"ข้อได้เปรียบการแข่งขัน"ที่หายไป


ปัจจุบัน อเมริกา กับ ยุโรป กำลังเข้าสู่ยุคย่ำแย่ แต่บางครั้งผมว่า "เขาพัฒนาไปไกลจนลึมจุดแข็งตัวเอง" ..บางครั้ง"ชายแก่ๆ"ที่เกือบตายด้วยโครมะเร็ง อาจช่วยเตือนความจำได้ เขาคือ Steve Jobs (ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple นั่นเอง) --เรื่องมันมีอยู่ว่า 20 ปีก่อน Steve ได้พ่ายแพ้ต่อ Microsoft ของ Bill Gates อย่างไม่เป็นท่า ผลคือ Steve ถูกผู้ถือหุ้น"ขับออก"จากบริษัทของตัวเอง

..จากนั้น เขาก้ไปล้มลุกคลุกคลานอยู่นาน จนตั้งบริษัทมากมาย หนึ่งในจำนวนนั้นคือ Pixar ผู้ผลิต Animation ที่ขายให้ Walt Diney ในเวลาต่อมา ซึ่งทำให้ Steve Jobs กลับมา "ผงาด"อีกครั้งในฐานะ"ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Walt Disney รวมทั้งโอกาสที่ ได้ถูกเชิญกลับไป "กอบกู้ Apples ที่กำลังจะ"ตาย"เพราะ"ขาดทุน"ต่อเนื่อง

..ผลก็คือ 10 ปี ต่อมา Steve Jobs ทำให้บริษัท Apple กลับมา"ยิ่งใหญ่สุดๆอีกครั้ง" หุ้นจากที่ตกไปเหลือ 3 เหรียญ วันนี้หุ้นวิ่งไปเกือบ 300 เหรียญ --ปัจจุบัน Apple กลับมา "เคียงบ่า"อีกครั้งกับ Microsoft ซึ่งหลายๆคนคาดว่า ในไม่ช้า Apple อาจแซง Microsoft ในที่สุด...สรุปเรื่องที่ผมยกมา มันได้บอกอะไรบางอย่างกับ อเมริกาและยุโรป "แต่กลับไม่มีใครใส่ใจ"

สิ่งนั้นก็คือ ..อเมริกาและยุโรป ล้วนมี Brand ที่ยิ่งใหญ่ทั่วโลก แต่กลับไม่รู้จักสร้างมูลค่าให้กับ Brand เหล่านั้นเลย ..วันๆเอาแต่ทฤษฎีของ MBA มา "Cut cost" และ ก็ "Outsource" จากนั้นก็ "Leverage" และ "M&A" ให้มาก ลดคนงาน ลดคนงาน(เมื่อ Finance นำ Innovation เราก็จมอยู่กับการพัฒนาแต่ตัวเลข แต่ธุรกิจจริงอยู่ที่เดิม)..สรุป มันก็เป็นอย่างที่เห็น คือ อเมริกาและยุโรป "ถอยหลังเข้าคลอง ..จากประเทศร่ำรวยกลายเป็นประเทศลูกหนี้"

..ผมสงสัยว่า ปัจจุบัน บริษัทในบ้านเราที่ไปเรียนแบบ วิธีบริหาร"เน่าๆ"จากเขา มันทำถูกแล้วหรือ --ทำไมไม่มองไปที่ Steve Jobs ซึ่งสิ่งที่เขาทำก็ไม่ได้ "พิศดารอะไร" เขาเพียงแต่ เอาความต้องการของลูกค้าตั้ง แล้ว "มุ่งทรัพยากรทุกอย่าง"เพื่อสร้างสินค้า ที่"ลูกค้าต้องการ"..และนี่เป็นที่มาของ Ipod , MACBOOK , Iphone และล่าสุด Ipad เมื่อเขาผนวกสินค้าเหล่านี้กับยี่ห้อ "Apple" ก็เป็นอัน "เสร็จขบวนการ..ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า"

บทสรุปของการแข่งขัน จึงไม่ใช่อะไรที่สวยหรู เพียงแต่มัน"ต้องใช้ได้ และตอบสนองลูกค้า" วันนี้ทุกคน แข่งกันเปิดร้านกาแฟ ,ดาราแข่งกันเปิดร้านขายเสื้อ ..อะไรคือ "ความแตกต่าง และอะไรที่ลูกค้าต้องการ"..ทุกวันนี้ บริษัทต่างๆของไทยอาศัยเพียงโชคช่วย (เผอิญโชคดี ที่อเมริกาและยุโรป ดันเดินสะดุดขาตัวเอง เพราะแทนที่จะสร้าง Innovation เพื่อสนองตลาด กลับมา"ตัดราคา"เพื่อทำลายตลาดตัวเอง ซะงั้น) ..ยังไง ก็ถือว่า เราโชคดี แต่จากนี้ไป ผมว่าเราต้องอ่านเกมการแข่งขันให้ออก ..การมุ่งแต่ใช้แรงงาน และ แข่งด้วยราคา ไม่ใช่ทางออกใน ระยะยาว

..การมุ่งสู่ Innovation ใหม่ๆ ต่างหากที่เป็นคำตอบ วันนี้บ้านเราคุณไปดูได้เลยตาม มหาลัยลาดกะบัง เทคโนต่างๆ วิทยาลัยต่างๆ มีองค์ความรู้ Innovation ต่างๆมากมาย วันนี้เด็กไทย ทำหุ่นยนต์กู้ระเบิดไปแข่งชนะระดับโลก , เด็กราชฏัฏ ส่งเด็กเข้าประกวดการออกแบบ ระดับสากล

..ปัญหาของบ้านเราวันนี้ "ทุนมันอยู่ในกลุ่มหัวโบราณ" Innovation ใหม่ๆจึงไม่ได้รับ Funding ซึ่งก็คือ ไม่สามารถขายได้ .."ทุนในมือคนบื่อ"-- ก็เลยวนอยู่ในธุรกิจ ถึกๆ ..รับจ้างผลิต ..แรงงานนรก กับ เกษตรเบียดเบียนชาวบ้าน ..ไม่รู้เมื่อไหร่บ้านเราจะ"คิดได้สักที"...

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘