“ภาววิทย์” คุยกับ “ป๋ากิ้ง” ตอนที่ 4 รู้ทันเศรษฐกิจ New Economy ก็รวย!!


ป๋ากิ้ง : ป๋าแพ้ท บอกว่าได้ประเด็นดีๆ จากการคุยกับ ดร.กอบศักดิ์ (พี่กอบ) ..ไหนเล่าได้ไหม ว่าป๋าแพ้ท ได้อะไร

ภา ววิทย์ : โอเค !! จะเข้าใจเศรษฐกิจ คุณต้องเข้าใจภาพรวมก่อน …ผมจะยกตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดมาวิเคราะห์ให้ฟัง “จริงๆ ผมจะบอกว่า ตัวเลขเศรษฐกิจพวกนี้มีประโยชน์มากๆ แต่คนส่วนใหญ่มองมันเป็นตัวเลข และเมื่อมันเป็นตัวเลข มันก็ดูไม่รู้เรื่อง …สิ่งที่คุณต้องทำอย่างแรก เมื่อคุณได้ตัวเลขเศรษฐกิจ คือ คุณต้องเปลี่ยนเป็นภาพ เป็นเรื่องราว อย่างถ้าหนังสือพิมพ์ บอกปีนี้ “การส่งออกแตะ 1.77 แสนล้านดอลลาห์” (หมายความว่าอะไร ใช่!! มันไม่รู้เรื่องเลย) เพราะประการแรกคุณไม่ได้ เอาตัวเลขมาเปลี่ยนเป็นเรื่องราว มันจึงไม่น่าสนใจ “แต่สำหรับผม มันเป็นประโยชน์มาก” ..มาดูกัน

อย่างแรกจะเห็นภาพคุณต้องรู้ภาพรวม ใหญ่ และหน่วยในการคำนวณ ต้องเป็นหน่วยเดียวกัน ..อย่างผมชอบเปลี่ยนหน่วยทุกอย่างออกมาเป็น billion dollar เพราะมันง่ายต่อการเปรียบเทียบแล้วเห็นภาพ เพราะ ผมชอบอ่านนิตยสาร Fortune หรือ Forbes เวลามันเปรียบเทียบขนาดของบริษัทต่างๆ นโยบายของ Obama ตัวเลขการค้าของโลก ความรวยของ Bill Gates เรื่องราวทุกอย่าง จะมีหน่วยเป็น US Dollar ดังนั้น อย่างแรกเปลี่ยน หน่วยการรับรู้ให้เป็นหน่วยเดียวกัน

ประเทศ ไทยมี GDP $246 billion (ในขณะที่ Warren Buffet รวยประมาณ $50 billion) ตัวเลขการส่งของเราล่าสุด ณ เดือน November 2010 คือ 177,977 ล้านบาท เอามาเปลี่ยนเป็นหน่วยดอลลาห์ ก็เท่ากับ $177 billion เงินฝากรวมทั้งประเทศไทยรวมกัน $ 220 billion ตลาดหุ้นประเทศไทยทั้ง SET รวมกัน $280 billion
มาดูตัวเลขล่าสุดการส่งออกของเรา (ดูที่ภาพ)

คุณก็เห็นแล้ว ว่า ASEAN-10 กับการรวมตัวของ AEC จะส่งผลให้เอเชีย เติบโตแบบพึ่งตัวเอง
ที่ ชอบยกตัวอย่างกัน เช่น การค้ากับอเมริกา ที่บอกๆกันว่า เยอะๆ จริงๆ คิดเป็นแค่ 10% ของการส่งออกเราเท่านั้นเอง อย่างจีนก็เพิ่มบทบาทการค้ากับเรามากๆ ดังนั้น นี่แหละภาพที่ผมอยากจะบอกว่า คุณต้อง แปลข้อมูลเป็นภาพ จากนั้นคุณถึงจะแปลเป็นความหมายให้เข้าใจได้ง่ายนั่นเอง

จากที่คุย กับพี่กอบ นี่ผมเข้าใจภาพเลยว่า ที่คนส่วนใหญ่มองว่า เรากำลังจะแย่ เพราะยุโรป เพราะอเมริกา แต่แท้จริงแล้ว เราเริ่มพึ่งพากันเองในเอเชียมากขึ้น ..ประเทศที่น่ากลัวจะ Bubble ก็คือ ประเทศที่ไม่เคยเกิดวิกฤต อย่างบ้านเรามีวิกฤต ตลอดเวลา หมายคนมองว่ามันแย่ แต่พี่กอบกลับมองว่า มันดี เพราะ เงินร้อนก็จะเข้าตลาดเราน้อยลง โอกาสที่เราจะ Bubble ก็น้อยลง …ประเทศที่น่ากลัวกลับเป็นจีน กับ อินเดีย แค่ถ้าถามว่า ใครกระทบเรามากกว่า “แน่นอน คุณดูตัวเลข ก็จีน เพราะเราค้าขายกับเขามากกว่า” ..แต่ อย่างปัจจุบัน จีนเป็น “เผด็จการทุนนิยม” ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจความผันผวนสุดโต่งอย่างในปัจจุบัน การมีการเมืองที่มั่นคง มันได้เปรียบอย่างมาก ..ดูสิงคโปร์เป็นตัวอย่าง

ประเทศ ที่อาจจะ Bubble ก่อนจีน น่าจะเป็นอินเดียด้วยซ้ำ เพราะอินเดียโตด้วย Private Sector คือ เอกชนนำ ตรงนี้จริงๆควบคุมยาก (เพราะมันไม่ใช่ Control Market เหมือนจีน) …ดังนั้น วิกฤตคราวหน้าจับตาอินเดีย น่าจะเกิดก่อนจีน
ทุก วิกฤต ที่ไม่เกี่ยวกับเรามันเป็นโอกาสให้เราเข้าซื้อหุ้นทั้งนั้น เพราะอย่าง Subprime เป็นตัวอย่าง มันแย่แป๊บเดียว จากนั้นมันก็กลับไปเร็ว !!

“มองวิกฤตให้เป็น โอกาสในการช้อนซื้อหุ้นถูก …สบาย!!”

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘