0045: Amusement Park

ตลาดหุ้นจะว่าไปแล้วก็เหมือน สวนสนุก สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือเวลาและคูปองที่อยู่ในมือ ที่ต่างกันคือ แล้วแต่แต่ละคนจะเลือกใช้เวลาและคูปองส่วนใหญ่ไปกับเครื่องเล่นอะไรดี บางคนเล่นเครื่องเล่นให้ครบหลายๆ เครื่อง บางคนเลือกเล่นเครื่องเล่นอย่างที่ชอบที่สุดแค่อย่างเดียวซ้ำไปซ้ำมา เครื่องเล่นในตลาดหุ้นนั้นมีให้เลือกอยู่หลายอย่าง 
1. ซื้อหุ้นเพื่อรอรับเงินปันผล ข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่ต้องใช้ความรู้อะไรเลย แค่เลือกหุ้นที่ถือว่าเป็นชื่อสามัญประจำบ้านของไทย และมีประวัติการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ ถือกินปันผลไปเรื่อยๆ แต่ต้องระวังอย่าเลือกหุ้นโดยดูแต่อัตราเงินปันผลสูงๆ อย่างเดียว วิธี นี้เหมาะกับคนที่มีเงินทองเหลือกินเหลือใช้แล้ว ให้ผลตอบแทนคาดหวังแค่ 5% ต่อปี ว่าไปแล้วเปรียบได้กับเครื่องเล่น "ม้าหมุน" ในสวนสนุก เพราะไม่เน้นตื่นเต้น
2. นักลงทุนผู้เป็นแบบอย่าง พวกนี้ศึกษาพื้นฐานของกิจการอย่างลึกซึ้ง เมื่อพบธุรกิจที่ยอดเยี่ยม ราคาเหมาะสม ก็เข้าไปถืออย่างจริงๆ จังๆ พร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับบริษัทเพราะไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ของธุรกิจ คนที่จะลงทุนแบบนี้ได้ต้องเป็นคนที่มีความลึกซึ้งเรื่องการลงทุน มีความสามารถในการจับประเด็นที่สำคัญในการมองธุรกิจแต่ละอย่างเพื่อให้ วิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น คนที่ลงทุนแนวนี้นับว่ามีอยู่น้อยที่สุดในตลาด ผลตอบแทนคาดหวังจะเท่ากับอัตราการเติบโตของกำไรในระยะยาวของบริษัทที่ลงทุน บวกส่วนเพิ่มอีกนิดหน่อยจากการซื้อหุ้นนั้นมาได้ในราคาถูก (รวมแล้ว 10-15%) อาจเทียบได้กับ เครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์
3. แนวเก็งกำไรผลประกอบการ กลุ่ม นี้คอยจ้องหาหุ้นที่ EPS กำลังจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงๆ (เช่น 100%) หรือหุ้นที่กำลังจะมีข่าวดีมากๆ เมื่อพบจะรีบอัดเงินเข้าไปทันที (บางคนจะเบิกมาร์จิ้นมาอัดเพิ่มด้วย) จากนั้นก็รอลุ้นผลประกอบการ หรือรอให้ราคาหุ้นรับข่าว ก็จะรีบขายทำกำไร เพื่อเอาเงินไปเล่นตัวอื่นต่อ เพื่อเร่งทำรอบ วิธีนี้คาดหวังผลตอบแทน 50-100% ต่อปี แต่คนที่จะประสบความสำเร็จในแนวนี้ได้จะต้องอุทิศชีวิตให้กับการเสาะหาข้อมูลเท่านั้น การเข้าถึงข้อมูลคือปัจจัยความสำเร็จของการลงทุนแนวนี้ การวิเคราะห์เป็นเรื่องรอง ปัจจุบันเริ่มมีคนเล่นหุ้นแนวนี้กันมากขึ้น เรื่อยๆ เพราะกระแสเรื่องอิสรภาพทางการเงินมาแรง คนที่เรียกตัวเองว่า "นักลงทุน" ในประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วจะลงทุนด้วยวิธีนี้มากที่สุด เปรียบได้กับเครื่อง เล่นประเภท "ล่องแก่ง"
4. แนวเล่นรอบกับต่างชาติ แนวนี้พยายามทำกำไรจากการขึ้นๆ ลงๆ ของ SET Index เป็นรอบๆ ซึ่งในหนึ่งปีจะมีให้เล่นได้ 4-5 รอบ เน้นซื้อหุ้นบลูชิพเป็นหลัก เพราะเป็นหุ้นที่พวกฝรั่งใช้เล่นรอบ นักลงทุนแนวนี้มักจะติดตามเรื่อง Fund Flow และอาศัยสัญญาณเทคนิคเป็นเครื่องมือหาจังหวะ คนที่จะประสบความสำเร็จในแนวนี้ต้องเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดี มีวินัยของนักเก็งกำไรที่ดีเยี่ยม ถ้าต้องการเร่งผลตอบแทนอาจใช้มาร์จิ้นหรือ TFEX เข้าช่วย เปรียบได้กับ เครื่องเล่นรถไฟเหาะ
5. เล่นหุ้นปั่น หากำไรจากการขึ้นๆ ลงๆ อย่างรุนแรงของหุ้นตัวเล็กๆ ที่เป็นที่รู้กันว่ามีเจ้า ส่วนใหญ่มักเป็นธุรกิจที่ขาดทุน มีวอร์แรนต์ และมักปรากฏตัวใน Top Gainer/Top Loser List ของทุกปี คาดหวังผลตอบแทน 100-1000% แต่โอกาสขาดทุนสูงมาก ส่วนใหญ่คนที่เล่นแนวนี้จะต้องถือคติว่า แม้ขาดทุนสิบครั้ง แต่ได้หนักๆ ครั้งเดียวก็รวยแล้ว คนที่จะประสบความสำเร็จจากวิธีนี้ต้องเป็นคนที่มีดวง ที่เฮงสุดๆ แต่วิธีที่ง่ายกว่านั้นคือ การผันตัวมาเป็นเจ้ามือเองให้ได้ เพราะเจ้ามือคือผู้จุดพลุสร้างข่าวเชียร์ เองกับมือย่อมควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่ต้องพึ่งพาดวง แนวนี้เปรียบได้กับ เครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังกา
ในสวนสนุกแห่งนี้ที่ชื่อว่า ตลาดหุ้น ทุกคนมีอิสระที่จะเลือกเล่นเครื่องเล่นแบบไหนก็ได้ตามความถนัดและเป้าหมายของตัวเอง....

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘