101 ปฏิบัติการพลิกชีวิต (ตอนที่ 8 ต้นทุนชีวิต)

มาถึงตอนนี้ความจริงก็คงปรากฏตรงหน้าคุณแล้วใช่ไหมครับ ผมได้แต่หวังว่า คุณจะได้เจอข่าวดีจากความพยายามในการค้นหาความจริงในชีวิตที่คุณเองก็ “ไม่รู้” ว่า ตัวเอง “ไม่รู้” มาก่อน
 
     คงไม่ถึงกับต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงว่าคุณได้ยืน บัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน ถูกต้องหรือเปล่า เพราะงานนี้ไม่มีตำแหน่งใดทางการเมืองไว้รองรับ ทั้งหมดเป็นเพียงการตรวจสอบสถานะของคุณ ก่อนที่เราจะก้าวเดินกันต่อไปใน “ปฏิบัติการพลิกชีวิต” เพื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องเงินๆทองๆของตัวคุณเอง

     ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับที่จะพยายามปั้นตัวเลขฝั่งทรัพย์สินให้มันสูง หรือไปกดตัวเลขหนี้สินให้มันต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะถึงอย่างไร คุณก็หนีความจริงไม่พ้นอยู่ดี
  
     ทีนี้เราลองมาดูกันต่อไปว่า นอกจากการที่คุณจะรู้ถึงฐานะทางการเงิน หรือ ความมั่งคั่ง ที่คุณมีอยู่ตอนนี้ คุณได้อะไรติด“ปลายนวม” มาอีก จากการลองเริ่มต้นทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตคราวนี้

     เราได้อะไรจาก ตัวเลขในฝั่งทรัพย์สินบ้าง ผมหวังว่าคุณคงสามารถที่จะกรอกตัวเลขลงไปในรายการส่วนใหญ่นะครับ

     ถ้าคำตอบคือ “ไม่ใช่” ยังไม่ต้องถึงกับ “ใจเสีย” แต่ 5 รายการต่อไปนี้ จัดว่าเป็น ทรัพย์สินที่จำเป็นที่คุณควรจะมีเพื่อเป็น “ต้นทุน” ของชีวิตนะครับ คือ เงินสด เงินในบัญชีออมทรัพย์ ทุนประกันชีวิต บ้าน (ห้องชุดคอนโดมีเนียม) เครื่องประดับอัญญมณี พระเครื่อง หรือของสะสมมีค่า

     ถ้าคำตอบยังคง “ไม่ใช่” คงต้องยอมรับกับตัวเองแล้วละครับว่า ฐานะทางการเงินของคุณอยู่ในลักษณะ “อาการน่าเป็นห่วง” อย่างมาก

     คุณจะเชื่อหรือไม่ หากผมจะบอกว่า ยิ่งคุณมีรายการในฝั่งทรัพย์สินน้อยเท่าไร กล้าท้าพนันได้ว่า ฐานะทางการเงินของคุณมีโอกาส “ ติดลบ” แดงเถือก เพราะในทางตรงกันข้ามรายการในฝั่งหนี้สินมันมักจะมีมากมายจนแทบจะใส่ลงไปไม่ไหมดเลยเชียวละ

     ที่สำคัญหลายๆคนอาจจะตกใจเมื่อพบความจริงที่แสนเจ็บปวดว่า ที่ผ่านมาคุณได้หมด “เงิน” ไปกับการซื้อ “สมบัติบ้า” มาประดับ ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางกระเป๋า ตู้รองเท้า หรือแม้แต่ ไอ้เจ้าโทรศัพมือถือ I Phone / Blackberry หรือ Notebook (I Pad)

     ผมกล้ารับประกันได้ว่า เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ที่คุณมีอยู่จนนับไม่ถ้วน แต่มี “ตัวเก่ง” ที่คุณชอบใส่ประจำไม่เกิน 20% ที่เหลือมันคงถูกแขวน หรือวางทิ้งเอาไว้มาเป็นปีแล้วก็เป็นได้

     คงต้องพูดแบบ “เจ็บๆ”ตรงไปตรงมาว่า สมบัติบ้าเหล่านี้ไม่เพียงไม่ใช่ทรัพย์สิน แต่มันกลับเป็นตัวสร้างหนี้สินให้คุณเสียอีก

     ที่ร้ายไปกว่านั้น สำหรับบางคนอาจจะ “ทึกทัก” ไปว่า การมีรถเก๋งคันงามราคาเป็นล้าน คือการมีทรัพย์สิน แต่จริงๆแล้ว หากคุณต้องกู้ไฟแนนซ์มาซื้อ นอกจากมันจะกลายเป็นหนี้แล้ว คุณเคยคิดบ้างไหมว่า มูลค่าของไอ้เจ้ารถเก๋งคันงามของคุณนั้นมันหดหายไปทุกนาทีตามอายุขัยของมัน ทันทีที่คุณไปถอยมันออกมาจากโชว์รูม

     เมื่อความจริงประจักษ์แบบนี้ หลายคนอาจกำลังเริ่มออกอาการ ”ฟูมฟาย” หันไปโทษลัทธิบริโภคนิยม ที่เป็นตัวกระตุ้นกิเลสภายในของคุณ จนเผลอตัวสร้างหนี้สิน เพราะความต้องการอยากได้ อยากมี ที่สำคัญคือ อยาก “ดูดี” เหมือนคนอื่นเขา

     แทนที่จะหันไปโทษสิ่งรอบข้าง ลองมองย้อนกลับมาดู “ตัวเอง”ใหม่อีกครั้ง และตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน พร้อมกับสัญญาว่าจะ “เปลี่ยนแปลง” เพื่อไม่ให้ต้อง “เจ็บปวด” ไปมากกว่านี้จะดีกว่าไหมครับ เพราะยิ่งคุณเริ่มต้นช้าไปเท่าไร คุณก็ยิ่งถอยหลังลึกลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ จนยากที่จะไต่กลับขึ้นมาจาก “หุบเหวแห่งหนี้สิน” ที่คุณสร้างขึ้นเอง
  
     ข้อดีที่คุณได้รับจากบทเรียนแรก นอกเหนือจากการค้นหาความมั่งคั่งของตัวคุณเองที่เป็น “ต้นทุน”ของชีวิตแล้ว คุณยังค้นพบหลักการสำคัญของการสร้างหนี้อย่างชาญฉลาดคือ

     “จงเป็นหนี้ต่อเมื่อหนี้นั้นทำให้เรามีโอกาสในการสร้างประโยชน์หรือรายได้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต

     ตรงกันข้ามหากการเป็นหนี้ คือการต้องจ่ายให้กับ “สิ่งที่ไร้ค่า” เท่ากับ คุณกำลังทำตัวเองให้ตกต่ำ เพราะไม่ต่างอะไรกับการเอาทรัพย์สินที่คุณควรจะมีไปยกให้คนอื่นเสียฉิบ!!!

     กรุณาจำเอาไว้ให้ขึ้นใจนะครับ...

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘