จดหมายระหว่างลุงขวดและพี่ครรชิต 1

โดยคำแนะนำของพี่ปรัชญาครับ ผมเลยขอนำจดหมายของ ลุงขวด กับ พี่ครรชิต และเพื่อนๆ มาเก็บบันทึกไว้สำหรับอนุชนรุ่นหลังครับ

ขออนุญาตนำ จดหมายถึงลุงขวด และ ความคิดเห็นของเพื่อนๆ ให้มาอยู่ติดๆกัน EPISODE 1

จดหมายฉบับที่ 1 จาก ครรชิต ไพศาล 4/12/45


ครรชิต wrote:
ลุง ขวด ครับ ผมเข้ามาอ่าน จดหมายจาก ลุงขวด บ่อยๆแต่ไม่ได้เขียนมาคุยด้วย เห็น แนวทางการลงทุนของลุง แล้วชอบ เพราะเป็นแนวเดียวกัน ผมเป็น คนสงขลา

เรียน วิศวะ จุฬา รุ่นเดียวกับ ดร. นิเวศน์
ผมก็เก็บหุ้น TR ไว้เหมือนกับ ลุงขวด ตั้งแต่ต้นปี จะเก็บแทนเงินฝากประจำ ราคาเฉลี่ย อยู่ที่ 128 บาท ปีที่แล้ว เขาจ่ายปันผล 7 บาท ประมาณ 23% ของ EPS เก็บเป็นกำไรสะสม 77% ปีนี้ ก็น่าจะจ่าย ไม่น้อย กว่า 23% ก็ตก 40.92*.23 = 9.41 บาท ที่ลุงกะ 10 บาท น่าจะได้นะ กำไรสะสมยังไม่จัดสรรของบริษัทเขาเยาะมาก 2,842,240,834 บาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน เพียง 201,600,000 บาท ผมกะว่าจะค่อยๆ สะสมเพิ่มเรื่อยๆ แต่ต้อง ให้ เงินปันผลออกก่อน ค่อยเอามาสะสมต่อ

ผม ได้อ่าน หนังสือ ตีแตก , เซียนหุ้นพันธุ์แท้ และเป็น แฟน บทความ Value Investor ของ ดร. นิเวศน์ เป็นประจำทุกวัน อังคาร

และหนังสืออีกเล่ม ที่อยากให้ เพื่อนๆ Value Investor อ่าน คือ "วาทะคนแถวหน้า วาทะของ วอร์เรน บัฟเฟทท์" เจเน็ต โลว์ เขียน ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ แปล อ่านง่าย เข้าใจง่าย วอร์เรน บัฟเฟทท์ เขาสรุปเรื่องวิธีการลงทุน ไว้ว่า

" ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และ ถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี"

ผมได้อ่าน หนังสือ เล่ม นี้ ก่อนอ่าน หนังสือ ตีแตก ของ ดร. นิเวศน์

พอได้อ่าน วรรคทอง ตรงนี้ ประกอบกับ ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ธนาคาร มันลงเหลือเกิน เลย ตัดสินใจย้ายเงิน มา ตลาดหุ้น เมื่อ เดือน ก.พ.ต้นปี 45 นี้ ซื้อ AYUD ที่ 105 บาท PPPC ที่ 52 บาท TR เฉลีย 128 บาท GRAMMY ที่ 118 บาท ก่อนแตก พาร์ และจะไม่ขาย เก็บไว้กินปันผลแทนดอกเบี้ยฝากประจำ จากธนาคาร

วันก่อน ผม E-mail ไปถาม ดร. นิเวศน์ ว่า พอร์ตของ ดร. มีมูลค่าเท่าใด แล้ว อาจารย์ บอก ว่า ตอนนี้ ตัวเลข 9 หลักแล้ว 3-4 ปี มานี้ เติบโตขึ้นปีละ 30%-40% และบอกว่า ก่อนตาย จะต้องสะสมทำให้ได้เป็น 10 หลัก

วันนี้ คุยเท่านี้ก่อน นะครับ วันหลังจะเขียนมาคุย กับลุงขวดอีก

จ4 ธ.ค. 2545 16:32:31 น.

:
จดหมาย จากลุงขวด 4/12/45

ลุงขวด wrote:
ยินดี ที่ ได้รู้จัก ครับ อุตส่าห์บอกหลายเรื่องรวมทั้ง เรื่องส่วนตัวด้วย ถ้าคุยมากไปเดี๋ยวเขาบอกทำไมไม่ไปคุยกันส่วนตัว...(ขอโทษด้วย สำหรับคนที่ไม่อยากรู้จัก) บังเอิญผมไม่ชอบแจก อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์ เลยไม่ค่อยได้รู้จักใครเท่าไร.....ยอมรับ มีเพื่อน ในห้องสนทนา pantip รู้จักกัน เพียง 5 คนเท่านั้น(ยังคิดถึงเขาทั้งหลายอยู่นะครับ)....ตอนนี้เก็บตัว ไม่ได้พบใครเท่าไร....กำลังหาความรู้ทางด้านเทคนิคอยู่ แต่ยังไม่สำเร็จสักที พยายามอยู่
ความรู้ส่วนตัวก็ เด็กวัดสุทธิ ระดับมัธยม และไปเรียน อัสสัมชัญพาณิชย์ และ ไปสูงสุดที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เศรษฐฯ สาขา การเงินการธนาคาร (ภาคค่ำ)เข้าไปปี 2511 จบปี 2516 ตามหลักสูตร 6 ปี สำหรับ ภาคค่ำ.......คนจนนะครับ...จึงต้องเรียนพาณิชย์ให้จบไว ๆ แล้ว ก็ทำ งาน ไป เรียนไป....ได้แค่นี้เอง....ยอมรับว่า ทาง อัสสัมชัญพาณิชย์นี่ ให้ความรู้มากจริง ๆ รุ่นเดียวกับผมที่ เก่งและ ได้เป็นเจ้าของกิจการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ถึง 3 คนด้วย กัน (เด็ก ACC อัสสัมชัญพาณิชย์).....อีกคนเป็นเซียนหุ้น เอ่ยชื่อก็รู้จักกันหมด(เสียดายที่ไม่สนิทกับผมเท่าไร)

หุ้นที่บอกมาก 4 ตัว ผมมี สองตัว ก็ ayud กับ tr ส่วน PPPC และ grammy ไม่มีครับ เคยมีแต่ขายไปแล้ว ไม่ได้ถือยาว ในกลุ่มบันเทิง ผมว่า p/e และ p/bv นั้นสูง ๆ กัน ทุกตัว ผมวิเคราะห์กลุ่มบันเทิงไม่เป็น เลยไม่ได้ถือยาว ครับ
ผมเล่นหุ้นมา 13 ปี ขาดทุนส่วนใหญ่ มากำไรก็ 4 ปีหลังนี้เองที่กำไร มาก ๆ ในสองปีหลัง ผมว่าตลาดเมืองไทย แบบ ปลอดภัยก็หุ้นปันผล ถ้าสามารถ ทำกำไรแถวประมาณ 15% ขึ้นไป ทุกปี ก็พอใจ นับว่า สอบผ่านแล้ว ถ้าจะเอา grade A ก็ต้องทำให้ได้ถึง 30% ต่อปี....ผมคิดว่า มีคนทำได้ แต่ผมยังทำไม่ได้นะครับ แค่สอบผ่านเท่านั้นเอง แมงเม่า ที่เอาตัวรอดในแต่ละปี

หุ้นในดวงใจที่ชอบ คือ FANCY MBK LTX (ตอนนี้ ltx ชักจะตื้อ ๆ แล้ว อย่างเก่งก็ไม่น่าเกิน 46 บาท ถ้าถึงระดับราคานั้นก็คงต้องลดลง แต่ถ้ายังปันผลปีละ 3 บาทก็คงถือต่อและดูผลประกอบการแต่ละไตรมาสในกานตัดสินใจต่อไป.....สูงสุดตัว นี้จำได้ว่า แถว 44 ตอนนี้ เห็นมีคนรับตลอดแถว 40 บาท).

หุ้นที่ผมติดอยู่ยอดดอย ก็กลุ่มธนาคาร จะหาทาง ซื้อ ถัวก็ทำไม่ได้ เพราะต้องใช้เงินมาก มันเกิดอาการว่า กำไร ไม่กี่พัน (ทำtrading ) แต่เวลา cut loss ทีหนึ่ง เสียเป็นแสน เลยไม่ได้ทำอะไรกับมัน.......อีกตัว ก็ sta โดนเรื่องที่ว่า ราคายางสูงตั้งนานเมื่อช่วงต้นปี ผมมันเรียนพ่อค้ามา เขาว่า ราคาสินค้าสูงขายสินค้า ง่าย และ ทำกำไรได้ง่าย เลยซื้อไว้ตรึมเลยที่แถว 33-34 บาท ตอนนี้เหลือแค่ 26-27 บาท......โดน จับ นั่งยาง ไปเลย ไหม้เกรียมอยู่นี่แหละ ยังค้างอยู่เลยครับ แต่อย่างไรคงมีปันผล น่าจะ 1.50 บาท มันดีตอนนี้ หละครับ......1.50 จากทุน เฉลี่ย 33.50 ก็ได้ Divident Yield 4.48 % เอ่ย...ยังดีกว่า เงินฝากเสียอีก เลยไม่ทุกข์ร้อนเท่าไร...........มันชักยาวไปแล้วเลยขอหยุดเท่านี้ก่อนนะ ครับ


จดหมายจาก ครรชิต ไพศาล 4/12/45
ครรชิต wrote:
ฟังจากประวัติ การศึกษาของ ลุงขวดแล้ว น่าจะอายุใกล้ๆ กับผมนะ ผมอายุ 49 ปีแล้วปีนี้ เกิด 2496 เท่ากันหรือเปล่าครับ ลุงขวด ?

หุ้น GRAMMY ผมเห็นเขาเริ่มมีกำไรสะสมดีแล้ว และ น้องๆ ดารา นักร้องเขาก็ร้องเพลง ทำงานหาเงินให้บริษัทกันเก่ง ๆทั้งนั้น โดยเฉพาะ หนุ่ม เบร์ด ออกเพลงทุกชุด ก็กำไรทุกชุด เลยนึกเสียว่า ออกเงิน ซื้อตั๋ว ดูคอนเสริท ขอ เป็น Chairsholder (ยืมมาจากคำ Sharesholder) นั่งดูคอนเสริต แล้วไม่ยอมลุก ตราบใดที่ ลูกสาวผม ยังชอบฟังเพลง และซื้อ CD เพลงของ GRAMMY อยู่ ได้ปันผลมา 5% ก็ดีกว่าฝากธนาคาร

ส่วน PPPC ผมคิดว่า คนเราใช้ กระดาษชำระ และกระดาษ อื่นๆ ใช้แล้วทิ้ง ใช้แล้วทิ้ง อยู่ทุกวัน เมื่อเข้าไปดู กำไรสะสม ก็มีอยู่สูงพอสมควร ดูปันผล กลางปี 2 บาท ปลายปีอีก 4 บาท ได้รับการส่งเสริม ปันผล ไม่ต้องเสียภาษี อีก หนี้ ต่างประเทศก็ไม่มีแล้ว แถมผู้ถือหุ้น ใหญ่ เป็น เยื่อกระดาษสยาม และ กระทรวงการคลัง อีก ราคา ตอนนั้น 52 บาท ผมเลยขอเป็น Chairsholder
อีกบริษัท และ จะนั่งไม่ลุก ตราบใดที่ กระดาษ ยังถูกใช้แล้วทิ้ง อยู่ทุกวัน และ ได้รับปันผล สูงกว่าเงินฝากประจำ

หุ้น เกษตร ผม มี CM อยู่ วันก่อน ลงไปนอนพักผ่อน อยู่ที่ 35 บาท อยากจะซื้อเพิ่ม ก็ไม่มีเงินแล้ว ต้องรอให้เงินปันผลออก ก่อน บริษัทนี้เขา ก็มี กำไรสะสมมาก หนี้ น้อย ผลประกอบการ สม่ำเสมอ ปันผล 8%-9% ทุกปี ผมเลยขอเป็น Chairsholder อีกบริษัทหนึ่ง คอยซื้อ เก็บ หลังปันผลแล้วสักพัก ก็ลงไปนอนพักผ่อน ก็ค่อยๆซื้อเก็บเพิ่ม พอใกล้หน้าจะถึงหน้าปันผล ก็ขึ้นกลับไปใหม่ หุ้น หมวด เกษตร นิสัยเป็นอย่างนี้ทุกตัว

ผมตั้งใจว่า ลงทุนแนวนี้ ได้แค่นี้ ดีกว่า ดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคาร ก็พอใจแล้ว ไม่เอาแนวทาง ซื้อ แล้วขาย ซื้อแล้วขาย บ่อยๆ ไม่ไหว แก่แล้ว เวียนหัว เดี๋ยว หัวใจวาย ค่าคอม กินเข้าไปเรื่อยๆ

หุ้น ที่ผมตั้งใจ ว่าจะไม่เข้าไปเป็น Chairsholder เด็ดขาด คือ ธนาคาร ไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์ และ สื่อสาร

สุดท้ายนี้ ผมขอให้ ลุงขวด ประสบความสำเร็จ ตามแนวทาง Value Investor เพื่อ ได้เป็นตัวอย่างของรุ่นน้องๆ รุ่นหลังๆ ต่อไป นะครับ


:
จดหมาย จากลุงขวด 5/12/45

ลุงขวด wrote:
ผม เกิดปี 2491 เดือน สิงหาคม เดือนเดียวกับ ท่าน ดร. นิเวศน์เลย.....ไม่ได้มั่วนิ่มนะครับ.....ราศี เดียวกันเลยลงทุนแบบเดียวกันมังครับ cm มีเหมือนกัน การเล่นแบบเดียวกับที่บอก แสดงว่า คุณ ครรชิต....สอบเข้าเป็น นักเรียนในโรงเรียน value investor ได้แล้ว ก็คงได้ปันผล สัก 4 บาทเป็นแน่.........ตัวนี้มั่นคงดีในรอบนี้ไม่ลงมากเท่าไร ผมมั่นใจว่า เดือนหน้าหรืออย่างช้าเดือนกุมภาพันธ์ คงได้เห็นสูงขึ้นกว่า 10-15% เป็นแน่แท้ และ น่าจะมีปันผลสัก 4 บาท เช่นเดียวกับปีก่อน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘