! ตัวเลข ( Just Pure Number) แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น ปัญหามันอยู่ที่ "แล้วตูอยากมีตัวเลข ความรวยวิ่งอย่างเหล่าเศรษฐีอย่างนี้บ้างจะทำอย่างไรล่ะ"

ก็อย่างมี ผมนำเสนออย่างต่อเนื่องว่า ยุคนี้ความรวยมันอยู่ใน Asset (ถ้าพูดให้ลึกขึ้นก็คือ ความรวยมันก้าวพ้น "เงิน" ไปนานแล้ว ) เงินเป็นแค่ตัวเลข ....ส่วน "ความรวยจริงๆ" มันขึ้นอยู่กับ Asset ที่คุณครอบครอง ...อย่างคุณ ธนินท์ ปีนี้ความรวย ขึ้นที่หนึ่งประเทศไทย ..ผมถามหน่อยจริงๆแก ทำอะไรเพิ่มมากมายหรือ!! (ผิดถนัด !!) แกแทบไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่หุ้นที่แกถืออยู่(Asset) มันมีราคาเพิ่มขึ้น อย่างหุ้น CP (วิ่งจาก 3 บาทปีที่แล้ว ตอนนี้ 20 กว่า แล้วก็มีลือกันให้แซด มันจะไปถึง 40 บาท --- จะไม่ถึงไม่ถึง ผมไม่รู้ เอาเป็นว่า ถ้าถึงคุณธนินท์ คงรวยสุดๆ)

ประเด็นมันเป็นเรื่องของคน รวยที่คนส่วนใหญ่ “ไม่เข้าใจอีกเช่นเคย” ..ทุกวิกฤต คนรวยจะวิ่งเข้าหา Asset แต่คนส่วนใหญ่วิ่งเข้าหา “เงินสด” (พูดง่ายๆว่าคนส่วนมาก วิ่งไปทางเดียวกัน แต่มันคนละทางกับ เศรษฐี ..มันก็แค่นั้นจริงๆ ไม่ได้มีอะไรมากเลย) ..ผมว่าเรามองความมั่งคั่ง เป็นเรื่องที่มันซับซ้อนเกินไป แท้จริงมันคือ ตัวเลข (ซึ่งถ้าคุณเข้าใจ Cycle ของ Asset คุณไม่ต้องทำงานหนัก ก็รวยได้ เพียงแต่จับ ภาพใหญ่ให้ถูก อ่านเกมให้ขาด เท่านี้ก็รวยแย่แล้ว อิ อิ)

กลับมาเรื่องรถไฟ 7 แสนล้าน ..ฟังแล้วน่าตื่นเต้น (แต่ไอ้ที่จะทำได้จริง มันก็ยังเป็นประเด็นอยู่) คลองคอดกะ , อีสเทิร์นซีบอร์ด (ตั้งแต่สมัย น้าชาติ ..กั๊ก กํ๊ก ยังไม่เห็นวี่แวว) แล้วก็ไอ้แท่งอนุสรณ์ ทางไปดอนเมืองก็อีกอัน

จริงๆมันดีหมดนะ ไอ้ Megaโครงการใหญ่ (ถ้าทำได้จริง) ประเด็นเดียวที่เห็นแล้ว “เซ็งเป็ด” ก็คือรัฐบาล (คุณเห็นไหม หนองงูเห่า คุยมา"สามชาติ" สร้างจริงๆยุคไหน) .. "ไม่ใช่ประเด็นการเมือง ผมไม่สนว่าใครจะเป็นนายก แต่ประเด็นที่สำคัญ ที่สุด Mega Project มันขึ้นอยู่กับเรื่องเดียว คือ (ความมั่นคงของรัฐบาล)” ...ถ้ารัฐบาลมี “ความมั่นคง จะทำอะไรก็ทำได้อยู่แล้ว” (แต่..!!)

วันนี้อย่าว่าแต่ความมั่นคงเลย ...ไอ้กฏหมายกีดกันการลงทุนต่างชาติ “ใจนึงก็อยากให้เขาลงทุน แต่เวลาเขียนกฏหมาย ดันกีดกันเขา สรุปฝรั่งแม่งถาม (แล้วมึงจะเอายังไงกับ ไอ วะ!!)” ...เมืองไทยนี่ เหมือนนักบอลมองเห็นโกว์ว่าง (มี Opportunity เยอะมากๆ) แต่วิ่งสะดุดขาตัวเอง “ห่วยสุดๆ”

เอาว่าแทนที่จะหวังลมๆ แล้งๆ ..เอาแบบพวกเศรษฐีไทยดีกว่า “ใครจะขึ้นจะลง ตูก็รวย!!” ล่อคนส่วนใหญ่ออกไปอีกทาง เพื่อเราจะได้เก็บของถูก (กว่ารายย่อยจะรู้ ว่าขายหมู เขาก็เก็บไปหมดแล้ว จากนั้นพอราคามันเริ่มวิ่ง "ทีนี้ก็กรูกันเข้ามาอยู่บนดอย เห็นแล้วเครียดแทน!!") วันนี้หลักการสร้างความรวย มันเปลี่ยนไป ..เงินมันเป็นแค่เหยื่อล่อ --- ส่วนสิ่งที่เศรษฐีเขาแย่งกัน มันคือ Asset

“ผมไม่สนหรอกว่า ในระหว่างทางมันจะเป็นอย่างไร แต่ท้ายสุด Asset ของผมเพิ่มขึ้น เป็นใช้ได้ “ …จากนั้นไอ้ความรวยที่เขามาวัดๆกัน มันคือตัวเลข “ของจริงคือ สัดส่วนความเป็นเจ้าของใน Asset ที่มีอยู่อย่างจำกัดของโลกต่างหาก ที่มันของจริง”

ทุกวันนี้หลายคนทำงานให้เศรษฐี เขาให้เงิน สักหกหลัก “คุณก็ยิ้ม” แต่หารู้ไม่ ท้ายสุด คุณก็ใส่พานประเคนคืนเขาอยู่ดี เพราะกลไกการคิด และมุมมองมันต่างกัน “ คนนึงทำงานเพื่อเงิน ส่วนอีกคนให้เงินทำงาน”

(เงิน) คือ เหยื่อล่อ “แต่เจ้าของเก็บผลประโยชน์ตอน เกมมันจบ” บ้าเอ้ย !! กูโดนหลอก...

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘