10 กลยุทธ์การลงทุนปี 2010

ปีนี้มีเวลาน้อย เนื่องจากมีภารกิจหลายอย่าง และตลาดน่าจะมีทิศทางไปใน sideway ซะมากกว่า ผมเลยคิดว่าจะหากลยุทธ์ที่จะลดการใช้เวลากับตลาดหุ้นลง แต่เพิ่มคุณภาพให้มากขึ้น (ที่ทำไม่ได้ซักที ปีนี้ต้องทำให้ได้) โดยตั้งเป้าหมายในการลงทุนเหมือนเดิมคือ 15% และชนะตลาด แต่ตั้งใจว่าจะใช้เวลาน้อยลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

ลดปริมาณการดูข้อมูล ติดตามหุ้น และดูจอ
1. ลดการมองภาพสั้น ไม่ขายหุ้นกลุ่มที่ตั้งใจซื้อเก็บไว้ 10 ปีเด็ดขาด โอกาสที่พื้นฐานหุ้นที่จะถือ 10 ปีจะเปลี่ยนแรงในปีเดียวยากมาก ทำไมเราจะต้องไปทบทวน ดูราคามันตลอดเวลา ดังนั้นปีนี้จะลดการดูหุ้นให้น้อยที่สุด ให้เหลือซักอาทิตย์ละครั้ง
2. ลดการดูภาพตลาดรวม ลงทุนเพิ่มเฉลี่ยทุกเดือนตามงบปี 2010 ไม่ Time market อันที่จริง การ Time market ในตลาดหุ้นไทยนั้น เหมือนจะใช้ไม่ได้ในระยะยาว ผมลองอ่านหนังสือรวยด้วยหุ้น ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์หุ้นในช่วงยุคก่อนวิกฤต พบว่า คนส่วนใหญ่คิดว่าตัวเอง Time market ได้ ผลตอบแทนในการ Time market ในช่วงนั้นก็สูงจนทุกคนมุ่งมาทางนี้หมด (ซึ่งไม่ต่างจากช่วงนี้) แต่สุดท้ายก็ได้แค่เบี้ย แต่เสียเป็นตำลึงทอง
3. ลดการมองภาพตลาดต่างประเทศ แม้ว่ากูรูจะขู่ตลาด 2010 ตลอดเวลา แต่ผมคิดว่าถ้าไม่มี big hit เข้ามา คงไม่ใส่ใจอะไรนัก อีกทั้งผมก็ไม่ลึกซึ้งกับเศรษฐศาสตร์มหภาค แต่คนที่เข้าใจก็มีอยู่มากมายในตลาด โดยเฉพาะที่อเมริกา ดังนั้น ดูดัชนีดาวโจนน์ผมว่ามันก็เหมือน consensus ระดับหนึ่ง อาจจะดูการดัชนีการว่างงาน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย FED ผมว่าแค่นี้น่าจะพอ
4. ลดการปรับพอร์ตให้น้อยที่สุด เน้นการปรับพอร์ตหลังจากงบออก ลดความซับซ้อนในการประเมินมูลค่าใหม่ โดยเงินลงทุนเพิ่มจะซื้อหุ้นในพอร์ตที่ PEG ต่ำที่สุดและปรับตัวขึ้นน้อยที่สุด(เทียบกับต้นปี) ในกรณีที่ไม่เจอหุ้นใหม่
5. ลดการดูบทวิเคราะห์ ข่าวหุ้น รวมถึงการเก็งดัชนี หรือการวิเคราะห์ทางเทคนิค สิ่งนี้มีประโยชน์ แต่บางครั้งเรา consume over information รับแต่สิ่งที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์
6. ลดการเข้าเช็คข่าวหุ้นทางเน็ต โดยเฉพาะ weekday ทำ Routine เช็คผ่าน e-finance, webboard สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็พอ เวปบอร์ดปัจจุบันผมคิดว่ามีคนหลากหลายมาก และทำให้เรา Bias ได้ง่าย การอ่านบ่อยยิ่งทำให้โอกาสจะตกหลุมพรางนายตลาดก็ยิ่งมากขึ้น (ยกเว้นแต่บางกระทู้)
เพิ่มคุณภาพการติดตามบริษัท
7. เพิ่มการ Focus ในเข้าประชุมประจำปีทุกบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ นอกเสียแต่จะจัดในวันเวลาเดียวกัน เตรียมตัว 1 วันก่อนประชุม ถือเป็นการทบทวนหุ้นระยะ 1 ปีไปในตัว
8. เพิ่ม Focus ระยะใน Quarter ติดตามงบและ Oppdays ของบริษัทที่ถือ ดูบริษัทอื่นเฉพาะ PPT และช่วง Q/A และเช็คข้อมูลกิจการจากตัวสินค้าจริง และพนักงาน รวมถึงการทำความรู้จักและเข้าถึงนักลงทุนสัมพันธ์
เพิ่มโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทน
9. เพิ่มการคัดเลือกหุ้นที่จะทำการศึกษาใหม่ในแต่ละเดือน เน้นหุ้น PEG ต่ำเป็นหลัก Stock selection น่าจะเป็น key สำหรับปี 2010 แต่หุ้นที่เต็มพอร์ต (และเพิ่งถ่ายน้ำเสีย ซื้อธุรกิจดี ๆ เข้ามา) คงมีความจำเป็นในการหาหุ้นน้อย ผมคิดว่าการดูหุ้นตัวเองมากเกินไปทำให้เกิด bias การดูหุ้นใหม่ ๆ จะช่วยลด bias ตรงนี้ ดังนั้นการหาหุ้นใหม่ตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่อาจจะตัดทิ้งไม่ได้
10. เพิ่มการลงทุนต่างประเทศ เป้าหมายคือ 5% ของพอร์ต ใช้ Trading system กับ ETF การลงทุนต่างประเทศนี่ ผมชักเข้าชักออกอยู่นาน สาเหตุคือปัจจุบันทุกอย่างยังไม่อำนวย เหมือนรายย่อยโดนเอาเปรียบ แต่ปีนี้คงจะเริ่มทะยอย explore ให้มากขึ้น
จะแจ้งข่าวอีกทีครับว่ากลยุทธ์นี้ได้ผล หรือ ทำได้นานแค่ไหน 555 ใครมีกลยุทธ์อะไรก็แชร์ให้ฟังด้วยครับ
**สิ่งที่เขียนบางข้อไม่เคยทำนะครับ (เพราะทำไม่ได้) อาจจะได้ผลไม่ดีก็เป็นไปได้ จะสรุปให้ฟังตอนปลายปี

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘