เว็บบอร์ดของ DSM ตอนที่ 2

ยินดีด้วยครับกับบ้านหลังใหม่แจ้งลบกระทู้


สวัสดีครับ ... คุณเทพ

               ดีใจที่จะได้อ่านบทความ ดี ดี จากคุณเทพเหมือนดังแต่ก่อน หลังจากที่คิดถึงมานานแสนนาน

..................................


ผู้ตั้งกระทู้ loaw :: วันที่ลงประกาศ 2009-05-04 20:45:30

<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความเห็นที่ 51 (1471818)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับพี่ทู



ขึ้นซื้อ   คือ   หักหัวขึ้นมา   3  ช่อง  ก็ซื้อครับ



จุดที่ราคาสูงกว่าเดิม  คือ   ราคาที่สูงที่สุดเลยครับพี่ทู   ( ของข้อมูลชุด  ร้านยาเสมือนจริง  ครับ  )

ส่วนราคาที่ต่ำกว่าเดิม   ก็คือ  ราคาตัวต่ำสุด  (  ของชุด   ร้านยาเสมือนจริง   นะครับ  )





จำนวนการซื้อ  และ ขาย   เท่ากันทุกไม้ครับพี่ทู



..................................................





ส่วนเรื่องร้านก๊วยเตี๊ยว    พี่ทู  น่าจะลองคุยกับ พี่วรงค์    (  พี่กุ้งไร้สาร )    หมายถึง  ในแง่การทำธุรกิจนะครับ



(  มาตอบช้าไปหน่อยครับพี่    พอดีวุ่นไปหน่อยกับเกมส์คาบาล  ครับ  แหะ  แหะ   )






ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ เองครับ วันที่ตอบ 2009-11-23 09:09:51


ความเห็นที่ 52 (1481302)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีปีใหม่ครับ .... คุณเทพ



                          ปีใหม่นี้ก็ขอให้ครอบครัวของคุณเทพ .... จงพบแต่ความสุขความสมหวัง ... เงินทอง

ไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ... ตลอดไป



...............................................


ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-01-07 21:43:37


ความเห็นที่ 53 (1481885)   
แจ้งลบความคิดเห็น



สว้สดีครับพี่ทู



    สุขสันต์   มีความสุข   สมหวัง   มีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง    ทั้งครอบตรัว   ตลอดปี    นะครับพี่ทู



     (  ยิ้มแย้ม   ยิ้ม  ยิ้ม  )






ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-01-10 21:24:57


ความเห็นที่ 54 (1482649)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ ... คุณเทพ



                     เรื่องร้านเกี๋ยวต๋วย ตอนนี้หยุดขายไปแล้วครับ เพราะขายได้น้อยมาก คงต้องพักไปก่อนแล้วค่อยคิดอ่านกันอีกทีว่าจะทำอะไรต่อดี สำหรับคนตาเดียว กับคนที่ไม่รู้หนังสือ

                     ที่คิดไว้กับน้องวันตอนนี้ก็ หาบ้านเช่าที่ราคาถูกลงกว่าเดิม แล้วให้พี่สะไภ้รับซักรีด แล้วตอนเย็นก็ยังไปขายน้ำที่ รร.ตามเดิม ส่วนตัวพี่ชาย ก็คิดว่าจะลงทุนให้สักก่อนเพื่อลองเทรดหุ้นดู  จากนั้นก็ค่อยๆมองหาช่องทาง ดูไปเรื่อยๆว่ามีที่น่าจะทำอะไรดีหรือเปล่า ปัญหาหลักตอนนี้ก็คือ เงินทุน  ต้องค่อยๆสะสมเสียก่อน โชดยังดีที่ปีนี้ยังได้โบนัสตั้ง 5.5 เดือน ( ทั้งๆที่เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี )

                     ก่อนหน้านี้ผมก็เคยปรึกษาพี่กุ้งเกี่ยวกับการทำกาแฟสด ( โดยจะให้น้องวันเป็นคนทำ ) แต่จากข้อมูลที่บอกไปพี่กุ้งประเมินแล้วว่าทำเลไม่เหมาะที่จะทำ ก็เลยยังไม่ได้ทำและก็น้องก็มายุ่งอยู่กับการเลี้ยงลูกทั้งสองคน ก็พับแผนไปก่อน อีกหนึ่งปีน้องโฟร์ก็จะไปโรงเรียน อาจจะนำมาปัดฝุ่นดูใหม่อีกครั้งก็ได้

                      แต่ใจจริงแล้วก็ไม่อยากให้น้องวันทำหรอกครับ เพราะอยากให้น้องวันให้เวลากับลูกมากกว่า.

...................................

                     เรื่องร้านยา เสมือนจริง ยัง งง งง อยู่ครับ โดยเฉพาะการเข้าครั้งแรกครับ สมมุติว่าหุ้น เอ ราคาปิดวันนี้ 5.70  พรุ่งนี้จะเข้าซื้อครั้งแรกยังไงครับ

                     กรณีลงเราก็ปล่อย ให้ลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหักหัวขึ้นมา 3 ช่อง แล้วค่อยเข้าซื้อไม้แรก และไม้ต่อๆไปทุกการขึ้นไปอีก 5 ช่อง เช่น ราคาลงไปถึง 5.20 แล้วกลับขึ้นมา 5.35 ก็ซื้อไม้แรก ไม้สอง 5.60 , 5.85 , 6.10 , 6.35 ตามลำดับ แล้วหักหัวลง ก็จะเริ่มขายไม้แรกที่ 6.20 และไม้ต่อไปที่ 5.95 , 5.70 , 5.45, 5.20 ตามลำดับแล้วกลับตัวขึ้นมาอีก ก็เข้าซื้อใหม่อีกที่ 5.35 , 5.60 , 5.85 ตามลำดับ

                     มาถึงตรงนี้เราก็จะถือว่าราคาสูงสุดและต่ำสุดที่ 6.35 กับ 5.20  หรือว่าเอาราคาที่ขึ้นไปสูงสุด ( สมมุติขึ้นไปสูงสุดที่ 6.50 ) 6.50 กับ 5.20 ที่จะเริ่มซื้อและขายทุกช่องเมื่อทะลุ 6.50 หรือ 5.20

                     ตามตัวอย่างข้างบน หากราคาไม่ไปไหน มันก็ทำให้เราซื้อๆขายๆซ้ำๆราคาเดิมๆ หรือไม่ก็ทำให้ซื้อๆขายๆทุกช่องราคาเลยหรือเปล่าครับ

...................................

                     กรณีขึ้นก็จะเข้าซื้อไม้แรกที่ 5.95 และไม้ต่อๆไปที่ 6.20 , 6.45 , 6.70 , 6.95 ตามลำดับ หากลงสามช่องก็เริ่มขายไม้แรก 6.80 , 6.55 , 6.30 , 6.05 ตามลำดับ

.................................



                                       
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-01-13 12:45:08


ความเห็นที่ 55 (2034031)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ

                     ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดใช้ ( สวัสดีปีใหม่แบบจีนจีน ) ... ขอให้ รวย รวย มั่ง มี ศรีสุข

                      และ happy valentine .....

                     ............................................

                     น้องโฟร์ก็พึ่งครบ 2 ขวบไปได้ไม่กี่วันนี้เอง  ยังคงต้องคอยพยายามสอนให้พูดต่อไปครับ เพราะพึ่งพูดติดกันได้แค่สองคำเองครับ

ยังดีกว่าเดิมที่พูดได้แค่เป็น คำ คำ คิดว่าพอสองคำได้  คงอีกไม่นานน่าจะพูดเป็นประโยคได้ ( แอบเอาใจช่วยครับ )       

                    .............................................



                     ผมทดลองรันแนวทางร้านขายยาของคุณเทพกับข้อมูลเก่า  แรกๆก็ยังเป็นไปด้วยดี พอมากเข้าก็ งง งง คงต้องกลับไปลำดับขั้น

ตอนใหม่อีกครั้ง ว่ามันไปติดตรงไหนทำไมมัน งง งง

                     .............................................
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-02-14 22:57:32


ความเห็นที่ 56 (2034932)   
แจ้งลบความคิดเห็น



สวัสดีครับพี่ทู



ผม มัวแต่เล่นเกมส์มากไปหน่อยครับ  แหะ แหะ     ตอนนี้รู้สึกเวลาที่หายไปส่วนใหญ่   จะไปกับเกมส์คาบาล   (  เล่นไป   ทำงานไป   เทรดหุ้นไป    เลี้ยงเฟ-รินด์ไป     แบบ    multiworks   เลยครับ    อิอิ  )



ตอนเฟ-รินด์   2  ขวบ  3   เดือน   เค้าแทบไม่พูดสักคำเลยครับพี่ทู

ตอน นี้   2   ขวบ  9  เดือนแล้ว   พูดคล่องเลยครับ      พูดไทยปนอังกฤษเลยครับ    แล้วยังมีการเถียง   และ   ออกความเห็นด้วยนะครับ    อิอิ

ถ้าน้องโฟร์   หูสามารถได้ยินตามปกติ     รับรองครับว่า   ต้องพูดแน่นอน     ประสบการณ์จากเฟ-รินด์เป็นประกันเลยครับ





ส่วนร้านยาเสมือนจริง   จะมี   2  รูปแบบ



1. ถ้ารูปแบบแรก   ด้านหัวและท้าย   เริ่มด้วยการซื้อถูกขายแพง     จะเห็นยอดกำไรเป็นบวกก่อนได้เลย

2. ถ้ารูปแบบเป็นแบบ    ด้านหัวและท้าย  เริ่มด้วยการ   ขายถูกกว่าซื้อ   (  ซื้อแพงกว่าขาย )   จะเห็นยอดกำไรเป็นลบครับ    แต่จะค่อย ๆ  ทำกำไรกลับมาเป็นบวกได้    โดยการทำให้เป็นลักษณะข้อมูลปล่องตรงกลาง   (  เหมือนรูปไข่ )



ผม บอกเท่านี้นะครับ    เป็นแนวทางให้พี่ทูค้นหาต่อครับ      ที่เหลืออยู่ที่ว่า  จะอดทนทำได้แค่ไหน      ที่สำคัญคือ   ยิ่งทำนาน   ยอดกำไรสะสมจะยิ่งเพิ่มขึ้น     ในขณะที่ต้นทุนในการลงทุน   จะไม่มากเลยครับ



แต่ อยากให้ทดสอบในกระดาษให้สบายใจก่อน     เพราะหากซื้อขายจริงโดยที่ยังไม่เข้าใจรูปแบบของมัน   ก็อาจจะท้อและถอยได้    พอเลิกกลางทาง    ก็เหมือนกันคือ ..............   เสียหาย   ครับ





( ยิ้มแย้ม )


ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-02-17 09:24:00


ความเห็นที่ 57 (2036561)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ

                      อยาก เล่นเกมส์ไป  ทำงานไป  เทรดหุ้นไป  อย่างคุณเทพจัง แถมด้วยกาแฟเย็นอีกสักแก้ว

ด้วยแล้วสุดยอดเลย .... ดีใจกับคุณเทพด้วยครับที่น้องเฟ-รินด์ ( ทำไมชื่อน้องไม่เขียนติดกันครับ )

สามารถพูดได้สองภาษาสมความตั้งใจของคุณพ่อคุณแม่  น้องโฟร์อาจได้แค่ภาษาครึ่งมั่งครับ ( ไทย-

ลาว ... หัวเราะ )

                     ปัญหาหนักตอนนี้ก็คือ น้องทรีแก่ดื้อมาก มาก ไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อ-แม่เลย โดยที่แก่จะมี

เหตุผลของแก่ตลอด ( ตรงนี้ก็เข้าใจและก็ให้แก่แสดงความคิดเห็นออกมา ) แต่ในบ้างครั้งเหตุผลก็ฟังไม่

เข้าท่าและแก่ก็จะไม่ยอมทำตามที่เราอธิบายให้ฟัง เหนื่อยมาก มากเลย ( มาถึงตรงนี้ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า

รักคุณพ่อคุณแม่ของเรามากยิ่งขึ้น เพราะแก่ก็คงจะเหนื่อยกัยเรามาไม่น้อยเหมือนกัน )

..........................................

                      อ่านแนวทางทั้ง 2 ที่คุณเทพแนะนำมาแล้วก็พอมองเห็นรูบแบบราง แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะ

ใช่หรือเปล่า  แต่มีข้อสงสัยอยากถามคุณเทพอีกนิดครับว่า ไม่ว่าพอร์ตจะเริ่มต้นด้วยเงินทุน ( ไม่มีหุ้น

เลย ) กับพอร์ตที่เริ่มด้วยมีแต่หุ้น ( ไม่มีเงิน ) หรือเริ่มด้วยทั้งมีหุ้นและมีเงินด้วย มันก็จะมีรูปแบบการเทรด

ทั้งสองแบบอยู่ด้วยกันใช่ไหมครับ หรือว่ามันแยกรูปแบบออกจากกันตามการเริ่มต้นพอร์ตมาเริ่มจากจุด

ไหนและอีกอย่างที่คุณเทพว่าไว้ในรูปแบบที่สอง  แต่จะค่อย ๆ  ทำกำไรกลับมาเป็นบวกได้    โดยการทำ

ให้เป็นลักษณะข้อมูลปล่องตรงกลาง   (  เหมือนรูปไข่ )   ตรงนี้แสดงว่าเราสามารถซื้อ-ขายซ่ำกับราคา

เดิมที่มีการซื้อ-ขายไปไล้วได้ใช่ไหมครับ

.........................................

                      
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-02-21 13:39:58


ความเห็นที่ 58 (2036631)   
แจ้งลบความคิดเห็น



สวัสดีครับพี่ทู



ชื่อของ  เฟ-รินด์    มาจากคำว่า   Friend   ครับ    ซึ่งถ้าอ่านว่า   เฟรนด์    ผมจะรู้สึกว่า   ฝรั่งไป   (  มะชอบครับ  )   อิอิ



เลยดัดแปลง  เพิ่มเติม  ออกมา  ให้ออกเสียงแบบไทย   ก็จะเป็น    เฟรินด์  (  อ่านว่า  เฟิน )    แต่   ...   อยากให้ชื่อของเค้ามีความเฉพาะตัว   ไม่อยากให้ออกเสียงฝรั่ง     จึงผันเสียงออกมา   โดยใช้   ขีดคั่นชื่อ   ......   กลายเป็น    เฟ-รินด์    (   อ่านว่า    เฟ    ริน    (   Fe - rin  )



..................................................................................



ผมเองก็ไม่เคยเลี้ยงลูกมาก่อน     เฟ-รินด์เป็นคนแรก    (  แหะ  แหะ  )     แต่กติกาในครอบครัวที่ตกลงกันคือ

แม่กุ้ง   จะห้ามดุว่า  เฟ-รินด์อย่างเด็ดขาด         พ่อเทพ   จะเป็นคนดุ  คนเดียว



เหตุผลคือ    เมื่อถึงวันที่เค้าโตขึ้นเรื่อย  ๆ     เค้าจะรู้ได้ว่า       มีปัญหาอะไร   ก็คุยกับแม่กุ้งได้ตลอด    แม่จะไม่ว่า   ไม่ดุ   ไม่ด่า  เลย  

เพื่อให้เค้ากล้าที่จะปรึกษา  และ เล่าปัญหาของเค้า    ให้แม่ฟัง      (   เด็กวัยรุ่นสมัยนี้    ส่วนใหญ่เมื่อมีปัญหา    มักไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่    เพราะ  พอปรึกษา  พ่อแม่มักว่า   หรือ  ดุด่า  กลับมา   ( แม้จะด่าเพราะรัก  )       เด็กจึงเลือกที่จะปรึกษากับเพื่อนแทน    นั่นยิ่งอาจทำให้ปัญหาลุกลามไปใหญ่   เพราะการแก้ปัญหาของเด็ก    ก็ยังแก้แบบเด็ก  ๆ  )



แม่กุ้งจึงไม่ว่า   ไม่ดุ   เฟ-รินด์เลย   ไม่ว่าเค้าจะดื้อแค่ไหน 



พอแม่ไม่ดุ  ไม่ว่า    เค้าจึงดื้อ     แต่พอดี้อ     ผมจะดุมาก      ทำให้เค้ารู้ว่า        ผมเอาจริง



ทำให้เค้าสามารถผ่อนคลายได้  หากอยู่กับแม่    แต่ต้องมีกติกา   ถ้าพ่ออยู่ด้วย     นี่เป็นแนวของผมที่คิดเอาเองนะครับ    แหะ แหะ



.......................................................................................



แนวทางหุ้นแบบนี้    จะเริ่มแบบมีหุ้น  มีเงิน   ก็ได้ครับ       ปัญหาของแนวทางนี้   อยู่ที่ว่า    มันทำรายได้ได้น้อย    เพราะได้แค่ทีละนิด    แต่สิ่งที่ได้เปรียบคือ     ใช้เงินทุนไม่มาก



ส่วนที่เหลือคือ    ต้องพยายามทำให้   การขายแพงกว่าการซื้อ   ( ตรงนี้ต้องลองคิดเองนะครับ )



ส่วนทีบอกว่า   ป่องตรงกลาง  ( เหมือนรูปไข่ )     ใช่ครับ  คือการซื้อขายซ้ำไปซ้ำมาตรงข้อมูลในช่วงนั้นครับ



..................................................................



( ยิ้มแย้ม )   ผมไปนอนดู    แมนซิตี้  แข่งกับ  ลิเวอร์พูลก่อนนะครับ     อิอิ




ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-02-21 23:47:55


ความเห็นที่ 59 (3161970)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ



                     ผมลองเทรดร้านยาตามแนวทางที่คุณเทพแนะนำกับฐานข้อมูลเก่า ( ครั้งก่อนทำไปแล้ว งง )  หลังจากได้คำแนะนำเพิ่มเติมจาก

คุณเทพ ก็ลองใหม่ดูเหมือนจะไปด้วยดี  และก็ใช้เงินไม่เยอะอย่างที่คุณเทพว่า ( ไม่รู้ผมเข้าใจผิดหรือเปล่า ) เพราะหลังจากที่เราซื้อ-ขาย

ตามกฏไปเรื่อยๆ ก็จะมีข้อมูลที่ขายแพงกว่าข้อมูลที่ซื้อ ผมก็เอามาจับคู่กัน มันก็จะเหลือแต่ข้อมูลที่ยังจับคู่ไม่ได้ทั้งสองฝั่ง คือ ซื้อแพง ( รอ

ข้อใหม่ที่จะขายได้แพงกว่ามาจับคู่ ) กับ ขายถูก ( รอข้อมูลใหม่ที่ซื้อถูกกว่ามาจับคู่ )



                    หลังจากที่เราทำการจับคู่ข้อมูลซื้อขาย เงินทุนของเราก็จะกลับคืนมา เพื่อรอซื้อใหม่ ( และก็มีเงินรายได้เพิ่มเข้ามาตามจำนวน

การจับคู่ ) คราวนี้ก็เลยมีข้อสงสัยที่อยากจะให้คุณเทพช่วยแนะนำเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ เกี่ยวกับจำนวนหุ้นในแต่ละครั้งที่ซื้อเมื่อเทียบกับเงิน

ทุนเริ่มต้น เพื่อความสมดุลย์ของพอร์ต



                    สมมุติว่าเงินทุนเริ่มต้น 1 แสนบาท หากจะเล่นกับหุ้นที่ราคาอยู่ที่ 6 บาท จำนวนหุ้นที่จะเข้าซื้อแต่ละไม้เท่าไรดีครับ ( มีหลักใน

การคิดไหมครับ )



.....................................................



ปล. ตอนนี้น้องโฟร์เริ่มคุยได้มากขึ้นแล้วครับ แต่ก็ยังออกเสียงได้ไม่ค่อยชัด   คงต้องรอเวลาอีกหน่อยอย่างที่คุณเทพว่าไว้เลย ..... ยิ้ม



.....................................................
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-03-06 16:36:49


ความเห็นที่ 60 (3161983)   
แจ้งลบความคิดเห็น



สวัสดีครับพี่ทู



ดีใจกับน้องโฟร์ด้วยครับ   เย้วเย้ว   อิอิ



อีกไม่นาน   พี่ทูก็จะบ่นว่า     ทำไมน้องโฟร์พูดมากจัง    (   55555555+   )



คำ แรกของเฟ-รินด์ที่เค้าพูด      เค้าพูดตอนดูการ์ตูนในทีวีอยู่ครับ      พอการ์ตูนบอก  bye  bye     เฟ-รินด์ก็ชี้แล้วพูดว่า    บ๊ายยยยยยย  บายยยยยยยย



ผมกับกุ้ง   เงียบ  หันมามองหน้ากัน  แล้วเข้าไปอุ้มเค้า     ลองถามให้เค้าพูดอีกเพื่อความแน่ใจ  



พอเค้าพูดอีก    บ๊ายยยย  บายยยยยยย    ผมกับกุ้งน้ำตาซึมเลยครับ     คำแรกของเค้าที่ผมกับกุ้งมั่นใจว่าเค้าพูดแล้ว



ก่อน หน้านี้เวลาเค้าเห็นมาม่า   เค้าก็พูดว่า   มาม่า    แต่ผมไม่มั่นใจ  เพราะ          พยัณชนะ  ม.ม้า    เด็กจะออกเสียงง่าย   เหมือนกรณีเรียก  แม่  หม่ำ 



แต่  บ.ใบไม้    ไม่ใช่พยัณชนะที่เด็กจะออกเสียงได้เอง     ผมเลยยึดคำว่า  บ๊ายยย บาย  เป็นคำแรกของเฟ-รินด์



(  ตอนที่กำลังพิมพ์คุยกับพี่ทู    เฟ-รินด์ก็แย่งแม่ดูดฝุ่น  แล้วเรียก    คุณพ่อ   come  on  ,   come  on   (    ยิ้มแย้ม  )



.....................................................



เรื่อง จำนวนหุ้น   ให้พี่ทูลองเริ่มด้วยไม้ละ    1 เปอร์เซนต์ของวงเงินก่อนเลยครับ    ( จากยอด  1  แสน   หุ้นละ  6  บาท  ก็ไม้ละ  200  หุ้น  )



ถ้าทำแล้วเงินไม่สะดุด  ( ซึ่งไม่น่าจะสะดุดเลย  )    ก็ค่อยเพิ่มจำนวนไม้ครับ



และ  อยากให้พี่ทูทำโดยการเพิ่มจำนวนข้อมูล   แทนการจับคู่ลบข้อมูลครับ    เช่น     จากเดิมไม้ละ  200  หุ้น     ไม่ต้องจับคู่ตัดทิ้ง   แต่ให้พยายามทำเป็นไม้ละ   300  หุ้น   400  หุ้น    ในทุกช่อง   ( เหมือนการวางหมากลงไปเพิ่มครับ  )



โดยเฉพาะช่วงราคาที่มีการซื้อขายซ้ำไปซ้ำมา    (  ไซค์เวย์ ) 



การไม่ลบข้อมูล    น่าจะทำให้พี่ทู   มองเห็นอะไรได้ง่ายขึ้นกว่าการจับคู่แล้วลบครับ



(  ยิ้มแย้มมมมมมมมมมม   )



....................................................................




ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-03-06 19:03:14


ความเห็นที่ 61 (3162040)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ



                       ที่คุณเทพบอกว่าไม่ต้องจับคู่ ในเพิ่มจำนวนข้อมูลในแต่ละราคา ( ทั้งข้อมูลฝั่งซื้อ กับ ฝั่งขาย ) แล้วอย่างนี้มันก็ยัง

จะไม่เกิดรายได้ขึ้นเลยใช่ไหมครับ แล้วรายได้มันจะเกิดขึ้นตอนไหนหรือครับ



.......................................
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-03-07 10:21:45


ความเห็นที่ 62 (3162082)   
แจ้งลบความคิดเห็น



สวัสดีครับพี่ทู



รายได้ จะเกิดทุกครั้งที่   ซื้อคุ่กับขายครับ   เพียงแต่ว่า  แทนที่เราจะจับคู่แล้วลบข้อมูลทิ้ง    เราก็ไม่ต้องลบข้อมูลครับ



เพียงแต่ว่า   ถ้าด้านซื้อ   มีหุ้น   เช่นเดิมไม้ละ   200  หุ้น   แต่มีช่องหนึ่งซื้อกลายเป็น   400  หุ้น    ถ้าด้านฝั่งขาย   ก็จะต้องวางขายไม้  400  หุ้นที่คู่กันด้วยครับ



เมื่อวางคู่กันได้  (  ไม่ต้องลบข้อมูลทิ้ง )    แค่นี้  ส่วนต่างก็คือรายได้แล้วครับพี่ทู



( ยิ้มยิ้ม )






ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ เองครับ วันที่ตอบ 2010-03-07 15:09:58


ความเห็นที่ 63 (3166695)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ



                      ตอนนี้ก็เริ่ม มองเห็นแนวทางร้านขายยาเสมือนจริงมากขึ้นกว่า แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า คงต้องลองรันกับข้อมูลต่อไป

อีก เพราะยังคงไปลงจริงในตลาดยังไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้ผมไม่สามารถดูตลาดได้เพราะถูกบังคับให้ไปเรียนหลักสูตร PI-CHEPS ต้องเรียน

ตั้ง 1 ปี ทุกวัน จ.-ศ. เลย  ...  รู้สึกว่าสมองมันขึ้นสนิมไปหมดแล้ว ขนาดเคมีเบื้องต้นยัง งง งง อยู่เลย กว่าจะเข้าใจก็เล่นเอา อ.เหนื่อยเลย ที่

สำคัญยังคนที่อาการหนักกว่าอีกตั้งหลายคน คิดๆแล้วก็อดสงสาร อ. ไม่ได้ว่าคุ้มหรือเปล่าที่รับมาสอนหลักสูตรนี้ ..

                      ส่วนน้องวันผมก็อยากให้มีเวลากับน้องโฟร์ให้มาก มาก เพราะปีหน้าก็จะเริ่มเข้า รร. แล้ว ...... วันก่อนทาง รร. น้องทรีประกาศผล

การเรียน ปรากฎว่าน้องทรีทำได้ดีกว่าเทอมที่แล้ว คือ เทอมก่อนได้ 95.3% ( ได้ลำดับที่ 6 )พอมาเทอมนี้ได้ 98% ( ได้ลำดับที่ 3 )  ก็รู้สึก

ว่าหายเหนื่อเลย แต่ต้องจ่ายค่าขนมเพิ่มให้กับน้องทรีอีก 5 บาท เพราะน้องทรีตกลงไว้ตั้งแต่แรกว่าถ้าสอบได้ไม่เกินที่ 3 ขอค่าขนมเพิ่ม 5

บาท แต่ถ้าได้ที่เดเกิน 10 จะยอมให้ตัดค่าขนม 5 บาท มาคิดอีกทีก็รู้สึกว่าเขาเริ่มมีความรับชอบต่อตัวเองมากขึ้น ( เพราะอยากจะเอาชนะ

พนันกับผมหรือเปล่า .. 555 ... )

                      วันนี้เข้าไปอ่าในคลับ ดูเหมือว่ามีการเอาข้อความของคุณเทพไปเผยแพร่ในคลับ ผมไม่รู้เขาได้รับอนุญาติจากคุณเทพหรือยังก็

ไม่รู้ เพราะผมเข้าใจว่าคุณเทพอยากจะอยู่แบบเงียบ ...

...............................................
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-03-16 21:59:15


ความเห็นที่ 64 (3167255)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับพี่ทู



เรื่อง ที่เอาเวปไปโพสค์  ผมเพิ่งทราบจากพี่ทูนี่ละครับ    แต่เห็นลิงค์ที่แปะไว้   เข้าไม่ได้  ผมคิดว่า   เค้าคงบล็อค.เผื่อไว้ให้แล้วครับ    แหะ  แหะ



ที่ เขียนไว้ในเวป    เป็นสรุปย่อ  ๆ  กระทัดรัดครับ     ส่วนรายละเอียด   ผมเก็บไว้ในครอบครัว     เพราะหากกุ้งกับเฟ-รินด์ทำได้แล้ว    การเข้าเวปครอบครัวเข้ามาอ่านสรุป    ก็จะเหมือนช่วยเตือนความจำไม่ให้ลืมหลักของ   DSM   ครับพี่     รายละเอียดจึงไม่ได้ใส่ไว้ในเวป 



เรื่องเรียน     เป็นการเรียนเกี่ยวกับอาชีพทางไหนครับพี่ทู    แล้วทำไมจึงไปเรียนครับ     มีเคมีด้วย    อิอิ



วันนี้ผมคงต้องนอนดึกอีกแล้วครับ     รอดู  บาเซโลน่า    ตอน  02.45   น.    ไม่รู้ว่า   จะนอนดูบอล   หรือ  บอลดูผมนอนแน่



อิอิ  ยิ้มแย้ม   ยิ้มแย้ม


ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-03-17 23:22:45


ความเห็นที่ 65 (3167763)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ



                     เรื่องโพสค์ผมยังมีความรู้สึกว่ายังไงก็น่าจะขออนุญาติเจ้าของก่อนน่าจะ เหมาะสมกว่าครับ  แม้จะเป็นความหวังดีต่อผู้อยู่ในคลับก็

ตามที  แต่ไงก็โอเคแล้วครับเพราะคุณเทพรับรู้ไปแล้ว .....

                     ส่วนเรื่องเรียนก็เป็นหลักสูตรคล้ายกับของวิศวกรเรียนนั้นแหละครับ แต่เป็นฉบับมินิ ก็เรียนทั้งเลข เคมี เทอร์โมไดนามิก และอื่น

เหมือนๆกับวิศวกรนั้นแหละ ( คำนวณเพียบเลย ) อายุมากแล้วเลยตาม อ.ไม่ค่อยทัน แต่มีอยู่วิชาหนึ่งชอบมากก็คือ จิตยามนุษย์ เพราะ

สามารถนำมาใช้กับคนในครอบครัวได้ดีเลยละครับ  ทำให้เข้าใจอะไรเกี่ยวกับที่มาของความคิดของแต่ละคนว่ามีเหตุผลแบบไหนรองรับกับ

ความคิดแบบนั้น

                      ที่สำคัญเรียนจบหลักสูตรแล้ว วุฒิก็ไม่ได้ ( เพราะเป็นแค่มินิ ) พอกลับไปทำงานตำแหน่งก็ไม่ปรับให้ เงินก็ไม่ปรับเพิ่มเช่นกัน

แล้วอย่างนี้ให้ไปเรียนทำไหมก็ไม่รู้  ที่รู้คือว่าทุกคนที่เรียนจบต้องทำโปรเจ็กคนละ 1 เพื่อช่วยให้ บ.ประหยัดหรือมีกำไรมากขึ้นจากโปรเจ็ก

ตอนนี้เรียนมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้วก็ เริ่มจะชินแล้ว อาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์ก็จะไปอยู่ที่วัดเพื่อไปเรียนเรื่องการนั่งสมาธิ และการเดินจงกลม

พร้อมธรรมะด้วย ( กินสองมื้ออีกต่างหาก ) ... คงคิดถึงครอบครัวน่าดูเลย ( โดยเฉพาะเจ้าตัวน้อยกำลังซนและน่ารักมาก )

                     ช่วงนี้ว่างๆก็จะรันการเทรดแบบร้านขายยาไปเรื่อยๆ เพื่อจะเจอปัญหาจะได้มาถามคุณเทพให้กระจ่าง ก่อนจะเทรดจริงปีหน้าถึง

ตอนนั้นคงจะมีความมั่นใจมากขึ้นตามไปด้วย

                     ปล. ผมดูรายละเอียดโครงการ DSM สามโครงหลัก ไม่ออกครับ เพราะมันไม่ชัดรบกวนคุณเทพช่วยปรับปรุงให้อ่านได้ด้วยครับ ( ถ้าไม่เป็นความลับ )

..................................
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-03-18 18:51:02


ความเห็นที่ 66 (3168413)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับพี่ทู



หรือว่าที่เค้าให้พี่ทูไปเรียน   เพราะว่า   กลัวพี่ทูจะว่างครับ  (  แหะ แหะ  ล้อเล่นครับ  )



เรื่อง   DSM   สามโครงหลัก   พอดีว่า  ผมไม่รู้จะเอาภาพลงเวปอย่างไร   เลยถ่ายรูปซะเลย   มันเลยไม่ชัดครับ     เลยลงมันแบบนี้เลย   เผื่อจะเป็นจุดสนใจให้เพ็งอ่านเพราะอยากรู้มากขึ้น   (  ยิ้มแย้ม  )



รายละเอียดคร่าว  ๆ  ก็คือ



ตัว เริ่ม   คือ  ร้านยา ( ธุรกิจ  )      ......   ตัวเชื่อม  และเป็นที่พักเงิน  คือ   อสังหาริมทรัพย์    ......   ส่วนเครื่องปั้มเงิน  คือ   พอร์ตหุ้น



แรกเริ่มผมมาจากร้านยา     ผมเรียกว่าธุรกิจเลยนะครับ  



ดัง นั้น   DSM   คือการสะสม   จะสะสม  3  การลงทุนเข้าด้วยกัน  เพื่อช่วยยึดความมั่นคงแก่กันและกัน   นั่นคือ   ธุรกิจ   อสังหา ๆ    และ  หุ้น



ธูร กิจ  ( ร้านยา  )   เป็นหน่วยที่ต้องลงแรง  ลงเวลาหาเงิน    เป็นหน่วยที่จำเป็นต้องมี   เพราะการติดต่อผ่านธนาคารทุกอย่าง   จำเป็นต้องใช้หลักฐาน  (  เสตรทเม้นท์ )   เป็นตัวพิจารณา  



เมื่อ ธุรกิจทำเงินได้    เงินส่วนที่เหลือจากธุรกิจ   (  ทั้งค่ากินอยู่   ค่าใช้จ่าย   และ   ค่าเพิ่มกิจการทีละนิด  )     จะถูกแบ่ง  เป็น   2  ส่วน

        ส่วนแรก   75  เปอร์เซนต์   จะถูกนำไปสะสมอสังหาริมทรัพย์     โดยพยายามซื้อผ่านธนาคารในรูปของโอดี

         ส่วน  25  เปอร์เซนต์   จะถูกนำมาลงเพิ่มในพอร์ตหุ้น





อสังหาริม ทรัพย์    ที่สะสมได้   และ  ถูกแปลงทรัพย์เป็นทุนแล้ว   ( ในรูปโอดี )      จะเป็นเงินทุน  สำหรับรอซื้อหุ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นตกต่ำ      นั่นคือ   อสังหาริมทรัพย์ จะเป็นแหล่งที่พักเงิน   

เหตุที่เอาหน่วยนี้เป็นแหล่งพักเงิน  เพราะว่า    ในระยะเวลาผ่านไป    หน่วยนี้  มูลค่าจะค่อย ๆ  สูงขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ





พอร์ต หุ้น    หน่วยนี้  จะเป็นเครื่องปั้มเงิน     ถ้าหุ้นปกติ    หน่วยนี้ก็จะทำเงินไปเรื่อย  ๆ     เงินที่ได้    ที่เรียกว่า    กระแสเงินสดแฝง  นั่นละครับ      กสงฝ.   จะถูกแบ่งเป็น  2  ส่วน

       ส่วนแรก    25  เปอร์เซนต์    จะเพิ่มลงไปในพอร์ตหุ้นต่อ

        ส่วนหลัง   75  เปอร์เซนต์   จะนำไปสะสมอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม

ถ้า ตลาดหุ้นตกต่ำ     เงินทั้งหมดที่ไปพักไว้ที่อสังหาริมทรัพย์   จะถูกนำออกมาใช้ทันทีในการกวาดหุ้นราคาต่ำ     ทั้งกวาดหุ้นคืน   และ  ซื้อหุ้นเพิ่มครับ





สรุปคือ    หน่วยร้านยา  ( ธุรกิจ )  จะเป็นหน่วยที่ติดต่อธุรกรรมผ่านธนาคาร  ( เพราะต้องใช้สเตรทเม้นท์ )

                หน่วยพอร์ตหุ้น    จะเป็นหน่วยปั้มเงิน   สร้างเงิน

                หน่วยอสังหาริมทรัพย์    จะเป็นหน่วยพักเงิน    เพราะหน่วยนี้   มูลค่าเติบโตตามเวลาอย่างอัตโนมัติ







เนี่ยะครับ    DSM   สามโครงหลัก     (  ยิ้มแย้ม  )





แต่ผมไม่ไปแก้ให้ภาพชัดขึ้นนะครับ      ใครอ่านไม่ชัด  แสดงว่า   ............  แก่แล้ว



(   อิอิ   อิอิ   อิอิ   )




ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-03-19 19:51:19


ความเห็นที่ 67 (3172184)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ



                     กลับมาจากวัดแล้วก็รู้สึกดีเหมือนกัน  ทั้งไม่ต้องปวดขาปวดหลัง  และทั้งได้เจริญสมาธิทำ

ให้รู้ถึงจิตใจตนเองได้มากขึ้น หลวงพ่อท่านสอนธรรมและการเจริญสมาธิได้ดีมากๆเลย นี่ก็คิดว่าถ้าว่างๆ

ที่บ้านก็จะนั่งสมาธิเจริญจิตและแพร่เมตราต่อไปเรื่อยๆ



                     พออ่านสามโครงการของคุณเทพแล้วก็พอเห็นความเชื่อมโยงกันเหมือนใยแมงมุมเลย

กลับมามองของตัวเองบ้างก็พอจะได้เหมือนกัน แต่อาจจะน้อยกว่าของคุณเทพเยอะ แต่ก็จะได้สร้างใย

แมงมุมบ้าง



                     ผมไม่มีธุรกิจ ( ร้านขายยา ) แต่ผมก็มีเงินเดือนก็น่าจะพอได้เพราะต้องลงแรงเหมือนกัน

เหลือจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็เก็บไว้ไปลงในพอร์ตหุ้น ส่วนอสังหาก็จะหาซื้อโดยกู้เอาจากสหกรณ์ออม

ทรัพย์ของ ปตท. ตอนนี้ก็มีที่อยู่ 1 ไร่ ( โดยไม่ต้องผ่อนแล้ว ) หากราคาหุ้นตกลงมาเยอะก็อาจจะเอาที่

ไปขอกู้สหกรณ์ต่อเพื่อนำมาซื้อหุ้นเพิ่ม  ก็คงพอจะได้ในรูปแบบสามโครงการเหมือนนะ ... 555 .... คิด

เอาเองครับ



                     ผมอยากรบกวนถามคุณเทพเกี่ยวกับ DSM หน่อยครับว่า  ระหว่าง DSM แบบเด็กอายุ 13

ขวบ ( ไม่รวมการยืมหุ้นมาทำ Short Sell ) กับ DSM แบบแรกเริ่มเลย ที่ล็อคขายทุกการขึ้น 15 ช่องแล้ว

หักหัวลง ( เมื่อหุ้นหมดมือก็แปลงร่าง ) แบบไหนให้ประสิทธิผลมากกว่ากันครับ.



                      พรุ่งนี้ก็จะได้ไปเพิ่มรอยยักในสมองเพิ่มอีก กับ อ.มัคเลย์  เกี่ยวกับ KZM Level 2  ยังไม่รู้ว่า

จะไปถูกหรือเปล่าเข้า กทม. ที่ไรหลงทุกที นัด 9 โมงเที่ยงจะถึงหรือหนอ .... 555 .... คืนนี้อยากจะลุ้น

แมนยูจังเลย ... แต่คงไม่ได้ดูเพราะต้องรีบเข้านอนต้องตื่นเช้าครับ.



                      ปล. เสียดายจังเลยถ้ามีคงเทพมาสอนด้วยคงวิเศษสุดเลย และที่สำคัญจะได้ขอบคุณๆเทพ

ด้วยที่ค่อยมาให้ความรู้กับผมในเว็บนี้



......................................



                    
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-03-27 20:53:15


ความเห็นที่ 68 (3173352)   
แจ้งลบความคิดเห็น



สวัสดีครับพี่ทู 



ผมตอบเข้าเรื่องเลยนะครับ  ( ยิ้มแย้ม )



DSM  ของเด็ก  13  ขวบ  (  จริง ๆ แล้วน่าจะบอกว่า  ของเด็ก  10  ขวบครับ  เพราะผมเตรียมให้เฟ-รินด์เทรดเริ่มตอนอายุ   10  ขวบ เลย  )



DSM  ของเด็ก    กับ   DSM   ดั่งเดิม   ก็คืออันเดียวกันครับ     ต่างกันแค่เพียงว่า   ทำให้ง่าย  จนสามารถพกพาไปโรงเรียนได้ด้วยกระดาษใบเดียว    (  ค่อยกลับมาลงข้อมุลสรุปที่บ้าน  )



ถ้า ถามถึงผลตอบแทน       หากคิดเฉพาะส่วนที่เล่นด้วย   1 %    ผลตอบแทนอย่างต่ำอยุ่ที่   20  %  ต่อปีครับ    (   แต่ปีต่อไป    ต้องทบต้นเอาเองนะครับ    อิอิ   )



แต่ถ้าถามถึงผลตอบแทนของทั้งระบบ    หากหุ้นครบรอบใน  1  ปี   ผลตอบแทนที่ได้อย่างต่ำ   น่าจะอยู่ประมาณ    170 %   ต่อปีครับ



ขึ้นอยู่กับว่า   ส่วน  8   ( ของ  3 - 0 - 2 - 8  )    จะเอากี่เปอร์เซนต์  



ดังนั้นถ้าถามว่า     DSM  ของเฟ-รินด์   กับ  DSM   ดั่งเดิม    ต่างกันตรงไหน



ต่างกันเพียงแค่        กระดาษใบเดียว  ครับพี่ทู



( ยิ้มแย้ม  )




ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-03-30 16:19:33


ความเห็นที่ 69 (3173462)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ

                              กลับมาจาก กทม. ได้ความรู้มาอีกนิดหน่อย เพราะตาม อ.มัดเลย์ไม่ทัน กะว่าไว้ค่อยมานั่งดู DVD ทำความเข้าใจเพิ่ม แต่ก็อดอีก ( เนื่องจากติดขัดเรื่องบางอย่างทำให้เผยแพร่ไม่ได้ )

                              ตอนนี่ก็มาเรียนต่อที่ วังรี รีสอร์ท กว่าจะกลับก็วันอาทิตย์เลย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัวเลย (  นี่ก็เริ่มคิดถึงมากๆเลย )

                      อ่านแล้วก็ยัง งง อยู่ครับ เพราะเท่าที่ผมเข้าใจระหว่าง DSM เด็ก 10 ขวบ กับ DSM ดั่งเดิม ( ไม่รู้ถูกหรือเปล่านะครับ )

1. DSM เด็ก 10 ขวบ น่าจะไม่ต้องแปลงร่างเลย เพราะกำหนดโซนไว้แล้วตาม 3-0-2-8 เช่น ราคา 2.0 (กองหลัง 3 )-7.0(กองหน้า 8) และระหว่าง 2.0-7.0 (กองกลาง 2) จากสูตร

1.   สูตร    3 - 0 -2 - 8

2.  การขาย     10 %     และ     1  %

3.  การขายลง  (   5  )   และ   การขายขึ้น  (   5 + n + 1 )

2. DSM ดั่งเดิม ต้องอาศัยการแปลงร่างเข้ามาช่วยเพราะ ราคา 2.0 (กองหลัง 3 ) จาก 2.0 ขึ้นไป 15 ช่อง ( 2.02-2.20 กองกลาง 2 ) หากเริ่มลงก็จะเริ่มเป็นกองหน้า 8 ซึ่งกว่าจะไปถึงราคา 7 บาท หุ้นก็คงหมดมือไปตั้งนานแล้ว

แล้วอย่างนี้ DSM เด็ก 10 ขวบ ส่วนของ 1% จะทำได้ถึง 20% ได้ยังไงครับ ถ้าแบบข้อสองก็น่าจะทำได้ครับ ไงผมขอรบกวนคุณเทพช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้หน่อยนะครับ

.....................................
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-03-30 19:59:43


ความเห็นที่ 70 (3173510)   
แจ้งลบความคิดเห็น



สวัสดีครับพี่ทู



ผมต้องรีบเข้ามาตอบเลยครับ  เพราะว่า



DSM   ไม่มีการแปลงร่างนะครับ



ผม ไม่เคยสอนให้แปลงร่าง     แต่เพื่อน ๆ  แต่ละคนแปลงกันจนพอร์ตมีปัญหากัน     นอกจากกรณีที่หุ้นสูงขึ้นมาก  ๆ    การแปลงจากหุ้นที่ไปสูงมาก ๆ    คือการเอา หุ้นที่อยู่เฉย  ๆ  มาทำงานครับ



การ เพิ่มจากหุ้น   1   ตัวไปเป็น  2  ตัว   3  ตัว   ไม่ได้เกิดจากการแปลงร่าง     แต่เกิดจากการนำหุ้นที่อยู่เฉย ๆ   มาขยายพอร์ตครับ



ส่วน   DSM    ของเด็ก  10  ขวบ   ที่สามารถทำได้   อย่างน้อย  (  ผมเน้นว่า  อย่างน้อย  นะครับ  )   20  %   ต่อปี    ตรงนี้เป็นความลับครับ  แหะ  แหะ 



หาก หุ้นขึนสูงต่อไปไม่หยุด      ส่วน  3  ของหุ้น    ที่ถูกทิ้งไว้เฉย ๆ     จะเริ่มถูกนำออกมาทำงานครับ       ซึ่งคนละความหมายกับคำว่าแปลงร่างที่คิดกันขึ้นมาเอง



DSM   ที่ผมทำ  มีอยู่แบบเดียวนะครับ    คือ   DSM  



เพียง แต่  ทำให้ง่ายขึ้น   ไม่ต้องดูกราฟ    ไม่ต้องใช้อารมณ์     ไม่ต้องดูเทรน      เพราะเด็ก    10  ขวบ  คงไม่มาทำอะไรแบบนั้นได้ครับพี่ทู     รูปแบบก็เป็นแบบเดิม  ๆ     คือ



1. ขึ้นซื้อ   ลงขาย

2. ขาย  10  %    และ   1  %

3. ควบคุมด้วย    3 - 0 - 2 - 8



แค่นั้นเองครับ  ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย



ง่ายจนแม้หุ้นเป็น   100   ตัว   ก็ยังสามารถสรุป  กสงฝ.  ได้เสร็จภายในเวลาไม่เกิน   1   นาที   ครับ



ที่ ผมกังวลคือ  เรื่องที่แต่ละคนแปลงร่างหุ้น      ถ้าจะเป็นการนำหุ้นที่อยู่ล่าง ๆ  มาใช้ประโยชน์    ต้องทำแบบมีระบบ  และ  มีแบบแผนครับ      ไม่ต้องแผนยากอะไร   เอาแบบง่าย ๆ   ที่เราดูก็เข้าใจกัน



ผมตกใจจริง  ๆ  นะครับ   เรื่องที่เข้าใจว่า   DSM   ต้องแปลงร่าง



( เครียดเลยครับ   อิอิ   )


ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-03-30 22:06:32


ความเห็นที่ 71 (3187693)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ

                     พึ่งกลับมาจาก เชียงใหม่ โดนเอาไปกักตัวอยู่ที่นั้นตั้งสองอาทิตย์ ( คิดถึงครอบครัวมากเลย ) ก็ไปเรียนนั้นและครับ แต่สถานที่

ไม่มีเน็ตให้เล่นเลย แถมสองวันสุดทยก็ไปนอนอยู่กับชาวบ้าน ที่หมู่บ้านแม่ทา จ.เชียงใหม่ เพื่อไปเรียนรู้การเป็นอยู่ของชุมชนวิถีพอเพียง ซึ่ง

บ.ปตท ให้การสนันสนุนอยู่  ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง  พออยู่ไกลบ้านสองอาทิตย์ดูมันยาวนานเสียจริง



                     อ่านที่คุณเทพอธิบายเกี่ยวกับ DSM แล้ว ดูมันช่าจ่ายจริงๆ แต่ทำไมผมอ่านแล้วอ่านอีก ก็ยังตีความหมายคำว่าง่ายๆไม่ออกสัก

ที่ โดยเฉพาะที่คุณเทพว่า ......  หากหุ้นขึนสูงต่อไปไม่หยุด      ส่วน  3  ของหุ้น    ที่ถูกทิ้งไว้เฉย ๆ     จะเริ่มถูกนำออกมาทำงานครับ       ซึ่ง

คนละความหมายกับคำว่าแปลงร่างที่คิดกันขึ้นมาเอง .... โจทย์ที่คิดคือ  หากหุ้นขึนสูงต่อไปไม่หยุด ตรงนี้คือสูงขึ้นไปแค่ ถึงจะเริ่มเอาส่วน

ของกองหลัง 3  ออกมาทำงาน และเอามาทำงานกับหุ้นตัวเดิม หรือเอาไปทำกับตัวใหม่ แล้วจำนวนที่เอามาทำงานมากน้อยแค่ไหนหรือว่า

เอามทั้งหมดเลย  

  

                      ส่วนพอร์ตร้าน ยาเสมือน ผมทดลองดูกับข้อมูลเก่าไปได้ค่าหนึ่งแล้วแต่ก็ยังมองไม่เห็น ประสิทธิภาพของมันเลย เพราะเม่าที่เห็น

ข้อมูลระหว่างฝั่งขายกับฝั่งซื้อ มันจะมีผลต่างกันอยู่ 3 ช่อง ทั้งด้านบน ( ซื้อจะสูงว่าขาย 3 ช่อง ) ด้านล่าง ( ซื้อก็จะสูงกว่าขาย 3 ช่อง

เหมือนกัน )  และข้อมูลเฉลี่ยตรงกลางก็ดูเหมือนจะเป็นไปในลักษณะที่ว่าด้วย หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า แต่ก็คงจะทดลองต่อไปดู

เพื่อมันจะยังไม่ถึงจุดที่จะมองเห็น

................................


ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-05-01 09:32:20


ความเห็นที่ 72 (3187696)   
แจ้งลบความคิดเห็น

w

สวัสดีครับพี่ทู



ปัญหาเรื่องหุ้น   มันเกิดเพราะ   พี่ทูคิดแต่ว่า   เล่นหุ้น  ครับ



ทำไมไม่คิดให้มันเป็นธุรกิจ     ถ้าเป็นธุรกิจแล้ว   พี่ทูจะทำอย่างไรกับมัน



พี่ ทูมองเรื่องร้านยาเสมือนจริงไม่ออก    เพราะพี่ทูคิดแค่ว่ามันเป็นหุ้น  คิดแค่ว่า  จะทำเงิน  ทำกำไร     แต่ลองย้อนคิดให้ละเอียดครับ    คำว่า   ร้านยาเสมือนจริง    นั่นคือ     ธุรกิจเสมือนจริง



ธุรกิจไม่มีไว้ทำกำไรนะครับ   ถ้าทำแต่กำไร   ก็ต้องเรียกว่า  เก็งกำไร



ธุรกิจ  มีไว้เพื่อทำเงินและทำเงิน       ความหมายก็คือ    ธุรกิจมีไว้เพื่อขยายตัวให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ  เพื่อทำเงิน  ทำเงิน  และทำเงิน  



พี่ทูมองแค่ว่า  ทำกำไร      แต่ไม่ได้มองว่า   มันขยายตัว   ดังนั้น เมื่อมันไม่ขยายตัว   กำไรก็ไม่ได้ครับ



พอเริ่มเปิดร้านยาเสมือนจริงขึ้นมา   สิ่งที่ผมมองคือ    ยอดขาย  ( แต่ละไม้ที่ขาย  )  ที่มากขึ้น  แต่ สิ่งที่พี่ทูมองคือ   กำไร   (  ส่วนต่างของการ   ซื้อแล้วขาย )    ถ้าต้องการกำไร   เน้นเรื่องกำไร   พี่ทูคงต้องมองไปที่    KZM  ครับ    เพราะ   มันต่างกันมากแบบ  คนละขั้วเลย



แค่เริ่มมอง   พี่ทูกับสิ่งที่ผมบอก    ก็มองคนละด้านกันแล้วครับ    (  ยิ้ม  )



มองหุ้นให้เป็นธุรกิจครับ   



เช่นเป็นร้านก๊วยเตี๊ยว  ( แบบที่พี่ทูเคยผ่านมา  )     ถ้ามีเงิน  จะลงทุนเพิ่มอย่างไร



ถ้าลูกค้าเยอะ  จะทำอย่างไร   ถ้าก๊วยเตี๋ยวขายดีจนไม่พอขาย  จะทำอย่างไร       ถ้าร้านขายไม่ดี   จะทำอ่ยางไร



การลงทุนในหุ้น  ก็ไม่ต่างจากธุรกิจเลยครับ      แต่กลับง่ายกว่าธุรกิจอีก   เพราะมันทำเงินได้ทั้ง    2   ทาง



ดังนั้น   สิ่งที่พี่ทูพลาด   หรือทำไม่ได้     ต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่า     พี่ทูกำลังเล่นธุรกิจ   หรือ  ลงทุนในธุรกิจ



มองทุกอย่างของหุ้น   ให้เป็นมุมมองของธุรกิจ   ครับ



แล้วค้นหาและแก้ป้ญหาว่า    ถ้าธุรกิจเกิดปัญหาแบบนี้   จะแก้ปัญหาอย่างไร



อย่าแค่มองว่าหุ้นคือการเล่นหุ้นครับ



มองทุกอย่างของหุ้น  ให้เป็นธุรกิจ      แล้วมันจะค่อย ๆ  ชัดขึ้นเองครับ



แต่ ขอเน้นครับว่า   ถ้าจะเน้นไปที่กำไร     อยากให้พี่ทู  มุ่งไปที่   KZM    เลยครับ     ไม่งั้น  ธาตุไฟแตกแน่เลยครับ   เพราะมันคนละขั้วกันเลย



( ยิ้มแย้ม  )


ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-05-01 09:57:26


ความเห็นที่ 73 (3188249)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ

                      จริงๆแล้วผมยังไม่ได้มองไปที่กำไรเลยครับ  ที่ผมมองในขณะการทดลองนั้น ผมมองดูการเคลื่อนไหวของพอร์ตว่ามีแนวโน้มไป

ยังไงบ้าง เกี่ยวกับจำนวนหุ้นว่าจะมีเพิ่มขึนเรื่อยๆหรือเปล่า และกระแสเงินสดหมุนเวียนมันมากขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า ที่ต้องค่อยดูไปเรื่อยๆตลอด

ทางก็เพราะว่าหากทำไปแล้ว กระแสเงินสดค่อยๆลดลง แถมจำนวนหุ้นก็ลดลงด้วย ผมก็คิดว่ามันน่าจะมีอะไรผิดพลาดขึ้นใน กระบวนการซื้อ

ขายแน่ๆ ผมคงตีความกระบวนการซื้อขายผิดไปจากที่คุณเทพสื่อมาให้  เหมือนกับที่การตีความความ DSM ผิดกันไปคนละด้านนั้นแหละครับ

ครั้งนี้ก็เลยอยากทดลองกับข้อมูลให้แน่ใจว่าผมไม่ได้ตีความผิดไป

                     ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณเทพ ผมอยากให้คุณเทพช่วยดูชุดข้อมูลที่ผมใช้ทดลองเทรดว่า กระบวนการซื้อและขายนั้นถูกต้องตาม

ที่คุณเทพสื่อมาหรือ ถ้าไม่ใช่ผมจะได้ปรับปรุงและทดลองใหม่ แต่ถ้าใช่ผมก็จะไปเพื่อดูผลต่อไปครับ ( ผมส่งไปทางเมล์ของคุณเทพครับ )

........................................

                 
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-05-03 22:33:05


ความเห็นที่ 74 (3197617)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ ... คุณเทพ




                        ช่วงนี้มีแต่เรื่องไม่ดี เริ่มจากตัวเองก็ยุ่งอยู่กับการรักษาสุขภาพ  ตั้งแต่ กลับมาจากเชียงใหม่อาการก็แย่เลย ก็ก่อนไปผมเป็นไซนัส แล้วตอนกลับอาการก็ยังไม่หายก พอขึ้นเครื่องกลับตอนเครื่องกำลังลงทำให้ปวดหูมาก กลับมาถึงบ้านหูก็ไม่หายอื้อ ก็เลยไปหาหมอปรากฏว่ามีเลือดออกในหูเล็กน้อยแต่แก้วหูยังปกติดี พึงรู้จากคุณหมอว่าเวลาเป็นหวัดโดยเฉพาะไซนัส ไม่ควรนั่งเครื่องบินเพราะจะไม่สามารถปรับความดันในหูได้ และถ้าจำเป็นต้องนั่งจริงต้องกินยาแก้หูอื้อก่อนขึ้นเครื่อง 15 นาที่ และถ้านั่งเครื่องนานเกิน 2 ชม. ก่อนเครื่องลงก็ต้องกินยาอีกก่อนลง 15 นาที ( เป็นความรู้ใหม่เลย )







               

                สำหรับน้องโฟร์ตอนนี้พูดไม่ยอมหยุดเลย  ( เป็นอย่างที่คุณเทพเคยบอกไว้เลย ) ที่สำคัญแก่ดื้อมากขึ้นตามที่พูดได้มากขึ้นด้วย เล่นเอาปวดหัวเลย ......







                       กิน ยาอยู่ 2 อาทิตย์อาการก็ไม่ดีขึ้น แถมหูก็ยิ่งอื้อมากขึ้นจนปวดต้นคอและหัวมาก หมอก็เลยให้นอน รพ. นอนอยู่ 3 วันอาการปวดก็หายไป แต่อาการหูอื้อก็ดีขึ้นมากนิดหน่อย หมอก็ให้ออกมารักษาต่อที่บ้านและก็บอกว่าคงต้องกินยาไปอีกสักหนึ่งเดือน หากอาการหูอื้อยังไม่หาย ก็คงต้องวางยาแล้วเฉาะเพื่อดูดเอาสิ่งที่อุดอยู่ในท่อรักษาความดันในหู  ล่าสุดอาการก็ยังอื้ออยู่ก็หวังว่ากินยาไปสักพักน่าจะดีขึ้น ไม่อยากโดนเจาะเลย ( กลัว )



                       ส่วน อีกคนก็น้องทรีเล่นของเล่นที่ รร. แล้วตกลงมาจากของเล่น ( ก็สูงประมาณ 2 ม.ได้ ) ปรากฏว่ากระดูกข้อมือขวาแตกและเลื่อนออกจากที่ ต้องผ่าตัดเพื่อดันให้กลับเข้า พอผ่าครั้งแรกเสร็จเข้าเผือกเรีบยร้อย ( ตอนห้าทุ่ม ) พอเช้าก็ X-RAY ดู ปรากฏว่ากระดูกยังเข้าที่ไม่ดี ผมละเซ็งเลยเพราะต้องผ่าใหม่อีกคราวนี้หมอบอกว่าคงต้องใส่ลวดยึดไว้ด้วย ที่สำคัญทาง รพ. จะคิดค่าผ่า 2 ครั้งด้วย ซึ่งมันก็จะเกินวงเงินประกันประมาณ 4 หมื่นได้ ผมก็บอกว่าแค่ต้องผ่าใหม่อีกครั้งก็เสียความรู้สึกแล้ว เพราะถือว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นจากการผ่าครั้งแรก ยังจะมาคิดค่าผ่าครั้งใหม่อีก ก็คุยกับทาง รพ. และกับหมอว่าเป็นไปได้ไหมที่ผ่าครั้งที่สองจะไม่เสียค่าใช้จ่าย
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-06-13 18:15:33


ความเห็นที่ 75 (3197620)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ ... คุณเทพ



ลองใหม่ ... ทำไมก๊อบมาจาก word  มันถึงไม่ได้



                         ช่วงนี้มีแต่เรื่องไม่ดี เริ่มจากตัวเองก็ยุ่งอยู่กับการรักษาสุขภาพ  ตั้งแต่ กลับมาจากเชียงใหม่อาการก็แย่เลย ก็ก่อนไปผมเป็นไซนัส แล้วตอนกลับอาการก็ยังไม่หายก พอขึ้นเครื่องกลับตอนเครื่องกำลังลงทำให้ปวดหูมาก กลับมาถึงบ้านหูก็ไม่หายอื้อ ก็เลยไปหาหมอปรากฏว่ามีเลือดออกในหูเล็กน้อยแต่แก้วหูยังปกติดี พึงรู้จากคุณหมอว่าเวลาเป็นหวัดโดยเฉพาะไซนัส ไม่ควรนั่งเครื่องบินเพราะจะไม่สามารถปรับความดันในหูได้ และถ้าจำเป็นต้องนั่งจริงต้องกินยาแก้หูอื้อก่อนขึ้นเครื่อง 15 นาที่ และถ้านั่งเครื่องนานเกิน 2 ชม. ก่อนเครื่องลงก็ต้องกินยาอีกก่อนลง 15 นาที ( เป็นความรู้ใหม่เลย )



                       กิน ยาอยู่ 2 อาทิตย์อาการก็ไม่ดีขึ้น แถมหูก็ยิ่งอื้อมากขึ้นจนปวดต้นคอและหัวมาก หมอก็เลยให้นอน รพ. นอนอยู่ 3 วันอาการปวดก็หายไป แต่อาการหูอื้อก็ดีขึ้นมากนิดหน่อย หมอก็ให้ออกมารักษาต่อที่บ้านและก็บอกว่าคงต้องกินยาไปอีกสักหนึ่งเดือน หากอาการหูอื้อยังไม่หาย ก็คงต้องวางยาแล้วเฉาะเพื่อดูดเอาสิ่งที่อุดอยู่ในท่อรักษาความดันในหู  ล่าสุดอาการก็ยังอื้ออยู่ก็หวังว่ากินยาไปสักพักน่าจะดีขึ้น ไม่อยากโดนเจาะเลย ( กลัว )



                       ส่วน อีกคนก็น้องทรีเล่นของเล่นที่ รร. แล้วตกลงมาจากของเล่น ( ก็สูงประมาณ 2 ม.ได้ ) ปรากฏว่ากระดูกข้อมือขวาแตกและเลื่อนออกจากที่ ต้องผ่าตัดเพื่อดันให้กลับเข้า พอผ่าครั้งแรกเสร็จเข้าเผือกเรีบยร้อย ( ตอนห้าทุ่ม ) พอเช้าก็ X-RAY ดู ปรากฏว่ากระดูกยังเข้าที่ไม่ดี ผมละเซ็งเลยเพราะต้องผ่าใหม่อีกคราวนี้หมอบอกว่าคงต้องใส่ลวดยึดไว้ด้วย ที่สำคัญทาง รพ. จะคิดค่าผ่า 2 ครั้งด้วย ซึ่งมันก็จะเกินวงเงินประกันประมาณ 4 หมื่นได้ ผมก็บอกว่าแค่ต้องผ่าใหม่อีกครั้งก็เสียความรู้สึกแล้ว เพราะถือว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นจากการผ่าครั้งแรก ยังจะมาคิดค่าผ่าครั้งใหม่อีก ก็คุยกับทาง รพ. และกับหมอว่าเป็นไปได้ไหมที่ผ่าครั้งที่สองจะไม่เสียค่าใช้จ่าย

สุดท้ายทาง รพ. ก็โอเค ผลการผ่าครั้งที่สองก็โอเคกระดูกเข้าที่ดี ก็คงรออีกอาทิตย์ที่หมอนัดให้ไป X-RAY ดูอีกครั้งว่ากระดูกยังเข้าที่อยู่ดีหรือเปล่าและกระดูกที่แตกเริ่มติดหรือยัง ถ้าโอเค ก็รอไปสักเดือนค่อยไปถอดเผือกและดึงเอาลวดออก  ตอน นี้อาการปวดก็ไม่มีแล้วเหลือแต่อาการคันส่วนที่อยู่ในเผือก น้องทรีร้องไห้ทุกครั้งที่คันมาก ผมเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไงดี ได้แต่บอกว่าให้อดทนเดี๋ยวมันก็ค่อยๆหายคันไปเอง ( สงสารจังเลย )



                 สำหรับน้องโฟร์ตอนนี้พูดไม่ยอมหยุดเลย  ( เป็นอย่างที่คุณเทพเคยบอกไว้เลย ) ที่สำคัญแก่ดื้อมากขึ้นตามที่พูดได้มากขึ้นด้วย เล่นเอาปวดหัวเลย ......


ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-06-13 18:20:23


ความเห็นที่ 76 (3199136)   
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ .... คุณเทพ



                      ตอนนี้ค่อยโล่งอกไปหน่อย เพราะเมื่อวานพาน้องโฟร์ไป X-RAY ข้อมือมา ผลปรากฏว่ากระดูกยังอยู่ที่ดี ( ไม่ต้องผ่าใหม่ ) ก็แค่รอเวลา อีกสักสองอาทิตย์ให้กระดูกมันติดกันดีก็คงจะถอดเผือกออกได้ พร้อมทั้งดึงเหล็กที่ยึดไว้ออกเลย. ช่วงนี้ก็คงเหลือแต่เรื่องคันเหมือนเดิมที่ไม่รู้จะช่วยแกยังไง. 



                      เมื่อวันศุกร์ไปรับที่ รร. คุณครูก็ได้บอกว่าน้องทรีซนมาก ( ตอนแขนปกติไม่เห็นซนอย่างนี้เลย ) กลัวว่าแขนจะไปกระแทกเสียก่อนถอดเผือก ก็ได้แต่คอยบอกกับแก่ไปว่าช่วงนี้อย่าซนให้มากนัก รอให้แขนหายก่อนค่อยว่ากัน.



                      ส่วนเรื่องหู ของผมตอนนี้ก็คิดว่าดีขึ้นมาหน่อยมั่ง เพราะรู้สึกว่ามันอื้อน้อยกว่าแต่เก่าอาจเป็นเพราะช่วงนี้พักผ่อนน้อยด้วย หรือเปล่า(ก็ 4 ปีมีหนต้องดูกันหน่อย) ไม่รู้ณี่ปุ่นของผมจะผ่านเข้ารอบได้หรือเปล่า ส่วนอีกทีมคือบราชิลไม่น่าเป็นห่วงเท่าไร ..... ไม่รู้ว่าคุณเทพชอบทีมไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ.



                      อีกเรื่องที่อาจมีผลทำให้หายช้าก็น่าจะเรื่องเรียน เพราะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะวิชาเคมีกับภาษาอังกฤษไม่ถนัดเลย  กลับมาตอนเย็นก็ต้องมานั่งทำการบ้านอีก ( ยากก็ยากดีที่ยังมี Google ช่วยไม่งั้นแง่เลย )  จริงๆมาคิดอีกที วิชาเคมีคุณเทพน่าจะช่วยผมได้เพราะคุณเทพจบเภสัทมา เคมีน่าจะหมูๆเลย .... ยิ้ม ...



..............................
ผู้แสดงความคิดเห็น loaw วันที่ตอบ 2010-06-20 21:23:59


ความเห็นที่ 77 (3199171)   
แจ้งลบความคิดเห็น



สวัสดีครับพี่ทู



ช่วงนี้โหลดข้อมูลเพลินครับ   เครื่องเลยเปิดเวปไม่ค่อยสนุก  (  คือว่า  เปิดเวปช้า  จนบ่อย ๆ  ที่เปิดเวปไม่ได้ )    เลยเข้ามาอ่านอย่างเดียวแต่ไม่ค่อยได้ตอบเลยครับ



เรื่อง คันในเฝือก    ผมตอบตามประสบการณ์ของผมเองนะครับ  ผมก็เคยกระดูกข้อมือหัก  (  จากการแข่งบอล )   จนต้องเข้าเฝือก และก็คันมาก  (  เรื่องคัน เป็นกันทุกคนครับ  เพราะเหงื่อจะหมักหมม  (  เขียนอย่างไรเนี่ยะ   อิอิ  )



ตอนนั้นผมแก้ด้วยการ   เอาแป้งโรยครับ



แป้งโรยตัวธรรมดานี่ละครับ   โรยเข้าช่องแขนเลยครับ    แหะ แหะ  



กระดูกเด็ก  ไม่ต้องห่วงครับ    แปปเดียวก็ต่อติดครับ



ตอน ผมกระดูกข้อมือหัก  (  กระดูกโปนออกมาที่ข้อมือเลย  )  ตอนนั้นผมอยู่   มัธยม  3  ครับ   ยังต่อติดไม่มีปัญหาครับ    ดังนั้น  น้องทรี   ซำบายมากครับ   อิอิ



................................................



วิชา เคมี   สมัยเรียน   มีการสอบครั้งหนึ่งที่ข้อสอบออกมายากมาก      แบบว่า   นร.บ่นกันทั้งชั้นเรียน   ตอนนั้น    แต่ละคนในมัธยมชั้นนั้น   คะแนนต่ำกว่าครึ่งหมดเลยครับ



แต่ผมดัน   ทำคะแนน  ท็อปเลยครับ      อิอิ    ผิดไป  แค่  1  ข้อ  ก็ได้คะแนนเต็มแล้วครับ   อิอิ  (  ไม่ได้โม้เลยนะครับ  )



แต่ถ้าตอนนี้  ณ. ปัจจุบัน   ห้ามถามครับ     คืนไปหมดแล้วววววววววววววววววววว 



.........................................................



เฟ-รินด์  ตอนก่อนไปโรงเรียนก็ไม่ดื้อครับ    ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกครั้ง



แต่ไปโรงเรียนได้แค่  1  เดือน   กลับมาไม่ไหว้ใครเลยครับ     บอกให้ไหว้ก็ดื้อ  ไม่ทำตาม



ผมเองก็  งง  ว่า   นี่เกิดอะไรขึ้น    คิดไปต่าง ๆ นา ๆ      โดยเฉพาะคิดไปว่า  เค้าไปเรียนแล้วตามเพื่อนที่

โรงเรียน



แต่ .................  ผิดถนัดเลยครับ



ไม่เกี่ยวกับเพื่อน  หรือ  โรงเรียนเลยครับ



แต่ ..............  เค้าดื้อเพราะเค้าน้อยใจพ่อกับแม่ครับ    (  จริง ๆ  นะครับ  )    



พอ ผมเดาสาเหตุได้    และวันนั้น   ดุเค้าอย่างแรง   ( เรื่องยกมือไหว้  )    และ   ...........  เมื่อเค้ากลับจากโรงเรียน     ให้เวลาเค้าอย่างที่เคยให้



เท่านั้นเองครับ  ..............  ทุกอย่างกลับเป็นปกติเลยครับ   น่ารักเหมือนเดิมเลยครับ   อิอิ



ผม ก็มาคิดตอนที่เกิดปัญหาว่า ทำไมเฟ-รินด์เปลี่ยนไปหลังจากเริ่มเข้าเรียน     คงเป็นเพราะ  ปกติเค้าอยู่กับผมและกุ้งตลอดเวลา    ไม่มีพี่น้อง     ทุกอย่างคือพ่อกับแม่



พออยู่ ๆ  ก็ให้เค้าไปเรียน    ความรุ้สึกเค้าคงเหมือนกันว่า      ผลักเข้าไปอยู่กับใครก็ไม่รู้



ดังนั้น  พอเค้ากลับมาบ้าน   เค้าก็มีความรุ้สึกคิดถึงเรา    และอยากเรียกเวลาที่เค้าห่างเราไปคืนมา



แต่ ....  พอกลับมา   ถ้าเรายังไม่ให้เวลาเค้า   เค้าก็จะเริ่มงอแง   ดื้อ



และ ...........  หากเค้าดื้อกลับมา   เรากลับยิ่งเอาใจเค้า    โอ๋เค้า   เค้ายิ่ง   ดื้อหนักขึ้น และ งอแงมากขึ้น



สิ่งที่ผมทำคือ  ...........  ทำเหมือนปกติ   



อย่าเอาแต่ทำงาน   และ  อย่าเอาแต่เอาใจเค้ามากเกินที่เคยเป็น



ทำเหมือนปกติครับ     แค่นั้นเอง  เค้าก็กลับเป็นเด็กน่ารักเหมือนที่เคยเลยครับ



(  ยิ้มแย้มมมมมมมมมมมมมมมมม   ) 



(  ขอตัววิ่งไปโหลดหนังต่อก่อนนะครับ แหะ แหะ     ตอนนี้บ้าโหลดหนัง  จนไม่ได้เล่นคาบาลเลยครับ  )



( อิอิ  )




ผู้แสดงความคิดเห็น คุณเทพ ครับ วันที่ตอบ 2010-06-21 09:02:02

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘