บทเรียนที่ 1 : มองแนวโน้มให้ออกก่อน

หลักการมองแนวโน้ม เริ่มจากการมองเทรนด์ให้ออกก่อนเสมอ เทรนด์ในตลาดจะมีแค่ 3 แบบ
  • Up Trend   แบบขาขึ้น จะวิ่งขึ้นอย่างเดียว   (เหมาะกับการเข้าเทรด)
  • Down Trend แบบขาลง จะวิ่งลงอย่างเดียว (เหมาะกับการเข้าเทรด)
  • Sideways Trend แบบขนานเคลื่อนตัวไปทางด้านข้างแบบฟันปลา ขึ้นๆลงๆ พูดง่ายๆกราฟวิ่งไม่สวย ไม่มีแนวโน้ม (ตลาดช่วงนี้ นักลงทุนมักจะขาดทุนเสมอๆ) sideways แยกออกได้เป็น sideways ในช่วง (พักตัว) เทรนด์ขาขึ้น sideways ในช่วง(พักตัว)เทรนด์ขาลง
เมื่อมองแนวโน้มแล้วรู้ว่าแบบนี้คือ ขึ้น ลง หรือด้านข้างแล้ว ต่อมาก็มาเรียนรู้การเริ่มสร้างแนวโน้ม
  • แนวโน้มขาขึ้น Up Trend จะขึ้นแบบค่อยๆขึ้นไปก่อนแล้วพักตัว (เราเรียกว่า HL) แล้วขึ้นไปต่อทำแนวโน้มสูงขึ้น (เราเรียกว่า HH )
  • แนวโน้มขาลง Down Trend จะลงแบบค่อยๆลงไปก่อนแล้วพักตัว (เราเรียกว่า LH) แล้วลงไปต่อทำแนวโน้มต่ำลง (เราเรียกว่า LL )
trends01
ต่อมาก็มาถึงการฝึกหัดลากๆ ขีดๆ ยิ่งฝึกลากบ่อยๆ ยิ่งมองภาพรวมตลาดง่ายขึ้น
  • ในเทรนด์ขาขึ้น จะเริ่มจาก ต่ำสุดไปสูงใหม่ ได้สูงใหม่แล้วก็จะมีการ (พักตัว) ลงมาทำฐาน (เรียกว่า HL) เมื่อรู้แล้วว่าพักตัวก็จะเริ่มลากเทรนด์ขาขึ้นได้
  • ในเทรนด์ขาลง จะเริ่มจาก สูงสุดไปต่ำใหม่ ได้ต่ำใหม่แล้วก็จะมีการ (พักตัว) ขึ้นไปทำฐาน (เรียกว่า LH) เมื่อรู้แล้วว่าพักตัวก็จะเริ่มลากเทรนด์ขาลงได้
  • ส่วนการลากในกรอบ sideways นั้น จะมีหลายแบบด้วยกัน แบบขนาน แบบสามเหลี่ยม แบบกว้างไปแคบ บีบตัว ฟันปลา มีหลายรูปแบบ
trends02
  • เทรนด์ขาขึ้นสามารถลากเทรนด์ ได้สามช่วงเวลาคือ เทรนด์ขาขึ้นระยะสั้น  เทรนด์ขาขึ้นระยะกลาง เทรนด์ขาขึ้นระยะยาว
  • เทรนด์ขาลงสามารถลากเทรนด์ ได้สามช่วงเวลาคือ เทรนด์ขาลงระยะสั้น เทรนด์ขาลงระยะกลาง เทรนด์ขาลงระยะยาว
  • ส่วนกรอบ sideways ไม่ควรเข้าเทรด เสียเวลานานกว่าจะหลุดกรอบ ส่วนใหญ่แล้วมักจะคืนกำไร (ขาดทุน) เป็นส่วนใหญ่ วิธีมองกรอบ รอการทะลุกรอบได้แล้วมีแนวโน้มขึ้นหรือลงค่อยพิจารณาซื้อขาย
ในเทรนด์ขาขึ้นและขาลงนั้นจะมีแนวรับและแนวต้านเสมอ ๆ อะไรคือแนวรับแนวต้าน
แนวรับ (Support) คือกราฟราคาวิ่งลงมาทำฐานแล้วลงต่อไปไม่ได้
แนวต้าน (Resistance) คือกราฟราคาวิ่งขึ้นไปชนทำฐานแล้ววิ่งขึ้นไปต่อไม่ได้
  • ในเทรนด์ขาขึ้นนั้นกราฟจะวิ่งขึ้นไปจนสุดจนกว่าจะลง รู้ได้ไงว่าลง เมื่อลากเทรนด์ขาขึ้นแล้วหลุดเทรนด์ขาขึ้นนั้นแล้วก็จะลง (เปลื่ยนทิศทาง)
  • ในเทรนด์ขาลงนั้นกราฟจะวิ่งลงไปจนสุดจนกว่าจะขึ้น รู้ได้ไงว่าขึ้น เมื่อลากเทรนด์ขาลงแล้วหลุดเทรนด์ขาลงนั้นแล้วก็จะขึ้น (เปลื่ยนทิศทาง)
ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อมีเทรนด์ จนหมดเทรนด์ มักจะเกิด sideways ก่อนเสมอๆ เปรียบเสมือนการวิ่งมานานๆ แล้วเหนื่อยก็เลยต้องหยุดพัก (เกิด sideways) เมื่อลากกรอบ sideways ได้หลุดกรอบไปแล้วก็จะวิ่งไปต่อ (แสดงว่าหายเหนื่อยแล้ว)
trends03
ตอนนี้มีความรู้เรื่อง TREND LINE แล้วก็แนวรับแนวต้าน เทรนด์ขาขึ้นขาลง ต่อไปก็ลองวิชากันครับ
  • เมื่อเกิดเทรนด์ขาขึ้น แล้วลงมารับที่เส้น (แนวรับ) ลากเทรนด์ขาขึ้นได้แล้ว สามารถเป็นจังหวะเข้าซื้อ
  • เมื่อเกิดเทรนด์ขาลง แล้วขึ้นมาต้านที่เส้น (แนวต้าน) ลากเทรนด์ขาลงได้แล้ว สามารถเป็นจังหวะเข้าขาย
ไม่ว่าจะเทรดช่วงเวลาไหนก็ตาม 1m 5m 15m 30m 1h 4h 1d ทุกช่วงเวลามีเทรนด์เสมอ อยู่ที่เราแล้วว่ามองแนวโน้มออกหรือยัง…
และทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเกิดเทรนด์ขาขึ้น เทรนด์ขาลง เมื่อขึ้นแล้วก็จะขึ้นเป็นรอบจนหมดรอบ เมื่อเกิดเทรนด์ขาลงก็จะลงจนหมดรอบ คือควรเทรดเป็นรอบๆ ไปครับ
  • เทรนด์สามารถบอกจังหวะเข้าซื้อขายได้ตามระดับแนวรับแนวต้าน
  • เทรนด์สามารถบอกจังหวะหมดเทรนด์ของขาขึ้นขาลง ของรอบนั้นๆ แล้วช่วยให้มองภาพรวมได้ง่ายขึ้น
  • เทรนด์ยังช่วยให้ขาดทุนได้น้อยลง เมื่อรู้ว่าเข้าเทรดผิดทาง (สำคัญต้องมองแนวโน้มให้ออก รู้ว่าผิด ทางก็มีวินัยโดยการกล้า cut loss)
ความชันของเทรนด์ขึ้นหรือลงนั้น ยิ่งชันมากยิ่งหลุดเทรนด์เร็ว ยิ่งชันน้อยยิ่งวิ่งขึ้นลงนาน เมื่อลากเทรนด์แล้ว ฝึกซูมกราฟ มองภาพกว้างด้วยครับว่าเราเล่นยังไง บางครั้งมีเทรนด์แต่ภาพใหญ่ sideways

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘