ขี่หลังเสือ

ช่วงนี้งานหนักมากกก มีธุระส่วนตัวหลายเรื่อง รวมถึงธุรกิจที่ยังต้องจับ ๆ อยู่หลายตัว เลยไม่ได้อัพบล็อคนานทีเดียว ขอเขียนอะไรสบาย ๆ แล้วกันครับ

ภาพ : ผมเกิดปีลิง ซึ่งชงกับปีเสือ ปีนี้เลยเน้นทำบุญ แต่ถ้าชีวิตตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ดวงก็ขึ้นอยู่กับเรา อิอิ
ได้เจอนักธุรกิจหลายคน ทำให้ผมได้ยินคนที่ทำธุรกิจหลายคนพูดถึงบ่อย ๆ ว่า ถ้าทำธุรกิจจะลงจากธุรกิจหรือเลิกได้ยาก วลีที่ใช้เปรียบเทียบคือ เหมือนขี่หลังเสือ
วิธีการลงจากธุรกิจในปัจจุบันที่ผมเห็น ๆ คือ ขายทิ้ง หรือลดสัดส่วนในการถือหุ้น ไม่ว่าจะขายนอกตลาด หรือเข้ามาขายในตลาดหลักทรัพย์
แต่สิ่งดังกล่าว ก็ไม่ใช่ทำได้ง่าย ๆ ถ้าต้องการขายธุรกิจให้ได้ราคาที่ดี ส่วนใหญ่ถ้าจะเลิก ต้องปิดทิ้ง โรงงานที่มีอยู่ เครื่องจักรก็เหลือแต่เศษซากเหล็ก ที่ใช้ได้และมีราคาอยู่ก็มีเพียงที่ดิน (Graham จึงให้วิธีการประเมินธุรกิจแบบ Net-net โดยดูที่เงินสดเป็นหลัก) หรือถ้าจะขายได้ราคาดี ก็ต้องขายในช่วงที่ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอยู่ในช่วงบูม ซึ่งก็ไม่มีใครอยากขาย (คุ้น ๆ เหมือนตลาดหุ้นมั๊ยครับ)
และผมก็เห็น Trend ธุรกิจในสมัยใหม่ มักจะเป็นธุรกิจที่เลิกได้ง่าย ๆ อย่างเช่นธุรกิจประเภทขาย service หรือ know how ของคน ที่พร้อมจะเลิกไปพร้อมกับวัยเกษียณของเจ้าของ (ก็จะมีปัญหาในการหาคนดำเนินธุรกิจต่ออีก ไม่มีความสมบูรณ์หรือความง่ายในโลกธุรกิจ ความสำเร็จของธุรกิจคือการแก้ปัญหา)
พูดถึงการลงทุนในหุ้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เลิกได้ง่ายมากในทางทฤษฎี เพราะถ้าคุณกดขายปุ๊ป คุณจะสิ้นสุดสภาพการเป็นเจ้าของทันที (พร้อมรับผลตอบแทนจากการลงทุนไปในอีก 3 วันข้างหน้า)
แต่ผมสังเกตหลายครั้ง พบว่าจริง ๆ การลงทุนเหมือนขี่หลังเสือ คือคนที่ได้ผลตอบแทนก็อยากได้อีก ไม่เลิกและขายทิ้ง (โดยไม่ซื้อหุ้นใหม่) เพื่อทำกำไรซะที ได้ล้าน ก็อยากได้สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน
หรือบางคนก็ขาดทุน และไม่ขาย อย่างนี้ไม่รู้เรียกว่าขี่หลังเสืออยู่ หรือว่าโดนเสือกินไปแล้วดี
เห็นคนลงทุนมากี่ปีกี่ปี ถ้าไม่เจ๊งจนหมดตัว ก็ไม่เห็นมีใครเลิกจากการลงทุนหรือเล่นหุ้นเลย
การลงทุนจึงเหมือนการขี่หลังเสือ ที่พลาดเมื่อไหร่ ตกลงมาก็โดนกิน และ game over ถ้าคุณเจอวิกฤต แล้วคุณพลาด คุณก็หมดตัว (โดยเฉพาะถ้าเล่น Margin)
ผมยังมีชีวิตอยู่ในโลกของการลงทุน อนาคตไม่รู้จะเลิกเมื่อไหร่ หรืออาจจะทำเป็นงานอดิเรกเหมือนบัฟเฟตก็เป็นไปได้ แต่ที่แน่ ๆ คือ ไม่มีใครบังคับหรือมีข้อจำกัดในการ exit และปัจจุบันก็จะไม่ประมาทเพราะเสือมีโอกาสขย้ำผมตลอดเวลา
ปีเสือปีนี้ ครึ่งปีที่ผ่านมา เหลือเชื่อจริง ๆ ว่ากำไรกว่า 40% เวลาที่ใช้ในการลงทุนก็น้อยลงจากการทำงานหนักในปีที่แล้ว เอาเป็นว่าเหลืออีกครึ่งปี ก็จะพยายามต่อไป โดยคิดว่าผมอาจจะปรับพอร์ตบ้าง หลังจากผลประกอบการ Q2 ออก โดย cash inflow ช่วงนี้ จะเอาไปไว้ทะยอยซื้อในตลาดต่างประเทศก่อน วินัยเท่านั้นที่ช่วยให้คุณสำเร็จ (ดูทีมชาติเยอรมันในฟุตบอลโลกเป็นตัวอย่างได้ 555)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘