DSM concept ตอนที่ 58
ความคิดเห็นที่ 203
อ่านความเห็นที่197 แล้วผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ว่าการเลือกหุ้นที่พื้นฐานดีมากๆ(คนมีแนวโน้มจะถือยาวอยู่แล้ว)จะเพิ่มรายได้ได้ช้าถึงช้ามาก(ถ้าหุ้นเป็นขาลงแบบซึมๆ) เพราะราคาหุ้นไม่เหวี่ยงแรงเท่าไร ส่วนการตั้งgapนั้นผมรู้สึกว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ(เพราะเราจะพิจารณาgapระหว่างราคาซื้อขายเป็นหลักครับ)
ดังนั้นการเล่นวิธีนี้ หุ้นตัวแรกที่เราเลือกเล่น(สมมติฐานคือลงหมดหน้าตักตัวเดียวในดวงใจ) จะต้องเป็นหุ้นที่
1 ราคาเหวี่ยงมาก(ตัวเดียวราคายังไม่เหวี่ยงแล้วคงรอนานเกินไป พื้นฐานดีเกินไปก็ไม่เอาอะไรแบบเนี้ย โดยเฉพาะพวกหุ้นเกิน100บาท)
2 หุ้นตัวนั้นต้องเป็นหุ้นดีนะครับ คือในช่วงที่เราถืออยู่ไม่มีวันเจ๊งแน่นอน
3 มีโวลุ่มซื้อขายเฉลี่ยวันละมากๆ(เพื่อให้เกิดการขึ้นลงของราคาให้เราตัดซื้อตัดขาย)
แต่หลังจากที่เราเล่นวิธีนี้ไปแล้ว ถ้าทุกคนหันมาเล่นด้วยกันเยอะๆ ราคาหุ้นจะมีเสถียรภาพมากเลยนะ(พวกเก็งกำไรขายปั๊บ พวกเรารับปุ๊บอะไรแบบเนี้ย-แต่ว่าผมว่าคงเป็นไปได้ยากอ่ะครับ สภาพนั้นอ่ะ) และทีนี้ตลาดหุ้นเราก็จะเสถียรมากๆ ราคาตกปุ๊บปั๊บเป็นไม่มีอะไรแบบเนี้ย
4 วิธีนี้การเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม(ที่ไม่ใช่ซื้อส่วนต่าง) มีความสำคัญมาก เพราะถ้าเข้าซื้อในช่วงภาวะขาลงสุดๆ มูลค่าพอร์ตจะหายเกลี้ยงจนเราเริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่าทำถูกหรือผิด เพราะพอซื้อเข้าปั๊บก็ต้องนำราคาใหม่ที่ซื้อเข้านั้นมาตั้ง แล้วเริ่มตัดชอร์ตพอร์ตอีกรอบ ทีนี้ก็ไปหมดล่ะครับ มูลค่าพอร์ตหายหมด แต่เราจะได้หุ้นเพิ่มมหาศาล ถ้าสมมติฐานว่าหุ้นที่เราเลือกพื้นฐานดี แต่แรงเหวี่ยงแรงก็อย่าเพิ่งตกใจครับ ในระหว่างทางวันใดวันหนึ่งของการปีนราคาขึ้นไปหาจุดที่เราซื้อเมื่อแรกเริ่ม(หรือแค่ใกล้เคียงก็พอ) ปริมาณหุ้นมหาศาลที่เราเฉลี่ยซื้อไว้ตอนมูลค่าต่ำๆจะตามเรามาด้วยเป็นโขยง ตอนนั้นไม่รู้จะร้องเพลงอะไรรับทรัพย์ดีครับ(ตอนหุ้นตกแรงๆก็กินแกลบไปพลางๆก่อน) อะไรแบบเนี้ย
จุดสำคัญคือ เรามีหน้าที่เพิ่มหุ้น หุ้นมีหน้าที่เพิ่มมูลค่า(ให้ทรัพย์สินทำเงินให้เรา) ใช่ไหมครับพี่เด่นศรีครับ
แต่พี่เด่นศรีครับ ผมกลัวตัวเองเจ๊งครับ เห็นหุ้นลงแบบนี้ หัวใจผมเล็กลงเท่าเม็ดก๋วยจี๊แย้ว-
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 6 ส.ค. 47 12:42:45 ]
ความคิดเห็นที่ 204
พี่เด่นศรีครับ หลังจากนั่งคิดคำนวณมานาน(อ่านอยู่เกือบยี่สิบรอบนะกระทู้เนี้ย) ผมว่าผมพอจะเข้าใจ "ช่องว่าง"ของพี่แล้วครับ โอ! มันยอดมากครับ(ยิ่งกว่าโฆษณา TV Direct เสียอีกครับ) เรียกว่า ซื้อปั๊บ กำไรปุ๊บเลย อะไรแบบเนี้ย ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมพี่ถึงอยากจะเก็บมันไว้เป็นความลับของครอบครัว (คือแบบว่า มันเยี่ยมมากจริงๆอ่ะ) ทุกคนขอให้ตั้งใจอ่านกระทู้ช่วงแรกๆนะครับ คุณจะได้เจอ ช่องว่าง ที่ว่านั้นแน่นอน แล้วคุณจะอยากเก็บมันไว้เป็นความลับของคุณคนเดียว (รู้แล้วห้ามบอกต่อนะ เพราะถ้ารู้มากเกินไปแล้ว "ช่องว่าง" จะกลายเป็น "ช่องแคบ" แล้วล่ะคราวเนี้ย ฮี่ๆ) อ่านทุกบรรทัดอย่างละเอียดแล้วคุณจะเดาได้อย่างแน่นอนครับ
ขอบคุณมากๆครับ พี่เด่นศรีครับ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ เรื่องรวยน่ะ-ผมเลิกห่วงพี่เป็นคนแรกเลยอ่ะ
วันนี้ขอให้โชคดีนะครับ
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 6 ส.ค. 47 13:04:30 ]
ความคิดเห็นที่ 205
ขอบังอาจแนะนำนะครับ
ถ้าใจร้อนลองโดลงไปทุ่งคาตายคาทุ่งดูครับ
แต่ต้องเร็วนะครับ ลุ้นระทึกยิ่งกวารถไฟเหาะซะอีก
ถ้าทำได้มันส์มากคับ แต่แนะว่าเอานิดเดียวนะครับ
ซัก1-2พันหุ้น กะลังดีไม่เสียดายมาก
ดีไม่ดี ตั๋วรถไฟเหาะยี่ห้อนี้อาจฟรีแถมค่าขนมนิดหน่อย
มันส์จิงๆ เห็นผล เห็นภาพ รึจะ หลุยหวิดต๊อง ก็ไม่เลวนะ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 6 ส.ค. 47 13:12:54 ]
ความคิดเห็นที่ 206
ลืมไปครับ สวัสดีทุกคนครับ
เป็นยังไงกันบ้าง ข้าวเที่ยงอร่อยมั้ยครับ
แดงเถือกเลยหุหุ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 6 ส.ค. 47 13:16:32 ]
ความคิดเห็นที่ 207
จากความเห็นที่201 ครับ คำตอบที่ได้ผมว่ายังไม่ชัดเจนนะครับ จุดที่ผมต้องการทราบคือ ทำอย่างไรกับหุ้นที่ยังซื้อคืนไม่ได้800000หุ้นต่างหาก เพราะถ้าไม่จัดการจุดนี้ สุดท้ายมูลค่าไม่น่าจะ=60*2000000 เพราะมีเงินส่วนนี้ค้างอยู่
จากคุณ : อ๋อออ - [ 6 ส.ค. 47 14:36:02 ]
ความคิดเห็นที่ 208
จะลองตอบคุณอ๋อออดูนะครับ
ต้องออกตัวก่อนนะครับว่าผมก็ยังไม่เคยเล่นวิธีของพี่เด่นศรีเขาเลย โดยเฉพาะในภาวะกระทิงที่ว่า(อยากให้เกิดจังเลย) ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ
เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ คือ
ถ้าเป็นภาวะกระทิงจริง โดยระหว่างการขึ้นไปไม่มีการลงเพื่อปรับฐานเป็นรอบยาวๆเลย เน้น...ว่าไม่มีเลยนะครับ(หมดโอกาสใช้ส่วนต่างซื้อเฉลี่ย)
โอกาสที่จะเกิด 2000000หุ้น*60 น่าจะไม่เกิดขึ้นครับ
เพราะว่าโดยวิธีนี้ เมื่อหุ้นขึ้นมาก(สมมติว่า15ช่อง) เราจะกำหนดจุดชอร์ตพอร์ตใหม่ขึ้น ถ้ามีรอบลงสั้นๆ เราก็จะได้ส่วนต่างเพื่อถมหุ้นลงไปอีก และทุกครั้งที่หุ้นขึ้นมากๆ หุ้นที่เราซื้อถมเข้าไปก็จะลากมูลค่าตามมาให้เรามหาศาล แล้วพอขึ้นอีกเราก็จะกำหนดจุดชอร์ตพอร์ตใหม่อีกอย่างนี้เรื่อยไปครับ
ประเด็นที่ถามคือ เจ้าหุ้นส่วนที่เราไม่ได้ซื้อคืน 80% ที่หล่นเรี่ยราดไประหว่างทางตอนแรกจะซื้อได้เมื่อไร
คำตอบก็น่าจะเป็น ซื้อคืนไม่ได้ครับ
แต่ระหว่างทางของรอบลงสั้นๆยาวๆ(ถ้ามี) เราจะมีหุ้นเพิ่มขึ้นมาแล้วพอสมควรครับ(อาจจะมากกว่า800000 หรือน้อยกว่า 800000 ก็แล้วแต่รอบสั้นหรือยาว ลงมากหรือน้อย บ่อยหรือไม่ ผันผวนแค่ไหนครับ ถ้าผันผวนมากๆ ก็คงจะถึง2000000ล่ะครับ)
ทีนี้มาตอบที่ว่าพอซื้อไม่ได้แล้วจะเป็นอย่างไร
พี่เด่นศรีเขียนว่า จริงๆแล้ว น่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำที่ซื้อคืนไม่ได้ เพราะระหว่างทางขาขึ้น เมื่อเรากำหนดจุดชอร์ตใหม่ มันหมายความว่า มูลค่าของหุ้นตอนที่เราซื้อมันถูกกว่าตอนที่เราขายไปเมื่อกำหนดจุดชอร์ตพอร์ตใหม่ไงครับ(กำไรเห็นๆอะไรประมาณนี้ครับ)
แต่ทีนี้ เมื่อมีหุ้นที่เราเก็บไม่ได้มากๆ(อย่าง800000หุ้นเนี่ยอ่ะ อย่างนี้มันหมายความว่า หุ้นตัวนี้อาจจะทำให้พอร์ตไม่สมดุลย์ เช่นขาดกระแสเงินสด ขาดหุ้นที่จะทำกระแสเงินสดแฝง อะไรทำนองนี้ ในกรณีนี้ ต้องใช้ "ช่องว่าง" ของตลาดหุ้นครับ เพื่อให้ port เกิดความสมดุลย์ในที่สุดครับ
นี่ผมตอบเท่าที่ผมเข้าใจนะครับ
อาจจะผิดไปจากแนวทางของพี่เด่นศรีบ้างไม่มากก็น้อย ก็ขออภัยด้วยนะครับ (เพราะนี่ผมคิดฝันเอง ยังไม่ได้ลองทำเลยอ่ะครับ)
คงต้องรอพี่เด่นศรีมาตอบอีกทีครับ ผมจะได้รู้เพิ่มขึ้นด้วย (ยิ้ม)
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 6 ส.ค. 47 15:35:43 ]
ความคิดเห็นที่ 209
อีกนิดครับ เงินที่เกิดจากการขาย 800000 หุ้นไปนั้น เราไม่ได้สูญเสียมันไปนี่ครับ เราขายมันไปแล้ว รับกระแสเงินสดกลับมาแล้วต่างหากล่ะครับ และเงินส่วนนี้ก็จะนำมาหมุนในการซื้อหุ้นคืนเมื่อซื้อหุ้นคืนที่เราชอร์ตพอร์ตครั้งต่อๆไปไงครับ
จะพูดให้ถูกก็คือ วิธีนี้คือการซื้อเฉลี่ยโดยไม่ต้องเพิ่มเงินไงครับ ทุกครั้งที่เราซื้อคืน เราก็ได้กำไรจากกระแสเงินสดแฝง(การลดลงของมูลค่าสินทรัพย์) ทุกครั้งที่เราขาย เราก็ได้กระแสเงินสด ถ้าเราซื้อถูกกว่าที่เราขาย ยังไงก็จะได้กระแสเงินสดแฝงขึ้นมาครับ ถ้ามันวนหลายๆรอบเข้า กำไรมันจะมากกว่าขาดทุนตอนที่เราขาย800000 หุ้นนั้นไปหลายเท่ามากเลยครับ
ลองนึกภาพการไหลวนเข้าของกระแสเงินสด และกระแสเงินสดแฝงหลายๆรอบ เมื่อเทียบกับที่เราขายขาดทุนไปเพียง 8รอบดูสิครับ สมมติเราขายวนได้200 รอบใน1 ปี 8 รอบนั้น ผมว่าคุณลืมๆมันไปก็ได้มั้งครับ(ยิ้ม)
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 6 ส.ค. 47 15:49:17 ]
ความคิดเห็นที่ 210
สวัสดีครับ คุณ ทรงกฤษฎิ์ และคุณ อ๋อออ
จากที่คุณ อ๋อออ ถามใน คห. 207 คำตอบของคุณ ทรงกฤษฎิ์ ที่ผมก็อปปี้มานี้ ชัดเจนมากครับ
" .... ทีนี้มาตอบที่ว่าพอซื้อไม่ได้แล้วจะเป็นอย่างไร
พี่เด่นศรีเขียนว่า จริงๆแล้ว น่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำที่ซื้อคืนไม่ได้ เพราะระหว่างทางขาขึ้น เมื่อเรากำหนดจุดชอร์ตใหม่ มันหมายความว่า มูลค่าของหุ้นตอนที่เราซื้อมันถูกกว่าตอนที่เราขายไปเมื่อกำหนดจุดชอร์ตพอร์ตใหม่ไงครับ(กำไรเห็นๆอะไรประมาณนี้ครับ)
แต่ทีนี้ เมื่อมีหุ้นที่เราเก็บไม่ได้มากๆ(อย่าง800000หุ้นเนี่ยอ่ะ อย่างนี้มันหมายความว่า หุ้นตัวนี้อาจจะทำให้พอร์ตไม่สมดุลย์ เช่นขาดกระแสเงินสด ขาดหุ้นที่จะทำกระแสเงินสดแฝง อะไรทำนองนี้ ในกรณีนี้ ต้องใช้ "ช่องว่าง" ของตลาดหุ้นครับ เพื่อให้ port เกิดความสมดุลย์ในที่สุดครับ .... "
คำตอบชัดเจนมากครับ คือ .... ใช้ ช่องว่าง ๆ มาอุดรูโหว่นั้นครับ
ผมคิดว่า คุณ ทรงกฤษฎิ์ จะรู้วิธีใช้ ช่องว่าง แล้วสิครับเนี่ยะ ( ยิ้ม )
และยิ่งบวกกับคำตอบของคุณ ทรงกฤษฎิ์ ใน คห. 209 จำนวนหุ้นยิ่งเยอะมากขึ้นครับ
อย่างที่คุณ ทรงกฤษฎิ์ บอกแหละครับ ขอให้มันเป็นกระทิงจริง ๆ เถอะ ...... ( ยิ้ม )
......................
ขอบคุณ คุณ ทรงกฤษฎิ์ มากครับ
......................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 6 ส.ค. 47 16:43:25 ]
ความคิดเห็นที่ 211
ขอบคุณ คุณทรงกฤษฎ์ และคุณเด่นศรีครับ ขอแนะนำให้คุณเด่นศรีขอ proxy จาก brokerที่ตั้งจอtrade ให้หนะ จะได้ดูหุ้น+เล่นnetในเวลาเดียวกันได้เลย
จากคุณ : อ๋อออ - [ 6 ส.ค. 47 17:39:03 ]
ความคิดเห็นที่ 212
มาแสดงความชื่นชม ด้วยอีกคนครับ
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 47 18:56:31
จากคุณ : Mayom_X - [ 6 ส.ค. 47 18:56:05 ]
ความคิดเห็นที่ 213
ซ้อว่า .. กระทู้อันยอดเยี่ยมนี้ น่าจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีมาก สำหรับคนทุกคนที่ได้เคยอ่าน rich dad .. ซ้อเองอ่านหลายรอบแล้ว แต่ยังไม่เห็น .. ช่องว่าง... ช่องแคบ.. ซะที ..
ดีใจที่กระทู้นี้เป็นที่สนใจของทุกคน จนทะลุ 200 กว่า .. คาดว่ากระทู้นี้คงได้เวลาปิดลงแล้ว ..
และสำหรับทุกคนที่มีข้อสงสัย ... ก็ขอให้ตั้งกระทู้ส่วนตัวของแต่ละคน เลยนะคะ... สำหรับซ้อเอง... จะลองทำตามไปก่อน และถ้าสงสัยอะไรเพิ่ม... ค่อยเขียนกระทู้เข้ามาใหม่นะคะ
ปล. อยากให้ทุกคนที่ตั้งใจถามคุณเด่นศรี .. ขอให้ศึกษาที่คุณเด่นศรีได้เขียนไว้ตอนต้นๆ อย่างละเอียด ก่อน ... เพราะเท่าที่สังเกต บางครั้งคำตอบมีในเนื้อหาข้างบนแล้ว... ช่วยๆ กันหน่อยนะคะ คุณเด่นศรีจะได้ไม่เหนื่อยด้วย ... ทุกคำพูดของคุณเด่นศรี มีประโยชน์มาก .. ซ้อขอบคุณนะคะ
ซ้อขอจบกระทู้นี้ไว้ที่เลขสวยนี้ดีกว่า 213 ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแสดงความเห็น และร่วมสร้างสรรค์ สิ่งดีๆ ในกระทู้นี้นะคะ
จากคุณ : อาซ้อสี่ค่า - [ 6 ส.ค. 47 21:48:17 A:202.133.160.221 X: ]
ความคิดเห็นที่ 216 214-215 ข้าม
สวัสดีครับคุณเด่นศรี
ผมขอถามคุณเด่นศรีบางประการเพื่อยืนยันความเข้าใจที่ผมมีต่อ "ช่องว่างที่คุณเด่นศรีกล่าวถึงนั้น" ว่าเป็นสิ่งที่ผมเข้าใจตามความหมายของคุณเด่นศรีได้ถูกต้องใกล้เคียงหรือไม่
1. การที่จะใช้ช่องว่างนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดเต็มประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่ออัตราการเติบโตของ port ต้องมากกว่าหรือเท่ากับการอัตรากราลดลงของราคาหุ้น (สมมุตติว่ามีหุ้นตัวเดียวในพอร์ต) เช่นที่คุณเด่นศรีไดอ้างไว้"ตอนที่ผมทำเริ่มแรก ผมมีหุ้นอยู่ตัวเดียว ที่ราคา 25.00 x 40,000 หุ้น ผ่านไป 1 ปี มันกลายเป็น 15.00x100,000 หุ้น"
2. ช่องว่างนี้ใช้กับอะไรก็ได้ที่มีการเคลื่อนไหวของราคาสองทิศทาง
3.จุดอ่อนของวิธีนี้ถ้าไม่นับว่าหุ้นมีมูลค่าลดลงเหลือ ศุนย์ภายในเวลาอันรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันแล้วละก็คือ การที่ทำไม่ได้ตามข้อแรกเท่านั้น
4. เนื่องจากการซื้อขายหุ้นจะยังคงมีอยู่ต่อไปไม่ใช่วันเดียวช่องว่างนี้จึงถูกนำมาใช้ในการซื้อขายหุ้นโดยที่เราจะไม่ขาดทุนเลยตราบที่หุ้นนั้นมีการเคลื่อนไหวของราคาตามด้านบน
ส่วนคำถามด้านล่างต่อจากนี้ถือว่าขอเรียนลัดจากคุณเด่นศรีครับ
1. ในขาลงคุณเด่นศรีขายหุ้นคืนที่ทุกช่วง 2 step ราคาทุกตัวเลยหรือไม่ครับ หรือว่ามีข้อกำหนดอย่างไรครับ
2. จะเริ่มซื้อคืนก็ต่อเมื่อหุ้นเริ่มนิ่งและราคาขยับขึ้นใช่หรือไม่ครับ
ขอบคุณคุณเด่นศรีมากครับที่จุดประกายความคิดใหม่ๆ เพราะผมเองก็อ่าน ridh dad ได้แค่สองเล่มแรกเท่านั้นเองครับ
จากคุณ : only one - [ 9 ส.ค. 47 09:04:14 A:127.0.0.1 X:203.155.226.231 ]
ความคิดเห็นที่ 217
สวัสดีคุณเด่นศรีอีกหนึ่งครั้งครับ
คุณเด่นศรีไม่ต้องตอบคำถามคุณสมบัติของวิธีนี้และช่องว่างให้ผมแล้ว แต่ 2 ข้อด้านล่างเกี่ยวกับวิธีเรียนลัดยังคงต้องการอยู่ครับ
ผมอ่านมาถึงกระทู้ที่ 85 นั้นผมก็เข้าใจว่าช่องว่างนั้นคืออะไรแล้วครับ
ขอบคุณมากครับ
จากคุณ : only one - [ 9 ส.ค. 47 10:38:21 A:127.0.0.1 X:203.155.226.231 ]
ความคิดเห็นที่ 218
สวัสดีครับ คุณ only one
ตอบทั้ง 2 ข้อ พร้อมกันเลยนะครับ
คำตอบ = ใช่ครับ
( ยิ้ม )
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 9 ส.ค. 47 13:14:31 ]
ความคิดเห็นที่ 219
สวัสดีครับคุณเด่นศรี
ผมว่าช่องว่างของคุณเด่นศรีนั้นจะสามารถเข้าใจได้โยอัตโนมัติ ถ้าเพียงแต่รู้และเข้าใจว่าทำไมคุณเด่นศรีถึงกล้าบอกว่า" มันทำให้ผม ได้กำไรทันทีที่ซื้อหุ้นครับ ไม่ว่าหุ้นตัวไหนในโลก ( เน้น .... ในโลก ..... ) ( ซึ่งรับรองว่า แม้จะรู้วงใน ก็คงไม่สามารถทำได้กับหุ้นทุกตัวในโลกครับ แต่ การรู้ช่องว่างนี้ ทำให้สามารถทำเงินได้จากทุกการลงทุนในโลก ทีมีการเคลื่อนไหวของราคา เน้น ... ที่มีการเคลื่อนไหวของราคา )" ถูกต้องไหมครับ
จากคุณ : only one - [ 9 ส.ค. 47 22:13:22 A:127.0.0.1 X:203.145.13.192 ]
อ่านความเห็นที่197 แล้วผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ว่าการเลือกหุ้นที่พื้นฐานดีมากๆ(คนมีแนวโน้มจะถือยาวอยู่แล้ว)จะเพิ่มรายได้ได้ช้าถึงช้ามาก(ถ้าหุ้นเป็นขาลงแบบซึมๆ) เพราะราคาหุ้นไม่เหวี่ยงแรงเท่าไร ส่วนการตั้งgapนั้นผมรู้สึกว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ(เพราะเราจะพิจารณาgapระหว่างราคาซื้อขายเป็นหลักครับ)
ดังนั้นการเล่นวิธีนี้ หุ้นตัวแรกที่เราเลือกเล่น(สมมติฐานคือลงหมดหน้าตักตัวเดียวในดวงใจ) จะต้องเป็นหุ้นที่
1 ราคาเหวี่ยงมาก(ตัวเดียวราคายังไม่เหวี่ยงแล้วคงรอนานเกินไป พื้นฐานดีเกินไปก็ไม่เอาอะไรแบบเนี้ย โดยเฉพาะพวกหุ้นเกิน100บาท)
2 หุ้นตัวนั้นต้องเป็นหุ้นดีนะครับ คือในช่วงที่เราถืออยู่ไม่มีวันเจ๊งแน่นอน
3 มีโวลุ่มซื้อขายเฉลี่ยวันละมากๆ(เพื่อให้เกิดการขึ้นลงของราคาให้เราตัดซื้อตัดขาย)
แต่หลังจากที่เราเล่นวิธีนี้ไปแล้ว ถ้าทุกคนหันมาเล่นด้วยกันเยอะๆ ราคาหุ้นจะมีเสถียรภาพมากเลยนะ(พวกเก็งกำไรขายปั๊บ พวกเรารับปุ๊บอะไรแบบเนี้ย-แต่ว่าผมว่าคงเป็นไปได้ยากอ่ะครับ สภาพนั้นอ่ะ) และทีนี้ตลาดหุ้นเราก็จะเสถียรมากๆ ราคาตกปุ๊บปั๊บเป็นไม่มีอะไรแบบเนี้ย
4 วิธีนี้การเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม(ที่ไม่ใช่ซื้อส่วนต่าง) มีความสำคัญมาก เพราะถ้าเข้าซื้อในช่วงภาวะขาลงสุดๆ มูลค่าพอร์ตจะหายเกลี้ยงจนเราเริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่าทำถูกหรือผิด เพราะพอซื้อเข้าปั๊บก็ต้องนำราคาใหม่ที่ซื้อเข้านั้นมาตั้ง แล้วเริ่มตัดชอร์ตพอร์ตอีกรอบ ทีนี้ก็ไปหมดล่ะครับ มูลค่าพอร์ตหายหมด แต่เราจะได้หุ้นเพิ่มมหาศาล ถ้าสมมติฐานว่าหุ้นที่เราเลือกพื้นฐานดี แต่แรงเหวี่ยงแรงก็อย่าเพิ่งตกใจครับ ในระหว่างทางวันใดวันหนึ่งของการปีนราคาขึ้นไปหาจุดที่เราซื้อเมื่อแรกเริ่ม(หรือแค่ใกล้เคียงก็พอ) ปริมาณหุ้นมหาศาลที่เราเฉลี่ยซื้อไว้ตอนมูลค่าต่ำๆจะตามเรามาด้วยเป็นโขยง ตอนนั้นไม่รู้จะร้องเพลงอะไรรับทรัพย์ดีครับ(ตอนหุ้นตกแรงๆก็กินแกลบไปพลางๆก่อน) อะไรแบบเนี้ย
จุดสำคัญคือ เรามีหน้าที่เพิ่มหุ้น หุ้นมีหน้าที่เพิ่มมูลค่า(ให้ทรัพย์สินทำเงินให้เรา) ใช่ไหมครับพี่เด่นศรีครับ
แต่พี่เด่นศรีครับ ผมกลัวตัวเองเจ๊งครับ เห็นหุ้นลงแบบนี้ หัวใจผมเล็กลงเท่าเม็ดก๋วยจี๊แย้ว-
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 6 ส.ค. 47 12:42:45 ]
ความคิดเห็นที่ 204
พี่เด่นศรีครับ หลังจากนั่งคิดคำนวณมานาน(อ่านอยู่เกือบยี่สิบรอบนะกระทู้เนี้ย) ผมว่าผมพอจะเข้าใจ "ช่องว่าง"ของพี่แล้วครับ โอ! มันยอดมากครับ(ยิ่งกว่าโฆษณา TV Direct เสียอีกครับ) เรียกว่า ซื้อปั๊บ กำไรปุ๊บเลย อะไรแบบเนี้ย ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมพี่ถึงอยากจะเก็บมันไว้เป็นความลับของครอบครัว (คือแบบว่า มันเยี่ยมมากจริงๆอ่ะ) ทุกคนขอให้ตั้งใจอ่านกระทู้ช่วงแรกๆนะครับ คุณจะได้เจอ ช่องว่าง ที่ว่านั้นแน่นอน แล้วคุณจะอยากเก็บมันไว้เป็นความลับของคุณคนเดียว (รู้แล้วห้ามบอกต่อนะ เพราะถ้ารู้มากเกินไปแล้ว "ช่องว่าง" จะกลายเป็น "ช่องแคบ" แล้วล่ะคราวเนี้ย ฮี่ๆ) อ่านทุกบรรทัดอย่างละเอียดแล้วคุณจะเดาได้อย่างแน่นอนครับ
ขอบคุณมากๆครับ พี่เด่นศรีครับ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ เรื่องรวยน่ะ-ผมเลิกห่วงพี่เป็นคนแรกเลยอ่ะ
วันนี้ขอให้โชคดีนะครับ
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 6 ส.ค. 47 13:04:30 ]
ความคิดเห็นที่ 205
ขอบังอาจแนะนำนะครับ
ถ้าใจร้อนลองโดลงไปทุ่งคาตายคาทุ่งดูครับ
แต่ต้องเร็วนะครับ ลุ้นระทึกยิ่งกวารถไฟเหาะซะอีก
ถ้าทำได้มันส์มากคับ แต่แนะว่าเอานิดเดียวนะครับ
ซัก1-2พันหุ้น กะลังดีไม่เสียดายมาก
ดีไม่ดี ตั๋วรถไฟเหาะยี่ห้อนี้อาจฟรีแถมค่าขนมนิดหน่อย
มันส์จิงๆ เห็นผล เห็นภาพ รึจะ หลุยหวิดต๊อง ก็ไม่เลวนะ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 6 ส.ค. 47 13:12:54 ]
ความคิดเห็นที่ 206
ลืมไปครับ สวัสดีทุกคนครับ
เป็นยังไงกันบ้าง ข้าวเที่ยงอร่อยมั้ยครับ
แดงเถือกเลยหุหุ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 6 ส.ค. 47 13:16:32 ]
ความคิดเห็นที่ 207
จากความเห็นที่201 ครับ คำตอบที่ได้ผมว่ายังไม่ชัดเจนนะครับ จุดที่ผมต้องการทราบคือ ทำอย่างไรกับหุ้นที่ยังซื้อคืนไม่ได้800000หุ้นต่างหาก เพราะถ้าไม่จัดการจุดนี้ สุดท้ายมูลค่าไม่น่าจะ=60*2000000 เพราะมีเงินส่วนนี้ค้างอยู่
จากคุณ : อ๋อออ - [ 6 ส.ค. 47 14:36:02 ]
ความคิดเห็นที่ 208
จะลองตอบคุณอ๋อออดูนะครับ
ต้องออกตัวก่อนนะครับว่าผมก็ยังไม่เคยเล่นวิธีของพี่เด่นศรีเขาเลย โดยเฉพาะในภาวะกระทิงที่ว่า(อยากให้เกิดจังเลย) ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ
เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ คือ
ถ้าเป็นภาวะกระทิงจริง โดยระหว่างการขึ้นไปไม่มีการลงเพื่อปรับฐานเป็นรอบยาวๆเลย เน้น...ว่าไม่มีเลยนะครับ(หมดโอกาสใช้ส่วนต่างซื้อเฉลี่ย)
โอกาสที่จะเกิด 2000000หุ้น*60 น่าจะไม่เกิดขึ้นครับ
เพราะว่าโดยวิธีนี้ เมื่อหุ้นขึ้นมาก(สมมติว่า15ช่อง) เราจะกำหนดจุดชอร์ตพอร์ตใหม่ขึ้น ถ้ามีรอบลงสั้นๆ เราก็จะได้ส่วนต่างเพื่อถมหุ้นลงไปอีก และทุกครั้งที่หุ้นขึ้นมากๆ หุ้นที่เราซื้อถมเข้าไปก็จะลากมูลค่าตามมาให้เรามหาศาล แล้วพอขึ้นอีกเราก็จะกำหนดจุดชอร์ตพอร์ตใหม่อีกอย่างนี้เรื่อยไปครับ
ประเด็นที่ถามคือ เจ้าหุ้นส่วนที่เราไม่ได้ซื้อคืน 80% ที่หล่นเรี่ยราดไประหว่างทางตอนแรกจะซื้อได้เมื่อไร
คำตอบก็น่าจะเป็น ซื้อคืนไม่ได้ครับ
แต่ระหว่างทางของรอบลงสั้นๆยาวๆ(ถ้ามี) เราจะมีหุ้นเพิ่มขึ้นมาแล้วพอสมควรครับ(อาจจะมากกว่า800000 หรือน้อยกว่า 800000 ก็แล้วแต่รอบสั้นหรือยาว ลงมากหรือน้อย บ่อยหรือไม่ ผันผวนแค่ไหนครับ ถ้าผันผวนมากๆ ก็คงจะถึง2000000ล่ะครับ)
ทีนี้มาตอบที่ว่าพอซื้อไม่ได้แล้วจะเป็นอย่างไร
พี่เด่นศรีเขียนว่า จริงๆแล้ว น่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำที่ซื้อคืนไม่ได้ เพราะระหว่างทางขาขึ้น เมื่อเรากำหนดจุดชอร์ตใหม่ มันหมายความว่า มูลค่าของหุ้นตอนที่เราซื้อมันถูกกว่าตอนที่เราขายไปเมื่อกำหนดจุดชอร์ตพอร์ตใหม่ไงครับ(กำไรเห็นๆอะไรประมาณนี้ครับ)
แต่ทีนี้ เมื่อมีหุ้นที่เราเก็บไม่ได้มากๆ(อย่าง800000หุ้นเนี่ยอ่ะ อย่างนี้มันหมายความว่า หุ้นตัวนี้อาจจะทำให้พอร์ตไม่สมดุลย์ เช่นขาดกระแสเงินสด ขาดหุ้นที่จะทำกระแสเงินสดแฝง อะไรทำนองนี้ ในกรณีนี้ ต้องใช้ "ช่องว่าง" ของตลาดหุ้นครับ เพื่อให้ port เกิดความสมดุลย์ในที่สุดครับ
นี่ผมตอบเท่าที่ผมเข้าใจนะครับ
อาจจะผิดไปจากแนวทางของพี่เด่นศรีบ้างไม่มากก็น้อย ก็ขออภัยด้วยนะครับ (เพราะนี่ผมคิดฝันเอง ยังไม่ได้ลองทำเลยอ่ะครับ)
คงต้องรอพี่เด่นศรีมาตอบอีกทีครับ ผมจะได้รู้เพิ่มขึ้นด้วย (ยิ้ม)
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 6 ส.ค. 47 15:35:43 ]
ความคิดเห็นที่ 209
อีกนิดครับ เงินที่เกิดจากการขาย 800000 หุ้นไปนั้น เราไม่ได้สูญเสียมันไปนี่ครับ เราขายมันไปแล้ว รับกระแสเงินสดกลับมาแล้วต่างหากล่ะครับ และเงินส่วนนี้ก็จะนำมาหมุนในการซื้อหุ้นคืนเมื่อซื้อหุ้นคืนที่เราชอร์ตพอร์ตครั้งต่อๆไปไงครับ
จะพูดให้ถูกก็คือ วิธีนี้คือการซื้อเฉลี่ยโดยไม่ต้องเพิ่มเงินไงครับ ทุกครั้งที่เราซื้อคืน เราก็ได้กำไรจากกระแสเงินสดแฝง(การลดลงของมูลค่าสินทรัพย์) ทุกครั้งที่เราขาย เราก็ได้กระแสเงินสด ถ้าเราซื้อถูกกว่าที่เราขาย ยังไงก็จะได้กระแสเงินสดแฝงขึ้นมาครับ ถ้ามันวนหลายๆรอบเข้า กำไรมันจะมากกว่าขาดทุนตอนที่เราขาย800000 หุ้นนั้นไปหลายเท่ามากเลยครับ
ลองนึกภาพการไหลวนเข้าของกระแสเงินสด และกระแสเงินสดแฝงหลายๆรอบ เมื่อเทียบกับที่เราขายขาดทุนไปเพียง 8รอบดูสิครับ สมมติเราขายวนได้200 รอบใน1 ปี 8 รอบนั้น ผมว่าคุณลืมๆมันไปก็ได้มั้งครับ(ยิ้ม)
จากคุณ : ทรงกฤษฎิ์ - [ 6 ส.ค. 47 15:49:17 ]
ความคิดเห็นที่ 210
สวัสดีครับ คุณ ทรงกฤษฎิ์ และคุณ อ๋อออ
จากที่คุณ อ๋อออ ถามใน คห. 207 คำตอบของคุณ ทรงกฤษฎิ์ ที่ผมก็อปปี้มานี้ ชัดเจนมากครับ
" .... ทีนี้มาตอบที่ว่าพอซื้อไม่ได้แล้วจะเป็นอย่างไร
พี่เด่นศรีเขียนว่า จริงๆแล้ว น่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำที่ซื้อคืนไม่ได้ เพราะระหว่างทางขาขึ้น เมื่อเรากำหนดจุดชอร์ตใหม่ มันหมายความว่า มูลค่าของหุ้นตอนที่เราซื้อมันถูกกว่าตอนที่เราขายไปเมื่อกำหนดจุดชอร์ตพอร์ตใหม่ไงครับ(กำไรเห็นๆอะไรประมาณนี้ครับ)
แต่ทีนี้ เมื่อมีหุ้นที่เราเก็บไม่ได้มากๆ(อย่าง800000หุ้นเนี่ยอ่ะ อย่างนี้มันหมายความว่า หุ้นตัวนี้อาจจะทำให้พอร์ตไม่สมดุลย์ เช่นขาดกระแสเงินสด ขาดหุ้นที่จะทำกระแสเงินสดแฝง อะไรทำนองนี้ ในกรณีนี้ ต้องใช้ "ช่องว่าง" ของตลาดหุ้นครับ เพื่อให้ port เกิดความสมดุลย์ในที่สุดครับ .... "
คำตอบชัดเจนมากครับ คือ .... ใช้ ช่องว่าง ๆ มาอุดรูโหว่นั้นครับ
ผมคิดว่า คุณ ทรงกฤษฎิ์ จะรู้วิธีใช้ ช่องว่าง แล้วสิครับเนี่ยะ ( ยิ้ม )
และยิ่งบวกกับคำตอบของคุณ ทรงกฤษฎิ์ ใน คห. 209 จำนวนหุ้นยิ่งเยอะมากขึ้นครับ
อย่างที่คุณ ทรงกฤษฎิ์ บอกแหละครับ ขอให้มันเป็นกระทิงจริง ๆ เถอะ ...... ( ยิ้ม )
......................
ขอบคุณ คุณ ทรงกฤษฎิ์ มากครับ
......................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 6 ส.ค. 47 16:43:25 ]
ความคิดเห็นที่ 211
ขอบคุณ คุณทรงกฤษฎ์ และคุณเด่นศรีครับ ขอแนะนำให้คุณเด่นศรีขอ proxy จาก brokerที่ตั้งจอtrade ให้หนะ จะได้ดูหุ้น+เล่นnetในเวลาเดียวกันได้เลย
จากคุณ : อ๋อออ - [ 6 ส.ค. 47 17:39:03 ]
ความคิดเห็นที่ 212
มาแสดงความชื่นชม ด้วยอีกคนครับ
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 47 18:56:31
จากคุณ : Mayom_X - [ 6 ส.ค. 47 18:56:05 ]
ความคิดเห็นที่ 213
ซ้อว่า .. กระทู้อันยอดเยี่ยมนี้ น่าจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีมาก สำหรับคนทุกคนที่ได้เคยอ่าน rich dad .. ซ้อเองอ่านหลายรอบแล้ว แต่ยังไม่เห็น .. ช่องว่าง... ช่องแคบ.. ซะที ..
ดีใจที่กระทู้นี้เป็นที่สนใจของทุกคน จนทะลุ 200 กว่า .. คาดว่ากระทู้นี้คงได้เวลาปิดลงแล้ว ..
และสำหรับทุกคนที่มีข้อสงสัย ... ก็ขอให้ตั้งกระทู้ส่วนตัวของแต่ละคน เลยนะคะ... สำหรับซ้อเอง... จะลองทำตามไปก่อน และถ้าสงสัยอะไรเพิ่ม... ค่อยเขียนกระทู้เข้ามาใหม่นะคะ
ปล. อยากให้ทุกคนที่ตั้งใจถามคุณเด่นศรี .. ขอให้ศึกษาที่คุณเด่นศรีได้เขียนไว้ตอนต้นๆ อย่างละเอียด ก่อน ... เพราะเท่าที่สังเกต บางครั้งคำตอบมีในเนื้อหาข้างบนแล้ว... ช่วยๆ กันหน่อยนะคะ คุณเด่นศรีจะได้ไม่เหนื่อยด้วย ... ทุกคำพูดของคุณเด่นศรี มีประโยชน์มาก .. ซ้อขอบคุณนะคะ
ซ้อขอจบกระทู้นี้ไว้ที่เลขสวยนี้ดีกว่า 213 ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแสดงความเห็น และร่วมสร้างสรรค์ สิ่งดีๆ ในกระทู้นี้นะคะ
จากคุณ : อาซ้อสี่ค่า - [ 6 ส.ค. 47 21:48:17 A:202.133.160.221 X: ]
ความคิดเห็นที่ 216 214-215 ข้าม
สวัสดีครับคุณเด่นศรี
ผมขอถามคุณเด่นศรีบางประการเพื่อยืนยันความเข้าใจที่ผมมีต่อ "ช่องว่างที่คุณเด่นศรีกล่าวถึงนั้น" ว่าเป็นสิ่งที่ผมเข้าใจตามความหมายของคุณเด่นศรีได้ถูกต้องใกล้เคียงหรือไม่
1. การที่จะใช้ช่องว่างนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดเต็มประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่ออัตราการเติบโตของ port ต้องมากกว่าหรือเท่ากับการอัตรากราลดลงของราคาหุ้น (สมมุตติว่ามีหุ้นตัวเดียวในพอร์ต) เช่นที่คุณเด่นศรีไดอ้างไว้"ตอนที่ผมทำเริ่มแรก ผมมีหุ้นอยู่ตัวเดียว ที่ราคา 25.00 x 40,000 หุ้น ผ่านไป 1 ปี มันกลายเป็น 15.00x100,000 หุ้น"
2. ช่องว่างนี้ใช้กับอะไรก็ได้ที่มีการเคลื่อนไหวของราคาสองทิศทาง
3.จุดอ่อนของวิธีนี้ถ้าไม่นับว่าหุ้นมีมูลค่าลดลงเหลือ ศุนย์ภายในเวลาอันรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันแล้วละก็คือ การที่ทำไม่ได้ตามข้อแรกเท่านั้น
4. เนื่องจากการซื้อขายหุ้นจะยังคงมีอยู่ต่อไปไม่ใช่วันเดียวช่องว่างนี้จึงถูกนำมาใช้ในการซื้อขายหุ้นโดยที่เราจะไม่ขาดทุนเลยตราบที่หุ้นนั้นมีการเคลื่อนไหวของราคาตามด้านบน
ส่วนคำถามด้านล่างต่อจากนี้ถือว่าขอเรียนลัดจากคุณเด่นศรีครับ
1. ในขาลงคุณเด่นศรีขายหุ้นคืนที่ทุกช่วง 2 step ราคาทุกตัวเลยหรือไม่ครับ หรือว่ามีข้อกำหนดอย่างไรครับ
2. จะเริ่มซื้อคืนก็ต่อเมื่อหุ้นเริ่มนิ่งและราคาขยับขึ้นใช่หรือไม่ครับ
ขอบคุณคุณเด่นศรีมากครับที่จุดประกายความคิดใหม่ๆ เพราะผมเองก็อ่าน ridh dad ได้แค่สองเล่มแรกเท่านั้นเองครับ
จากคุณ : only one - [ 9 ส.ค. 47 09:04:14 A:127.0.0.1 X:203.155.226.231 ]
ความคิดเห็นที่ 217
สวัสดีคุณเด่นศรีอีกหนึ่งครั้งครับ
คุณเด่นศรีไม่ต้องตอบคำถามคุณสมบัติของวิธีนี้และช่องว่างให้ผมแล้ว แต่ 2 ข้อด้านล่างเกี่ยวกับวิธีเรียนลัดยังคงต้องการอยู่ครับ
ผมอ่านมาถึงกระทู้ที่ 85 นั้นผมก็เข้าใจว่าช่องว่างนั้นคืออะไรแล้วครับ
ขอบคุณมากครับ
จากคุณ : only one - [ 9 ส.ค. 47 10:38:21 A:127.0.0.1 X:203.155.226.231 ]
ความคิดเห็นที่ 218
สวัสดีครับ คุณ only one
ตอบทั้ง 2 ข้อ พร้อมกันเลยนะครับ
คำตอบ = ใช่ครับ
( ยิ้ม )
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 9 ส.ค. 47 13:14:31 ]
ความคิดเห็นที่ 219
สวัสดีครับคุณเด่นศรี
ผมว่าช่องว่างของคุณเด่นศรีนั้นจะสามารถเข้าใจได้โยอัตโนมัติ ถ้าเพียงแต่รู้และเข้าใจว่าทำไมคุณเด่นศรีถึงกล้าบอกว่า" มันทำให้ผม ได้กำไรทันทีที่ซื้อหุ้นครับ ไม่ว่าหุ้นตัวไหนในโลก ( เน้น .... ในโลก ..... ) ( ซึ่งรับรองว่า แม้จะรู้วงใน ก็คงไม่สามารถทำได้กับหุ้นทุกตัวในโลกครับ แต่ การรู้ช่องว่างนี้ ทำให้สามารถทำเงินได้จากทุกการลงทุนในโลก ทีมีการเคลื่อนไหวของราคา เน้น ... ที่มีการเคลื่อนไหวของราคา )" ถูกต้องไหมครับ
จากคุณ : only one - [ 9 ส.ค. 47 22:13:22 A:127.0.0.1 X:203.145.13.192 ]