หลุมพลางของ การลงทุน


เรื่อง นี้เป็นเรื่องที่ดูธรรมดา แต่จริงๆ(ไม่)… หลายคนคิดว่า ความร่ำรวยเกิดจากการมุ่งแสวงหาเงิน (ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้) --ก็อย่างที่ทราบกัน “ระบบทุนนิยม” การให้ได้มาซึ่งเงินต้องอาศัยเงินลงทุนทั้งสิ้น ดังนั้น การมุ่งแสวงเงินอย่างมุ่งมั่น ก็คือ การแสวงหาความเสี่ยงที่มหาศาล (พอๆกัน)

สิ่งที่หลายๆคนมองข้ามคือ นอกจากการหาเงินแล้ว การทำให้เงิน”ที่มีอยู่”สร้างผลตอบแทน กลับสร้างความมั่งคั่งที่”ยิ่งยวด”กว่า ตัวอย่าง ชัดๆก็คือนักลงทุนทั้งหลาย-- Warren Buffet , Carlos Slim , Fund Manager ต่างๆ.. ล้วนมีส่วนที่เหมือนกัน คือ ความสามารถในการลงทุน ที่เหนือกว่าคนทั่วไป --(ถามว่า ไอ้ที่เหนือกว่าคนทั่วไป …มันคือระดับไหน) -- ถ้าดูให้ดี มันก็ไม่เท่าไหร่ (เพราะคนทั่วไปโดยส่วนใหญ่ ไม่มีความรู้ด้านการลงทุนเลย) พวกเขาเหล่านั้น มีความเชื่อ”ผิดๆ” ที่ทำให้ “จนดักดาน” เหมือนกันคือ

- “ต้องการรวยมากๆ ในเวลาอันสั้น” มีอย่างเดียวคือ “ค้ายา” …. ซึ่งจริงๆแล้ว แนวคิดนี้คือ แนวคิดของนักลงทุนเกือบทั้งหมดในตลาด ที่ต้องการ (รวยมากเร็วๆ) ผลลัพธ์ก็คือ ขาดทุน นั่นเอง ..วิธีแก้คือ เปลี่ยนแนวคิด เป็นค่อยๆรวยอย่างช้าๆ --แล้วผลลัพธ์จะตรงข้าม จนน่าทึ่ง…

- “จะรวยมาก ต้องเสี่ยงมาก” ดังนั้น ยิ่งถ้าต้องการรวยที่สุด ต้อง”พนัน” สรุป พัง หมดตัว…..เห็นได้จาก การเป็น Trader รีบซื้อ รีบขาย ไม่ได้ดูอะไร เพราะวิเคราะห์ไม่ทัน แถมพนันหมดหน้าตัก… จริงๆการรวยมันไม่ได้มาจากความเร็ว แต่มันมาจากที่คุณ “อยู่ถูกที่ ถูกเวลา”มากกว่า ดังนั้น การลงทุนต้องวิเคราะห์ให้ดีว่า สิ่งที่เราเข้าไปลงทุน “มันถูกที่ถูกเวลา”หรือเปล่า (ถ้าใช่)..ก็เชื่อมัน และอยู่กับมัน ไม่ใช่ (วันนี้อย่างนึง.. พรุ่งนี้อีกอย่าง) คือ พื้นฐานธุรกิจมันไม่ได้จะเปลี่ยนรายวัน --- “รอให้ผลลัพธ์ออกมาก่อน” ซึ่งอาจเป็นปี ก็ต้องเชื่อมั่น และอีกอย่าง ความเสี่ยงสุดๆ ไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดว่า คุณจะ”ได้มาก” ดังนั้น ไม่ว่าลงทุนอะไรก็ตามต้องวิเคราะห์และดูความเสี่ยงให้ดี

- “คิดบวกมาก …คิดลบมาก(ความเชื่อมั่นที่มากเกินไป)” คือ ความเชื่อมั่นด้านใดมากเกินไป ไม่ใช่เรื่องดี ซึ่งแม้บ่อยครั้งหากคุณคิดต่างจากคนส่วนใหญ่ คุณมักจะได้เงินมหาศาล (แต่บางครั้งคุณอาจเสียมหาศาลคนเดียวก็เป็นได้) ดังนั้น ถ้าคุณมาถึงจุดที่มองได้ว่า “คิดบวกหรือลบ มากเกินไป “ นั้น ต้องดูว่า แล้วที่จริง …มันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เพราะจริงๆแล้ว การลงทุนเป็นการหวังผลในระยะยาว ดังนั้น การแทงด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป ถือว่าเสี่ยงเกินไป เพราะ ถ้าคุณเสียหมดหน้าตัก เท่ากับว่า คุณไม่สามารถเล่นต่อไปได้ ดังนั้น คุณจะต้องมี Back up Plan เสมอไม่ว่า อยู่ในสถานการณ์ที่คุณจะได้เปรียบก็ตาม

- “การลงทุนต้องได้เสมอ” ซึ่งผิด เพราะไม่ว่าใครก็ตาม ต้องมีทั้งได้และเสีย ซึ่งถ้าคิดว่าต้องได้ตลอด จะทำให้คุณ กลายเป็น “นักลงทุนที่ตื่นตูม” แล้วกลายเป็นแมลงเม่าในที่สุด ดังนั้น การลงทุน ต้องอยู่กับความเสียได้ แต่นั่นต้องเป็นความเสีย ที่มีโอกาสจะแก้ไขได้ หรือ รอให้ผ่านเรื่องร้ายแล้วก็กลับไปดี ข้อนี้เป็นข้อจำกัดที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รวย เพราะไม่กล้าที่จะเสี่ยง ท้ายสุด “ขายหมู” เสมอ คือ ไม่รอให้ราคาขึ้นไปดี เพราะกลัวความเสี่ยง….

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นเอก สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓ วันเสาร์ ที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓