โหรตลท.

เรื่องของโหร กับสังคมไทยนั้นดูเหมือนจะแยกกันไม่ออก  โหรดัง ๆ  นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ  ตามยุคสมัย  ก่อนหน้านี้ก็มีโหรอีที   ช่วงนี้ก็มีโหรคมช.   ไม่นับโหรฟันธง และโหรอื่น ๆ  อีกสารพัดที่ทำนายเรื่องราวต่าง ๆ  ทั้งที่เป็นเรื่องระดับของบ้านเมืองและระดับของความบันเทิง   แต่  “โหร”  รายหนึ่งที่คนไม่พูดถึง  เพราะบางทีอาจจะไม่ตระหนักว่ามีตัวตนอยู่  ทั้งที่เป็นโหรที่ผมคิดว่าทายแม่นที่สุดก็คือ   โหรตลท.
โหร ตลท. นั้น  ไม่ใช่โหรคนเดียวแต่ประกอบไปด้วยโหรเล็กโหรน้อยเป็นหมื่นหรือเป็นแสนคน   ทุกวันทำการโหรแต่ละคนก็จะส่งคำทำนายเข้ามาที่ศูนย์กลางที่จะรวบรวมคำทำนาย แล้วนำมาสรุปเป็นคำทำนายร่วมของโหรทุกคน  หลังจากนั้นก็จะประกาศคำทำนายนั้นออกมาให้ประชาชนทราบกันทั่วประเทศ    คำทำนายนั้น  เพื่อที่จะให้ดูขลังก็จะไม่ประกาศมาเป็นคำพูด   แต่จะประกาศเป็นตัวเลขแล้วให้คนไป  “อ่าน”  หรือตีความกันอีกทีหนึ่ง   อย่างไรก็ตาม   การตีความนั้นไม่ยาก   หัวใจสำคัญก็คือ   ถ้าตัวเลขเพิ่มขึ้นก็แปลว่าโหรทายว่าดี   ตัวเลขลดลงทายว่าแย่
โหร ตลท.แต่ละคนที่ทำนายเหตุการณ์ต่าง  ๆ   ที่สำคัญของสังคม  (เรื่องดาราจะท้องก่อนแต่งนั้น  โหรตลท. ไม่รับทาย)  นั้น    ว่าที่จริงมักไม่ใช่โหรที่เก่งกาจรู้ไปเสียหมด   แต่ละคนมักจะรู้เรื่องที่ใกล้ตัวกันคนละนิดละหน่อย   ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้อาศัยการดูดวงแต่บางคนอาจจะดูดาว(โจนส์) บ้าง    นอกจากนั้น   การทำนายของโหรแต่ละคนก็มักจะไม่เกี่ยวข้องกัน   แม้ว่าจะมีบางคนทำนายตาม ๆ  กันบ้างแต่ก็ไม่ใช่โหรส่วนใหญ่     แม้ว่าโหรตลท.เกือบทั้งหมดอาจจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นโหรชื่อดัง   แต่พวกเขาก็ไม่ทาย  “มั่ว”   ตรงกันข้ามพวกเขามีความรับผิดชอบสูงมากเพราะโหรแต่ละคนนั้น   ถ้าทายผิดเขาเสียเงิน   แต่ถ้าทายถูกเขาได้เงิน   ดังนั้นคำทำนาย “ร่วม”  ของโหรตลท. จึงไม่มั่ว   และจากสถิติที่ผ่านมา   มันแม่นเสียจนโหรชื่อดังที่ทำนายเรื่องต่าง ๆ  ต้อง “ชิดซ้าย”
ใช่ แล้วครับ   ผมกำลังพูดถึงตลาดหลักทรัพย์และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในฐานะที่เป็นเครื่องมือ หรือดัชนีที่ชี้นำหรือทำนายว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต   ทั้งเรื่องของการเมือง  สังคม  และเศรษฐกิจ    นักลงทุนแต่ละคนนั้น   ถ้าเขาคาดว่าอนาคตจะดี  เขาก็  “ส่งคำทำนาย”  คือสั่งซื้อหุ้น  คนที่คิดว่าอนาคตไม่สดใส   เขาก็จะทำนายโดยการสั่งขาย   ทั้งหมดนั้นอิงอยู่กับความรู้ที่จำกัดของแต่ละคน   ดัชนีตลาดหุ้นเป็นตัวสรุปของการซื้อขายหรือ  “คำทำนาย”  ทั้งหมด    และจากสถิติเราพบว่า   คำ  “ทำนายร่วม”  ของคนที่มีข้อมูลจำกัดจำนวนมากหรือดัชนีตลาดหุ้นนั้น  สามารถทำนายหรือคาดการณ์เหตุการณ์หรือสภาวการณ์ในอนาคตได้ถูกต้องแม่นยำกว่า โหรหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีข้อมูลมากมายและมีความสามารถที่เรียกว่าสุดยอด อย่างเทียบกันไม่ได้
ตัวอย่าง ของคำทำนายที่น่าทึ่งมากก็เช่น   ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองในขณะที่เยอรมันกำลังชนะในการศึกทุกสมรภูมิและ กำลังบุกเข้าไปในรัสเซีย   เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นกำลังโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์และผู้เชี่ยวชาญและแม่ทัพนาย กองฝ่ายสัมพันธมิตรกำลังขวัญเสียอย่างหนักและต่างก็คาดว่าเยอรมันกับญี่ปุ่น กำลังครองโลกนั้น    ตลาดหุ้นลอนดอนกลับปรับตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ หลังจากที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงต้น ๆ  ของสงคราม     เหตุผลก็คือ   โหรตลอ.(ตลาดหุ้นอังกฤษ)  เชื่อว่า   อเมริกาจะต้องเข้าร่วมสงคราม  และเมื่อได้อเมริกามาเป็นพวก   สัมพันธมิตรก็น่าจะมีโอกาสชนะสงครามสูง  ดังนั้น  นักลงทุนจึงโหมเข้ามาซื้อหุ้นทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้นทั้ง ๆ  ที่อังกฤษ  “ใกล้ตาย”
ตัวอย่าง ในเมืองไทยเองก็น่าทึ่งพอกัน   ในช่วงปี 2537  ขณะที่เศรษฐกิจของไทยยังขยายตัวอย่างดีมากและผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจต่างก็ ทำนายว่าไทยจะเป็น  “เสือ”  เอเชีย  และเศรษฐกิจไทยอาจจะโตขึ้นจนเป็นอันดับประมาณ 8 ของโลกในอนาคต    ดัชนีตลาดหุ้นกลับตกลงมาเรื่อย  ๆ  ติดต่อกันจนถึงปีวิกฤติ 2540   และนี่คือฝีมือการทำนายของโหรตลท.  นั่นคือสามารถทายล่วงหน้าได้ถึง 3 – 4 ปีอย่างถูกต้องแม่นยำทั้ง ๆ  ที่ขณะที่ทำนายนั้น   ยังไม่มีสัญญาณอะไรเลยที่จะบอกว่าเศรษฐกิจของไทยนั้นเป็น  “เสือกระดาษ”   แต่คนกลับไปยกย่อง จิม วอคเกอร์ ที่ทำนายว่าเศรษฐกิจไทยจะเจอวิกฤติก่อนปี 2540 เพียงประมาณปีเดียว  และหลังจากนั้นก็ทายไม่ถูกอีกเลย
ใน ช่วงนี้   มีข่าวว่า  “โหรคมช.”  ทำนายว่าประเทศไทยจะมีปัญหาหนักถึงขนาดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงรุนแรง    “ผู้เชี่ยวชาญ”  หลายคนก็วิเคราะห์ว่าการเมืองคงจะปั่นป่วนและ  “เหตุร้ายแรง”  อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า   คำทำนายนั้นพูดเหมือนกับว่าบ้านเมืองจะวอดวายจากการเผชิญหน้าของอำนาจเก่า อำนาจใหม่    ผมเองไม่อยากจะคาดการณ์อะไร   แต่ถ้าให้ดูจากคำทำนายของ  “โหรตลท.”  หรือดัชนีตลาดหุ้นที่กำลังปรับตัวดีขึ้นในช่วงนี้ทั้ง ๆ  ที่ทุกคนกำลังกลัวสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียด  ก็อาจจะบอกได้ว่า   โหรตลท. ไม่เชื่อว่าบ้านเมืองไทยกำลังมีปัญหาหนักที่จะทำให้เกิดความปั่นป่วนขนาดที่ จะกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ    นี่ไม่ได้บอกว่าบ้านเมืองไม่มีปัญหา  แต่เป็นการบอกว่าปัญหาอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่กลัวกันและเศรษฐกิจภายใน ประเทศที่ดีขึ้นอาจจะเพียงพอที่จะชดเชยปัญหาที่เกิดจากการเมืองได้   เราคงต้องมาดูกันว่าใครจะทำนายถูกหรือใครจะทายผิดระหว่าง  โหรคมช.  กับ โหรตลท.  

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘