DSM concept ตอนที่ 76
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I2949128/I2949128.html
สำหรับผู้ที่คิดจะใช้วิธีของพี่เด่นศรี
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ พี่เด่นศรีที่นับถือครับ
สำหรับผู้ลงทุนด้วยวิธีนี้
ต้องเตรียมใจมากกว่าสิ่งอื่นใช่ไหมครับ
เพราะวิธีนี้เป็นดาบสองคม
โดยเฉพาะการซื้อเข้ารอบใหม่นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ถ้าซื้อเข้าแล้วหุ้นตกอีก
อันนี้มูลค่าพอร์ตจะหายไปมหาศาล
ตัวเลขขาดทุนรวมของพอร์ตก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ
หากผู้ลงทุนใจไม่นิ่ง มองไม่เห็นสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่อย่างทะลุปรุโปร่ง
ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ก็เพื่อเพิ่มหุ้นเป็นหลัก
ตัวเลขขาดทุนที่โชว์หราอยู่
จะทำให้เราหมดกำลังใจ และไม่แน่ใจในสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ
และหากเราเลิกทำไปเสียก่อน
เราก็จะขาดทุนมากถึงมากที่สุดเลยล่ะครับ ตอนนั้นน่ะ
ไม่มีวิธีใดในตลาดหุ้นที่ไม่มีความเสี่ยง
หากทุกคนคิดว่าอ่านกระทู้ของพี่อาซ้อสี่ แล้วเกิดความรู้สึกว่า เอาล่ะวิธีนี้ล่ะว้า เราจะรวยเสียที(รับประกันเลย)
แต่ไม่มีวิธีไหนหรอกครับที่รับประกันความเสี่ยงได้100%
อย่างไรก็ดี วิธีของพี่เด่นศรีคือวิธีที่ค่อนข้างจะปลอดภัยมาก
แต่สมมติฐานเบื้องต้นคือ เรากำลังลงทุนเพื่อให้ได้ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น(ถ้าตลาดไม่แย่ หรือพอร์ตสมดุลดีอย่างไรก็จะไม่ขายหุ้น)
หากเราคิดแบบนี้ การลงทุนนี้ก็จะปลอดภัยมากครับ
แต่เมื่อใดก็ตามที่เราลงทุนแล้ว
เราเกิดใจเสียขึ้นมา
เราเกิดไม่แน่ใจขึ้นมาว่ากำลังทำอะไร(ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนโลเลง่าย วิธีนี้จะเสี่ยงมากๆเลยครับ ชอบอก)
วิธีนี้จะเป็นของหินเลยล่ะครับ
ดังนั้น หากจะใช้วิธีนี้
1.สำรวจตัวเองว่าด้วยบุคลิกของเราแล้ว เหมาะสมหรือไม่( ใจเย็นพอที่จะรอดูผลงานหรือเปล่า ใจโลเลหรือเปล่า เงินเย็นอ่ะจริง แต่พอตัวเลขแดงแล้วกลายเป็นของร้อนหรือเปล่า อะไรพวกเนี้ย)
2.ใจของเราต้องนิ่งครับ (เลิกมองกำไรขาดทุน จะให้ดี หุ้นที่ซื้อเพิ่ม ลบราคาซื้อทิ้งไปเลยครับ) จุดประสงค์หลักคือการเพิ่มหุ้นครับ
3. ตลาดหุ้นต้องไม่ใช่หมีแดงสุดๆครับ สำหรับคนที่เริ่มลงทุน แล้วอยากเห็นกำไรเร็วๆจะทำใจยากถึงยากมาก พอนานเข้าเราอาจจะทนไม่ไหวครับ(เงินเย็นเริ่มร้อนแล้วอะไรทำนองเนี้ย) เพราะอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานมากเกินไปในการcoverมูลค่าพอร์ตครับ
ในกรณีที่แดงอย่างยาวนานต่อเนื่อง เช่นถ้าเราเริ่มจากตลาดเฟื่องฟูสูงสุด ลงมาจนตลาดซบเซาสุดๆ(แต่เราก็ยังไม่ออกไปจากตลาด และซื้อเข้ารอบใหม่อีก) ก็จะเกิดปัญหาตามมาอีก(ถ้าคุณลงทุนด้วยวงเงินมากๆ) คือ การซื้อขายจะติดขัด (วอลุ่มเบาบางเกินไป) เมื่อนั้นพอร์ตจะสะดุดและไม่สมดุลได้ง่ายๆครับ
4 ถ้าล้มเหลว เจ็บตัว (โอกาสน้อย แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเลยนะครับ) เราต้องโทษตัวเองครับ อันนี้สำคัญมาก เพราะเป็นเราเท่านั้นที่เลือกวิธีนี้ขึ้นมาเอง คนที่รับผิดชอบก็คือตัวของเราเองเท่านั้นครับ
ผิดถูกอย่างไร พี่เด่นศรีช่วยแก้ไขด้วยนะครับ
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
อันนี้ถามพี่เด่นศรีครับ
สำหรับผมแล้วการเข้าซื้อใหม่มีความสำคัญมากที่สุดครับ(การซื้อเพิ่มที่ไม่ใช่การซื้อต่ำกว่าราคาที่เคยขายไป)
ดังนั้นต้องเข้าซื้อให้ถูกจังหวะ
พี่มีเทคนิคเข้าซื้อที่พออธิบายเป็นหลักการกว้างๆไหมครับ
ถ้าไม่มี และใช้ประสบการณ์ในการเข้าซื้อเป็นหลัก ก็ไม่เป็นไรครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 7 ส.ค. 47 04:41:07 ]
ความคิดเห็นที่ 1
ตอบคุณ ทรงกฤษฎิ์ ครับ
ผมขอสรุปแบบรวบรัดเลยนะครับสำหรับผู้ที่จะใช้วิธีนี้
1. ลงทุนระยะยาวววววววว มากกกกกกกกกกกก
2. แนวคิดคือ หารายได้จากพอร์ต ไม่ใช่กำไรจากพอร์ต
3. มีเวลาดูแลพอร์ตอย่างเอาใจใส่มากมาก
4. เน้นข้อ 1. และ 2. อีกครั้ง
..........................
ผู้ที่ไม่สามารถใช้แนวทางนี้ได้
1. นักเก็งกำไร
2. นักลงทุนระยะสั้น
3. ผู้ปล่อยปะละเลย ไม่ดูแลพอร์ต
.........................
เด่นศรี ( ยิ้ม )
......................
ขอบคุณ คุณ ทรงกฤษฎิ์ ครับ
จากคุณ : เด่นศรี - [ 7 ส.ค. 47 10:18:42 ]
ความคิดเห็นที่ 2
สวัสดีครับ คุณทรงกฤษฏิ์
ความเห็นคุณให้ความกระจ่างมากเลย
...........
อยากถามคุณเด่นศรี กรณี n-park คุณเด่นศรีมี กสงสฝ มากขึ้น โดยมีหุ้นเท่าเดิม โดยไม่ซื้อเพิ่ม ถ้ามันลงจนขายไปหมด และยังลงเรื่อยๆ แสดงว่าสินค้านี้ไม่ดี เมี่อราคาเริ่มผงกขึ้น คุณก็ซื้อกลับเท่าเดิมอีก ถามว่า ทำไมไม่ขายทิ้ง แล้วไปหาสินค้าใหม่มาแทน
............
เเละ กรณีซื้อคืนในราคาที่สูงกว่าราคาที่เคยขายไป ผิดหลักการแนวนี้หรือไม่ อย่างไร
จากคุณ : อ๋อออ - [ 7 ส.ค. 47 10:37:21 ]
ความคิดเห็นที่ 3
ตอบคุณ อ๋อออ ครับ
ที่คุณถามว่า
" ..... อยากถามคุณเด่นศรี กรณี n-park คุณเด่นศรีมี กสงสฝ มากขึ้น โดยมีหุ้นเท่าเดิม โดยไม่ซื้อเพิ่ม ถ้ามันลงจนขายไปหมด และยังลงเรื่อยๆ แสดงว่าสินค้านี้ไม่ดี เมี่อราคาเริ่มผงกขึ้น คุณก็ซื้อกลับเท่าเดิมอีก ถามว่า ทำไมไม่ขายทิ้ง แล้วไปหาสินค้าใหม่มาแทน ..... "
ผมแนะนำไปแล้วในกระทู้ที่ถามมาก่อนหน้านั้น ( ลองย้อนกลับไปอ่านให้ละเอียดนะครับ ) ว่า ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้เปลี่ยนตัวลงทุน
เพราะผมเน้นเลยครับว่า หุ้นที่จะใช้แนวทางนี้ได้ ควรเป็นหุ้นพื้นฐานดีครับ ( เช่น หุ้นใน SET 50 )
ไม่เช่นนั้น เพื่อน ๆ จะมีแต่ความไม่สบายใจ ครับ
.....................
และ หากต้องการกำไร อย่าใช้วิธีนี้ครับ มันอันตราย
........................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 7 ส.ค. 47 15:36:43 ]
ความคิดเห็นที่ 4
ลืมตอบคุณ ทรงกฤษฎิ์ ครับ (ยิ้ม )
พอดีผมมัวแต่ไปนั่งเล่นเกมส์อยู่ครับ คือเห็นเพื่อน ๆ ถามถึงแต่ N-PARK ก็เลยไปนั่งเล่นเกมส์ N-PARKตั้งแต่เช้าครับ
คุณ ทรงกฤษฎิ์ กล่าวในหัวข้อกระทู้ได้ถูกต้องเลยครับ ทำให้ผมกังวลใจว่า จะพาเพื่อน ๆ ไปพลาด
เข้าคำถามของคุณ ทรงกฤษฎิ์ นะครับ
" ...... อันนี้ถามพี่เด่นศรีครับ
สำหรับผมแล้วการเข้าซื้อใหม่มีความสำคัญมากที่สุดครับ(การซื้อเพิ่มที่ไม่ใช่การซื้อต่ำกว่าราคาที่เคยขายไป)
ดังนั้นต้องเข้าซื้อให้ถูกจังหวะ
พี่มีเทคนิคเข้าซื้อที่พออธิบายเป็นหลักการกว้างๆไหมครับ
ถ้าไม่มี และใช้ประสบการณ์ในการเข้าซื้อเป็นหลัก ก็ไม่เป็นไรครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ ..... "
ผมไม่ได้ใช้ประสบการณ์ในการเข้าซื้อใด ๆ หรอกครับ ก็ทำตามแผนและระบบบัญชีเท่านั้น
คือ ถ้าหุ้นใดลง ( หุ้นเหลือเยอะ เพราะยังซื้อคืนได้เรื่อย ๆ ) ผมจะไม่นำ กสงสฝ ไปซื้อหุ้นนั้น
หากจะซื้อหุ้น ผมจะซื้อตัวที่แข็งกว่าตลาด ซึ่งผมก็ดูเอาง่าย ๆ คือ หุ้นตัวไหนเหลือน้อย ก็ซื้อตัวนั้น ( เพราะหุ้นเหลือน้อย เกิดจาก เราซื้อคืนไม่ได้ มันเลยน้อยลงเรื่อย ๆ )
อย่างตอนนี้ ที่ผมต้องซื้อเพิ่มคือ SSI และ PTTEP
ส่วน N-PARK ของผม ( เห็นเพื่อน ๆ เอ่ยถึงหลายท่าน สงสัยจะเป็นตัวแสบ ( ยิ้ม )) ผมไม่ได้ซื้อเพิ่มครับ คงจำนวนหุ้นไว้เท่าเดิมเพราะมันเอาแต่ลงกับลง
แต่ที่ผมไม่ไล่ออกจากพอร์ต เพราะว่า เค้าทำ กสงสฝ คืนทุนให้ผมเรียบร้อยตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ ( ผมซื้อไว้ตั้งแต่ 8 บาทครับ ) ขอเพียง เค้ายังซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้น ( ไม่ถูกไล่ออกจากตลาด ) ผมก็ยังได้เงินจากเค้าอยู่ทุกวันครับ เพราะถ้าไม่ถูกไล่ออกจากตลาด เค้าไม่มีทางลงถึง 0 บาท
ถ้าลงไม่ถึง 0 บาท ผมก็ไม่เคยกังวลเลยครับ ( ยิ้ม ) ...... นี่ผมพูดจริง ๆ นะครับ ไม่ได้ล้อเล่น ( ยิ้ม )
.................................
แต่จะบอกความลับ ( แบบไม่ลับ ) ให้คุณ ทรงกฤษฎิ์ สบายใจนิดหนึ่งว่า
ถ้าหุ้นตัวใด เมื่อผมซื้อมาปุ๊ป มันอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้เกิน 2 ปี นั่นคือ ผมได้กำไรจาก กสงสฝ ไปเรียบร้อยแล้วครับ
จากนั้น ยิ่งอยู่ในตลาดนานปีขึ้น ผมก็จะได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
ก็เพราะหลักการ ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ นั่นแหละครับ
นั่นคือ แม้ว่าหุ้นตัวใดจะเหลือแค่ 0 บาท ขอเพียงมันมีเวลาอยู่ในตลาดเกิน 2 ปี ผมก็ไม่ห่วงแล้วละครับ
ดังนั้น หากคุณ ทรงกฤษฎิ์ จะซื้อหุ้นเข้าพอร์ต ขอให้หาหุ้นพื้นฐานดี ที่มั่นใจได้ว่า มันยังอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้นานแสนนาน แล้วจะเข้าใจด้วยตัวเองครับ ( ยิ้ม และ ยิ้ม )
............................
เด่นศรี
............................
จากคุณ : เด่นศรี - [ 7 ส.ค. 47 16:26:44 ]
ความคิดเห็นที่ 5
ผมเองพลาดข้อ 3 (การดูแลพอร์ต)
ผมตั้งใจลงทุนยาวตลอดชีวิต (ไว้ให้ลูก)
การเลือกตัวหุ้นไม่ค่อยพลาดนัก เป็นกิจการที่อยาก
เป็นเจ้าของ (ถ้าเป็นวัวก็มีน้ำนม และบางทีก็ออกลูก)
แต่ไม่ขยันแต่งพอร์ต
เข้าข่าย ซื้อ ถือไว้ และภาวนา
ตอนนี้ตาสว่างขึ้นเยอะ จากกระทู้คุณเด่นศรี
จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 7 ส.ค. 47 20:16:02 ]
ความคิดเห็นที่ 6
สวัสดีครับพี่เด่นศรีครับ
ไม่ได้เข้ามาอ่านแป๊บเดียว มีชื่อพี่ในกระทู้เพียบเลยนะครับ(ทุกคนคงหลงสิเหน่หากันหมดแล้ว ฮี่ๆ รวยช้าซะล่ะมั้ง เรา
แต่อ่านไปอ่านมา อ้าว ด่าก็มีนี่หว่า แต่คนที่ไม่เข้าใจก็ช่างมันเถอะครับ ถือว่ามีบุญแค่นั้น ฮี่ๆ ดีซะอีก)
ขอบคุณครับพี่เด่นศรีที่ช่วยเข้ามาตอบเรื่องการเข้าซื้อครับ
ผมจะดำเนินรอยตามวิธีของพี่อย่างเคร่งครัด
ขอบคุณที่ช่วยเปิดโลกทรรศน์การลงทุนครับ
นักลงทุนสร้างโอกาสเอง ไม่ใช่รอโอกาส
นักลงทุนได้กำไรเมื่อซื้อ
นักลงทุนทำกำไรได้มากกว่าในขาลง
ในพ่อรวยพูดไว้อย่างนั้น
พี่คิดวิธีการในการลงทุนให้แล้ว
ที่เหลือ ผมก็แค่ทำตามแผนเท่านั้น
แผนการในการไปสู่ความร่ำรวยมักเป็นแผนการง่ายๆ
น่าเบื่อ
แต่เป็นไปอย่างอัตโนมัติ
ผมไม่ชอบความเร้าใจครับ
ผมชอบความน่าเบื่อครับ
เมื่อใดที่ผมพบอิสรภาพทางการเงินแล้ว
ผมจะบอกทุกคนที่สงสัยในความรวยของผมว่า
ผมมีวันนี้ได้เพราะ
อาจารย์ทางการเงินของผมครับ
เขามีสมญานามว่า
"เด่นศรี"
ขอบคุณมหาศาล
และขอให้มีความสุขที่ยั่งยืนนะครับ
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 8 ส.ค. 47 21:36:45 ]
ความคิดเห็นที่ 7
..........................
( ยิ้ม ) และ ( ยิ้ม )
............................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 8 ส.ค. 47 23:29:44 ]
สำหรับผู้ที่คิดจะใช้วิธีของพี่เด่นศรี
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ พี่เด่นศรีที่นับถือครับ
สำหรับผู้ลงทุนด้วยวิธีนี้
ต้องเตรียมใจมากกว่าสิ่งอื่นใช่ไหมครับ
เพราะวิธีนี้เป็นดาบสองคม
โดยเฉพาะการซื้อเข้ารอบใหม่นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ถ้าซื้อเข้าแล้วหุ้นตกอีก
อันนี้มูลค่าพอร์ตจะหายไปมหาศาล
ตัวเลขขาดทุนรวมของพอร์ตก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ
หากผู้ลงทุนใจไม่นิ่ง มองไม่เห็นสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่อย่างทะลุปรุโปร่ง
ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ก็เพื่อเพิ่มหุ้นเป็นหลัก
ตัวเลขขาดทุนที่โชว์หราอยู่
จะทำให้เราหมดกำลังใจ และไม่แน่ใจในสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ
และหากเราเลิกทำไปเสียก่อน
เราก็จะขาดทุนมากถึงมากที่สุดเลยล่ะครับ ตอนนั้นน่ะ
ไม่มีวิธีใดในตลาดหุ้นที่ไม่มีความเสี่ยง
หากทุกคนคิดว่าอ่านกระทู้ของพี่อาซ้อสี่ แล้วเกิดความรู้สึกว่า เอาล่ะวิธีนี้ล่ะว้า เราจะรวยเสียที(รับประกันเลย)
แต่ไม่มีวิธีไหนหรอกครับที่รับประกันความเสี่ยงได้100%
อย่างไรก็ดี วิธีของพี่เด่นศรีคือวิธีที่ค่อนข้างจะปลอดภัยมาก
แต่สมมติฐานเบื้องต้นคือ เรากำลังลงทุนเพื่อให้ได้ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น(ถ้าตลาดไม่แย่ หรือพอร์ตสมดุลดีอย่างไรก็จะไม่ขายหุ้น)
หากเราคิดแบบนี้ การลงทุนนี้ก็จะปลอดภัยมากครับ
แต่เมื่อใดก็ตามที่เราลงทุนแล้ว
เราเกิดใจเสียขึ้นมา
เราเกิดไม่แน่ใจขึ้นมาว่ากำลังทำอะไร(ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนโลเลง่าย วิธีนี้จะเสี่ยงมากๆเลยครับ ชอบอก)
วิธีนี้จะเป็นของหินเลยล่ะครับ
ดังนั้น หากจะใช้วิธีนี้
1.สำรวจตัวเองว่าด้วยบุคลิกของเราแล้ว เหมาะสมหรือไม่( ใจเย็นพอที่จะรอดูผลงานหรือเปล่า ใจโลเลหรือเปล่า เงินเย็นอ่ะจริง แต่พอตัวเลขแดงแล้วกลายเป็นของร้อนหรือเปล่า อะไรพวกเนี้ย)
2.ใจของเราต้องนิ่งครับ (เลิกมองกำไรขาดทุน จะให้ดี หุ้นที่ซื้อเพิ่ม ลบราคาซื้อทิ้งไปเลยครับ) จุดประสงค์หลักคือการเพิ่มหุ้นครับ
3. ตลาดหุ้นต้องไม่ใช่หมีแดงสุดๆครับ สำหรับคนที่เริ่มลงทุน แล้วอยากเห็นกำไรเร็วๆจะทำใจยากถึงยากมาก พอนานเข้าเราอาจจะทนไม่ไหวครับ(เงินเย็นเริ่มร้อนแล้วอะไรทำนองเนี้ย) เพราะอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานมากเกินไปในการcoverมูลค่าพอร์ตครับ
ในกรณีที่แดงอย่างยาวนานต่อเนื่อง เช่นถ้าเราเริ่มจากตลาดเฟื่องฟูสูงสุด ลงมาจนตลาดซบเซาสุดๆ(แต่เราก็ยังไม่ออกไปจากตลาด และซื้อเข้ารอบใหม่อีก) ก็จะเกิดปัญหาตามมาอีก(ถ้าคุณลงทุนด้วยวงเงินมากๆ) คือ การซื้อขายจะติดขัด (วอลุ่มเบาบางเกินไป) เมื่อนั้นพอร์ตจะสะดุดและไม่สมดุลได้ง่ายๆครับ
4 ถ้าล้มเหลว เจ็บตัว (โอกาสน้อย แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเลยนะครับ) เราต้องโทษตัวเองครับ อันนี้สำคัญมาก เพราะเป็นเราเท่านั้นที่เลือกวิธีนี้ขึ้นมาเอง คนที่รับผิดชอบก็คือตัวของเราเองเท่านั้นครับ
ผิดถูกอย่างไร พี่เด่นศรีช่วยแก้ไขด้วยนะครับ
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
อันนี้ถามพี่เด่นศรีครับ
สำหรับผมแล้วการเข้าซื้อใหม่มีความสำคัญมากที่สุดครับ(การซื้อเพิ่มที่ไม่ใช่การซื้อต่ำกว่าราคาที่เคยขายไป)
ดังนั้นต้องเข้าซื้อให้ถูกจังหวะ
พี่มีเทคนิคเข้าซื้อที่พออธิบายเป็นหลักการกว้างๆไหมครับ
ถ้าไม่มี และใช้ประสบการณ์ในการเข้าซื้อเป็นหลัก ก็ไม่เป็นไรครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 7 ส.ค. 47 04:41:07 ]
ความคิดเห็นที่ 1
ตอบคุณ ทรงกฤษฎิ์ ครับ
ผมขอสรุปแบบรวบรัดเลยนะครับสำหรับผู้ที่จะใช้วิธีนี้
1. ลงทุนระยะยาวววววววว มากกกกกกกกกกกก
2. แนวคิดคือ หารายได้จากพอร์ต ไม่ใช่กำไรจากพอร์ต
3. มีเวลาดูแลพอร์ตอย่างเอาใจใส่มากมาก
4. เน้นข้อ 1. และ 2. อีกครั้ง
..........................
ผู้ที่ไม่สามารถใช้แนวทางนี้ได้
1. นักเก็งกำไร
2. นักลงทุนระยะสั้น
3. ผู้ปล่อยปะละเลย ไม่ดูแลพอร์ต
.........................
เด่นศรี ( ยิ้ม )
......................
ขอบคุณ คุณ ทรงกฤษฎิ์ ครับ
จากคุณ : เด่นศรี - [ 7 ส.ค. 47 10:18:42 ]
ความคิดเห็นที่ 2
สวัสดีครับ คุณทรงกฤษฏิ์
ความเห็นคุณให้ความกระจ่างมากเลย
...........
อยากถามคุณเด่นศรี กรณี n-park คุณเด่นศรีมี กสงสฝ มากขึ้น โดยมีหุ้นเท่าเดิม โดยไม่ซื้อเพิ่ม ถ้ามันลงจนขายไปหมด และยังลงเรื่อยๆ แสดงว่าสินค้านี้ไม่ดี เมี่อราคาเริ่มผงกขึ้น คุณก็ซื้อกลับเท่าเดิมอีก ถามว่า ทำไมไม่ขายทิ้ง แล้วไปหาสินค้าใหม่มาแทน
............
เเละ กรณีซื้อคืนในราคาที่สูงกว่าราคาที่เคยขายไป ผิดหลักการแนวนี้หรือไม่ อย่างไร
จากคุณ : อ๋อออ - [ 7 ส.ค. 47 10:37:21 ]
ความคิดเห็นที่ 3
ตอบคุณ อ๋อออ ครับ
ที่คุณถามว่า
" ..... อยากถามคุณเด่นศรี กรณี n-park คุณเด่นศรีมี กสงสฝ มากขึ้น โดยมีหุ้นเท่าเดิม โดยไม่ซื้อเพิ่ม ถ้ามันลงจนขายไปหมด และยังลงเรื่อยๆ แสดงว่าสินค้านี้ไม่ดี เมี่อราคาเริ่มผงกขึ้น คุณก็ซื้อกลับเท่าเดิมอีก ถามว่า ทำไมไม่ขายทิ้ง แล้วไปหาสินค้าใหม่มาแทน ..... "
ผมแนะนำไปแล้วในกระทู้ที่ถามมาก่อนหน้านั้น ( ลองย้อนกลับไปอ่านให้ละเอียดนะครับ ) ว่า ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้เปลี่ยนตัวลงทุน
เพราะผมเน้นเลยครับว่า หุ้นที่จะใช้แนวทางนี้ได้ ควรเป็นหุ้นพื้นฐานดีครับ ( เช่น หุ้นใน SET 50 )
ไม่เช่นนั้น เพื่อน ๆ จะมีแต่ความไม่สบายใจ ครับ
.....................
และ หากต้องการกำไร อย่าใช้วิธีนี้ครับ มันอันตราย
........................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 7 ส.ค. 47 15:36:43 ]
ความคิดเห็นที่ 4
ลืมตอบคุณ ทรงกฤษฎิ์ ครับ (ยิ้ม )
พอดีผมมัวแต่ไปนั่งเล่นเกมส์อยู่ครับ คือเห็นเพื่อน ๆ ถามถึงแต่ N-PARK ก็เลยไปนั่งเล่นเกมส์ N-PARKตั้งแต่เช้าครับ
คุณ ทรงกฤษฎิ์ กล่าวในหัวข้อกระทู้ได้ถูกต้องเลยครับ ทำให้ผมกังวลใจว่า จะพาเพื่อน ๆ ไปพลาด
เข้าคำถามของคุณ ทรงกฤษฎิ์ นะครับ
" ...... อันนี้ถามพี่เด่นศรีครับ
สำหรับผมแล้วการเข้าซื้อใหม่มีความสำคัญมากที่สุดครับ(การซื้อเพิ่มที่ไม่ใช่การซื้อต่ำกว่าราคาที่เคยขายไป)
ดังนั้นต้องเข้าซื้อให้ถูกจังหวะ
พี่มีเทคนิคเข้าซื้อที่พออธิบายเป็นหลักการกว้างๆไหมครับ
ถ้าไม่มี และใช้ประสบการณ์ในการเข้าซื้อเป็นหลัก ก็ไม่เป็นไรครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ ..... "
ผมไม่ได้ใช้ประสบการณ์ในการเข้าซื้อใด ๆ หรอกครับ ก็ทำตามแผนและระบบบัญชีเท่านั้น
คือ ถ้าหุ้นใดลง ( หุ้นเหลือเยอะ เพราะยังซื้อคืนได้เรื่อย ๆ ) ผมจะไม่นำ กสงสฝ ไปซื้อหุ้นนั้น
หากจะซื้อหุ้น ผมจะซื้อตัวที่แข็งกว่าตลาด ซึ่งผมก็ดูเอาง่าย ๆ คือ หุ้นตัวไหนเหลือน้อย ก็ซื้อตัวนั้น ( เพราะหุ้นเหลือน้อย เกิดจาก เราซื้อคืนไม่ได้ มันเลยน้อยลงเรื่อย ๆ )
อย่างตอนนี้ ที่ผมต้องซื้อเพิ่มคือ SSI และ PTTEP
ส่วน N-PARK ของผม ( เห็นเพื่อน ๆ เอ่ยถึงหลายท่าน สงสัยจะเป็นตัวแสบ ( ยิ้ม )) ผมไม่ได้ซื้อเพิ่มครับ คงจำนวนหุ้นไว้เท่าเดิมเพราะมันเอาแต่ลงกับลง
แต่ที่ผมไม่ไล่ออกจากพอร์ต เพราะว่า เค้าทำ กสงสฝ คืนทุนให้ผมเรียบร้อยตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ ( ผมซื้อไว้ตั้งแต่ 8 บาทครับ ) ขอเพียง เค้ายังซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้น ( ไม่ถูกไล่ออกจากตลาด ) ผมก็ยังได้เงินจากเค้าอยู่ทุกวันครับ เพราะถ้าไม่ถูกไล่ออกจากตลาด เค้าไม่มีทางลงถึง 0 บาท
ถ้าลงไม่ถึง 0 บาท ผมก็ไม่เคยกังวลเลยครับ ( ยิ้ม ) ...... นี่ผมพูดจริง ๆ นะครับ ไม่ได้ล้อเล่น ( ยิ้ม )
.................................
แต่จะบอกความลับ ( แบบไม่ลับ ) ให้คุณ ทรงกฤษฎิ์ สบายใจนิดหนึ่งว่า
ถ้าหุ้นตัวใด เมื่อผมซื้อมาปุ๊ป มันอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้เกิน 2 ปี นั่นคือ ผมได้กำไรจาก กสงสฝ ไปเรียบร้อยแล้วครับ
จากนั้น ยิ่งอยู่ในตลาดนานปีขึ้น ผมก็จะได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
ก็เพราะหลักการ ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ นั่นแหละครับ
นั่นคือ แม้ว่าหุ้นตัวใดจะเหลือแค่ 0 บาท ขอเพียงมันมีเวลาอยู่ในตลาดเกิน 2 ปี ผมก็ไม่ห่วงแล้วละครับ
ดังนั้น หากคุณ ทรงกฤษฎิ์ จะซื้อหุ้นเข้าพอร์ต ขอให้หาหุ้นพื้นฐานดี ที่มั่นใจได้ว่า มันยังอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้นานแสนนาน แล้วจะเข้าใจด้วยตัวเองครับ ( ยิ้ม และ ยิ้ม )
............................
เด่นศรี
............................
จากคุณ : เด่นศรี - [ 7 ส.ค. 47 16:26:44 ]
ความคิดเห็นที่ 5
ผมเองพลาดข้อ 3 (การดูแลพอร์ต)
ผมตั้งใจลงทุนยาวตลอดชีวิต (ไว้ให้ลูก)
การเลือกตัวหุ้นไม่ค่อยพลาดนัก เป็นกิจการที่อยาก
เป็นเจ้าของ (ถ้าเป็นวัวก็มีน้ำนม และบางทีก็ออกลูก)
แต่ไม่ขยันแต่งพอร์ต
เข้าข่าย ซื้อ ถือไว้ และภาวนา
ตอนนี้ตาสว่างขึ้นเยอะ จากกระทู้คุณเด่นศรี
จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 7 ส.ค. 47 20:16:02 ]
ความคิดเห็นที่ 6
สวัสดีครับพี่เด่นศรีครับ
ไม่ได้เข้ามาอ่านแป๊บเดียว มีชื่อพี่ในกระทู้เพียบเลยนะครับ(ทุกคนคงหลงสิเหน่หากันหมดแล้ว ฮี่ๆ รวยช้าซะล่ะมั้ง เรา
แต่อ่านไปอ่านมา อ้าว ด่าก็มีนี่หว่า แต่คนที่ไม่เข้าใจก็ช่างมันเถอะครับ ถือว่ามีบุญแค่นั้น ฮี่ๆ ดีซะอีก)
ขอบคุณครับพี่เด่นศรีที่ช่วยเข้ามาตอบเรื่องการเข้าซื้อครับ
ผมจะดำเนินรอยตามวิธีของพี่อย่างเคร่งครัด
ขอบคุณที่ช่วยเปิดโลกทรรศน์การลงทุนครับ
นักลงทุนสร้างโอกาสเอง ไม่ใช่รอโอกาส
นักลงทุนได้กำไรเมื่อซื้อ
นักลงทุนทำกำไรได้มากกว่าในขาลง
ในพ่อรวยพูดไว้อย่างนั้น
พี่คิดวิธีการในการลงทุนให้แล้ว
ที่เหลือ ผมก็แค่ทำตามแผนเท่านั้น
แผนการในการไปสู่ความร่ำรวยมักเป็นแผนการง่ายๆ
น่าเบื่อ
แต่เป็นไปอย่างอัตโนมัติ
ผมไม่ชอบความเร้าใจครับ
ผมชอบความน่าเบื่อครับ
เมื่อใดที่ผมพบอิสรภาพทางการเงินแล้ว
ผมจะบอกทุกคนที่สงสัยในความรวยของผมว่า
ผมมีวันนี้ได้เพราะ
อาจารย์ทางการเงินของผมครับ
เขามีสมญานามว่า
"เด่นศรี"
ขอบคุณมหาศาล
และขอให้มีความสุขที่ยั่งยืนนะครับ
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 8 ส.ค. 47 21:36:45 ]
ความคิดเห็นที่ 7
..........................
( ยิ้ม ) และ ( ยิ้ม )
............................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 8 ส.ค. 47 23:29:44 ]