0018: ความลับของนักลงทุนระยะยาว
สมัย เริ่มลงทุนใหม่ๆ ผมคิดว่าเป้าหมายของการเล่นหุ้นคือการ take profit ให้ได้เรื่อยๆ ในหนึ่งปี คนที่ทำได้หลายรอบๆ (ซื้อแล้ววิ่งเลย ไม่ติดดอย เปลี่ยนตัวบ่อยๆ) จะมีผลตอบแทนที่ดีที่สุด แล้วผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมพวกนักลงทุนระดับตำนานถึงไม่ค่อยขายหุ้น ถ้าไม่ขายหุ้นแล้วกำไรจะมาจาก ไหน การรอรับเงินปันผลอย่างเดียวไม่น่าจะทำให้ผลตอบแทนสูงได้
แต่เมื่อผมลงทุนเป็นระยะเวลานานขึ้น ได้เห็นความไม่แน่นอนของตลาดทุนปีแล้วปีเล่า ผมก็เริ่มมองเห็นข้อเสียของการ "ทำรอบ" ด้วยการ take profit บ่อยๆ...
ทุก ครั้งที่คุณ take profit แล้วเอาเงินซื้อตัวใหม่ ทุนทั้งหมดบวกกับกำไรที่ได้ของคุณจะเข้าไปจมอยู่ในหุ้นตัวใหม่ที่คุณเข้าไป ซื้อทันที การที่คุณต้องเร่งทำรอบทำให้คุณจำเป็นต้องซื้อหุ้นที่คุณรู้จัก อย่างผิวเผินอยู่เสมอ ไม่ต่างอะไรกับการที่ต้องฝากเงินทั้งหมดที่คุณหามาได้จากตลาดหุ้นตลอดชีวิต ไว้กับ"ชายแปลกหน้า" โดยที่คุณจะต้องเปลี่ยนชายแปลกหน้าบ่อยๆ ด้วย ปีหนึ่งก็หลายคน ถ้าพลาดเพียงแค่หนเดียว คุณก็จะขาดทุนเป็นเงินจำนวนมาก เหมือนกับต้องถอยกลับไปเริ่มต้นใหม่หลายปีเลยทีเดียว ไม่ว่าผลตอบแทนใน 1-2 ปีที่ผ่านมาจะสูงแค่ไหนก็ตาม เพราะเงินเหล่านั้นจมอยู่ในหุ้นตัวใหม่ทั้งหมด
บางคนอาจแย้งว่า ถ้างั้นผมก็เก็บกำไรเป็นเงินสดเข้ากระเป๋าส่วนหนึ่งเสมอทุกครั้งที่ผม เปลี่ยนตัวสิ เช่น เอาต้นทุนออกมาก่อน เหลือไว้แต่กำไรเอาไปเล่นต่อ แต่อย่าลืมว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี การจอดเงินสดทิ้งไว้เฉยๆ ทำให้เม็ดเงินลงทุนของคุณน้อยลง ผลตอบแทนจึงน้อยลงตามไปด้วย สุดท้ายแล้วคุณก็ทนไม่ไหวต้องเอาเงินนั้นกลับเข้าไปลงทุนใหม่เพราะคุณอยาก ได้ผลตอบแทนมากๆ
นักลงทุนระดับตำนานส่วนใหญ่มักมีผลตอบแทนรายปีที่ดีพอใช้แต่ไม่ถึงกับดีเลิศ แต่ ที่ผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาวของพวกเขาสูงมากเป็นเพราะพวกเขาคอยระวังรักษาตัว มิให้ต้องขาดทุนใหญ่ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งทำได้ด้วยการไม่ยอมลงทุนในหุ้นที่พวกเขาไม่รู้จัก มากพอ ดังนั้นเวลาที่หุ้นบางตัวในพอร์ตของพวก เขามีราคาพุ่งขึ้นอย่างมาก พวกเขามักไม่ขาย พวกเขามั่นใจว่าหุ้นที่พวกเขาถืออยู่นั้นเป็นหุ้นที่ดี อย่างไรเนื่องจากพวกเขารู้จักมันมานาน การขายเพื่อต้องการทำรอบแล้วต้องหาหุ้นตัวใหม่ที่ไม่คุ้นเคยมาถือไว้แทน เป็นหนทางที่จะนำไปสู่การขาดทุนครั้งละมากๆ ได้
เป้าหมายของการลงทุนระยะยาวจึงไม่ใช่การขายหุ้นแต่คือ การสะสมหุ้นที่ดีๆไว้ในพอร์ต นัก ลงทุนระยะยาวจะสำรวจอยู่เสมอว่ามีกิจการอะไรบ้างที่มีอนาคตที่สดใส และหาโอกาสเข้าไปเก็บสะสมหุ้นของกิจการเหล่านั้นไว้ในช่วงที่หุ้นเหล่านั้น มีราคาไม่แพง จนได้พอร์ตที่เต็มไปด้วยหุ้นที่ดีกว่าตลาดโดยรวมในต้นทุนที่ ต่ำ พอร์ตของพวกเขาจึงชนะตลาดได้แม้ว่าจะถือหุ้นเอาไว้เฉยๆ ผลตอบแทนของนักลงทุนระยะยาวจะเกิดจากกำไรที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อยของหุ้นที่พวกเขาสะสมไว้ในพอร์ตมากกว่าที่จะเกิดจากการทำรอบ พวกเขาจะขายหุ้นออกไปก็ต่อเมื่อพวกเขาคิดว่ากิจการของหุ้นเหล่านั้นมิใช่กิจการที่ดีอีกต่อไปแล้วเท่านั้น
แต่เมื่อผมลงทุนเป็นระยะเวลานานขึ้น ได้เห็นความไม่แน่นอนของตลาดทุนปีแล้วปีเล่า ผมก็เริ่มมองเห็นข้อเสียของการ "ทำรอบ" ด้วยการ take profit บ่อยๆ...
ทุก ครั้งที่คุณ take profit แล้วเอาเงินซื้อตัวใหม่ ทุนทั้งหมดบวกกับกำไรที่ได้ของคุณจะเข้าไปจมอยู่ในหุ้นตัวใหม่ที่คุณเข้าไป ซื้อทันที การที่คุณต้องเร่งทำรอบทำให้คุณจำเป็นต้องซื้อหุ้นที่คุณรู้จัก อย่างผิวเผินอยู่เสมอ ไม่ต่างอะไรกับการที่ต้องฝากเงินทั้งหมดที่คุณหามาได้จากตลาดหุ้นตลอดชีวิต ไว้กับ"ชายแปลกหน้า" โดยที่คุณจะต้องเปลี่ยนชายแปลกหน้าบ่อยๆ ด้วย ปีหนึ่งก็หลายคน ถ้าพลาดเพียงแค่หนเดียว คุณก็จะขาดทุนเป็นเงินจำนวนมาก เหมือนกับต้องถอยกลับไปเริ่มต้นใหม่หลายปีเลยทีเดียว ไม่ว่าผลตอบแทนใน 1-2 ปีที่ผ่านมาจะสูงแค่ไหนก็ตาม เพราะเงินเหล่านั้นจมอยู่ในหุ้นตัวใหม่ทั้งหมด
บางคนอาจแย้งว่า ถ้างั้นผมก็เก็บกำไรเป็นเงินสดเข้ากระเป๋าส่วนหนึ่งเสมอทุกครั้งที่ผม เปลี่ยนตัวสิ เช่น เอาต้นทุนออกมาก่อน เหลือไว้แต่กำไรเอาไปเล่นต่อ แต่อย่าลืมว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี การจอดเงินสดทิ้งไว้เฉยๆ ทำให้เม็ดเงินลงทุนของคุณน้อยลง ผลตอบแทนจึงน้อยลงตามไปด้วย สุดท้ายแล้วคุณก็ทนไม่ไหวต้องเอาเงินนั้นกลับเข้าไปลงทุนใหม่เพราะคุณอยาก ได้ผลตอบแทนมากๆ
นักลงทุนระดับตำนานส่วนใหญ่มักมีผลตอบแทนรายปีที่ดีพอใช้แต่ไม่ถึงกับดีเลิศ แต่ ที่ผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาวของพวกเขาสูงมากเป็นเพราะพวกเขาคอยระวังรักษาตัว มิให้ต้องขาดทุนใหญ่ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งทำได้ด้วยการไม่ยอมลงทุนในหุ้นที่พวกเขาไม่รู้จัก มากพอ ดังนั้นเวลาที่หุ้นบางตัวในพอร์ตของพวก เขามีราคาพุ่งขึ้นอย่างมาก พวกเขามักไม่ขาย พวกเขามั่นใจว่าหุ้นที่พวกเขาถืออยู่นั้นเป็นหุ้นที่ดี อย่างไรเนื่องจากพวกเขารู้จักมันมานาน การขายเพื่อต้องการทำรอบแล้วต้องหาหุ้นตัวใหม่ที่ไม่คุ้นเคยมาถือไว้แทน เป็นหนทางที่จะนำไปสู่การขาดทุนครั้งละมากๆ ได้
เป้าหมายของการลงทุนระยะยาวจึงไม่ใช่การขายหุ้นแต่คือ การสะสมหุ้นที่ดีๆไว้ในพอร์ต นัก ลงทุนระยะยาวจะสำรวจอยู่เสมอว่ามีกิจการอะไรบ้างที่มีอนาคตที่สดใส และหาโอกาสเข้าไปเก็บสะสมหุ้นของกิจการเหล่านั้นไว้ในช่วงที่หุ้นเหล่านั้น มีราคาไม่แพง จนได้พอร์ตที่เต็มไปด้วยหุ้นที่ดีกว่าตลาดโดยรวมในต้นทุนที่ ต่ำ พอร์ตของพวกเขาจึงชนะตลาดได้แม้ว่าจะถือหุ้นเอาไว้เฉยๆ ผลตอบแทนของนักลงทุนระยะยาวจะเกิดจากกำไรที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อยของหุ้นที่พวกเขาสะสมไว้ในพอร์ตมากกว่าที่จะเกิดจากการทำรอบ พวกเขาจะขายหุ้นออกไปก็ต่อเมื่อพวกเขาคิดว่ากิจการของหุ้นเหล่านั้นมิใช่กิจการที่ดีอีกต่อไปแล้วเท่านั้น