ครบห้าขวบปีแรก

map_ancient1
คิดถึงนิยายฝรั่งที่มีเด็กรื้อกล่องลึกลับในห้องใต้หลังคา วันนี้ผมได้รื้อเอกสารเก่า ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวกับการลงทุนขึ้นมา ย้อนไปที่ cell แรกของ file Excel ที่เก็บข้อมูลการลงทุนทั้งหมดของผม
ดูไปแล้วเหมือนทุกสิ่งทุกอย่าง มันวิ่งย้อนกลับขึ้นมา อ่านแล้วรู้สึกเหมือนผ่านไปเมื่อวาน …. ขอทบทวนและบันทึกเก็บเหตุการณ์สำคัญไว้เป็นความทรงจำ
ย้อนกลับไป เมื่อครั้งผมซื้อหุ้นตัวแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว …
กลางปี 2004 เห็นพี่ีที่ออฟฟิศเล่นหุ้น ช่วง 2003 – 2004 มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้าตลาดจำนวนมาก ด้วยความเป็นตลาดกระทิง หลังจากที่เงียบเหงามาโดยตลอดภายหลังช่วงวิกฤตปี 40 ผมเป็นหนึ่งในนักลงทุนหน้าใหม่ที่ปฏิสนธิจากช่วงเวลานี้
เดือนสิงหาคม 2004 เปิดพอร์ตหุ้นในชื่อคุณแม่ ซื้อขายหุ้นโดยติดต่อผ่านคุณแม่อีกที ซื้อขายไม่สะดวกอย่างยิ่ง เพราะคุณแม่เป็นคนที่อ่อนไหวต่อราคาขึ้นลง ขึ้นนิดลงหน่อยก็กังวลใจ ผมจำเหตุผลที่ซื้อ KBANK ไม่ได้ คงเป็นการแนะนำจากมาร์เก็ตติ้ง แต่นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เป็นวิวัฒนาการที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัวผม ที่เคยห่างไกลจากคำว่าหุ้นมาก
ปลายเดือนกันยายน 2004 เปิดพอร์ตหุ้นของตัวเอง เงินลงทุนตัวเอง ความเป็นอิสระจากที่บ้าน ทำให้ผมเริ่มก่อร่างสร้างรูปแบบการลงทุนตัวเองขึ้นมา
วันที่ 1 ต.ค. 2004 ได้จดหมาย มีบัญชีหุ้นเป็นของตัวเอง
วันที่ 12 ต.ค. 2004 ยังจำช่วงเวลาที่โทรไปหามาร์เก็ตติ้งเพื่อซื้อหุ้นครั้งแรกเข้าพอร์ตตัวเอง ได้ ระหว่างเดินผ่านอาคาร 26 ปูนซิเมนต์ไทย ตอนเที่ยง หลังจากวิเคราะห์หุ้นได้สองตัว แปลกที่ผมยังจำ Moment นี้ได้ดี คงเพราะอาจจะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เปลี่ยนทั้งชีวิตผม
วันที่ 20 ต.ค. 2004 หุ้นที่เปลี่ยนชีวิต คือ IPO หุ้น TOP ที่ผม valuation แบบหยาบสุด ๆ ตามประสบการณ์ที่มี ยืมเงินแม่ ซื้อไป 2 บัญชี บัญชีละ 20,000 หุ้นด้วยความโลภ ได้มาแค่ 1,000 หุ้น ถึงจะเจ็บใจ ก็เป็น 1,000 หุ้นที่สำคัญมาก เพราะผลกำไรจาก TOP แค่ 10,000 – 20,000 บาทช่วยหล่อเลี้ยง ไม่ให้ผมขาดทุนในช่วงแรก กำลังใจตรงนี้ พาผมอยู่รอดในอีก 5 ปีถัดมา
หลังจากนั้น ก็ได้เห็นสัจธรรมจากหุ้นตัวนี้ เพราะราคา 32 วิ่งขึ้นไป 100 แต่ก็ไม่ได้ขาย หล่นมา 20 กว่าบาท จนขาดทุน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ขาย เห็นสัจธรรมความโลภ ความไม่เที่ยง ไม่แน่นอน ในใจตัวเอง ก็ยังคงเก็บไว้ติด port เพื่อเตือนใจ
อีกเหตุการณ์ที่สำคัญคือ ได้พบ Thaivaluainvesting.com จากเวป Pantip ในห้องสินธร ผมจำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แต่น่าจะเป็นปลายปี 2004 และในอีก 6 เดือนถัดมา ผมก็จด user name ตัวเองชื่อว่า Linzhi (เห็ดหลินจือ) เพื่อขอ EPS จากพี่ครรชิต
ปี 2005 ปลายปี ผมทำผลตอบแทนได้ 40% และเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ที่เริ่มนำเงินเย็นในธนาคารของที่บ้าน เข้าสู่การลงทุนเต็มตัว
ปี 2006 – 2007 ซื้อหุ้นอีกมากมายทั้งถูกและผิด รู้จักบริษัทเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เลือกเข้า คัดทิ้ง อ่านหนังสือเกือบร้อยเล่ม หนังสือพิมพ์ สัมมนา เวป Thaivi.com ตามรอยกูรู พี่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จ ขัดเกลาแนวคิดตัวเอง
ปี 2008 ต้องเรียกว่าบันทึกจากฝรั่งเศส เพราะผมใ้ช้ชีวิตนักเรียนอยู่ที่นั่น หุ้นตกทุกวันจาก 800 กว่า ไหลลงมาจุดต่ำสุด นั่งดูตลาด Dowjones ตอนเย็นยันเที่ยงคืน แล้วตื่นขึ้นมาดูตลาดไทยตอนเช้ามืด (เวลาที่ฝรั่งเศส) กำไรที่สะสมมาสูญเกือบหมด เหมือนชนะศึกแต่แพ้สงคราม ความรู้สึกนั้น ผมจำได้ฝังใจ
ปี 2009 ผมรักษาวินัย จริงจังกับการประเมินมูลค่าหุ้น เอาเงินทุนก้อนที่เก็บไว้ และเหลือรอดจากปีที่แล้วมาใช้ให้คุ้มที่สุด ผมได้เรียกความเชื่อมั่นกลับมา สร้าง New high สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การลงทุนผม แต่มันก็เร็วเกินไปที่จะบอกว่าผมประสบความสำเร็จ
ยังมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายในชีวิตการลงทุน 5 ปี เป็นช่วงเวลาที่คุ้มแค่ และเป็นก้าวแรกเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ของการเดินทางอันยาวไกลในชีวิตการลงทุนของผม….. เพราะการเดินทางหมื่นลี้ เริ่มต้นด้วยก้าวแรก

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘