มีข้อสงสัยเกี่ยวกับ KZM เล็กน้อยครับ

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับ KZM เล็กน้อยครับ

      คือเวลาที่เรา ให้กองกำลัง A และ B เข้าซื้อหุ้นณ ราคาในโซนนั้นๆ
      เวลาที่ราคาหุ้นตกลงมาถึงอีกโซน เราก็ยังไม่ขาย
      แต่ก็จะเอากองกำลัง A และ B ของอีกโซนเข้าซื้อแทน

      แล้วพอดีผมสงสัยว่า ในกรณีที่ราคาหุ้นเป็นขาลงแบบสุดๆ

      แบบนี้ไม่เท่ากับเป็นการขาดทุนสะสมหรือครับ

      กว่าจะถึงจังหวะที่ กองกำลัง A หรือ  B  ทำกำไรได้

      ก็ต้องสูญเสียกำลังตรงราคาบนๆ มาก่อนแล้ว 

      ทีนี้กองกำลัง A กับ B ตรงข้างล่างก็ต้องคอยทำกำไรสะสมไปเรื่อยๆ จนกว่า
      จะได้กำไรเท่ากับที่สูญเสียมาจากราคาด้านบน

      แบบนี้ผมก็สงสัยว่าทำไมเราถึงไม่ขายคัทลอสไปก่อนเมื่อราคาขยับจากโซนราคาสูง มาโซนราคาต่ำครับ

      เช่นตอนนี้เราอยู่โซน ราคา 3.10 เรานำกองกำลัง A B เข้าไปซื้อ

      พอราคาตกลงมาที่ 2.90 เราก็เอากองกำลัง A B อีกกองเข้าไปซื้อ

      แต่กองที่ซื้อตรง 3.10 เราไม่ขาย  ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดหุ้นมันลงตลอด

      วิธีนี้ก็จะทำกำไรไม่ได้ใช่หรือเปล่าครับ คือต้องรอจนหุ้นมันกระเตื้องขึ้นมาบ้าง  จุดนั้นเราจึงจะได้กำไร

      ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ  รบกวนช่วยชี้แนะด้วย

      จากคุณ : ดอกเบี้ย - [ 23 ธ.ค. 51 16:49:13 ]

   



                  ความคิดเห็นที่ 1

                  KZM ก่อนจะเทรด ต้องกำหนดกรอบการเทรดไว้ก่อนครับ..


                  อย่างน้อยๆ ต้องรุ้จุดสูงสุดและต่ำสุดของหุ้นตัวนั้น...


                  (ซึ่งจริงๆ แล้ว แนวทางนี้ คุณพีมัดเลย์กรุ๊ป แนะนำให้ใช้เทรดกับ หุ้นตัวแทนดัชนี คือ TDEX หรือ ENGY นะครับ)


                  ทีนี้ เมื่อเรารู้จุดสูงสุดและต่ำสุดของของหุ้นตัวนั้นแล้ว


                  เราก็จะมาแบ่งโซนการเทรด... ซึ่งต้องสอดคล้องกับทรัพยากรคือเงินทุนในมือเรา


                  เช่นถ้าแบ่งจุดสูงสุด กะต่ำสุด ได้ 25 โซนย่อย..


                  พอเวลาจะซื้อ ก็ต้องคำนวณดูว่า เงินในมือ ถ้าจะซื้อให้ครอบคลุมทั้ง 25 โซนย่อยนั้น


                  ต้องซื้อโซนย่อยละไม่เกินจำนวนกี่หุ้น..


                  ...................

                  เราก็จะได้เงินทุนเตรียมสำรองไว้ซื้อหุ้นในทุกโซนที่ราคาวิ่งไปถึง


                  เสมือนเราวางกำลังไว้ซุ่มโจมตีตามโซนต่างๆ เมื่อถึงเวลา...


                  ทีนี้ ถ้าราคาอยุ่ในระหว่างโซนบนกับโซนล่าง...


                  เราอาจจะซื้อหุ้นตรงราคานั้นมากขึ้นอีกนิดในจำนวนไม่เกินจำนวนโซนที่อยุ่ด้านบนๆ ของราคาที่จะซื้อ


                  โดยถือว่า เป็นการลดต้นทุนของกำลังพล ที่จะไปซุ่มโจมตีในโซนบนๆ


                  ทีนี้คำถามก็คือ ทำไมไม่คัทลอส ไปก่อน...


                  นั่นก็เป็นเพราะวิธี KZM เตรียมกำลังไว้ซุ่มโจมตีตามโซนที่กำหนดอยู่แล้ว


                  ถ้าราคาลง ก็ต้องซื้อหุ้นเพิ่มในโซนที่ยังไม่ได้ซื้อ..เข้ามาไว้ในพอร์ต


                  เป็นการเตรียมกำลังไวโจมตี ให้ครอบคลุมพื้นที่โซนที่เหลือ


                  ดังนั้น วิธีการนี้ จึงไม่ขาย ถ้าไม่มีกำไร...


                  ถึงตรงนี้ แม้ราคาหุ้นจะลงมาสุดๆ ก็ไม่จำเป็นต้องคัทลอส แต่จะซื้อเพิ่มอย่างเดียว


                  แล้วจะเป็นสะสมขาดทุนหรือไม่


                  ก็ในเมื่อถ้าหุ้นในมือ ยังไม่ขาย จะมีการขาดทุนตัวเงินเกิดขึ้นหรือ.เป็นเพียงการขาดทุนทางบัญชี..


                  แน่นอน มูลค่าพอร์ตโดยรวมอาจจะลดไปมาก...


                  แต่อย่างไรก็ตาม หุ้นที่ถืออยู่ก็ต้องทำหน้าที่คอยโจมตีเมื่อถึงโอกาสต่อไป...


                  เราซื้อไว้เพื่อรอโอกาสขายครับ...แล้วถ้าถือนานๆ อย่างน้อยตอนปันผล


                  ก็น่าจะได้รับเงินปันผลเป็นน้ำจิ้มไปพลางๆ อยุ่แล้ว ...


                  ผมว่าวิธี KZM นี้ไม่ใช่การเก็งกำไรครับ...


                  แต่เป็นการเทรดโดยใช้ระบบที่คิดขึ้นจากประสบการณ์ของคุณพี่มัดเลย์กรุ๊ป


                  ซึ่งคุณพี่มัดเลย์ฯ บอกไว้แล้วว่าระบบเทรดแบบนี้ไม่ได้ต้องการกำไรชั่วข้ามวัน

                  แต่เป็นการเก็บสะสมผลกำไรไปเรื่อยๆ...เหมือนการสะสมแต้ม


                  จนสามารถเอาผลกำไรที่สะสมไว้ ไปซื้อหุ้นในโซนอื่น ๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้น


                  หรือใช้ผลกำไรที่สะสม...ไปเล่นในกอง C กับ D

                  ........................

                  ทีนี้ ที่กังวลว่า ถ้าไม่คัทลอส แล้วหุ้นตกมาเรื่อย..จะเกิดการขาดทุนสะสมมากนั้น

                  ต้องย้ำครับว่า วิธีนี้เหมาะที่สุดกับหุ้นตัวแทนดัชนี คือ TDEX หรือ ENGY


                  หรือหุ้นหลักๆ ที่มีพื้นฐานดีๆ ครับ...

                  ........................



                  ตอบวนไปวนมา จะงงป่าวเนี่ย ถ้างงก็ขออภัยครับ


                  ถือเป็นการแสดงความเห็นก่อนคุณพี่ Mudleygroup หรือ คุณพี่ kfc_m จะมาตอบจริงๆ อีกทีก็แล้วกัน ฮ่าฮ่าฮ่า

                  จากคุณ : ถ้างงอย่าว่ากันนะ อิอิ - [ 23 ธ.ค. 51 17:33:34 A:125.25.148.173 X: TicketID:195408 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 2

                  เพราะเราไม่รู้ไงครับว่ามันจะลงตลอดหรือเปล่าหรือมันจะลงแค่ไหน

                  เหตุเพราะความไม่รู้ ทำให้เราต้องสร้างแผนการลงทุน KZM DSM หรืออะไรก็ตามขึ้นมา

                  ถ้าคุณพี่ดอกเบี้ย ขาย 3.1 ออกไปที่ 3 บาท แล้วมันไม่ลงต่อ ทำไงล่ะครับ มันเลยลอสจริงๆเลย

                  มันขึ้นกลับมา 3.1 ก็ซื้อไม่ได้อีก หรือซื้อได้ก้ต้องเพิ่มเงินเข้ามา เพราะเงินชุดเก่าพร่องไปแล้วจากการคัทลอส

                  ถ้าเรารู้ว่ามันจะลงไปเรื่อยๆอย่างแน่นอน เราก็ควรรอเวลาไปซื้อที่จุดต่ำสุดไปเลย

                  แต่เราไม่รู้ ดังนั้นเราจึงสร้างแผน

                  อีกอย่างก็คือ ถ้ามั่นใจว่าแผนเรารับมือกับตลาดได้ ก็ต้องปรับทัศนคติของเราเอง ไม่ให้ไปยึดกับคำว่า กำไร ขาดทุน และ มูลค่าพอร์ต

                  แผนนี้ไม่ได้การันตีนะครับว่า พอร์ตจะต้องเป็นบวก แต่การันตีว่าเราจะไม่ขาดทุน (เพราะขาดทุนเราไม่ขาย อิอิ)

                  ส่วนถ้ามูลค่ามันลดลงก็ช่างมันสิครับ มันเป็นกองทหารเล็กๆกองหนึ่งของเราเท่านั้นเอง

                  เพราะเราแบ่งโซนย่อยๆไว้แล้ว เราเลยไม่ต้องกังวลครับ

                  จากคุณ : ฉินจัง - [ 23 ธ.ค. 51 20:40:32 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 3

                  +++ ถ้าเรารู้ว่ามันจะขึ้นจะลงตอนไหนราคาไหน ก็คงไม่ต้องมาทำวิธีพวกนี้หลอกครับ อุอุ ถารู้จะลงก็ขายสิจะไปทยอยขายไปทำไม ถารู้ว่าจะขึ้นก็ซื้อหมดเลยสิจะทยอยซื้อทำไม ใช่บ่อ ก็เพราะเราไม่รุ้ จึงมีวิธีพวกนี้มา

                  +++ วิธี KZM ถ้าจะใช้กับหุ้นคุณต้องมั่นใจว่าหุ้นตัวนั้นจะไม่ล้มหายตายจาก ตลาดไปก่อน ถ้ามันจะหายไปต้องไปพร้อมตลาด ต้องรู้นิสัยหุ้นตัวนั้นอย่างแท้จริง ไม่ใช่หุ้นปั่นๆ รู้นิสัยมันอย่างดีว่า ช่วง ไฮกับโลแต่ระรอบ ประมาณกี่จุด เว้นช่วงนานเท่าไหร่ ฯลฯ ควรจะเป็นหุ้นวิ่งตามเซ็ต นึกไม่ออกละแค่นี้ละกัน

                  จากคุณ : a - [ 23 ธ.ค. 51 21:07:15 A:192.168.0.17 X:58.64.51.169 TicketID:073234 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 4

                  ถ้าเกิดหุ้นมันลงตลอด

                  วิธีนี้ก็จะทำกำไรไม่ได้ใช่หรือเปล่าครับ




                  กับคำถามนี้ ก็คงต้องตอบว่าใช่ครับถ้าหุ้นของพี่มันลงตลอด
                  ลงอย่างเดียว เป็นเส้นตรงดิ่งลงไปเลย ก็คงทำกำไรไม่ได้ครับ


                  แต่ถ้า มันลงแบบ ค่อยๆ แกว่งลง  ผมว่าวิธีนี้ก็ยังหากำไรได้นะครับ


                  แต่ อีกครั้ง smile   วิธีนี้ไม่ได้เน้นที่กำไรนะครับ 
                  แต่เน้นการอยู่รอดในตลาดให้นานที่สุด  และมีความสุขด้วย


                  อ่า ผมจำเค้ามาพูดนะครับ wink

                  ถ้าผิดพลาดโปรดอภัยด้วยนะครับ

                  จากคุณ : Golden-Bullet - [ 23 ธ.ค. 51 21:25:44 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 5

                  ช่วยแสดงความเห็นครับ

                  ผมว่าสิ่งที่คุณมัดเลย์ พยายามสื่อคืออย่าไปยึดติดกับการหาเป้าหมายว่าจะขึ้นหรือลง แต่เป็นการปกป้องเงินทุนและเอาเงินสดออกมาจากตลาดอย่างสม่ำเสมอ

                  วิธีนี้คือตลาดมีสภาพคล่อง มีประวัติพอสมควร และมี ETF

                  ETF แทนหุ้นในตลาดถึง 50 ตัว แม้ว่าปตท. สผ. จะเจ๊งเหลือ 2 บาท ก็มีตัวอื่นมาพยุง ดีไม่ดี โดนถอดออกไปเลย ... (อย่าหัวเราะครับ ธุรกิจสำรวจและผลิตต้นทุนสูงมากนะครับ เพราะพวกรับจ้างเจาะหลุมมันขึ้นราคาไปหมดแล้ว ... ต้องหาซื้อหุ้น บ. รับเจาะหลุมน้ำมันมาเล่นน่ะครับ)

                  เราก็ไม่ขาดทุนจาก ETF แน่นอน ยกเว้น เกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 (คงตายหมดกันก่อนรวยน่ะครับ )

                  ก่อนจะซื้อ เราก็ต้องดูแนวรับหลักๆ อยู่แล้วครับ ไม่ได้ตั้งรับทุกราคา แต่เราต้องคาดการณ์ช่วงสวิงก็พอครับ

                  การวางโซน เหมือนกลยุทธ์หมากล้อม ไม่ราคาสวิงแบบไหนก็เอาเงินออกมาจากตลาดได้ตลอด

                  ลอง คิดถึงคุณมีกอง A B ทุก x.x0 x.x2 x.x4 x.x8 แล้วสวิง 10 สต.ขายดูสิครับ จะเห็นว่าไม่เกินสองสามวันคุณต้องมีเงินสดเข้ามาและได้หุ้นกลับมาเท่าเดิม ด้วย ... หุ้นที่ซื้อไป เปรียบเสมือนทุนของเรา ดังนั้น ยังมีหุ้นไว้ขายตามโซน ก็เสมือนมีทุนไว้ทำเงินตอนราคามันสวิงๆ ขึ้นๆ ลงๆ น่ะครับ

                  อันนี้ที่ผมลองไปคิดต่อดูนะครับ ... ความสนุกของการลงทุน มันเกิดขึ้นได้จริงๆ ครับ

                  ^_^

                  จากคุณ : KENG76 - [ 23 ธ.ค. 51 21:34:58 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 6

                  ก็อย่างที่เพื่อนๆทุกท่านมาช่วยตอบนะหล่ะครับ แสดงว่าหลายท่านเข้าใจกันอย่างแท้จริง ผมก็ไม่มีอะไร ได้แต่มาเสริมในส่วนของที่ผมรวบรวมข้อมูลจากการบ้านที่เพื่อนผมต้องส่งให้ผม เรื่อยๆ อย่างที่ทุกท่านทราบดีเพื่อนผมได้เริ่มตอน TDEX 4.74 ซึ่งคิดแล้วมันตกมาตอนนี้ราวๆ 30 กว่า % ได้ ผมก็อยากรุ้เช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้เหมือนกันว่าตกขนาดนี้เพื่อนผมจะรอด มั้ย 5555 ก็รวบรวมข้อมูลแล้วลองสรุปเปรียบเทียบกับ เฮดจ์ฟัน 2 เจ้า ที่ลงทุนในไทยดู พลังของ Cash Flow เนี่ยมันทำให้เราคาดไม่ถึงได้เหมือนกัน จริงแล้วผมคิดว่าพอร์ตเพื่อนผมควรจะต้องติดลบสัก 3-5% แต่ผลลัพท์ตอนนี้ติดลบเพียงแค่ 1% เท่านั้น แล้วถ้าหากราคามันกลับมาขึ้นได้นี่ไม่อยากจะคิดเลย เพราะนี่คือขาลงเต็มรุปแบบจริงๆ แต่คนที่เข้าใจจะเริ่มไม่อยากให้เกิดขาขึ้นครับ เพราะมีเวลาเอา cash flow มาสะสมโซนบนๆได้สบายๆเลย :)

                     
                  
                  


                  จากคุณ : MudleyGroup - [ 23 ธ.ค. 51 22:23:51 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 7

                  เฮดจ์ฟันพวกนี้ ถ้าฝีมือแบบนี้สู้พวกเราไม่ได้แน่ โดนเรากินหมดแน่นอน อิอิ

                     
                  
                  


                  จากคุณ : MudleyGroup - [ 23 ธ.ค. 51 22:25:39 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 8

                  วางกลยุทธ์เฮดจ์เสียด้วย  แต่พอร์ตพวกเรานี่ขนาดยังไม่ทันเล่นเฮดจ์เลยนะเนี่ย อิอิ

                     
                  
                  


                  จากคุณ : MudleyGroup - [ 23 ธ.ค. 51 22:29:09 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 9

                  ขอบคุณทุกท่านนะครับ

                  ตอนนี้ก็เริ่มกระจ่างขึ้นมาละ

                  ที่นี้อยากถามอีกซัก 2-3 ข้อดังนี้

                  1. ในการกำหนดช่วงที่เราจะรับ ควรจะกำหนดให้มีระยะห่างเท่าไร
                  คือ ผมไปอ่านพวกกระทู้เก่าๆ บางคนก็ทีละ 0.1 เช่นรับที่ 3.2  3.1  3.0  แบบนี้เป็นต้น แต่เห็นคุณ keng76 คห.5 ยกตัวอย่างว่ารับ ทุกๆ 0.02 ก็ได้
                  เลยสงสัยว่าช่วงขนาดไหนถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ

                  2. กอง C กับ D ไม่จำเป็นต้องมีได้หรือเปล่าครับ แบบว่าเน้น A กับ B ก็สามารถ กระจายความเสียงได้พอสมควร

                  มีคำถามแค่นี้ครับ

                  ขอบคุณคุณ Mudley Group ด้วยนะครับที่คิดค้นระบบนี้ขึ้นมา

                  แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 51 01:08:36

                  จากคุณ : ดอกเบี้ย - [ 24 ธ.ค. 51 00:38:32 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 10

                  การที่จะให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ก็คือการที่เรามีทุกเลขนะครับ
                  แต่ก้ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง เนื่องจากถ้าเงินทุนเท่ากัน การแบ่ง
                  ทีละ 0.10 จะคุมโซนได้มากกว่า การมีทุกเลขหรือแบ่งช่วงห่างน้อยๆ
                  หมายความว่ากรอบโซนที่เราจะเล่นมีจะมีกรอบที่แคบกว่า โอกาสที่จะหลุดจากโซนง่ายกว่า

                  หรือถ้าเราคุมโซนเท่ากัน เราก็ต้องใช้เงินทุนมากกว่า ซึ่งการลงเงินทุนไปมากกว่าก็เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

                  ในตอนแรกเริ่มของโมเดล ควรที่จะเริ่มจากช่วงห่างระดัย 0.1-0.05
                  เพื่อที่จะฝึกการเทรดโมเดลให้ได้คล่องตัวเสียก่อน เมื่อใช้โมเดลคล่องแล้ว
                  ก็สามารถลดช่วงห่างลงได้ โดยเลือกที่จะเสี่ยงมากหน่อยแต่ใช้เวลาน้อยโดยการเพิ่มทุน
                  หรือเอาแบบไม่เสี่ยงรักษาเงินทุนเดิมเอาไว้ โดยการนำกระแสเงินสดที่ได้มาเพิ่ม

                  กอง CD ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ครับ แต่โมเดลกำหนดให้มีไว้ เพื่อความยืดหยุ่น และฝึก skill การเทรดด้วยครับ อันนี้เห็นควรว่าน่าจะมีไว้ ได้ใช้หรือป่าวค่อยว่ากันครับ

                  จากคุณ : kfc_m - [ 24 ธ.ค. 51 07:38:56 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 11

                  อีกกะทู้ผมถามแบบนี้ไว้เหมือนกัน

                  http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7342905/I7342905.html

                  จากคุณ : Mr.Eiji - [ 24 ธ.ค. 51 07:50:17 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 12

                  ผมพยายามทำให้ง่ายฯ  โดยไม่ต้องคิดมาก ทำตามแผน

                  a ขาย20ช่อง

                  b ขาย10ช่อง

                  c ขายเมื่อมีกำไร เล่นบ้างไม่เล่นบ้าง แล้วแต่เวลา

                  d แล้วแต่อารมณ์

                  จากคุณ : ลำชี - [ 24 ธ.ค. 51 09:05:19 ]

               
            
            

                  ความคิดเห็นที่ 13

                  ขอบคุณ คุณ mudley คุณ kfc_m และ ทุกๆท่านนะครับที่มาช่วยกันแสดงความเห็นยิ่งแลกเปลี่ยน ยิ่งได้ความรู้

                  คุณดอกเบี้ยครับ คือผมอาจจะรวบไปหน่อยครับ หมายถึงว่า หากเรามีเงินสดที่ได้จากกำไรแล้วเอามาขยายโซนย่อยๆ ได้น่ะครับ

                  เช่น ตอนนี้ เราเล่นที่ละ x.x0 จะมีหมากล้อมที่ทำกำไรได้คุมทุกโซน ไม่ว่ามันจะไปสวิงตรงกรอบไหน เพราะเงินทุนเราคุมได้หมด

                  แต่ หากเราเล่นไปนานๆ จนมีเงินสดเพิ่มขึ้นอีก 100% ของทุน ก็สามารถเอาเงินเหล่านั้นมาวางคร่อม x.x5 ได้ และกองเหล่านี้จะทำเงินให้เราเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ... จนถึงระดับมีกองคุมที่ละ 0.01

                  เป็นการลงทุนที่ระยะยาวจะได้เปรียบมากเลยครับ

                  อันนี้ตามความเข้าใจของผมนะครับ
                  ^_^

                  จากคุณ : KENG76 - [ 24 ธ.ค. 51 14:12:17 ]

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5