วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน กระบวนท่าที่ 2 กระบวนท่าสัมพันธ์กับใจ

ตอนที่แล้ว วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน กระบวนท่าที่ 1 เป็นการพูดถึงการเตียมพร้อมทางจิตใจเพื่อรับสถานการณ์ที่เลวร้าย ผู้ลงทุนจะต้องฝึกความพร้อมทางจิตใจ ให้มีสติ อย่าหวั่นไหว ตื่นตระหนก กับอารมณ์ของตลาดที่แปรปรวน ซึ่งการฝึกเพื่อให้จิตใจพร้อมสำหรับรับสภาวะกดดันนั้นก็คือ “การนั่งสมาธิ” นั่นเอง ตามลิงค์นี้ครับ

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I3589236/I3589236.html

ผม ลืมไปว่า ก่อนจะขึ้นกระบวนท่าที่ 1 ผู้ลงทุนควรจะต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า มีองค์ประกอบสำหรับนักลงทุน หรือ “จอมยุทธ์” ที่จะเข้ามาในตลาดหุ้น หรือ “ยุทธภพ” ครบองค์ประกอบทั้ง 5 แล้วหรือยัง ท่านที่ลืม หรือยังไม่ทราบ ดูองค์ประกอบทั้ง 5 ได้ ที่ วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน 2 ตามลิงค์นี้ครับ

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/I3256937/I3256937.html

ก่อน จะขึ้นกระบวนท่าที่ 2 ผมขอเพิ่มเติม เนื้อหาในส่วน “คัมภีร์ยุทธ์” ซึ่งเป็นองค์ประกอบข้อที่หนึ่ง องค์ความรู้ที่นักลงทุนควรมีที่ผมมองว่ามีประโยชน์มาก นั่นคือ “การวิเคราะห์จิตวิทยามวลชน”

จากประสบการณ์ที่ผมได้พบ นักลงทุนที่เก่งๆ อาจจะเรียกว่าถึงขั้น “เซียน” ที่มักจะแฝงตัวอยู่ตามห้องค้า นั่งเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร (เซียนตัวจริง รวยจริง มักจะเก็บตัว ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนให้ใครรับรู้ เหมือนกับปรมาจารย์ที่มีวิทยายุทธ์สูงส่ง มักจะพักอาศัยอยู่ตามป่าเขา ให้ผู้มีบุญได้ฝากฝังตัวเป็นลูกศิษย์) นักลงทุนพวกนี้ นอกจากจะวิเคราะห์ทางด้านพื้นฐาน และวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แล้ว ยังสามารถวิเคราะห์จิตวิทยามวลชน เพื่อให้รับรู้ และทันกับอารมณ์ของตลาดได้อีกด้วย

ผมไม่ได้จบทางด้านจิตวิทยามา จึงไม่ทราบว่า มีตำราให้ได้เรียนหลักการวิเคราะห์จิตวิทยามวลชนหรือไม่ แต่คิดว่าน่าจะมีนะ หากผมเจอ จะลองซื้อมาอ่านดู ก็ดีเหมือนกัน ส่วนมากนักลงทุนที่ผมเจอ จะอาศัยการเรียนรู้จากประสบการณ์ และการลองผิดลองถูกมากกว่า

นักลงทุนผู้นี้ เมื่อผมพบทีไร จะเข้าไปเสวนาด้วยทุกครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ใจจริง ผมหวังเอาไว้ลึกๆ ว่า นักลงทุนผู้นี้อาจจะหลุดปาก บอกเทคนิคดีๆ อะไรให้กับผมบ้าง เพราะเขามองตลาดได้เนี๊ยบเลยทีเดียว แต่ความหวัง ก็คงเป็นแค่ความหวัง “เซียน” มักจะค่อนข้างหวงวิชา เหมือนกับปรมาจารย์ที่มักจะคัดกรองลูกศิษย์ ก่อนจะถ่ายทอดวิชายุทธ์ให้

จริงๆ ในโต๊ะสินธรนี้ ผมพบ นักลงทุนผู้หนึ่งที่อาศัยเครื่องมือทางเทคนิค มาช่วยดูทางด้านจิตวิทยามวลชน นักลงทุนผู้นี้ ผมเคารพเสมือนเป็นอาจารย์ของผมคนหนึ่ง เพราะผมเข้าไปอ่านเวปของเขาแทบจะทุกวัน และได้เรียนรู้อะไรๆ อีกมากมาย จากสิ่งที่เขาพยายามถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ

คนที่เป็นขาประจำในสินธร คงจะรู้แล้วว่าผมหมายถึงใคร…..

“เฮียร็อค” นั่นเอง เครื่องมือทางเทคนิค ที่ผมกล่าวว่า สามารถช่วยดู จิตวิทยามวลชนได้ระดับหนึ่ง ก็คือ “OBV” เป็นเครื่องมือที่ใช้พิจารณาการสะสมปริมาณหุ้น ซึ่งสามารถสื่อถึงจิตวิทยามวลชน หรืออารมณ์ของตลาด ณ เวลา นั้นๆ ได้ดีทีเดียว

ผู้ที่ร่วมงาน มีตติ้ง “เฮฮา แบบมีสาระหุ้น” เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และได้รับหนังสือรวมบทความไป ลองกลับไปอ่านบทความของ “เฮียร๊อค” ชื่อบทความว่า “สุขภาพหุ้น สุขภาพพอร์ตและสุขภาพใจ” อธิบายและยกตัวอย่างการใช้ OBV ได้ดีทีเดียว ท่านที่ยังไม่มีหนังสือ ดาวน์โหลดมาอ่านได้ที่ลิงค์นี้ครับ

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/I3371266/I3371266.html

และอ่านเพิ่มเติมได้ที่เวปของเขาได้ทุกวัน ซึ่งผมเห็นว่า มีประโยชน์มากตามลิงค์นี้ครับ

http://www.setontherock.com

มาเข้าเรื่องกระบวนท่าที่ 2 กันต่อ ตอนนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เข้ามาในตลาดหุ้น หรือ “ยุทธภพ” ลองอ่านกันดูครับ

วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน กระบวนท่าที่ 2

ตลาด หุ้นนั้นเป็นตลาดที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน (แต่พวก ตลก มักจะจำกัดสิทธิบางประเภทแก่พวกเรา) ตราบใดที่คุณมีเงินในกระเป๋า ก็สามารถเข้าสู่ตลาด หรือ “ยุทธภพ” นี้ได้

แต่ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่าทุกคนเหมาะที่จะเข้าไปเล่นหุ้น หรือ ลงทุนในหุ้น แล้วแต่ใครจะเรียก (ผมมักจะพูดติดตลก ในกระทู้อยู่หลายครั้งว่า ถ้าเล่นหุ้น ระวังจะโดนหุ้นเล่น แต่ถ้าลงทุนในหุ้น ก็จะได้หุ้นมาลงทุน)

นอกจาก นั้น วิธีการเล่นว่าควรจะเล่นแบบไหน ก็มักจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่เป็นเรื่องเฉพาะเกี่ยวกับตัวผู้เล่น เอง ทั้งในด้านกำลังเงิน สภาพแวดล้อมของการดำเนินชีวิต และการทำงาน รวมไปถึงอุปนิสัยใจคอที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ด้วย ผู้ที่มีความแตกต่างกันในปัจจัยเหล่านี้เวลาเล่นหุ้นก็ควรเล่นกันคนละแบบ ไม่ควรเอาอย่างกัน

โดยส่วนตัวของผม หากใครเคยอ่าน วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน 3 คงจะยังคงจำได้ว่า พอร์ทการลงทุนของผมเป็นแบบ 5-4-1 คือ 50% เป็น Value Investing (VI) 40% เป็นแบบลูกผสม โดยผมให้ชื่อว่า FTA (Fundamentally Technical Analysis) เฮียคลาย เคลียด บรรญัติศัพท์ของผู้ที่ลงทุนแบบลูกผสมว่า VSOP (Value Surfing by Openminded Pragmatic) และอีก 10% เป็นแบบ Value Speculating (VS) คำนี้ ถ้าจำไม่ผิด “คุณอยากเชือก” เป็นผู้บรรญัติไว้ อาจจะต่างความหมายจากผมนิดหน่อย

จากการลงทุนแบบ 5-4-1 สื่อให้เห็นว่า “ผมเป็นนักลงทุนแบบลูกผสม ทั้งลงทุนในหุ้น และเล่นหุ้นไปในเวลาเดียวกัน” ตามลิงค์นี้ครับ

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/I3271246/I3271246.html

คิดว่านักลงทุนทุกคน คงจะมีแนวทางการลงทุนที่แตกต่างกันไป บางคนอาจจะค้นพบแล้วว่า ตัวเองเหมาะสม หรือถนัดทางด้านใด บางคนก็ยังไม่ทราบ

แต่ น่าเสียดาย...ที่นักเล่นหุ้นหน้าใหม่ ส่วนใหญ่เมื่อก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้น หรือ “ยุทธภพ” แล้ว จะพากันเล่นแบบเก็งกำไรระยะสั้น (Speculating) กันทันที การเข้าตลาดหุ้นแบบนี้นับว่าเสี่ยงมาก

Speculating กับ Value Speculating ในความคิดของผมนั้นแตกต่างกัน โดยผมเปรียบเทียบว่า Speculating ก็คือการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง ไฮโล คืออาศัยดวงอย่างเดียว ต่างจาก Value Speculating ถ้าเปรียบเทียบคือการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ ดัมมี่ เก้าเก ที่นอกจากอาศัยดวงแล้ว ยังอาศัยชั้นเชิง ฝีมือ ประสบการณ์ และการวิเคราะห์คู่แข่ง (นั่นคือจิตวิทยามวลชนนั่นเอง)

เฮียคลาย เครียด เคยเปิดประเด็นเกี่ยวกับการพนันกับการเล่นหุ้นไว้ น่าสนใจทีเดียว ผู้ที่ยังไม่เคยอ่าน ลองอ่านดูครับ ตามลิงค์นี้

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/I3378974/I3378974.html

การ เล่นหุ้นแบบเก็งกำไรระยะสั้น (Speculating) นั้นต้องเข้าไว ออกไว หูตาไว กระทั่งบางทีต้องมีข่าววงใน ถ้าไม่ช่ำชองจริงๆ แล้ว โอกาสได้กำไรมีน้อยมาก ดังนั้นในวงการนี้ หาผู้ที่ทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จากการเล่นหุ้นแบบนี้ได้เพียงไม่กี่คน ซึ่งต้องถือว่าเป็นข้อยกเว้น

ต่าง จาก Value Speculating ซึ่งนักลงทุนหน้าใหม่ ยังคงทำไม่ได้แน่นอน เพราะนอกจากจะต้องอาศัยดวง ดั่งที่กล่าวมาแล้ว ยังต้องมีฝีมือ และหมั่นฝึกฝนด้วย คือต้องเก่งทางเทคนิคพอสมควร (เทคนิคในที่นี้ นอกจากการดูกราฟแล้ว ยังรวมไปถึงเทคนิคหรือทริคในการเทรดเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลด้วย) เพราะคนที่จะลงทุนหรือเล่นหุ้นแบบนี้ได้ จะไม่สนว่าหุ้นนั้นพื้นฐานจะดีแค่ไหนอย่างไร ขอให้มี Volume คือมีคนสนใจมาก ก็เล่นแบบ VS ได้ นอกจากจะต้อง “เก่ง” และ “เฮง” แล้ว ถ้าสามารถเข้าถึงแหล่งข่าวของพวกนักปั่น หรือนักเล่นหุ้นขาใหญ่ ที่มีอิทธิพลต่อตลาดได้ ยิ่งสามารถช่วยในการทำกำไรได้อีก ซึ่งนักลงทุนหน้าใหม่ไม่มีทางทำได้แน่นอน รวมทั้งนักลงทุนหน้าเก่าเช่นผมด้วย ที่ยังไม่มีความสามารถถึงขนาดเข้าถึงแหล่งข่าวได้เจาะลึกขนาดนั้น

Value Speculator ในสินธร ที่ผมคิดว่า ฝีมือดี และเห็นฝีมือกันจะๆ เวลาเขานำ กรณีศึกษามาให้ชมกัน ก็เห็นจะมี “คุณแอนดี้” นี่แหละ โดยเฉพาะการดู PDT (Power Down Tick) นี่ ยอมรับว่า ค่อนข้างแม่นยำเลยทีเดียว รวมทั้ง “เฮียร็อค” ที่ผมนับถืออีกด้วย อีกคนที่ผมคิดว่า ฝีมือดีเช่นเดียวกัน โดยเล่นหุ้นเป็นอาชีพ อาศัยความช่ำชองในตลาดมานานถึง 30 ปี นั่นคือ พี่ prettypetie

รวมทั้งอีกหลายๆ คน ที่ฝีมือดีไม่แพ้กัน ทั้ง “คุณหมอวีค” ที่เล่นหุ้นเป็นอาชีพ และยังเป็นวิทยากรรับเชิญในงานมีตติ้งครั้งที่ผ่านมา “เฮีย aeaw” บุรุษผู้ย่ำไปที่ไหน แผ่นดินต้องมีอันสะเทือน (555 ล้อเล่นนะครับเฮีย) เจ้าของ “เผ่น พันลี้” “เฮียคลาย เครียด” เจ้าของสำนักเทิมเปิ้ลบ๊อกซิ่ง กับหลักสมเกิน (จริงๆ ผมว่าน่าจะกึ่งๆ VSOP) ที่ผมเห็นว่ามันคือคำตอบของการวิเคราะห์จิตวิทยามวลชนเลยทีเดียว และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผม ในการเขียนบทความ “วางหมาก...กระดานหุ้น”

อีก คนที่ลืมไม่ได้ เคยเขียนบทความ “แท่งเทียนวันนี้” อยู่ช่วงหนึ่ง คือ “คุณโฆษิต” วิเคราะห์แท่งเทียนได้อร่อยมาก อีกคนซึ่งหายไปหลายเดือนแล้ว คือ “คุณ chezip” จากการได้แลกเปลี่ยนทัศนะกันทางอีเมล หลายฉบับ ยอมรับว่าเป็นนักลงทุนที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ว่าแล้วจบการเขียนบทความนี้ คงต้องตามหาเขาดีกว่า เห็นหายไปนาน ไม่รู้ไปไหน

คนอื่นๆ ก็มีนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่า เขาเป็น VS หรือเปล่า อาทิเช่น “คุณอยากเชือก” ที่ไม่ยอมมีอมยิ้มกับเขาเสียที (ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นคนดังนะ) อีกคนคือ “คุณ luck me” คนเก่าๆ ที่ตอนนี้หายไปก็มีครับ อาทิเช่น “คุณชอบอ่าน” “คุณ Invisible hand” นึกออกได้เพียงเท่านี้ ขออภัยจริงๆ กับ VS ท่านอื่นๆ ที่มีฝีมือไม่แพ้กัน รวมทั้งท่านที่เป็น VSOP หลายๆ ท่านที่ผมไม่ได้กล่าวถึง อาทิ คุณซีเค คุณคัดท้าย เฮียฟิชชี่ ฯลฯ)

โดย ส่วนตัว ผมไม่ค่อยชอบ VS แบบ day trade (คุณแอนดี้ จะถนัดมาก คนที่สนใจลองคุยกับเขากันได้ที่หลังไมค์) เพราะในแต่ละวัน ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ใจจดจ่ออยู่กับเบาะแส สัญญาณต่างๆ ซึ่งผมเห็นว่ามันทำให้เครียดหนัก ยิ่งกว่าการทำงานธรรมดาเสียอีก มีแรงบีบคั้นกดดันในจิตใจ และอารมณ์ที่ยากจะอธิบายได้ (คนที่ลองอยู่น่าจะรู้ดี) ส่วนใหญ่ VS ที่ผมเล่น ผมจะใช้กราฟระดับ 30 นาที เป็นหลัก โดยดู 5, 10, 15 และรวมไปถึงระดับ 60 นาที เป็นรอง เพื่อใช้ตัดสินใจในการทำการซื้อขาย การซื้อขายบางครั้ง 2-3 วัน บางครั้งเกือบอาทิตย์ก็มี ไม่ค่อยเป็น day trade เท่าไหร่

ออกไปเรื่อง Value Speculating เสียเยอะ กลับมาเรื่อง Speculating กันต่อดีกว่า...

นัก ลงทุนหน้าใหม่ ที่ชอบเข้ามาแล้วเก็งกำไรระยะสั้น (Speculating) และบางคนยังเข้าใจผิด คิดว่าตัวเองเป็น VS เสียด้วย ไม่มีทางที่จะทนทานภาวะกดดัน ของการลงทุนระยะสั้นได้แน่นอน จิตใจจะสับสน กระวนกระวาย การตัดสินใจจะไม่เด็ดขาด คิดกลับไปกลับมา ในที่สุดก็มักจะกลายเป็นว่า ตัดสินใจซื้อหุ้นในราคาสูงเกินไป หรือขายไปในราคาที่ต่ำกว่าควรจะเป็น แล้วก็มาโทษตลาด โทษเจ้ามือ โทษอะไรต่างๆ นาๆ แต่ไม่ได้มองดูว่า ตนเองเลือกทางเดินในการลงทุน หรือเล่นหุ้นที่ผิดมาตั้งแต่แรกแล้ว

อย่างไรก็ดี ถ้าคุณถลำตัวเข้าสู่วงจรของการเก็งกำไรระยะสั้น (Speculating) ไปแล้ว ก็ยังพอจะได้ประโยชน์ จากการเล่นตรงที่ว่า “ทำให้คุณได้บริหารหัวใจเป็นระยะๆ” ทำให้เลือดได้สูบฉีด!!! 555 ล้อเล่นครับ

คุณ ก็สำรวจดูว่า การเล่นแบบนี้ กระทบจิตใจตัวเองอย่างไร หากว่าตัวเองรู้สึกท้อแท้ อ่อนอกอ่อนใจกับความผิดพลาด (ซึ่งผมก็เจอกระทู้แบบนี้เยอะมาก ในช่วงที่ตลาดหมีแบบนี้) ก็อย่า เล่นเช่นนี้ต่อไป แต่หากว่าคุณรู้สึกว่า สนุกดีนะ มันส์ดีจริง ก็จัดได้ว่าคุณมีเงินถุงเงินถัง ก็ยังสามารถเล่นแบบนี้ได้ต่อ เพียงแต่ว่า จะต้องรีบสรุปหาบทเรียน ขจัดข้อบกพร่องและความไม่รู้ของตนเองออกไปให้รวดเร็ว

นักเก็งกำไร ระยะสั้น (Speculator) ที่เห็นอยู่ในตลาดหุ้นมีมากเหลือเกิน เฉพาะที่อยู่ตามห้องค้า ผมว่าเกิน 90% ที่เหลืออีก 10% เป็น VS แบบ day trade

จากการที่ได้คุยกับเพื่อนที่เป็นมาร์หลายคน พบว่าส่วนใหญ่แล้วพวกนักเก็งกำไรระยะสั้น (Speculator) จะเสียมากกว่าได้ และมีอยู่ส่วนหนึ่งที่ไม่เหมาะมาเล่นหุ้นแบบนี้เลย นั่นก็คือพวกกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเห็นได้เยอะมาก ตามห้องค้า พวกเขาเหล่านั้น ไม่เข้าใจตลาด ไม่รู้จักเลือกหุ้น ตัดสินใจไม่เป็น ว่ากันมา ก็ตามเฮโลกันไป จังหวะที่พอจะได้กำไร กลับขาดทุน มักจะเข้าซื้อในตอนที่ราคาหุ้นเริ่มอ่อนตัวลง (หลังจากพุ่งแรงมาแล้ว) เป็นแมงเม่า บินเข้ากองไฟ หรือไม่ก็เทขายหุ้นที่ราคาตกไปจนถึงระยะที่ใกล้จะเงยหัวขึ้นมาอยู่แล้ว เรียกว่า “เข้าไม่ถูกจังหวะทั้งขึ้นทั้งล่อง”

ดังที่ได้บอกไปแล้วว่า “มีคนบางคนเท่านั้น ที่สามารถเล่นแบบเก็งกำไรระยะสั้น (Speculating) ได้” ไม่ใช่ว่า เขาเล่นได้ เราต้องเล่นได้ ดังนั้น อยากให้คนที่เล่นหุ้นแบบเก็งกำไรระยะสั้น (Speculating) ลองหันมา เล่นแบบ Value Speculating ดูบ้าง ศึกษาก่อนให้มากๆ และนำความรู้ที่ได้ ไปลองใช้จริง เพื่อให้เกิดประสบการณ์ และความช่ำชองในการใช้เครื่องมือ หรือไม่ก็ผันตัวเองเป็น Value Investor ไปเลยก็ได้ หากมีเงินเย็น และมุ่งหวังที่จะลงทุนยาวๆ เพื่อเงินปันผล หรือคนที่ชอบครึ่งๆ กลางๆ ก็หันมาใช้แบบ ลูกผสม FTA หรือ VSOP แล้วแต่ใครถนัด น่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า Speculating

จริงๆ จากงานวิจัยทางการเงิน ผลสรุปออกมาว่า การ “ลงทุน” ในหุ้นระยะกลางและระยะยาว โดยอิงอยู่กับความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่เราจะซื้อขาย ทั้งอดีตและปัจจุบัน จะมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าการ “เล่น” หุ้นแบบเก็งกำไรระยะสั้น (Speculating) และไม่ต้องเคร่งเครียดจนเกินไปด้วย การ “ลงทุน” ในหุ้นแบบนี้ จึงจะรู้สึกสนุก เพลิดเพลิน อันเป็นกำไรที่แท้จริงของชีวิตมากกว่า

ดังนั้น หากรู้ตัวเองว่า ไม่อยู่ในประเภทนักเก็งกำไร (Speculator) แต่เป็นนักลงทุนที่ต้องการมีรายได้งอกเงยจากก้อนเงินที่ตนเองมีอยู่ นอกจากงานที่ทำอยู่ปกติ และยังพอมีเวลาได้ติดตามข่าวสารเหตุการณ์ รู้จักวิเคราะห์สถานการณ์ ทำความเข้าใจหุ้นในตลาดจนรู้จัก ก็ลองเปิดใจศึกษาทั้งการวิเคราะห์พื้นฐาน วิเคราะห์เทคนิค และวิเคราะห์จิตวิทยามวลชนดู และเข้าไปลงทุนแบบ VS ทั้งสั้น กลาง ยาว แล้วแต่ความชอบ หรือจะแบบลูกผสมแบบ FTA หรือ VSOP ก็ได้แล้วแค่ความถนัด

แต่ หากเป็นคนที่มีเงินเย็น มุ่งหวังผลตอบแทนเป็นเงินปันผล มากกว่าส่วนต่างราคา อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่ตนเองชื่นชอบ ไม่สนใจการวิเคราะห์ทางเทคนิคเลย ก็ให้ลงทุนแบบ VI เน้นลงทุนที่คุณค่าของหุ้น หรือถ้าอยากใช้เทคนิคอยู่บ้าง FTA ก็เป็นทางเลือกที่ดี ที่จะทำให้คุณมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นได้ จากการใช้ Model Trade (ผู้ที่ยังไม่ทราบว่า FTA เป็นอย่างไร ลองอ่าน วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน เจาะลึกกลยุทธ์ FTA ดูครับ ตามลิงค์นี้

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/I3299212/I3299212.html)

หรือคุณจะขยันหน่อย ใช้แบบ DSM ก็ได้ (รายละเอียด หาอ่านได้ที่ห้องอิสรภาพทางการเงิน)

ซึ่งพวก VS, VSOP หรือ VI โอกาสที่จะผิดพลาด จะน้อยกว่าพวก Speculator

เลือกทางเดินของการลงทุนที่คุณถนัด และใช้มันได้ดี จะส่งผลดีต่อการลงทุน และเงินในพอร์ทของคุณครับ

ขอให้ “จอมยุทธ์” ทุกท่านโชคดี ให้อยู่รอดปลอดภัยใน “ยุทธภพ” นี้ด้วยเทอญ

ตอนนี้คงขอหยุดไว้เพียงเท่านี้ ไว้พบกันตอนหน้า กระบวนท่าที่ 3

“แมงเม่าของเมื่อวันวาน คือ เซียนหุ้นของพรุ่งนี้”

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘