มุมลับของ Buffett ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้!!



“ด้วย Supply ของเงินที่มากพอ คุณสามารถเคลื่อนตลาดไปในทิศทางใดก็ได้” ( นี่ Secret แห่งทุนนิยมเลย ..บั๊บผ่าเถอะ !!)

ผม อ่านหนังสือเกี่ยวกับ Buffett หลายต่อหลายเล่ม รวมทั้งไป Load “Youtube” ดู Video ที่ Buffett ไป give speech ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ คือ ยิ่งศึกษาผมก็ยิ่งชอบ Buffett (จริงๆในแง่ของชีวิตเขาอาจจะแปลกๆ ซึ่งเขามีภรรยาสองคน ..อ้า!! คุณว่าแจ๋วไหมล่ะ “ไม่หรอกครับ..นี่มันประเด็นสับสนมากกว่า”)

“ผู้ยิ่งใหญ่มักมีชีวิต ที่ไม่ธรรมดา” อย่าง Buffett จะคล้ายกับ Sam Walton(ผู้ก่อตั้ง Wal-mart) ก็คือ “หลุดพ้นจากความโลภ” ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะทั้งสองคนนี้ แม้จะรวยเป็น หมื่นๆล้าน แต่ก็ยังคงขับรถเก่าๆ อยู่บ้านธรรมดาๆ (ซึ่งต่างจากลูกหลานของเขา ซึ่ง Ho-so อย่างสุดโต่ง)

“สิ่งที่เหมือน กันของสองผู้ยิ่งใหญ่ !!” ผมมองยังไงก็ไม่พ้นประเด็น “สมถะ” (หากคุณตัดความโลภ คุณจะนั่งอยู่เหนือกับดักแห่งทุนนิยม และนี่เป็นสิ่งที่ Billionaire ทั้งสอง ใช้เป็นแนวทางในการสร้างความมั่งคั้ง!!)

“เคล็ด ลับของ Buffett ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้” ก็คือ การใช้พลังของ “ความเชื่อในตัวของ Buffett นั่นเอง(ซึ่งมีอยู่อย่างมหาศาล)”..ประเด็นความเชื่อ มันสอดคล้องกับ หลักการของการ Control Supply …ซึ่งหลักการก็คือ “หากคุณสามารถ Control Supply ของเงินที่มากพอ คุณก็จะสามารถเคลื่อนตลาดไปในทิศทางใดก็ได้!!”

นี่ แหละครับ หลักการของ “The Winner Take all!!” ของระบบทุนนิยม …หากเรามองประเด็นนี้กับ Soros ครั้งที่เขา ถล่มค่าเงินของอังกฤษ และไทย --ที่เขาสำเร็จก็เพราะเขา “มีทุนมากพอ + สามารถสร้างให้ตลาดเชื่อว่า สิ่งที่เขาทำกำลังจะเป็นจริง” ..จุดนี้ถ้ามองให้ลึก คือ มันต้องมีมูลเหตุก่อน เช่น อย่างเงินบาท Soros ต้องเห็นแล้วว่าเศรษฐกิจของไทยในเวลานั้น มัน Bubble จริงๆ แถมการขยายธุรกิจในเวลานั้น ไม่ได้ตั้งบนพื้นฐานของความจริง คือ พูดง่ายๆว่าเวลานั้น Soros วิเคราะห์แล้วรู้ว่า ตลาดไทยมัน Over Investment (ในขณะที่คนไทยที่เล่นหุ้นในสมัยนั้นมองไม่เห็น “อาจเป็นกรรมที่บังตาอยู่.. ฮิ ฮิ”

ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะ เศรษฐกิจในช่วง “Asian Miracle 1” ว่า มันไม่ได้ดีจริง มันเป็น Bubble ที่ดึงดูดเงินลงทุนทั่วโลก (ซึ่งการไหลเข้าของเงินทุนทั่วโลก ย่อมหมายถึง การแข็งค่าของเงินบาท) ..จุดนี้หากคุณมองในมุมมอง Soros คุณจะรู้ว่า การที่ค่าเงินแข็งค่าในเวลานั้น มันแข็งเพราะ bubble ไม่ใช่แข็งเพราะเศรษฐกิจจริงๆแข็งแกร่ง ..ดังนั้น หากคุณ Control Supply ของเงินที่มากพอ ย่อมหมายถึงโอกาสในการตีค่าเงินอย่างไม่ยากเย็น --“และ Soros ก็ทำสำเร็จ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย “จุ้ง” ซวยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา!!

ใน ฝั่งของ Buffett ด้วย บุคคลิกและ Success Trail ตลอด 40 ปีแห่งการลงทุน ทำให้ Buffett กลายเป็น idol ของนักลงทุนทั่วโลก ..ฮึม!!จุดนี้มันหมายถึง ความสามารถในการ move ตลาดด้วย “ความเชื่อ” ..และในเวลานี้ ทั้งโลก ผมบอกได้เลยว่า “Buffett คือที่หนึ่งใน Sector นี้” …จึงไม่แปลกเลยที่ “ไม่ว่า Buffett จะซื้อหุ้นตัวใด มันก็ทำให้หุ้นนั้นๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว”

ทั้ง Soros และ Buffett แม้ว่ามีแนวทางในการสร้างตัวที่ต่างกัน แต่ท้ายสุดก็มาบรรจบกันที่ “ความเชื่อนี่แหละ!!”
“หาก คุณ Control Supply ของเงินในจำนวนที่มากพอ ..คุณสามารถจะ Move ตลาดไปในทิศทางใดก็ได้!! -- หุ้นที่ Buffett เลือกมักจะพุ่งอย่างเหลือเชื่อ เช่น หุ้นของ BYD และนี่คือพลังของ Buffett ในการเคลื่อน Supply ของเงิน “แค่เงินของ Buffett เองก็มากพออยู่แล้ว นี่บวกกับ ความเชื่อที่เหล่าสาวกทำตาม(ซื้อตาม)” -- ผมถามหน่อย ถ้า Buffett ต้องการให้หุ้นตัวไหนรุ่งหรือพัง มันง่ายเสียจริงๆ -- (สุดยอดจริงๆครับ)”

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘