คุณดาว

บุคคลสำคัญที่สุดคนหนึ่งในโลกของการลงทุนที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้ก็คือ Charles Dow แค่เพียงชื่อของเขาก็บอกแล้วว่า เขาคือผู้ยิ่งใหญ่ที่นักลงทุนทุกคนจะต้องรู้จัก เพราะเขาคือผู้ที่ก่อตั้งดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ที่เราได้ยินกันทุกวัน
ความยิ่งใหญ่ของเขาไม่ใช่อยู่เพียงแค่นั้น เพราะเขายังเป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลอันทรงอิทธิพล และสุดท้ายเขายังเป็นผู้ริเริ่มการวิเคราะห์หุ้นแบบเทคนิค ซึ่งเริ่มจากพื้นฐาน "DOW THEORY" หรือทฤษฎีของดาวที่คนรุ่นต่อมานำมาเขียนเป็นระบบ เป็นเรื่องเป็นราวจนกลายเป็นการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค มองในแง่นี้ก็อาจจะถือได้ว่าดาวเป็น "บิดาแห่งการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค" คนหนึ่งได้
พูดถึงดัชนีดาวโจนส์ก่อน นี่น่าจะเป็นดัชนีแรกของโลกที่เกิดขึ้นในปี 1884 หรือกว่าร้อยยี่สิบปีมาแล้ว ตัวดาวเองนั้นได้ร่วมกับ Eddie Jones เพื่อนนักข่าวก่อตั้งหนังสือพิมพ์ที่เน้นข่าวเกี่ยวกับหุ้น ในช่วงต้น เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของข่าว และข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น ที่ในยุคนั้นยังไม่มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์รายวันธรรมดา
ที่จริงหนังสือพิมพ์ของดาวนั้น มีเพียง 2-4 หน้าเหมือนกับใบปลิวเสียมากกว่า และข่าวก็มักจะไม่ค่อยแม่นยำ แต่เป็นข่าวลือบ้างความเห็นบ้าง พูดง่ายๆ เป็นงานแบบมือสมัครเล่น
ดังนั้นดัชนีตลาดหุ้นที่คิดขึ้นมา เพื่อเป็นตัวบอกถึงความเคลื่อนไหวของหุ้นในขณะนั้น จึงทำกันง่ายๆ คือเอาราคาหุ้นขนาดใหญ่ และมีการซื้อขายสูงมารวมกันและหาราคาเฉลี่ยในวันนั้น
ตัวอย่างเช่น ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 1885 ดัชนีหุ้นคำนวณจากหุ้น 14 ตัวซึ่งเป็นหุ้นรถไฟเสีย 12 ตัว มาบวกกันแล้วหารด้วย 14 ก็จะได้ค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นในวันนั้นออกมาที่ 63.7 ดอลลาร์หรือ 63.7 จุด และต่อมาดัชนีนี้ก็กลายเป็นดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ซึ่งหลักการยังคงเดิมแต่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน และตัวหุ้น ที่ใช้คำนวณไปเรื่อยๆ โดยปัจจุบันใช้หุ้นขนาดใหญ่ 30 ตัวมาใช้คำนวณและดัชนีได้ปรับขึ้นไปเป็นประมาณ 11,600 จุด
เนื่องจากคู่แข่งอาจจะมีน้อย หนังสือพิมพ์หุ้นของดาวจึงเติบโต และพัฒนาขึ้นกลายเป็นวอลล์สตรีทเจอร์นัลในปี 1889 หลังจากนั้นวอลล์สตรีทเจอร์นัลก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจการเงิน ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบัน เช่นเดียวกับมาตรฐานของข่าว และบทความในวอลล์สตรีทเจอร์นัล ที่ได้รับการยอมรับถึงความแม่นยำ และเป็นมืออาชีพสูงสุด
เรื่องการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิคนั้น ดาวได้ใช้ดัชนีของเขาในการพยายามอธิบายทฤษฎีพฤติกรรมของตลาดหุ้น ในบทบรรณาธิการของเขาระหว่างปี 1899 จนถึงวันที่เขาเสียชีวิตในปี 1902
การใช้ตัวเลขดัชนีของดาวนั้น แม้เขาจะใช้มันในการทำนายภาวะตลาดอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ เขามักจะใช้มันในการอธิบายเรื่องของอดีต หรือประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นเสียมากกว่า
ความพยายามของเขา ที่จะเชื่อมโยงราคาหุ้นในอดีตกับราคาหุ้นในอนาคต ก็กลายเป็นเมล็ดพันธุ์ ของการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค ที่มีการพัฒนาต่อมาโดยลูกน้องของเขาที่วอลล์สตรีทเจอร์นัล คือ William P. Hamilton และต่อมาโดย Robert Rhea ซึ่งศึกษาและเขียนหนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างเป็นระบบ และสามารถขายบริการบอกรับเป็นสมาชิกจนทำให้เขาโด่งดัง และทำให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคกลายเป็นการวิเคราะห์ ที่มีคนนิยมกันทั่วโลกในเวลาต่อมา
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามเรื่องนั้น เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่ดาวเองไม่ได้ลิ้มรสในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ นักลงทุนในยุคที่เขามีชีวิตนั้น ไม่ใคร่ได้สนใจ หรือตระหนักในความสำคัญของมัน คนไม่ใคร่รู้ถึงความสำเร็จและผลงานของเขา คำว่า "ทฤษฎีของดาว" เองนั้น ก็เกิดขึ้นหลังจากที่ดาวเสียชีวิตไป 20 ปีแล้ว โดย วิลเลียม แฮมิลตัน ดาวเองก็ตายตั้งแต่อายุ 51 ปี
ดาวเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุเพียง 6 ขวบ เขาได้รับการศึกษาน้อยมาก เมื่อเติบโตขึ้นเขาได้ทิ้งงานฟาร์มไปจับงานเขียนให้กับหนังสือพิมพ์ ก่อนที่จะลงทุนทำหนังสือพิมพ์ของตนเอง เขาเป็นคนที่อนุรักษนิยมมากและคนบอกว่าเขามีคุณลักษณะแบบอาจารย์มหาวิทยาลัย มีความใจเย็น เช่นเดียวกับที่มีจรรยาบรรณสูงในการทำงาน
ในช่วงชีวิตเขานั้นเป็นยุคท้ายๆ ของตลาดหุ้นที่ยังมี "ขาใหญ่" และ "นักปั่น" เป็นผู้ที่มีบทบาทในการซื้อขาย และชี้นำราคาหุ้นมาก แต่ดาวไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง และไม่เคยพยายามที่จะทำกำไรจากข้อมูลที่อาจจะได้รับ เขาเลือกที่จะเป็นผู้สังเกตการณ์และวิจารณ์มากกว่า
ส่วนแง่ของวิชาการแล้ว สิ่งที่ดาวคิดและสร้างสรรค์ขึ้นนั้นแทบไม่มีความหมาย ดัชนีดาวโจนส์นั้น ในแง่วิชาการแล้วเป็นดัชนีที่แย่ที่สุด และไม่สามารถเป็นตัวแทนตลาดหุ้นได้ เพราะไม่คำนึงถึงมูลค่าตลาดของหุ้นที่นำมาคำนวณ จำนวนหุ้นที่ใช้คำนวณก็น้อยมากแค่ 30 ตัว และยังมีจุดอ่อนอีกมาก นักวิชาการจึงแทบไม่ใช้ดัชนีนี้เลย
สำหรับนักลงทุนและคนทั่วไป ดัชนีดาวโจนส์คือสิ่งที่เขาสนใจติดตาม และที่จริงมันสามารถเป็นตัวแทนตลาดหุ้นได้อย่างน้อยก็ 80-90% ขึ้นไปเพราะหุ้นที่ถูกคัดเลือกมาอยู่ในดัชนีนั้น เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่สุด และอยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายเพียงพอ ที่สำคัญที่สุดก็คือ มันมีสถิติต่อเนื่องมากว่า 100 ปีแล้ว
ในส่วนการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค ในแง่ของวิชาการมองว่า มันเป็นศาสตร์ที่ไม่สามารถทำนายทิศทาง และราคาของหุ้นในอนาคตได้
นี่คือสิ่งที่มีการสรุปภายหลัง ในช่วงที่ดาวคิดเรื่องนี้มันอาจจะใช้ได้ผล หรือถึงแม้การวิเคราะห์ทางเทคนิคทั้งหมด ไม่เคยใช้ได้เลย แต่มองในแง่เป็นความพยายามที่จะหาวิธีวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่สำคัญ ก็น่าที่จะทำให้โลกของการลงทุนพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง จากเรื่องของการเก็งกำไรจากข่าวแต่เพียงอย่างเดียว มองในแง่นี้ ก็เพียงพอแล้ว ที่ชื่อของดาวติดอยู่ในทำเนียบคนที่สำคัญที่สุดหนึ่งในสิบคนในวงการลงทุนในหลักทรัพย์ของโลก

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘