ตีแตก
ตีแตกเป็นหนังสือเล่มแรกของดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร หนึ่งในอาจารย์ที่สอนผมลงทุน เป็นหนังสือคลาสสิกเล่มหนึ่งในวงการลงทุนไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนเน้นคุณค่า เหมืือนตำราพิชัยสงคราม ในสมรภูมิหุ้น
ผมมีโอกาสนั่งอ่านอีกครั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาจากการยืมจากห้องสมุดมารวย พูดแล้วก็น่าแปลกใจตัวเองไม่น้อย บน shelf หนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหลายร้อยเล่มของผม กลับไม่มีหนังสือเล่มนี้ สาเหตุก็เพราะตอนผมลงทุนใหม่ ๆ ผมเจอหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญ มันสนุก จนผมอ่านรวดเดียวจบแบบวางไม่ลงในร้านหนังสือเลย
ประเด็นที่จะนำมาเขียน ไม่ใช่ตัวเนื้อหา หลักการของการลงทุนในหนังสือ ซึ่งเป็นอมตะและไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ปูพื้นฐาน ทั้งความคิดและทฤษฎี จนผมว่าอ่านกี่ครั้งก็สุดยอด
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น ก็คือ “เหตุการณ์” ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หนังสือเล่มนี้ออก คือช่วงวิกฤตครั้งที่แล้วปี 2540 และวิวัฒนาการทางการลงทุนของตัวดร.นิเวศน์เอง ที่หลัง ๆ กลายจากแนวเกรแฮม เป็นแนวบัฟเฟตขึ้นทุกวัน
ภาพใหญ่ที่ดร.มองในช่วงนั้น เราจะพบว่ามีผิดพลาดบ้างในระยะ 10 ปี แต่ในระยะ 5 ปีถึือว่าหวังผลสูง และถึงแม้ในระยะ 10 ปี จะผิดพลาดบ้าง แต่มันก็แม่นเพียงพอที่จะทำให้พอร์ตคุณโตได้หลายสิบเท่า อีกทั้งพอร์ตหุ้นดร. ก็เปลี่ยนแปลงในแบบที่ผมคิดว่ามันเหมาะกับการลงทุนระยะถัด ๆ ไปของนักลงทุนที่มีพอร์ตใหญ่ขึ้น
ผมอ่านจบ ผมไม่แปลกใจเลยที่ดร.นิเวศน์ ซื้ออย่างหนัก รวมถึงใช้ margin ในช่วงวิกฤตคราวนี้ คนที่ผ่านสนามมามาก พอจะมองออกว่าอะไรเป็นอะไร การลงทุนนั้นต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ที่สั่งสม ด้วยวินัย กลยุทธ์ และความใจรัก
ผมแนะนำว่าใครไม่เคยอ่าน หรืออ่านน้อยกว่า 3 รอบ (จนเข้าใจเบื้องหลังอย่างแตกฉาน) ต้องเรียกว่า ลงทุนไม่ได้(ดี)!!
ผมมีโอกาสนั่งอ่านอีกครั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาจากการยืมจากห้องสมุดมารวย พูดแล้วก็น่าแปลกใจตัวเองไม่น้อย บน shelf หนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหลายร้อยเล่มของผม กลับไม่มีหนังสือเล่มนี้ สาเหตุก็เพราะตอนผมลงทุนใหม่ ๆ ผมเจอหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญ มันสนุก จนผมอ่านรวดเดียวจบแบบวางไม่ลงในร้านหนังสือเลย
ประเด็นที่จะนำมาเขียน ไม่ใช่ตัวเนื้อหา หลักการของการลงทุนในหนังสือ ซึ่งเป็นอมตะและไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ปูพื้นฐาน ทั้งความคิดและทฤษฎี จนผมว่าอ่านกี่ครั้งก็สุดยอด
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น ก็คือ “เหตุการณ์” ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หนังสือเล่มนี้ออก คือช่วงวิกฤตครั้งที่แล้วปี 2540 และวิวัฒนาการทางการลงทุนของตัวดร.นิเวศน์เอง ที่หลัง ๆ กลายจากแนวเกรแฮม เป็นแนวบัฟเฟตขึ้นทุกวัน
ภาพใหญ่ที่ดร.มองในช่วงนั้น เราจะพบว่ามีผิดพลาดบ้างในระยะ 10 ปี แต่ในระยะ 5 ปีถึือว่าหวังผลสูง และถึงแม้ในระยะ 10 ปี จะผิดพลาดบ้าง แต่มันก็แม่นเพียงพอที่จะทำให้พอร์ตคุณโตได้หลายสิบเท่า อีกทั้งพอร์ตหุ้นดร. ก็เปลี่ยนแปลงในแบบที่ผมคิดว่ามันเหมาะกับการลงทุนระยะถัด ๆ ไปของนักลงทุนที่มีพอร์ตใหญ่ขึ้น
ผมอ่านจบ ผมไม่แปลกใจเลยที่ดร.นิเวศน์ ซื้ออย่างหนัก รวมถึงใช้ margin ในช่วงวิกฤตคราวนี้ คนที่ผ่านสนามมามาก พอจะมองออกว่าอะไรเป็นอะไร การลงทุนนั้นต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ที่สั่งสม ด้วยวินัย กลยุทธ์ และความใจรัก
ผมแนะนำว่าใครไม่เคยอ่าน หรืออ่านน้อยกว่า 3 รอบ (จนเข้าใจเบื้องหลังอย่างแตกฉาน) ต้องเรียกว่า ลงทุนไม่ได้(ดี)!!