ลงทุน โกลด์ ฟิวเจอร์ส

โกลด์ ฟิวเจอร์ส เป็นสัญญาซื้อขาย ล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ แม้จะเห็นชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า “โกลด์” แต่ก็ไม่เหมือนกับ “ทองคำ” ที่เราซื้อขายกันทั่วไปตามร้านทอง ตรงที่การซื้อขายทองคำนั้น ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนให้แก่ผู้ขาย และผู้ขายจะต้องมอบทองคำให้แก่ผู้ซื้อไปเป็นสมบัติส่วนตัว ในขณะที่การซื้อขาย “โกลด์ ฟิวเจอร์ส” เป็นการซื้อขายทองคำล่วงหน้า ผู้ซื้อและผู้ขาย
(คู่สัญญา) แค่เพียงทำสัญญาตกลงกันว่าในอนาคตจะซื้อขายทองคำกันที่ราคาเท่าไร ยังไม่มีการซื้อขายทองคำจริงเกิดขึ้น ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีสิทธิได้กำไรและขาดทุนทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อถึงวันที่กำหนด ราคาทองจริงต่างจากราคาที่ตกลงกันเอาไว้ในทิศทางใด

ลงทุน “โกลด์ ฟิวเจอร์ส” ลดความเสี่ยง “ต่างชาติครอบงำ”
ตลาด ทองคำล่วงหน้า ในขณะที่ผู้ลงทุนจะได้มีโอกาสทำกำไรได้สองขาทั้งในภาวะที่ราคาทองปรับตัว เพิ่มขึ้น และราคาทองปรับตัวลดลง จึงถือเป็นโอกาสอันดีเพื่อเตรียมความพร้อม



เมื่อ ไม่มีการส่งมอบทองคำจริง วิธีการชำระกำไรขาดทุนของโกลด์ ฟิวเจอร์ส จึงแตกต่างจากการซื้อขายทองคำทั่วไปด้วย โดยในการซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์ส จะใช้วิธีจ่ายชำระเงินตามส่วนต่างกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นระหว่างราคาซื้อและ ราคาขาย เรียกว่า “การชำระราคาเป็นเงินสด” ในทุกๆ วันโบรกเกอร์ก็จะคิดกำไรและขาดทุนของวันนั้นๆ ให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อโอนเงินเข้าไปในบัญชีของผู้ได้กำไร และตัดเงินออกจากบัญชีของผู้ขาดทุน เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามสถานการณ์ลงทุนของตนได้อย่างทันท่วงที

การ คิดกำไรขาดทุนนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผู้ลงทุนปิดสถานะในโกลด์ ฟิวเจอร์ส หรือ โกลด์ ฟิวเจอร์สหมดอายุลง ซึ่งจะทำให้สถานะของผู้ลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์สนั้นๆ ก็จะปิดลงตามไปด้วย หากผู้ลงทุนต้องการซื้อหรือขายโกลด์ ฟิวเจอร์สอีก ก็จะต้องซื้อหรือขายสัญญาใหม่ที่หมดอายุในลำดับถัดๆ ไป

พูดให้ชัดเจน ก็คือ โกลด์ ฟิวเจอร์ส แตกต่างจากทองคำโดยสิ้นเชิง ผู้ซื้อโกลด์ ฟิวเจอร์ส คือผู้ลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากราคาทอง หรือผู้ต้องการบริหารความเสี่ยงจากราคาทองคำ โดยมากจะเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในลักษณะของสินค้าอยู่แล้ว ยอมรับความเสี่ยงในกรณีที่คาดการณ์ผิดได้ เป็นผู้ลงทุนกลุ่มเดียวกับในตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ในปัจจุบัน

โกลด์ ฟิวเจอร์ส นอกจากจะมีประโยชน์ในการเป็นเครื่องมือทางเลือกในการบริหารพอร์ตลงทุนแล้ว ยังมีประโยชน์ในการเสริมให้ตลาดทุนไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เหมือนดังเช่นในต่างประเทศที่มีตลาดอนุพันธ์ช่วยส่งเสริมกลไกการทำงานของ ตลาดสินค้าอ้างอิง และช่วยให้ราคาของสินค้าอยู่ในจุดที่เหมาะสม

นาย แพทย์ กฤชรัตน์ หิรันยศิริ รองเลขาธิการ สมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงประโยชน์จากการลงทุนในทองคำในตลาดอนุพันธ์ หรือ TFEX ว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ในขณะนี้ทั่วโลกมีความต้องการลงทุนในทองคำเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยการลงทุนในทองคำหากนักลงทุนลงทุนในระยะกลางหรือระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่ ดีกว่าการลงทุนในช่วงระยะสั้นเพราะยังมีความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวน อยู่

นอกจากนี้ การลงทุนในทองคำนั้นในต่างประเทศมีการลงทุนในทองคำในลักษณะที่แตกต่างจาก ประเทศไทย คือการลงทุนในทองคำแบบที่ไม่มีการถือครองทองคำอยู่ในมือจริง หรือเรียกว่า Paper Gold ในขณะที่การลงทุนในทองคำของประเทศไทยนั้นสามารถจับต้องทองคำได้จริง หรือ Physical Gold ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอย่างหนึ่งของการค้าหรือการลงทุนในทองคำของ ประเทศไทยซึ่งไม่มีที่ประเทศใดในโลกที่จะมีร้านค้าทองคำอยู่อย่างมากมาย โดยปัจจุบันในประเทศไทยมีร้านค้าทองคำอยู่ประมาณ 6,000 - 7,000 แห่ง ที่มีความพร้อมที่จะร้องรับในการลงทุนประเภทซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นประเทศผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่ของโลกโดยในแต่ละปีมี การนำเข้าทองคำปีละประมาณ 100 ตัน

นายภควัตร โกวิทวัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีนิตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนในทองคำเป็นช่องทางในการหนีภาวะวิกฤติเศรษฐกิจต่างๆ โดยเมื่อเกิดภาวะวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจหรือเกิดความไม่มั่นคงในการลงทุน สถาบันการลงทุนต่างๆรวมถึงนักลงทุนรายย่อยจะพากันนำเงินไปลงทุนในทองคำเพื่อ เป็นการรักษาระดับความมั่นคงทางการลงทุนไว้ โดยปัจจุบันภาวะของสินค้าโภคภัณฑ์ (คอมมอนิตี) ในตลาดโลกเช่น ทองคำ โลหะ รวมถึงสินค้าเกษตร มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้บรรดา
กองทุนต่างประเทศ หรือเฮดฟันด์ เริ่มหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้นเพื่อป้องกันความผันผวนในการลงทุน ซึ่งการลงทุนในทองคำถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน เพราะจากการศึกษาเห็นได้ชัดว่าการลงทุนในทองคำมีความมั่นคงไม่มีความผันผวน มากเหมือนกับการลงทุนในหุ้น

ด้าน รศ.ดร.กุลภัทรา สิโรดม กล่าวเสริมถึงผลการวิจัยว่า “จากผลวิจัยทางสถิติพบว่าทองคำสามารถใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจาก อัตราเงินเฟ้อได้ เนื่องจากราคาทองคำจะมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่สัมพันธ์กับราคาน้ำมันและ ดัชนีราคาผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่สัมพันธ์กับดัชนีหลักทรัพย์จึงเหมาะกับการ เป็นสินทรัพย์เพื่อกระจายการลงทุน การเปิดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำในประเทศไทยจะช่วยเติมเต็มให้ตลาดทุนไทยมี ความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการมีเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตลาดทองคำในประเทศ ทำให้ลดการขาดดุลการค้าจากการนำเข้าทองคำและช่วยป้องกันเงินทุนไหลออกไปลง ทุนในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศได้

“การซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สจะทำให้ การลงทุนยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสัญญามีความเป็นมาตรฐาน มีสภาพคล่องสูงสามารถเปลี่ยนมือได้ง่าย นอกจากนี้ยังใช้ต้นทุนต่ำ และสามารถขายล่วงหน้าได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีซื้อล่วงหน้ามาก่อน ทำให้สามารถทำกำไรในตลาดขาลงได้ จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือลงทุนที่น่าสนใจ”

ส่วน ปัจจัยที่จะทำให้การตลาดซื้อขายล่วงหน้าทองคำในประเทศไทยประสบความ สำเร็จนั้นนายแพทย์ กฤชรัตน์ กล่าวว่า ปัจจัยแรกคือเรื่องของ การเชื่อมโยงตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าของไทยกับต่างประเทศเพื่อให้การลงทุน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจัยต่อมา คือ ราคาของทองคำควรจะเป็นราคาทองคำที่เป็นอ้างอิงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อราคาทองคำเป็นราคาสากล แล้วจะทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศไม่ว่ารายย่อยหรือสถาบันสามารถนำ เงินลงทุนมาพักที่ประเทศไทยได้ ส่งผลให้เงินลงทุนสามารถไหลเข้าออกได้สะดวก และปัจจัยสุดท้าย คือ ในกรณีที่นักลงทุนนำเงินไปลงทุนในตลาดซื้อขายล่วงหน้าเป็นจำนวนมากและเมื่อ ถึงวันสิ้นสุด นักลงทุนสามารถเปลี่ยนจากการสัญญาซื้อขายในตลาดมาเป็นทองคำจริงได้ และไม่ขาดทุน

“อย่างไรก็ตาม การเทรดทองล่วงหน้าอาจมีผลกระทบต่อร้านค้าทองคำ เพราะนักลงทุนจะไปซื้อทองคำในตลาดล่วงหน้าโดยตรง ทำให้นักลงทุนไม่เข้ามาซื้อทองคำจากร้านทองเหมือนแต่เดิม ซึ่งผู้ประกอบการที่เป็นร้านค้าทองคำเหล่านั้นควรจะได้รับประโยชน์และมีส่วน ร่วม (Win Win Situation) กับทางตลาดซื้อขายล่วงหน้าด้วย

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘