รวมคำถาม จอตาเสื่อม AMD

FAQ จอตาเสื่อม

??? จอตาเสื่อมคืออะไร
*** จอตาเสื่อมคือภาวะการสูญเสียการมองเห็นของดวงตาในส่วนศูนย์กลางการมองเห็นซึ่งทำให้การมองภาพที่มีความละเอียดสูญเสียไป(ทำให้อ่านหนังสือไม่ได้ มองหน้าคนแล้วไม่รู้ว่าเป็นใคร) แต่การมองเห็นในส่วนข้างๆยังดีอยู่ทำให้สามารถช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวันได้ มักเกิดกับผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป จอตาเสื่อมจัดเป็นโรคอันดับต้นๆที่ทำให้ผู้สูงอายุมีการมองเห็นที่แย่ลง

??? จอตาเสื่อมเกิดจากอะไร
*** เกิด จากการแยกชั้นระหว่างจอตาและตาชั้นกลางหรือคลอรอยด์ซึ่งเป็นชั้นที่ทำ หน้าที่ส่งอาหารและอากาศให้แก่จอตา การแยกชั้นทำให้จอตาเสียหายหรือตายไปทำให้ไม่สามารถส่งสัญญาณภาพไปที่สมอง ได้ สาเหตุของการแยกชั้นมีหลายสาเหตุเช่นการเกิด ดรูเซน หรือการที่มีเส้นเลือดใหม่เกิดขึ้น การแยกชั้นของจอตาในโรคจอตาเสื่อมจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แตกต่างจากจอตาหลุดลอกซึ่งจะเป็นแบบฉับพลัน

???ใครบ้างที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคจอตาเสื่อม
*** คนทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคจอตาเสื่อม โดยเฉพาะ
  • ผู้ที่อายุมากยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น
  • ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ก็มีความเสี่ยงสูงว่าคนอื่น
  • ผู้ที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง
  • ผู้ที่มีระดับเม็ดสีในจอตาน้อย
  • ผู้ที่มีดรูเซนในจอตาส่วนกลาง
  • คนอ้วน
  • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
  • ผู้สูบบุหรี่
  • ผู้ที่ได้รับรังสียูวี และแสงช่วงความยาวคลื่นต่ำ(ช่วงแสงสีม่วง น้ำเงิน) ปริมาณมากต่อเนื่อง

??? จะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองจอตาเสื่อมรึป่าว ถ้าไม่ได้ไปตรวจสายตา
*** ผู้ที่เป็นจอตาเสื่อมระยะแรกมักจะไม่สามารถบอกได้ว่าตนเองเป็น โดยผู้ที่เริ่มมีอาการจอตาเสื่อมแล้วอาจสังเกตว่าตามัวลงอย่างช้าๆ(ซึ่งมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ตามัวลงอย่างช้าๆเช่น ต้อกระจก ต้อหิน ) หรือ เห็นภาพบิดเบี้ยว สำหรับผู้ที่เป็นจอตาเสื่อมรุนแรงแล้วอาจสูญเสียสายตาส่วนกลางไปอย่าง สมบูรณ์ดังรูปด้านบน การตรวจจอตาเสื่อมด้วยตนเองด้วยเครื่องมือง่ายๆคือ Amsler Grid(ตารางของแอมสเล่อร์) มีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยมจตุรัสเล็กๆ
ตรวจจอตาส่วนกลางผิดปกติด้วยตนเอง ด้วย Amsler Grid
อย่างไรก็ดี Amsler grid เป็น เครื่องมือที่อาจให้ผลเมื่อจอตาเริ่มมีการเสียหายบ้างแล้ว ในปัจจุบันมีเครื่องมือช่วยหลายอย่างที่ทำให้สามารถทำนายการเกิดจอตาเสื่อม ก่อนที่จะมีการเสียหายของจอตาเช่น Macular Pigment Test (เครื่องวัดเม็ดสีที่จอตาส่วนกลาง) หรือการถ่ายภาพจอตาเพื่อดูดรูเซน

??? จอตาส่วนที่โดนทำลายไปแล้วสามารถรักษาให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้หรือไม่
*** ใน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่สามารถรักษาจอตาที่เสียหายไปแล้วให้กลับมาใช้งานได้ ดังเดิมครับ มีแต่เพียงวิธีป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้น

??? จอตาเสื่อมถ้าเป็นอยู่แล้วจะเป็นมากขึ้นหรือไม่
*** มีโอกาสเป็นมากขึ้นได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาและป้องกันอย่างถูกต้อง

??? จอตาเสื่อม มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง
*** การ ป้องกันคือ การหลีกเลี่ยงทุกอย่างท่ีเป็นปัจจัยเสี่ยงเช่น งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงรังสียูวีและแสงสีน้ำเงินม่วง พยายามควบคุมความดันโลหิตและน้ำหนักตัว นอกจากนั้น งานวิจัยยังเชื่อว่าการได้รับอาหารเสริมบางชนิดสามารถช่วยป้องกันจอตาเสื่อม ได้เช่น ลูทีน ซีแซนทีน โอเมก้า-3
อ่านเพิ่มเติม “อาหารบำรุงสายตา”

??? จอตาเสื่อม ทำให้ตาบอดได้หรือไม่ ?
*** จอตาเสื่อมสามารถทำให้เป็นผู้ตาบอดตามกฏหมายได้ เนื่องจากกฏหมายระบุว่าผู้ที่ไม่สามารถอ่านตัวหนังสือขนาด 20/200 ได้ (ขนาดตัวหนังสือสูงประมาณ 8.7เซนติเมตร ที่ระยะห่าง 6 เมตร) ถึอ ว่าเป็นผู้ตาบอดตามกฏหมาย แต่ผู้ที่เป็นจอตาเสื่อมเพียงอย่างเดียวจะยังมีจอตาส่วนข้างๆที่ยังทำงานได้ ดีอยู่ ดังนั้นจะยังคงสามารถช่วยเหลือตนเองได้ เดินได้แต่ขับรถไม่ได้

??? จอตาเสื่อม ถ้าเป็นแล้วจะมีเครื่องมือที่ช่วยทำให้มองเห็นได้ดีขึ้นหรือไม่ ?
*** มี เครื่องมือหลายอย่างที่สามารถทำให้คนจอตาเสื่อมสามารถอ่านหนังสือหรือทำ งานอย่างอื่นได้ โดยเคร่ืองมือดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่ช่วยขยายขนาดภาพหรือตัวอักษรให้ใหญ่ ขึ้นจนกระทั่งผู้เป็นจอตาเสื่อมสามารถอ่านได้โดยใช้จอตาส่วนที่เหลืออยู่ ตัวอย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ วีดีโอโปรเจกเตอร์ ฯลฯ หรือกล้องส่องทางไกลสำหรับดูภาพระยะไกล เป็นต้น

??? ทำงานคอมพิวเตอร์ ใช้สายตาทั้งวัน ทำให้จอตาเสื่อมได้ไหม
*** การ ทำงานคอมพิวเตอร์หรือใช้สายตามากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับจอตาเสื่อม ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นจอตาเสื่อมให้ดูที่คำตอบของคำถาม ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อจอตาเสื่อม ข้างบน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘