บทสัมภาษณ์เซียนหุ้นInterview with Master Trader : J. Welles Wilder
วันนี้ผมนำบทสัมภาษณ์เซียนหุ้นผู้ปฏิวัติวงการการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค และการเก็งกำไรมาให้อ่านกันครับ เขาคือคนที่ยกระดับ และสร้างมิติใหม่ในการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค โดยนำคณิตศาสตร์เข้ามาใช้เป็นคนแรกๆในวงการ ผลงานของเขานั้นมีอยู่มากมายเหลือเกิน คุณอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเครื่องมือวิเคราะห์ที่คุณใช้อยู่นั้น เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาก็เป็นได้ครับ และเขาก็คือ J. Welles Wilder นั่นเองครับ
คำนำบทสัมภาษณ์
มีไม่กี่ครั้งในชีวิตหรอกครับ ที่คุณจะเจอกับบุคคลผู้เป็นตำนาน มาใช้ชีวิตอาศัยอยู่ติดกับหลังบ้านของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณนั้นอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆชายทะเล ในหมู่เกาะนิวซีแลนด์! แต่ไม่น่าเชื่อว่า เซียนหุ้นสาย Technical Analysis ที่เป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่อย่าง J. Welles Wilder นั้น จะอยู่ห่างไปจากบ้านของผมไม่ถึง 1 ไมล์ แถมเรายังมีเพื่อนที่รู้จักคนเดียวกันถึง 2 คนทีเดียวครับ
Welles Wilder นั้นได้รับการกล่าวถึงจากนิตยสาร Forbes ไว้ว่า
Oli hille
ตำแหน่ง : ผู้จัดการกองทุน
www.SolomonWealthFund.com
ฤดูร้อน
นิวซีแลนด์
บทสัมภาษณ์เซียนหุ้นในตำนาน J. Welles Wilder ผู้ให้กำเนิด RSI Indicator
ส่วนที่ 1 : คำถามเกี่ยวกับการเก็งกำไร
Oli Hille(OH): คุณนั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จากการเป็นผู้ที่คิดค้นเครื่องมือวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคที่โด่งดังมากๆ อย่างเช่น Relative Strength Index(RSI), Average Directional Index(ADX), และ Average True Range(ATR) แต่เครื่องมือการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคชิ้นไหนที่คุณคิดว่า เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดครับ?
Welles Wilder(WW): ผมคิดว่า Average Directional Index (ADX) ครับ
OH: นี่เป็น Indicator ที่คุณรู้สึกภูมิใจกับมันมากที่สุดด้วยหรือไม่ครับ?
WW: ผมคิดว่าน่าจะอย่างนั้นครับ
OH: ทั้งๆที่การวิเคราะห์ภาวะ Failure Swing Point นั้นเป็นจุดเด่นที่เป็นพิเศษของการใช้ RSI เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทำไมมันจึงถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์น้อยเหลือเกิน.. และมันพิเศษอย่างนั้นจริงๆหรือ?
WW: มันมีประสิทธิภาพมากๆครับ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเช่นกัน บางทีอาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจมันอย่างดีเท่าไหร่ก็ได้ครับ
OH: ตลาดเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหมครับ ตั้งแต่คุณเริ่มเข้ามาเก็งกำไร?
WW: ไม่มากเท่าไหร่ครับ!
OH: ที่ผ่านมานั้น คุณจัดจำหน่ายหนังสือ “New Concept in Technical Analysis” ของคุณอย่างไรครับ?
WW: ผมเคยเป็นนักเขียนหนังสือหุ้นที่ดีที่สุดคนหนึ่งในตลาดครับ ผมได้เคยทำการลงโฆษณาในนิตยสารหุ้นต่างๆ และผมได้เคยเช่ารายชื่อลูกค้าเพื่อทำการประชาสัมพันธ์ผ่านทางอีเมล์ครับ
ภรรยาของคุณ Wilder ได้พูดขึ้นว่า: “เขาได้ส่งบทความไปให้กับนิตยสาร Future Magazine และทางนิตยสารก็ได้ตีพิมพ์มันลงไป หลังจากนั้นยอดการจองซื้อก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ก่อนที่เราจะได้พิมพ์หนังสือเล่มนั้นเสียอีก”
OH: ถ้าย้อนกลับไปในปี 1978 นั้น หนังสือราคา 65 ดอลลาร์นั้นถือว่าแพงมากๆทีเดียว แต่คุณกลับขายมันได้อย่างมากมายได้อย่างไรครับ?
WW: ผมคิดใหญ่ครับ! หนังสือในขณะนั้นมีราคาตกเพียงเล่มละประมาณ 5-10 ดอลลาร์เท่านั้นเอง
OH: คุณทุ่มเทเวลาในการเขียนหนังสือเล่มนี้นานกี่ปีครับ?
WW: หลังจากที่ผมขาดทุนอย่างหนักนั้น ผมต้องหาทางทำเงินซักอย่าง! ผมจึงทำการค้นคว้า และเขียนหนังสือเล่มนั้นภายใน 6 เดือนครับ
OH: จะเป็นอะไรไหม ถ้าผมจะถามว่าคุณหมดตัวได้อย่างไรกันครับ?
WW: ผมหมดตัว หลังจากที่ผมเริ่มเก็งกำไรประมาณมา 10 ปีครับ
Mrs. Wilder: “เขาหมายถึงว่าเขาขาดทุนไปอย่างมาก ในการเก็งกำไรน่ะค่ะ!”
OH: ถ้าคุณไม่ถือ ผมขอรบกวนถามอีกครั้งหนึ่งได้ไหมว่า คุณเริ่มต้นการเก็งกำไรด้วยเงินประมาณเท่าไหร่ครับ?
WW: เมื่อก่อนนั้น ผมและเพื่อนอีกสองคนได้ร่วมกันลงทุนสร้าง Apartment ในช่วงปี 1960 หลังจากนั้นพวกเขาสองคนได้ทำการซื้อหุ้นส่วนของผมก่อนที่มันจะสร้างเสร็จ หลังจากที่ผมได้ขายหุ้นส่วนของผมไปแล้ว ผมจึงมีเงินอยู่ประมาณ 100,000 ดอลลาร์ในปี 1968 ครับ [ เงิน 100,000 ดอลลาร์ในปี 1968 นั้น จะมีค่าประมาณ 630,000 ดอลลาร์ในปี 2009 ครับ]
OH: คุณได้ขายลิขสิทธ์หนังสือของคุณให้กับสำนักพิมพ์ไหนหรือไม่ครับ?
WW: ไม่ครับ มันไม่เคยถูกตีพิมพ์จากใครทั้งสิ้นนอกจากตัวของผมเอง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในเดือนที่แล้ว(สิงหาคม 2009) มันยังถูกขายไปกว่า 3,000 เล่มทีเดียวครับ
[ หนังสือเล่มนี้นั้นถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1978 และไม่ได้ทำการแก้ไขเพิ่มเติมตั้งแต่นั้นมา แต่มันก็ยังขายดีเรื่อยๆในราคาที่เท่ากับราคาในปี 1978 นั่นก็คือ 65 ดอลลาร์ครับ นี่แสดงให้เห็นถึงปรากฏการณ์พิเศษบางอย่าง จากจากจัดจำหน่ายหนังสือด้วยตนเอง เชื่อหรือไม่ว่าหนังสือเล่มนี้ถูกขายไปในแต่ละปีมากกว่า 36,000 เล่ม ทั้งๆที่ถูกเขียนไว้เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้วครับ]
OH: อยากให้คุณช่วยกรุณาแนะนำบางอย่างให้กับ นักเก็งกำไรในทุกๆวันนี้ครับ
WW: ถ้าผมจะต้องให้คำแนะนำกับนักเก็งกำไรในตอนนี้ล่ะก็ ผมขอแนะนำให้เล่นทอง(GOLD) และเงิน(SILVER) ในขา Long เพียงอย่างเดียวครับ ผมคิดว่าราคาของทองน่าจะอยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายใน 2 ปีนี้ แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้น ระบบการวิเคราะห์ของผมได้ชี้ให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้ ที่เราอาจจะได้เห็นจุดสูงสุดของแนวโน้มระยะกลางของทองในช่วงประมาณวันที่ 10 ของเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 นี้ครับ
แม้ว่าราคาทองที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจจะดูเหลือเชื่อไปหน่อย แต่มันก็อาจจะลอยไปแตะอยู่ตรงนั้นได้ครับ
[จากการที่ผมได้พบกับ Welles Wilder ในการสัมภาษณ์ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมานั้น เขาได้แสดงให้ผมเห็นถึงพอร์ตโฟลิโอ และผลกำไรขาดทุนของเขาให้ดู ซึ่งจากคำแนะนำของเขานั้น ทุกๆหน่วยลงทุนที่เขาถือถึง 16 ชนิดนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Gold และ Silver ทั้งนั้น โดยในการสัมภาษณ์ครั้งแรกนั้นหน่วยลงทุน 15 จาก 16 ตัวของเขานั้นมีกำไร และในการสัมภาษณ์ครั้งที่สองนั้น ทั้ง 16 ตัวของเขามีกำไรทั้งหมดครับ]
OH: ทำไมคุณถึงมั่นใจกับทองคำมากครับ?
WW: ธนาคารกลาง และธนาคารยักษ์ใหญ่ต่างๆนั้น ได้พยายามที่จะขายทองออกมาก็จริง ซึ่งนั่นอาจทำให้ราคาพักตัวลงมา แต่ Hedge Funds ส่วนใหญ่ กำลังกระโดดลงไปในตลาดทองคำ เพราะในขณะนี้มีทางเลือกอยู่ไม่กี่ทางที่จะช่วยในการรักษามูลค่าของกองทุน ของพวกเขาเอาไว้ครับ และผมคิดว่าแรงซื้อของกลุ่ม Hedge Fund จะสามารถกลืนแรงขายของกลุ่มธนาคารยักใหญ่ได้ในที่สุดครับ
[เป็นที่น่าสนใจอย่างมากว่า เราได้รับคำแนะนำนี้ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่สถานีโทรทัศน์ Bloomberg.com จะได้รายงานว่า Paul Tudor Jones ผู้จัดการกองทุน และเซียนหุ้นในตำนานคนนี้ เขียนจดหมายถึงกลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุนของเขาว่า “ผมไม่เคยตื่นทองเลย สำหรับผม มันก็เป็นแค่ทรัพย์สินอย่างหนึ่ง ซึ่งมีที่อยู่ และช่วงเวลาของมัน ซึ่งในขณะนี้.. ก็ถึงเวลาของมันแล้ว”
โดยเรานั้นได้รับคำแนะนำนี้ ก่อนที่ประเทศอินเดียจะทำการซื้อทองจำนวน 200 ตันจาก IMF ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเช่นกันครับ]
OH: อะไรคือเครื่องมือบ่งชี้ทางเทคนิคที่คุณได้พบว่า มันเป็นเครื่องมือวิเคราะห์หุ้นที่มีประสิทธิภาพที่สุดแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่น นานแล้วก็ตามครับ?
WW: ผมขอพูดไว้ว่า “สิ่งที่ง่ายที่สุด คือสิ่งที่ดีที่สุดครับ”
ในตอนนี้ สิ่งที่ผมพยายามมองหาจากกราฟหุ้น หรือ Commodities ต่างๆก็คือ กราฟที่มันได้ทำการพักฐาน และพึ่งจะวิ่งพุ่งขึ้นมาจากฐานของมันครับ และนี่เป็นสิ่งที่ผมพยายามมองหาจากราฟต่างๆครับ
OH: นี่อาจเป็นเพราะผลจากประสบการณ์ในการวิเคราะห์หุ้นของคุณที่ผ่านมาหลายสิบปี หรือไม่ คุณจึงสามารถมองเห็นสัญญาณต่างๆที่เกิดขึ้นจากเครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ เพียงแค่การมองกราฟเท่านั้น?
WW: ใช่แล้วครับ
OH: หากว่าในตอนนี้ คุณมีอายุเพียงแค่ 44 ปี(อายุของผู้สัมภาษณ์) และคุณเป็นนักเล่นหุ้น หรือเก็งกำไรทางเทคนิคเต็มตัว คุณจะทำอะไรครับ?
WW: ผมก็จะทำอย่างที่ผมทำในตอนนี้ครับ! อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการอ่านกราฟไงครับ
ส่วนที่ 2 ของการสัมภาษณ์ : คำถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิต
OH: อะไรคือบทเรียนที่สำคัญที่สุด ที่คุณได้เรียนรู้ในชีวิตของคุณครับ?
WW: การมีระเบียบวินัยครับ
OH: อะไรคือคำแนะนำของคุณ หากคุณสามารถย้อนกลับไปพูดกับตัวคุณเองได้เมื่ออายุเพียง 17 ปีครับ?
WW: เข้ามหาวิทยาลัย แล้วเรียนในสาขาที่ชอบซะ หลังจากนั้นก็พยายามทำเงินขึ้นมาจากสิ่งที่คุณได้เรียนไป
OH: คุณคิดว่าอะไร คือสิ่งที่ทำให้เด็กวัยรุ่นในทุกๆวันนี้ สามารถประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ครับ?
WW: มันคือการที่พวกเขาทำในสิ่งที่โลกไม่เคยมีมา แต่ต้องการมันอย่างมากครับ
OH: อะไรคือคำพูดดีๆ ที่มีส่วนช่วยให้กับชีวิตของคุณเป็นอย่างมากครับ?
WW: อย่ากัดมากกว่าที่คุณจะเคี้ยวมันได้!
OH: อะไรคือคำแนะนำที่ดีที่สุด ที่คุณเคยได้รับมาครับ?
WW: ให้เข้ามหาวิทยาลัยครับ
OH: อะไรคือความผิดพลาด ที่คุณได้เรียนรู้จากมันมากที่สุดครับ?
WW: การไม่รู้จักจัดการกับเงินที่มีอยู่ ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้มันจากความผิดพลาดของคุณเอง
OH: อะไรคือกิจกรรม หรือสิ่งที่ทำให้คุณเสียเวลาไปมากที่สุดในชีวิตของคุณครับ?
WW: ผมเป็นคนบ้างานมาทั้งชีวิต อย่างน้อยก็จนผมอายุของผมล่วงเข้า 70 ปี ผมคงไม่มีเวลาให้เสียหรือทิ้งขว้างหรอกครับ
OH: อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ ทั้งทางด้านการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคและการเก็งกำไร ในขณะที่หลายๆคนได้พยายามทำมันแต่ไม่สำเร็จครับ?
WW: ความดื้อรั้นมุ่งมั่น และความยืดหยุ่นไงครับ
แต่เมื่อคุณได้เจอกับสิ่งที่มันใช้ได้ดีในการเล่นหุ้นแล้วล่ะก็ จงใช้มันซะ! อย่าไปเสียเวลาพยายามมองหาสิ่งอื่นอีก
OH: หากมีคะแนนเต็มอยู่ 10 คะแนน ในการใช้ชีวิตของคุณได้เต็มศักยภาพที่สุดล่ะก็ คุณคิดว่าคะแนนของคุณน่าจะเป็นเท่าไหร่ครับ?
WW: 9 ครับ
OH: ยังมีสิ่งไหนอีก ที่คุณจะทำมันให้แตกต่างออกไปเพื่อให้ได้คะแนนเต็ม 10 คะแนนครับ?
WW: ผมไม่รู้เหมือนกันครับ
OH: อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณย้ายจากประเทศอเมริกา มาอาศัยอยู่ที่นิวซีแลนด์ในช่วงปี 1980 ครับ?
WW: เมื่อ 25 ปีที่แล้วนั้นผมได้รู้จากวงในมาว่า ประเทศอเมริกานั้นเต็มไปด้วยหนี้สิน ผมจึงคิดว่า “ประเทศไหนกันนะ จะเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกนี้?” ซึ่งมันน่าจะเป็นประเทศเล็กๆที่เป็นประชาธิปไตย และมีความเป็นสันติเป็นกลาง และไม่มีศัตรู และนิวซีแลนด์ก็กลายเป็นประเทศที่ผมเลือกที่จะใช้ชีวิตอาศัยอยู่ครับ
และนี่ก็เป็นทั้งหมดของบทสัมภาษณ์ J Welles Wilder ผู้ที่พลิกโฉมวงการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคให้เข้าสู่ยุคของคณิตศาสตร์คนแรกๆ ของโลกครับ ถึงแม้ว่าวันนี้ Indicator ต่างๆที่เขาได้คิดค้นขึ้นอาจถูกแทนที่ด้วยคณิตศาสตร์ชั้นสูงของโลกในยุคนี้ แต่เราก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเขามีบทบาทของเขาในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่างมากมายซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยจุดประกายให้นักเก็งกำไรอีกหลายๆคนได้พัฒนา สิ่งที่ก้าวหน้าต่อมา แล้วเจอกันใหม่ครับที่ แมงเม่าคลับ.คอม แห่งนี้ สวัสดีปีใหม่ครับ
คำนำบทสัมภาษณ์
มีไม่กี่ครั้งในชีวิตหรอกครับ ที่คุณจะเจอกับบุคคลผู้เป็นตำนาน มาใช้ชีวิตอาศัยอยู่ติดกับหลังบ้านของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณนั้นอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆชายทะเล ในหมู่เกาะนิวซีแลนด์! แต่ไม่น่าเชื่อว่า เซียนหุ้นสาย Technical Analysis ที่เป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่อย่าง J. Welles Wilder นั้น จะอยู่ห่างไปจากบ้านของผมไม่ถึง 1 ไมล์ แถมเรายังมีเพื่อนที่รู้จักคนเดียวกันถึง 2 คนทีเดียวครับ
Welles Wilder นั้นได้รับการกล่าวถึงจากนิตยสาร Forbes ไว้ว่า
“เขาคือเซียนหุ้นสาย Technical ที่ได้เผยแพร่ และแผ่ขยายอิทธิพลจากผลการค้นคว้าของเขา”นิตยสาร Barron’s (กรกฎาคม 1984) ได้เขียนถึงเขาไว้ว่า
“หลังจากในปี 1978 นั้น การวิเคราะห์ทางด้านคณิตศาสตร์ได้เข้ามาบทบาทสำคัญในตลาดหุ้น หลังจากที่ Welles Wilder ได้เขียนหนังสือ New Concept In Technical Trading Systems ของเขาขึ้นมา”นิตยสาร Financial World (กรกฎาคม 1985) ได้เขียนเอาไว้เช่นกันว่า
“หลายปีที่ผ่านมา นี้ Welles Wilder เป็นผู้ที่ได้ทำการพัฒนาระบบการลงทุน(ทางเทคนิค) และแนวคิดทางการลงทุนได้อย่างล้ำลึกกว่าผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นมาก”และในนิตยสาร Technical Analysis of Stock and Commodities (กุมภาพันธ์ 1986) ได้เขียนถึงเขาไว้ว่า
“ไม่บ่อยครั้งนัก ที่จะมีผู้ที่ค้นพบสิ่งใหม่ๆทางด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคขึ้นมาจริงๆ อย่างไรก็ตามเราสามารถกล่าวได้ว่า J. Welles Wilder ผู้นี้นั้น คือผู้ที่ได้เปลี่ยนแปลงการวิเคราะห์ทางเทคนิค ให้เข้าสู่ยุคใหม่ของการวิเคราะห์หุ้น และเก็งกำไรขึ้นมาทีเดียว”และเมื่อไม่กี่ปีมานี้นั้น นิตยสาร The Trader’s Journal (พฤษภาคม 2005) ก็ได้กล่าวถึงเขาเอาไว้ว่า
“บนโลกใบนี้นั้น อาจจะมีนักเก็งกำไรที่กำลังใช้ระบบการวิเคราะห์ และเครื่องมือของ Welles Wilder มากกว่าเทคนิคการวิเคราะห์รูปแบบอื่นอยู่ก็เป็นได้”ผมได้พบกับคุณ Welles Wilder ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมที่ผ่านมาในปี 2009 ที่บ้านของเขา ในขณะนี้เขามีอายุถึง 70 กว่าปีแล้ว และจากอายุของเขานั้น บางครั้งทำให้เขาไม่สามารถที่จะจดจำสิ่งต่างๆได้ดีอย่างที่เคยเป็นมา การสัมภาษณ์จึงเป็นไปอย่างไม่รีบร้อนนัก และผมรู้สึกว่า ผมคงไม่สามารถที่จะสอบถามลึกลงไปถึงรายละเอียดทางด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค ในเชิงลึกได้สักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ผมพบว่าคุณ Welles Wilder และภรรยาของเขานั้นเป็นคนที่อบอุ่น อัธยาศัยดี และมีน้ำใจเป็นอย่างมากครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่มีโอกาสได้พบกับคุณ Welles Wilder และผมนั้นรู้สึกยิ่งกว่าดีใจเสียอีก เมื่อเขานั้นได้กรุณามอบหนังสือหุ้นในตำนาน “New Concept in Technical Trading Systems” พร้อมกับเซ็นชื่อของเขากำกับลงไปให้กับผมเป็นที่ระลึกครับ
Oli hille
ตำแหน่ง : ผู้จัดการกองทุน
www.SolomonWealthFund.com
ฤดูร้อน
นิวซีแลนด์
บทสัมภาษณ์เซียนหุ้นในตำนาน J. Welles Wilder ผู้ให้กำเนิด RSI Indicator
ส่วนที่ 1 : คำถามเกี่ยวกับการเก็งกำไร
Oli Hille(OH): คุณนั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จากการเป็นผู้ที่คิดค้นเครื่องมือวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคที่โด่งดังมากๆ อย่างเช่น Relative Strength Index(RSI), Average Directional Index(ADX), และ Average True Range(ATR) แต่เครื่องมือการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคชิ้นไหนที่คุณคิดว่า เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดครับ?
Welles Wilder(WW): ผมคิดว่า Average Directional Index (ADX) ครับ
OH: นี่เป็น Indicator ที่คุณรู้สึกภูมิใจกับมันมากที่สุดด้วยหรือไม่ครับ?
WW: ผมคิดว่าน่าจะอย่างนั้นครับ
OH: ทั้งๆที่การวิเคราะห์ภาวะ Failure Swing Point นั้นเป็นจุดเด่นที่เป็นพิเศษของการใช้ RSI เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทำไมมันจึงถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์น้อยเหลือเกิน.. และมันพิเศษอย่างนั้นจริงๆหรือ?
WW: มันมีประสิทธิภาพมากๆครับ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเช่นกัน บางทีอาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจมันอย่างดีเท่าไหร่ก็ได้ครับ
OH: ตลาดเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหมครับ ตั้งแต่คุณเริ่มเข้ามาเก็งกำไร?
WW: ไม่มากเท่าไหร่ครับ!
OH: ที่ผ่านมานั้น คุณจัดจำหน่ายหนังสือ “New Concept in Technical Analysis” ของคุณอย่างไรครับ?
WW: ผมเคยเป็นนักเขียนหนังสือหุ้นที่ดีที่สุดคนหนึ่งในตลาดครับ ผมได้เคยทำการลงโฆษณาในนิตยสารหุ้นต่างๆ และผมได้เคยเช่ารายชื่อลูกค้าเพื่อทำการประชาสัมพันธ์ผ่านทางอีเมล์ครับ
ภรรยาของคุณ Wilder ได้พูดขึ้นว่า: “เขาได้ส่งบทความไปให้กับนิตยสาร Future Magazine และทางนิตยสารก็ได้ตีพิมพ์มันลงไป หลังจากนั้นยอดการจองซื้อก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ก่อนที่เราจะได้พิมพ์หนังสือเล่มนั้นเสียอีก”
OH: ถ้าย้อนกลับไปในปี 1978 นั้น หนังสือราคา 65 ดอลลาร์นั้นถือว่าแพงมากๆทีเดียว แต่คุณกลับขายมันได้อย่างมากมายได้อย่างไรครับ?
WW: ผมคิดใหญ่ครับ! หนังสือในขณะนั้นมีราคาตกเพียงเล่มละประมาณ 5-10 ดอลลาร์เท่านั้นเอง
OH: คุณทุ่มเทเวลาในการเขียนหนังสือเล่มนี้นานกี่ปีครับ?
WW: หลังจากที่ผมขาดทุนอย่างหนักนั้น ผมต้องหาทางทำเงินซักอย่าง! ผมจึงทำการค้นคว้า และเขียนหนังสือเล่มนั้นภายใน 6 เดือนครับ
OH: จะเป็นอะไรไหม ถ้าผมจะถามว่าคุณหมดตัวได้อย่างไรกันครับ?
WW: ผมหมดตัว หลังจากที่ผมเริ่มเก็งกำไรประมาณมา 10 ปีครับ
Mrs. Wilder: “เขาหมายถึงว่าเขาขาดทุนไปอย่างมาก ในการเก็งกำไรน่ะค่ะ!”
OH: ถ้าคุณไม่ถือ ผมขอรบกวนถามอีกครั้งหนึ่งได้ไหมว่า คุณเริ่มต้นการเก็งกำไรด้วยเงินประมาณเท่าไหร่ครับ?
WW: เมื่อก่อนนั้น ผมและเพื่อนอีกสองคนได้ร่วมกันลงทุนสร้าง Apartment ในช่วงปี 1960 หลังจากนั้นพวกเขาสองคนได้ทำการซื้อหุ้นส่วนของผมก่อนที่มันจะสร้างเสร็จ หลังจากที่ผมได้ขายหุ้นส่วนของผมไปแล้ว ผมจึงมีเงินอยู่ประมาณ 100,000 ดอลลาร์ในปี 1968 ครับ [ เงิน 100,000 ดอลลาร์ในปี 1968 นั้น จะมีค่าประมาณ 630,000 ดอลลาร์ในปี 2009 ครับ]
OH: คุณได้ขายลิขสิทธ์หนังสือของคุณให้กับสำนักพิมพ์ไหนหรือไม่ครับ?
WW: ไม่ครับ มันไม่เคยถูกตีพิมพ์จากใครทั้งสิ้นนอกจากตัวของผมเอง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในเดือนที่แล้ว(สิงหาคม 2009) มันยังถูกขายไปกว่า 3,000 เล่มทีเดียวครับ
[ หนังสือเล่มนี้นั้นถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1978 และไม่ได้ทำการแก้ไขเพิ่มเติมตั้งแต่นั้นมา แต่มันก็ยังขายดีเรื่อยๆในราคาที่เท่ากับราคาในปี 1978 นั่นก็คือ 65 ดอลลาร์ครับ นี่แสดงให้เห็นถึงปรากฏการณ์พิเศษบางอย่าง จากจากจัดจำหน่ายหนังสือด้วยตนเอง เชื่อหรือไม่ว่าหนังสือเล่มนี้ถูกขายไปในแต่ละปีมากกว่า 36,000 เล่ม ทั้งๆที่ถูกเขียนไว้เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้วครับ]
OH: อยากให้คุณช่วยกรุณาแนะนำบางอย่างให้กับ นักเก็งกำไรในทุกๆวันนี้ครับ
WW: ถ้าผมจะต้องให้คำแนะนำกับนักเก็งกำไรในตอนนี้ล่ะก็ ผมขอแนะนำให้เล่นทอง(GOLD) และเงิน(SILVER) ในขา Long เพียงอย่างเดียวครับ ผมคิดว่าราคาของทองน่าจะอยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายใน 2 ปีนี้ แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้น ระบบการวิเคราะห์ของผมได้ชี้ให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้ ที่เราอาจจะได้เห็นจุดสูงสุดของแนวโน้มระยะกลางของทองในช่วงประมาณวันที่ 10 ของเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 นี้ครับ
แม้ว่าราคาทองที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจจะดูเหลือเชื่อไปหน่อย แต่มันก็อาจจะลอยไปแตะอยู่ตรงนั้นได้ครับ
[จากการที่ผมได้พบกับ Welles Wilder ในการสัมภาษณ์ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมานั้น เขาได้แสดงให้ผมเห็นถึงพอร์ตโฟลิโอ และผลกำไรขาดทุนของเขาให้ดู ซึ่งจากคำแนะนำของเขานั้น ทุกๆหน่วยลงทุนที่เขาถือถึง 16 ชนิดนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Gold และ Silver ทั้งนั้น โดยในการสัมภาษณ์ครั้งแรกนั้นหน่วยลงทุน 15 จาก 16 ตัวของเขานั้นมีกำไร และในการสัมภาษณ์ครั้งที่สองนั้น ทั้ง 16 ตัวของเขามีกำไรทั้งหมดครับ]
OH: ทำไมคุณถึงมั่นใจกับทองคำมากครับ?
WW: ธนาคารกลาง และธนาคารยักษ์ใหญ่ต่างๆนั้น ได้พยายามที่จะขายทองออกมาก็จริง ซึ่งนั่นอาจทำให้ราคาพักตัวลงมา แต่ Hedge Funds ส่วนใหญ่ กำลังกระโดดลงไปในตลาดทองคำ เพราะในขณะนี้มีทางเลือกอยู่ไม่กี่ทางที่จะช่วยในการรักษามูลค่าของกองทุน ของพวกเขาเอาไว้ครับ และผมคิดว่าแรงซื้อของกลุ่ม Hedge Fund จะสามารถกลืนแรงขายของกลุ่มธนาคารยักใหญ่ได้ในที่สุดครับ
[เป็นที่น่าสนใจอย่างมากว่า เราได้รับคำแนะนำนี้ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่สถานีโทรทัศน์ Bloomberg.com จะได้รายงานว่า Paul Tudor Jones ผู้จัดการกองทุน และเซียนหุ้นในตำนานคนนี้ เขียนจดหมายถึงกลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุนของเขาว่า “ผมไม่เคยตื่นทองเลย สำหรับผม มันก็เป็นแค่ทรัพย์สินอย่างหนึ่ง ซึ่งมีที่อยู่ และช่วงเวลาของมัน ซึ่งในขณะนี้.. ก็ถึงเวลาของมันแล้ว”
โดยเรานั้นได้รับคำแนะนำนี้ ก่อนที่ประเทศอินเดียจะทำการซื้อทองจำนวน 200 ตันจาก IMF ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเช่นกันครับ]
OH: อะไรคือเครื่องมือบ่งชี้ทางเทคนิคที่คุณได้พบว่า มันเป็นเครื่องมือวิเคราะห์หุ้นที่มีประสิทธิภาพที่สุดแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่น นานแล้วก็ตามครับ?
WW: ผมขอพูดไว้ว่า “สิ่งที่ง่ายที่สุด คือสิ่งที่ดีที่สุดครับ”
ในตอนนี้ สิ่งที่ผมพยายามมองหาจากกราฟหุ้น หรือ Commodities ต่างๆก็คือ กราฟที่มันได้ทำการพักฐาน และพึ่งจะวิ่งพุ่งขึ้นมาจากฐานของมันครับ และนี่เป็นสิ่งที่ผมพยายามมองหาจากราฟต่างๆครับ
OH: นี่อาจเป็นเพราะผลจากประสบการณ์ในการวิเคราะห์หุ้นของคุณที่ผ่านมาหลายสิบปี หรือไม่ คุณจึงสามารถมองเห็นสัญญาณต่างๆที่เกิดขึ้นจากเครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ เพียงแค่การมองกราฟเท่านั้น?
WW: ใช่แล้วครับ
OH: หากว่าในตอนนี้ คุณมีอายุเพียงแค่ 44 ปี(อายุของผู้สัมภาษณ์) และคุณเป็นนักเล่นหุ้น หรือเก็งกำไรทางเทคนิคเต็มตัว คุณจะทำอะไรครับ?
WW: ผมก็จะทำอย่างที่ผมทำในตอนนี้ครับ! อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการอ่านกราฟไงครับ
ส่วนที่ 2 ของการสัมภาษณ์ : คำถามเกี่ยวกับการใช้ชีวิต
OH: อะไรคือบทเรียนที่สำคัญที่สุด ที่คุณได้เรียนรู้ในชีวิตของคุณครับ?
WW: การมีระเบียบวินัยครับ
OH: อะไรคือคำแนะนำของคุณ หากคุณสามารถย้อนกลับไปพูดกับตัวคุณเองได้เมื่ออายุเพียง 17 ปีครับ?
WW: เข้ามหาวิทยาลัย แล้วเรียนในสาขาที่ชอบซะ หลังจากนั้นก็พยายามทำเงินขึ้นมาจากสิ่งที่คุณได้เรียนไป
OH: คุณคิดว่าอะไร คือสิ่งที่ทำให้เด็กวัยรุ่นในทุกๆวันนี้ สามารถประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ครับ?
WW: มันคือการที่พวกเขาทำในสิ่งที่โลกไม่เคยมีมา แต่ต้องการมันอย่างมากครับ
OH: อะไรคือคำพูดดีๆ ที่มีส่วนช่วยให้กับชีวิตของคุณเป็นอย่างมากครับ?
WW: อย่ากัดมากกว่าที่คุณจะเคี้ยวมันได้!
OH: อะไรคือคำแนะนำที่ดีที่สุด ที่คุณเคยได้รับมาครับ?
WW: ให้เข้ามหาวิทยาลัยครับ
OH: อะไรคือความผิดพลาด ที่คุณได้เรียนรู้จากมันมากที่สุดครับ?
WW: การไม่รู้จักจัดการกับเงินที่มีอยู่ ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้มันจากความผิดพลาดของคุณเอง
OH: อะไรคือกิจกรรม หรือสิ่งที่ทำให้คุณเสียเวลาไปมากที่สุดในชีวิตของคุณครับ?
WW: ผมเป็นคนบ้างานมาทั้งชีวิต อย่างน้อยก็จนผมอายุของผมล่วงเข้า 70 ปี ผมคงไม่มีเวลาให้เสียหรือทิ้งขว้างหรอกครับ
OH: อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ ทั้งทางด้านการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคและการเก็งกำไร ในขณะที่หลายๆคนได้พยายามทำมันแต่ไม่สำเร็จครับ?
WW: ความดื้อรั้นมุ่งมั่น และความยืดหยุ่นไงครับ
แต่เมื่อคุณได้เจอกับสิ่งที่มันใช้ได้ดีในการเล่นหุ้นแล้วล่ะก็ จงใช้มันซะ! อย่าไปเสียเวลาพยายามมองหาสิ่งอื่นอีก
OH: หากมีคะแนนเต็มอยู่ 10 คะแนน ในการใช้ชีวิตของคุณได้เต็มศักยภาพที่สุดล่ะก็ คุณคิดว่าคะแนนของคุณน่าจะเป็นเท่าไหร่ครับ?
WW: 9 ครับ
OH: ยังมีสิ่งไหนอีก ที่คุณจะทำมันให้แตกต่างออกไปเพื่อให้ได้คะแนนเต็ม 10 คะแนนครับ?
WW: ผมไม่รู้เหมือนกันครับ
OH: อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณย้ายจากประเทศอเมริกา มาอาศัยอยู่ที่นิวซีแลนด์ในช่วงปี 1980 ครับ?
WW: เมื่อ 25 ปีที่แล้วนั้นผมได้รู้จากวงในมาว่า ประเทศอเมริกานั้นเต็มไปด้วยหนี้สิน ผมจึงคิดว่า “ประเทศไหนกันนะ จะเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกนี้?” ซึ่งมันน่าจะเป็นประเทศเล็กๆที่เป็นประชาธิปไตย และมีความเป็นสันติเป็นกลาง และไม่มีศัตรู และนิวซีแลนด์ก็กลายเป็นประเทศที่ผมเลือกที่จะใช้ชีวิตอาศัยอยู่ครับ
และนี่ก็เป็นทั้งหมดของบทสัมภาษณ์ J Welles Wilder ผู้ที่พลิกโฉมวงการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคให้เข้าสู่ยุคของคณิตศาสตร์คนแรกๆ ของโลกครับ ถึงแม้ว่าวันนี้ Indicator ต่างๆที่เขาได้คิดค้นขึ้นอาจถูกแทนที่ด้วยคณิตศาสตร์ชั้นสูงของโลกในยุคนี้ แต่เราก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเขามีบทบาทของเขาในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่างมากมายซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยจุดประกายให้นักเก็งกำไรอีกหลายๆคนได้พัฒนา สิ่งที่ก้าวหน้าต่อมา แล้วเจอกันใหม่ครับที่ แมงเม่าคลับ.คอม แห่งนี้ สวัสดีปีใหม่ครับ