Elliott Wave พื้นฐาน ที่ Trader ทุกคนต้องเข้าใจ (by Monkey Trade)



“ขึ้น 5 ลง 3” คิดได้ไง …พื้นฐานมันเป็น logic อยู่แล้ว …คุณลองคิดดู ตามหลักของ “ทุนนิยม” (คือ เงินลดมูลค่า ในขณะที่ Asset ราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราเรียกมันว่า “Inflation”)

จะเห็นได้ว่า Elliot Wave ใช้หลัก “ทางสายกลาง + Inflation” (ผมไม่รู้ว่าคนคิดเขาไปเกี่ยวข้องกับ ขงจื้อแบบไหน แต่มันก็ไม่หนีกันเท่าไหร่) ..ดังนั้น หากเรามองว่าทุกอย่างเมื่อมันขึ้นฉีกออกจาก mean ของมันมากเท่าไหร่ มันก็จะเหวี่ยงกลับลงมา แรงพอๆกัน (แต่เผอิญโลกเราจะ + Inflation อยู่ตลอดทำให้การขึ้นมากกว่าการลง ดังนั้นมันก็ขึ้น 5 steps “1 2 3 4 5” แล้วลง 3 steps “A B C” ---ดังภาพ)

หลักการขึ้นของหุ้น ย่อมอยู่บนพื้นฐานของความจริง คือ ถ้าเราสังเกตุธรรมชาติให้ดี ไม่ว่าการขึ้นของอะไรก็ตาม มันจะมีการไต่ระดับ เช่น นกบิน (คือมันจะไม่ขึ้นปื๊ด แบบตรงสุดฟ้า…อ๋อ!! มีแต่จรวด “มนุษย์สร้างขึ้น”มันเลยผิดธรรมชาติ มันเลยเป็น(ไอ้จรวด!!)อย่างที่คุณเห็น.. อิ อิ)



ดังนั้น การขึ้นของหุ้น จะเป็นการขึ้นเป็นจังหวะ ส่วนเวลาลงก็ลงเป็นจังหวะ

“จังหวะ” เหล่านี้นั้นเอง คือ ช่องว่างที่ Trader เข้าทำกำไร -- โดย Trader ที่ฉลาด จะแทรกตัวทำกำไรทุกรอบของจังหวะ (แต่บางคน เล่นวันนึงหลายรอบ ซึ่งตรงนี้ทั้ง แพ้ท และ หยง มองว่า “มันเหนื่อยเปล่า!!” เพราะการทำกำไรในช่วงจังหวะที่สั้นหรือแคบเกินไป ค่า commission กินหมด)…กรณีนี้ ถ้าคุณเป็น prop Trade ไม่เกี่ยวเพราะเขาไม่เสียค่า commission (แซวน้อง wizard kid หน่อย… อิ อิ!!)

สรุปแล้ว การทำกำไรของ Trader จึงอาศัยประสบการณ์ และ การมองจังหวะ เป็นสำคัญ ซึ่งในมุมมองของพวกเราชาว Monkey Trade จะเล่นในช่วงที่กว้างหน่อย อย่างน้อยๆก็ต้อง let profit run ให้สุดรอบที่ค่อนข้างใหญ่นั่นเอง
ดังคำนักปราชญ์ “เล็กๆ มิต้า ไม่ ..ใหญ่ๆ มิต้า ทำ!!”

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘