ความพอเพียงแบบบัฟเฟตต์

เมื่อเร็วๆ นี้ สถานีโทรทัศน์ CNBC ได้สัมภาษณ์ วอร์เรน บัฟเฟตต์ และต่อไปนี้คือ บางส่วนของการใช้ชีวิตที่ผมอยากจะพูดว่า "พอเพียงอย่างน่าทึ่ง" ของเขา
ข้อแรกก็คือ บัฟเฟตต์เป็นคนที่ขยันหาเงิน เก็บออม และลงทุน มาตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ แต่ก็ยังบอกว่าเขาเริ่มลงทุนช้าเกินไป พอถึงอายุ 14 ขวบ เขาก็สามารถเก็บเงินจากการส่งหนังสือพิมพ์ เพียงพอที่จะซื้อไร่ขนาดย่อมๆ ได้
ข้อสอง ทุกวันนี้ ในฐานะของเศรษฐีที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของโลกด้วยความมั่งคั่งประมาณ 4- 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เขาก็ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านขนาด 3 ห้องนอนหลังเดิมที่ซื้อไว้หลังจากแต่งงานเมื่อ 50 ปี ก่อน บ้านหลังนี้ไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม แต่เขาบอกว่ามันมีทุกอย่างที่เขาต้องการ
ข้อสาม เขาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท เบิร์กไชร์ ฮาธาเวย์ ที่มีมูลค่าตลาดของหุ้นที่ติดอันดับต้นๆ ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา แต่เขาก็ยังขับรถไปไหนมาไหนด้วยตนเองโดยไม่มีคนขับรถ หรือผู้คุ้มกันอย่างผู้บริหารสูงสุดของบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ
ข้อสี่ สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นความ "ฟุ่มเฟือย" ประการเดียวก็คือ การที่เขาเคยซื้อเครื่องบินส่วนตัวเก่าลำหนึ่งซึ่ง ชาร์ลี มังเกอร์ เพื่อนรักและหุ้นส่วนสำคัญเคยตั้งชื่อให้ว่า "เถียงไม่ออก" (Indefensible) เพื่อใช้ในการเดินทางไปทำธุรกิจ แต่หลังจากที่เขาพบบริษัท Executive Jet ที่ให้บริการเครื่องบินส่วนตัวแบบแชร์เวลากันใช้ที่ใหญ่ที่สุด เขาก็ขายเครื่องบิน "เถียงไม่ออก" ทิ้ง และซื้อบริษัท Executive Jet และใช้บริการเดินทางโดยเครื่องบินของบริษัทนี้แทน
ข้อห้า ในการบริหารบริษัทในเครือ 63 แห่งของเบิร์กไชร์นั้น บัฟเฟตต์จะปล่อยให้ผู้บริหารของบริษัทเหล่านั้นดำเนินการอย่างอิสระ โดยเขาจะเขียนจดหมายถึงผู้บริหารเหล่านั้นเพียงปีละฉบับเดียวเพื่อให้เป้าหมายประจำปีที่จะต้องทำ เขาไม่เคยนัดประชุม หรือโทรคุยกับผู้บริหารเหล่านั้นเป็นประจำ กฎของบัฟเฟตต์ที่ให้แก่ผู้บริหารระดับสูงสุดของเขามีเพียง 2 ข้อ นั่นคือ ข้อหนึ่ง อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย และข้อสองก็คือ อย่าลืมกฎข้อหนึ่ง
ข้อหก บัฟเฟตต์ไม่ได้คบค้ากับคนในวงการไฮโซ การพักผ่อนหย่อนใจของเขาเมื่อกลับบ้านก็คือ การทำข้าวโพดคั่วรับประทานและดูทีวี และที่สำคัญก็คือ การเล่นไพ่บริดจ์ผ่านอินเทอร์เน็ต
ข้อเจ็ด บัฟเฟตต์ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน มีคนเคยถามว่า เขาคิดคำนวณหามูลค่าที่เหมาะสม ของหุ้น หรือการลงทุนขนาดใหญ่ต่างๆ ได้อย่างไร เขาตอบว่า มันอยู่ใน "หัว" นั่นหมายความว่า การลงทุนสำหรับบัฟเฟตต์แล้ว จะต้องเป็นสิ่งที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ขนาดที่จะต้องคำนวณด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนเรื่องการไม่ใช้โทรศัพท์มือถือนั้น น่าจะเป็นการบอกว่าเรื่องของการลงทุนนั้น ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องรีบด่วน
ข้อแปด คำแนะนำสำหรับคนหนุ่มสาวของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็คือ จงหลีกห่างจากบัตรเครดิต และลงทุนในตัวคุณเอง นี่เป็นสิ่งที่น่าทึ่งในแง่ที่ว่า เขาไม่ได้แนะนำให้คนหนุ่มสาวลงทุนในหุ้น บัฟเฟตต์คงเห็นว่า การลงทุนในตัวเอง เช่น การศึกษาหาความรู้และฝึกฝนทักษะ นั้น น่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด ในอีกด้านหนึ่ง การใช้จ่ายโดยอิงกับบัตรเครดิตนั้น น่าจะนำไปสู่การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย และเป็นสิ่งที่ทำร้ายคนหนุ่มสาวมากที่สุด
สุดท้ายที่เป็นความน่าทึ่งก็คือ การพบกันเป็นครั้งแรกระหว่างบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 2 คน คือ บิล เกตส์ กับบัฟเฟตต์เมื่อ 5 ปีก่อน ในครั้งนั้น บิล เกตส์ คิดว่าบัฟเฟตต์กับตนนั้น ไม่มีอะไรเหมือนกันเลยยกเว้นว่าจะรวยพอๆ กัน จึงกำหนดเวลานัดพบเพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อพบกันจริงๆ พวกเขากลับคุยกันถึงสี่ชั่วโมง และบิล เกตส์ กลายเป็นคนที่ศรัทธาในตัวบัฟเฟตต์อย่างลึกซึ้ง เช่นเดียวกับที่บัฟเฟตต์เองก็นับถือ และยอมรับ บิล เกตส์ มากและนั่นก็นำไปสู่การบริจาคเงินครั้งใหญ่ที่สุดในโลกจำนวน 31 พันล้านดอลลาร์ของบัฟเฟตต์ให้แก่มูลนิธิของ บิล เกตส์ เมื่อปีที่แล้ว
และทั้งหมดนั้นก็คือชีวิตที่ "พอเพียงอย่างน่าทึ่ง" ของราชันย์นักลงทุนแห่งโอมาฮา วอร์เรน อี.บัฟเฟตต์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘