การออม การลงทุน

"ธนิสร อึ๊งภากรณ์" เรื่องเงินทอง...เริ่มต้นวันนี้ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

ควรเปิดโอกาสให้ตัวเราได้สัมผัสกับความเป็นอยู่แบบพอเพียงไว้บ้าง ไปหาดูความยากจนแร้นแค้นให้ผ่านหูผ่านตาไว้บ้าง

ก็จะสามารถดึงให้ความฟุ่มเฟือยกลับมาสมดุลได้ พอเริ่มตั้งหลักพอเพียงได้ ผมว่าสามารถชำระล้างหนี้ได้เร็ววันแน่นอน

"สำหรับ เรื่องเงินๆ ทองๆ ผมว่าสำคัญมาก  และอย่าไปเกี่ยงว่ามันสายเกินไป  ลงมือเริ่มต้นวันนี้  ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย" ธนิสร อึ๊งภากรณ์ ประธานกรรมการบริษัท AnthonyThompsons  เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ที่มีมุมมองถึงเรื่องการวางแผนเงินทองเอาไว้อย่างน่าสนใจ

เขาบอกว่า  เมื่อมีรายได้เข้ามาก็เริ่มจากเราวางแผนรายจ่ายจำเป็นกันออกไว้ก่อน ก็จะเหลือเป็นยอดเงินที่จะออม และเงินที่จะให้รางวัลชีวิต  ที่ทั้งจัดสรรไว้กิน เที่ยว และเพื่อความบันเทิงเริงใจ

"เรื่องของ การออมทำได้หลายอย่าง แต่ผมอยากจะแนะนำการออมด้วยวิธีที่เปลี่ยนเงินสดให้เป็นสินทรัพย์หรือของ สะสมที่เรากำหนดสภาพคล่องได้ และยังสามารถนำตัวสินทรัพย์มาใช้ประโยชน์หรือมาแสวงหาประโยชน์ได้ด้วย โดยพอมีคำว่าเกิดประโยชน์ ก็จะเกิด function ของการลงทุนไปโดยสภาพ  แต่เราต้องศึกษาให้ละเอียดว่าของแต่ละอย่างนั้นมีวิธีการเปลี่ยนกลับเป็น เงินสด (Exit Strategy) ได้อย่างไร วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ไม่ยากจนเกินไป ทั้งยังได้การออมและการแสวงกำไรไปในตัว แถมระหว่างทางยังเกิดประโยชน์กับเราได้อีกด้วย"

ธนิสรเล่าถึงการลง ทุนและการออมแต่ละอย่างของเขา  ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงินกับธนาคาร   การทำประกันชีวิต หรือลงทุนในตลาดหุ้น   ลงทุนในที่ดิน อสังหาริมทรัพย์   ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า   ว่าแต่ละอย่างล้วนมี Function ต่างกัน  มีข้อดีข้อด้อยสลับกันไป  โดยส่วนตัวเขาลงเงินไปในสิ่งที่ใกล้ชิด และมีความชำนาญ หรือมีคนที่ไว้ใจได้คอยให้คำปรึกษาจะเหมาะที่สุด  เพราะว่าการลงทุนเพื่อเก็งกำไร ก็คือการนำเงินการขาดทุนของผู้อื่นมาเปลี่ยนเป็นเงินกำไรของเรานั่นเอง  เพราะฉะนั้นในเกมใดๆ ก็ต้องมีฝ่ายได้เปรียบและฝ่ายเสียเปรียบ

"ที่ ผ่านมาผมค่อนข้างพอใจกับการซื้อขายของมือสอง เพราะว่าได้ของมาในราคาที่ดี ระหว่างทางยังสามารถใช้สอยหรือแสวงกำไรได้ด้วย พอมีคนมาขอซื้อก็เกิดกำไรอีกไม่มากก็น้อยตามจังหวะของตลาด   มีการลงทุนที่น่าจับตามองอีกอันนึงคือการลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทาง เลือก เด่นมากตรงที่ภาครัฐสนับสนุนค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นความได้เปรียบเรื่องภาษี หรือเรื่องความแน่นอนของการประกอบกิจการเพราะว่ากฎหมายบังคับรัฐต้องซื้อ ไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ตามเงื่อนไข และดีมากๆ ตรงที่เป็นส่วนผลักดันช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย"

ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจ ย่ำแย่   ธนิสรบอกว่าการวางแผนจัดการเงินทองยิ่งสำคัญ  เขาบอกว่าชอบที่จะอธิบายเปรียบเทียบกับพวกองค์กรใหญ่ๆ ที่ทำกันเวลาเกิดวิกฤติ  นั่นคือเริ่มจากนำรายได้มาตั้ง   จากนั้นนำรายจ่ายที่มีอยู่ประจำๆ มาตั้งเรียงกันไว้   และให้ตัดรายจ่ายออกไปให้มากที่สุดเท่าที่ตัดได้ โดยที่ยังใช้ชีวิตพื้นฐานได้ด้วย   ก็จะเหลือเป็นรายได้ ลบด้วยรายจ่ายที่จำเป็นจริงๆ ก็จะได้ตัวเลขที่สะท้อนได้ว่าเราจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ได้แบบไหน

"ผม มีวิธีง่ายๆ ที่เช็คสุขภาพทางการเงินของตัวเอง  โดยนำรายได้ทั้งหมดมาตั้ง หักเงินออมเงินเก็บออกไป ก็จะเท่ากับรายจ่ายที่เรามีสิทธิ์ใช้จ่ายได้

และ ห้ามมียอดค้างชำระของบัตรเครดิตในแต่ละเดือนด้วย   นอกเหนือจากนี้อาจจะต้องตรวจสอบประสิทธิภาพการจัดการความเสี่ยงทั้งหลาย เช่น วงเงินประกันชีวิต วงเงินประกันสุขภาพ วงเงินประกันอุบัติเหตุทรัพย์สินต่างๆ"
 แต่หากใช้ชีวิตแบบพอเพียง  ในที่นี้หมายถึงมีจุดแห่งความพอใจของไลฟ์สไตล์ที่ต่ำที่สุด   และต้องเป็นในแบบที่เรายังสามารถอยู่ได้ ยิ้มได้ สุขใจได้ และที่สำคัญต้องเกิดความภาคภูมิใจด้วย ไม่ใช่ต้องตกต่ำเกินไปจนกระทั่งอยู่อย่างยากลำบาก

"สมัยนี้ผู้คนมัก ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เกินตัวกันเยอะ และบางคนนิยมซื้อของแบรนด์เนม มากเกินกำลังของตัวเอง จนเป็นหนี้เป็นสิน ผมก็เข้าใจว่าในสังคมมันมีแรงกระตุ้นมากมาย แต่ก็อยากให้ทุกคนได้ประเมินกำลังของตนเองไว้เสมอ  ดังนั้น ควรเปิดโอกาสให้ตัวเราได้สัมผัสกับความเป็นอยู่แบบพอเพียงไว้บ้าง ไปหาดูความยากจนแร้นแค้นให้ผ่านหูผ่านตาไว้บ้าง ก็จะสามารถดึงให้ความฟุ่มเฟือยกลับมาสมดุลได้ พอเริ่มตั้งหลักพอเพียงได้ ผมว่าสามารถชำระล้างหนี้ได้เร็ววันแน่นอน  "

ทุกคนล้วนไม่อยากเห็นตน เองในอนาคตประสบความล้มเหลวทางการเงิน  แต่ว่ามีเพียงบางคนเท่านั้นที่ต้องการมีแบบแผนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อที่จะไป ถึงจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จทางการเงิน  จึงต้องลงมือวางแผนเพื่อเป็นเครื่องยืนยัน แล้วสิ่งที่ต้องทำก็เพียงดำเนินการตามแผนเท่านั้นเอง  ส่วนคนพวกที่เหลือ ธนิสรแนะนำให้เริ่มลงมือง่ายๆ เช่น วางแผนการเงินประจำเดือน แล้ววัดผลง่ายๆ ลงในสมุดบันทึก ว่าเราทำได้ดีเพียงใด และสามารถทำได้ดีอีกขึ้นในเดือนถัดไปได้ไหม ทำอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นแผนประจำปี จนเป็นแผนระยะยาว 10 ปี 20 ปี ไปจนถึง  30 ปี จนเป็นแผนมรดกสู่รุ่นต่อไป  เชื่อว่าจะมีแผนการเงินเฉพาะเหมาะกับตัวคุณในไม่ช้า โดยรวมต้องบอกว่าคนไทยเริ่มมีการวางแผนการเงินมากขึ้นตามการเติบโตของระดับ การศึกษาของประชากร  แต่เขาคิดว่าส่วนมากยังมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวอยู่

ธนิ สรบอกว่าบัตรเครดิตเป็นตัวสนับสนุนให้เราล้มเหลวทางการเงินตัวฉกาจ   แต่ว่าตัวการหลักคือการไม่รู้จักตนเองมากกว่า  เขาเล่าว่านานมาแล้วเคยใช้บัตรเครดิตจนเป็นหนี้มากมายอย่างชนิดที่แก้ไขได้ อย่างลำบาก  ส่วนการลงทุนผิดพลาดนั้นไม่ค่อยมี  เพราะว่าปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบความเสี่ยง

ในฐานะที่ทำงานคลุกคลี เกี่ยวกับเรื่องวางแผนการเงิน ธนิสรแนะนำคนทั่วไปที่อยากเริ่มต้นออมเงินและลงทุน ว่าควรเริ่มจากการตั้งเป้าหมายของการเกษียณอย่างเป็นรูปธรรมก่อน แล้ววางแผนให้ไปสู่จุดนั้น หากว่าแผนนั้นอาจลงมือทำได้ยากเกินไป ก็ลองปรับลดเป้าหมายลงดู จนกว่าจะได้แผนที่สามารถลงมือทำได้ พอเราได้ดังนี้แล้ว ก็สามารถเดินไปสู่ความสำเร็จตามแผนนั้นได้เลย โดยที่ไม่ต้องคอยกังวลว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร พูดง่ายๆ ได้ว่าอนาคตอันแสนหวานอยู่ในมือคุณแล้ว

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘