เล่นหุ้นแบบตาสว่าง : ตอนที่ 1 : เกริ่นนำ “ภาพรวมตลาด”


“ทุก คนอยากรวย” แต่ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่ไม่รวย …ในโลกนี้ทุกคนสอนให้เดินตามกัน ทำเหมือนกัน เรียนแบบเดียวกัน แต่กลายเป็นว่า “เมื่อคุณทำเหมือนคนอื่น แล้วหวังให้ผลลัพธ์แตกต่างจากคนอื่น ..มันไม่มีทางเป็นไปได้”

ใน ประเทศไทยประชากรส่วนใหญ่ “จน” อย่างแรกถ้าคุณมีเงินมาลงทุนได้ นั่นหมายถึง คุณทำบุญมาดีในระดับนึง ที่สามารถมานั่งอยู่ตรงนี้ และมีโอกาสที่จะลงทุน

“คุณ คือคนโชคดี!!” ทำไมน่ะหรือ ….  ก็เพราะในประเทศไทยมีประชากร 60 กว่าล้านคน แต่มีคนเพียงแค่ประมาณ 100,000 คนที่เล่นหุ้น (หากตอนนี้คุณเป็นคนนึงที่เล่นหุ้น และคิดที่กำลังจะเล่นหุ้น ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณคือ คนส่วนน้อยของประเทศที่มีโอกาสรวย (คนส่วนใหญ่ทำนา ทำไร่ เลยไม่ค่อยรวย คนส่วนน้อยเท่านั้นที่มีโอกาสเล่นหุ้น ดังนั้น คุณทำแตกต่าง นี่คือ ความโชคดีในเบื้องต้น “คุณมีโอกาสรวย”)

ปัญหา ของการเล่นหุ้นมีอยู่นิดนึง คือ คนส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้น “ขาดทุน” มีเพียงสัดส่วนประมาณ 20% เท่านั้นที่กำไร (คำถามคือ คุณจะเป็น 20% นั่นอย่างไร!!)

ประเด็นต้องย่อยลงมา คือจะอธิบายว่า การที่เราทำเหมือนคนส่วนใหญ่ ..เราจะจน ..ภาพใหญ่คือชาวนาไม่รวย ดังนั้น คนที่เล่นหุ้นเป็นส่วนน้อยจึงไม่จน ...มองลงมาภาพเล็กลงไปคือ คนส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้นกลับขาดทุนอย่างย่อยยับ --คำถามคือ คนที่ขาดทุนอย่างย่อยยับ เขาทำอะไร -- นี่แหละสำคัญ เพราะถ้าเรารู้ว่าคนส่วนใหญ่ทำอะไร “แล้วขาดทุนอย่างมหาศาล..บางคนหมดตัว ..บางคนฆ่าตัวตาย” ..ถ้าเรารู้ เราจะได้ไม่ทำไง”

“คนเล่นหุ้น ส่วนใหญ่ทำอะไร” ..เป็นคำถามที่ตอบง่ายมาก ..คนส่วนใหญ่ชอบเข้ามาซื้อขายเมื่อตลาด Boom นั่นก็คือ ชอบซื้อหุ้นในขาขึ้น --และนี่เป็นสาเหตุที่ว่า ทำให้ตลาดหุ้นพอเข้าขาขึ้น แล้วมันจะขึ้นไปเรื่อยๆจนราคามันเลยความเป็นจริงหรือ Bubble นั่นเอง (เมื่อตลาดเกิด Bubble มันก็จะจบด้วย Crash !!

“คนส่วนใหญ่ทำ อะไร(ต่อ)” ..เวลาตลาดลงคนส่วนใหญ่จะขายหุ้นทิ้งเพื่อหนีตาย ..เมื่อทุกคนขายพร้อมกัน ราคาหุ้นก็จะยิ่งลงต่อไปอีก จนราคามันต่ำกว่าความเป็นจริง --และนี่คือ ที่ว่าของ ตลาด Crash!!  นั่นเอง

สรุป ก็คือ “การที่นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบทำอะไร เหมือนๆกัน มันส่งผลให้ ตลาดหุ้นเกิด Bubble และก็ Crash …ซึ่งทั้งหมด ก็ได้ตอบคำถาม ที่ว่า ทำไมคนส่วนใหญ่เล่นหุ้นแล้วขาดทุน “ก็เพราะทุกคนเดินตามๆ กัน ทำเหมือนกัน”

“คำ ถามที่สุดฮอตของการเล่นหุ้นให้รวย คุณจะต้องทำอย่างไรล่ะ” …ตอบได้ง่ายมาก “ถ้าคุณต้องการรวยคุณก็ทำให้แตกต่างจากคนอื่น …คือ ให้คุณซื้อหุ้นเวลาตลาด Crash จากนั้น ก็ถือไปเรื่อยๆ แล้วไปขายเมื่อตลาด Bubble”

ผม เชื่อว่าเมื่ออ่านมาถึง ตรงนี้ผมเชื่อว่า หลายคนคงมีคำถามในใจแล้วว่า “ณ เวลานี้ (วันที่ผมเขียนบทความนี้ วันที่ 30 ตุลาคม 2010  ตลาดหุ้นแพงหรือถูก)…แล้วเราอยู่ไหนล่ะ จะทำยังไงต่อ !!

(เอ้า!! เอากราฟตลาดหุ้นมาดูกัน)


นี่ คือ ภาพของตลาดหุ้นตั้งแต่ 35 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน …การที่เราจะเล่นอะไร ผมเชื่อว่าหากเราเห็นภาพใหญ่ มันจะทำให้คุณสามารถเดินทางได้ สนุกขึ้น (มันคล้ายๆกับ นักเดินทางสองคน คนนึง เดินทางไปเรื่อยๆโดยไม่มีแผนที่ (สุดเครียด!!) อีกคนเดินมีแผนที่ (มันสบายใจต่างกัน) )… “ไอ้กราฟนี้แหละแผนที่ในการเดินทาง ..มันดูง่ายๆ แต่มันจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างมีกรอบ (เยี่ยมยอด!!)”
ในภาพปี 1975 - 1993 ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วง “ขาขึ้น”  ช่วงนั้นใครเล่นหุ้นก็รวยมหาศาล ..ยุคนั้น เขาเรียกตลาด Bull ในครั้งนั้นว่า Asian Miracle

หลังจากปี 1994 - ปัจจุบัน ..ตลาดหุ้นยังไม่ได้กลับไป Peak เดิมอีกเลย …ช่วงเวลานี้ เริ่มด้วยตลาด SET ลดลงเรื่อยๆ จากปี 1994 ลงมาแตะจุดต่ำที่สุดคือประมาณ 200 จุด เมื่อปี 1998 ..จากจุดนั้น ตลาดหุ้นไทยก็ไม่ไปไหนวิ่งไปสูงสุดก็แค่ประมาณ 900 กว่าจุดเมื่อปี 2007 ก่อนจะมาพังคือครั้งเมื่อปี 2008 (ตลาดลงไปแตะ  300 กว่าจุด)

นับจากปี 1998 เป็นต้นมา ตลาดวิ่งจาก 300 กว่าจุด วิ่งมาแตะ 1,000 จุดเรียบร้อย “คำถามคือ จากนี้ไปตลาดหุ้นจะขึ้นต่อไป หรือมันจบแล้ว” …จริงๆตรงนี้ไม่ต้องถามใคร คุณก็สามารถดูเองได้ (ดูยังไง!!)

“ให้คุณมองไปรอบๆตัว แล้วสังเกตุให้ดีว่า คนส่วนใหญ่ทำอะไร ..นั่นแหละ ไม่รวย” (คนส่วนใหญ่รอบๆตัวคุณทำอะไร ให้ทำตรงข้าม)
ณ ตลาด 1,000 จุด “มีน้อยคนมากที่ คิดว่าตลาดจะไปต่อ รายย่อยจึงเริ่มกล้าๆกลัวๆ .. ดังนั้น ถ้าใครสังเกตุให้ดี พอตลาดวิ่งไปใกล้ๆ 1,000 จุด จะมีแรงเทขายทำกำไร ออกมามาก จนจุดนี้ได้กลายเป็นแรงต้านที่มหาศาลมาก” …จุดนี้ถ้าให้ผมตีความหมาย ก็คือ รายย่อยส่วนใหญ่ เทขายหุ้นเกือบหมด port แต่แปลกไหมล่ะครับ ยิ่งขายราคา มันกลับยิ่งขึ้น !!

“แล้วไง!!”… จากจุดนี้ไป การที่คนส่วนใหญ่ขายทิ้ง มันทำให้ผมสบายใจ เพราะในเมื่อตลาดยังมีความเห็นไม่ตรงกัน นั่นก็หมายความว่าในภาพใหญ่มันยังไปต่อ ..ไปเรื่อยๆ ..เรื่อยๆ ..ไปจนถึง “เมื่อทุกคนในเห็นพ้องต้องกันว่า ตลาดดีเยี่ยม อนาคตสดใส และ ทุกคนที่สามารถซื้อหุ้นได้ ก็ได้ซื้อหุ้นไว้หมดแล้ว”…เมื่อเวลานั้นมาถึง นั่นก็คือ จุด Peak ของตลาดนั่นเอง

(นี่แหละครับ จบแล้ว) “สุดยอดของการทำกำไรจากตลาดหุ้น ก็คือ ทำตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ …เมื่อใดที่คนส่วนใหญ่ขาย “ให้คุณซื้อ” เวลาที่คนส่วนใหญ่ซื้อ “ให้คุณขาย” …ฟังดูง่าย แต่ผมบอกเลยว่า “คุณทำไม่ได้หรอก เพราะถ้าคุณทำได้ คุณก็รวยไปแล้ว ฮ่า ฮ่า .. ไอ้คนที่ทำได้ก็ลุง Buffett ไง..เฮอะ ๆ ๆ”

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘