การลงทุนในหุ้นก็คือ การซื้อขาย

แต่หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าการซื้อขายหุ้น จะให้ได้กำไรสูงสุดต้องซื้อๆขายๆ แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะการซื้อที่ถูกที่สุดคือ ซื้อหุ้นในเวลาที่ไม่มีใครอยากซื้อ และการขายที่ดีที่สุดคือ การขายในเวลาที่คนอื่นๆอยากซื้อ จึงจะขายได้ในราคาที่ดีที่สุดนั่นเอง

---ดัง นั้น ไม่แปลกเลยที่ ผลตอบแทนการลงทุนต้องถือ ขั้นต่ำเป็นปี หรือ หลายปี การที่ซื้อขายเร็วกว่านั้น ไม่มีทางที่จะได้ราคาดีที่สุด(ราคาที่ซื้อถูกที่สุด และขายในราคาแพงที่สุด) ยิ่งเวลาซื้อและขายใกล้กันเท่าไหร่ ผลกำไรจากการซื้อขายก็ยิ่งน้อย

-- จะเห็นได้ว่า การซื้อขายหุ้น ไม่ได้เหมือนการวิ่งแข่ง ร้อยเมตรที่ตัดสินในระยะเวลาอันสั้น แต่การลงทุนแท้จริงแล้วเป็นการวิ่งมาราธอน ที่ผลการตัดสินใช้เวลายาวนาน คือ ยิ่งนานยิ่งบ่งบอกถึงความสามารของผู้ลงทุน อย่าง Warren Buffet ใช้เวลาทั้งชีวิตในการที่จะกลายเป็นนักลงทุนที่เก่งที่สุดในโลก

---- ถ้าคุณมองความเป็นจริง คือ ตราบใดที่คุณยังคงซื้อขายหุ้น เมื่อนั้นคุณก็มีโอกาสเสียหรือ ขาดทุนกำไรที่คุณได้มาทั้งหมดได้เช่นกัน --- ผมเห็นหลายคน ลงทุนมาหนึ่งปี ได้กำไรมากมาย บางที ได้หลายเท่าแต่ การลงทุนเพียงปีเดียว อาจหมายความว่า คุณโชคดี เพราะถ้าคิดตามความจริง เงินที่คุณได้มาจากการขายหุ้นนั้นๆ คุณอาจต้องกลับไปซื้อหุ้นตัวเดิมในเวลาต่อมา

-- คำถามคือ ถ้าคุณคิดว่าในชาตินี้ คุณจะต้องซื้อหุ้นตัวนั้นในราคาที่แพงกว่าที่คุณขาย แล้วคุณจะขายออกไปทำไม -- โดยปกติ บริษัทถ้าไม่ปิดกิจการไป ราคาหุ้นก็จะเพิ่มสูงขึ้น ตามระยะเวลา นั่นคือ การเติบโตของบริษัทนั่นเอง -- ดังนั้น คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่า หุ้นที่คุณขายไปในวันนี้ จะยังคงขึ้นต่อไป

--- ถ้าให้ผมสรุปการลงทุน ผมมองว่า ราคาหุ้นจะขึ้นไปเรื่อย หากราคาขึ้นมากเกินไป หุ้นก็จะปรับตัวตกลงมา(และปกติจะตกมากกว่าความเป็นจริง ตามพฤติกรรมของตลาด) และถ้าหุ้นตกมากเกินไป ก็จะถึงเวลาขึ้น ซึ่งหุ้นก็จะขึ้นมากเกินไปเช่นกัน --- จากสถิติการลงทุนทั่วโลกได้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าในระยะยาว การลงทุนที่ดีที่สุด คือ “ตลาดหุ้น”

-- ดังนั้น ถ้าคุณถามผมว่า ถ้าอยากเอาเงินที่มีอยู่ไปลงทุนอะไร ในระยะยาว จะให้ผลตอบแทนสูงสุด ผมก็คงจะแนะให้ซื้อหุ้น (แต่ต้องเป็นการซื้อ ทั้งไว้เลย ไม่มีการออก )-- ดังนั้น ผลกำไรที่มากที่สุดคือ คุณจะต้องลงในหุ้นเวลาที่ตลาดตกมากๆ และไม่ออกอีกเลย ส่วนเงินปันผลที่ได้ ก็ให้กลับเข้ามาซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำ ซึ่งจะเป็นตัวเดียวกับที่ซื้อ หรือ ตัวอื่นๆก็ได้

(จึงพูดได้ ว่าการลงทุนหุ้น ไม่ใช่การขาย แจ่เป็นการซื้อเวลาหุ้นถูก -- ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องสนใจว่าหุ้นถูกที่สุดหรือยัง เพราะไม่มีทางที่คุณจะซื้อหุ้นในราคาที่ถูกที่สุด) และกฎสำคัญอีกข้อ คือ บริษัทที่เราซื้อหุ้นจะต้องเติบโตไปเรื่อยๆ และซื้อในช่วงที่ ต่ำ นั่นก็คือ ราคาประมาณ Book Value หรือ ถูกกว่า นั่นเอง

-- ฟังดูง่าย แต่จริงยากเพราะ เวลาในการลงทุน มันหมายถึงทั้งชีวิต จึงไม่น่าแปลกที่นักลงทุนเก่งๆมีน้อยมาก เพราะขาดความอดทน (นี่แหละครับความลับของ การลงทุนในหุ้น “ง่าย(วิธีการซื้อตอนถูก ไม่เคยขาย) แต่ยาก (เพราะในความเป็นจริงคุณอยากขาย -- เพราะหากคุณขายคุณห้ามกลับมาซื้อตัวเดิมในราคาที่แพงขึ้น และนี่คือสิ่งที่ยาก)” ใครไม่เชื่อให้ลองดูครับ แล้วอีก 40 ปี คุณก็จะรู้ว่า คุณสามารทำสิ่งที่ “ง่ายแต่ยาก” ได้หรือไม่

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘