DSM concept ตอนที่ 54
.....................
ตอบคุณ darude ครับ
ความหมายของคำถามคล้ายของคุณ x-philes รบกวนคุณ darude อ่านที่ผมตอบให้คุณ x-philes เลยนะครับ
.................
จากคำถาม ..... อย่างนั้นในสภาพหุ้นขาลงแบบปัจจุบันนี้เราก็ต้องรออย่างเดียวซิครับว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาเหมือนเก่าเมื่อไหร่ เพราะว่าถ้าเราเข้าซื้อตั้งแต่ช่วงดัชนี 800 จนถึงปัจจุบัน คงยังขาดทุนกันอยู่แน่ ใช่มั้ยครับ อยากใหคุณเด่นศรีอธิบายเพิ่มเติมตรงนี้หน่อย ......
ตอบ ถ้าให้ผมตอบ เกี่ยวกับมูลค่าพอร์ต ผมมั่นใจว่า หากเทียบกับตอน ดัชนี 800 จุดแล้ว ณ.ตอนนี้ ส่วนใหญ่ พอร์ตจะมีมูลค่าลดลงครับ ( แต่จะขาดทุนหรือกำไร นั้นเป็นอีกกรณีหนึ่งนะครับ ) แม้แต่ต่างชาติ พอร์ตก็มีมูลค่าลดลง
แต่ ......... พอร์ตของต่างชาติ จะมีจำนวนหุ้น เพิ่มขึ้นมากมายครับ
พอร์ตของผมก็เช่นกัน หากเทียบกับตอน 800 จุด มูลค่าพอร์ต จะลดลง ( ลดลงไปประมาณ 1 -2 ล้าน ) แต่ ปริมาณหุ้นเพิ่มขึ้นมาประมาณ 60 เปอร์เซนต์
ผมไม่ค่อยสนใจมูลค่าพอร์ตครับ แต่ผมสนใจปริมาณหุ้นมากกว่าครับ
เพราะหากตลาดยังเป็นอย่างนี้ สิ้นปี ผมคิดว่าปริมาณหุ้นผมคงจะเพิ่มขึ้นอีก 100 เปอร์เซนต์
ตรงนี้จะอธิบายยากนิดหนึ่งครับ แต่ลองอ่านดูที่ตอบไว้ที่ คห. 54 ครับ ตรงจุดที่บอกว่า
......ตอนที่ผมทำเริ่มแรก ผมมีหุ้นอยู่ตัวเดียว ที่ราคา 25.00 x 40,000 หุ้น ผ่านไป 1 ปี มันกลายเป็น 15.00x100,000 หุ้น
นั่นคือ หุ้นราคาตกลงมาเกือบ 10 บาท แต่ปริมาณหุ้นผมมากขึ้นเป็นเท่าตัว มูลค่าพอร์ตก็ยิ่งโตตามด้วยครับ
พอมองเห็นภาพมั้ยครับ
และหาก SET ยังอยู่ที่ ไม่เกิน 650 แต่หุ้นผมกลับมีมากกว่าตอน SET 800 อยู่เท่าตัว หาก SET กลับไปถึง 800 มูลค่าพอร์ตน่าจะเพิ่มอีกเกือบเท่าตัวครับ
แต่หากเราถือหุ้นไว้เฉย ๆ จากเซต 800 มาถึงปัจจุบัน ก็จะติดลบ แต่ถ้าถือต่อจน เซต 800 ก็จะกลับมาเสมอตัว ...... แต่ของผม จะโตเป็นเท่าตัว
มองเห็นภาพมากขึ้นมั้ยครับ
แต่หากเซตขึ้นไม่ถึง 800 แต่เวลาผ่านไปอีก 1 ปี ( สิ้นปี 2548 ) พอร์ตผมก็น่าจะโตขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องสนใจ SET ครับ
มันเหมือนการหารายได้ซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องสนใจอะไรรอบตัวครับ สนใจอย่างเดียวว่า วันนี้ ได้รายได้ ( กระแสเงินสดแฝง ) กลับมาเท่าไหร่ เดือนนึงจะได้เท่าไหร่ ปีนึงจะได้เท่าไหร่ และ 10 ปีข้างหน้าจะได้เท่าไหร่
จากนั้นคำว่า ต้นทุน หรือ กำไร มันจะกลายเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ครับ
เพราะพอร์ตยิ่งโตมาก กระแสเงินแฝงจะมากตามด้วย จนกระทั่งจุดหนึ่ง กระแสเงินแฝงที่เกิดจากการซื้อคืนแค่ 10 เปอร์เซนต์ ( แค่ 10 % นะครับ ) จะไล่ทันเงินต้นทุนทั้งก้อนที่เริ่มลงทุน
.........................
ที่รออยู่ ก็แค่เวลาครับ
........................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 5 ส.ค. 47 01:12:52 ]
ความคิดเห็นที่ 159
ขอตอบคุณ darude เพิ่มอีกนิดครับ ( ลืมตอบ )
จากที่คุณ darude กล่าวไว้ว่า " ....... ดูเหมือนว่าการเล่นหุ้นแบบนี้จะตั้งอยู่ในสมมุติฐานที่ว่า ยังไงก็ตามราคาหุ้นที่ซื้อไปก็จะกลับมายืนอยู่ที่ราคาเก่า โดยในช่วงระหว่างเวลาขึ้นลง เราก็ได้เงินสดแฝงจากการช็อตออกไปเรื่อยๆ แล้วซื้อกลับเข้ามาที่ราคาถูกกว่า ...... "
ตอบ จะไม่เกี่ยวกับการขึ้นมายืนอยู่ที่ราคาเก่าครับ สำหรับผมเอง ผมไม่เคยสนใจตรงจุดนั้น หรือจะเรียกว่า ไม่สนใจราคาเลยก็ว่าได้ครับ
เพราะผมถือว่า เมื่อผมลงทุนซื้อทรัพย์สินมาแล้ว มันจะราคาเท่าไหร่ไม่สำคัญ สำคัญแค่เพียงว่า มันทำรายได้กลับมาให้เราตลอดชีวิตเราหรือไม่
ราคาสินทรัพย์ที่ซื้อมา จะขึ้นหรือลง ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญสำหรับผมคือ รายได้จากสินทรัพย์นั้นเพียงอย่างเดียวครับ
แม้ว่าสินทรัพย์ ( หุ้น )นั้น จะราคาขึ้นไปมหาศาล ผมก็จะไม่ขายมันแค่เพียงเพื่อทำกำไร เพราะหากขายทำกำไรไปแล้ว ผมก็จะไม่มีรายได้อีกเลย ต้องวิ่งหาทรัพย์สินชิ้นใหม่ไม่มีที่สิ้นสุด
ยกตัวอย่าง นะครับ
สมมุติ ผมซื้อโรงแรมมา 1 แห่ง เป็นเงิน 100 ล้านบาท
ปีต่อมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ โรงแรมของผมอาจเหลือมูลค่าแค่ 60 ล้านบาท ...... แต่ ผมไม่เคยสนใจ ขอเพียงมันยังทำเงินค่าเช่าห้องพักให้ผมทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี
อีก 2 ปี ถัดมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ดีดตัวขึ้น โรงแรมผมขึ้นมามีมูลค่า 200 ล้าน ผมก็ไม่ขายหรอกครับ เพราะผมไม่ได้ต้องการกำไร แต่ผมต้องการรายได้จากโรงแรม
หากขายโรงแรมไป ผมได้กำไรก็จริง แต่จะไม่มีรายได้อีกเลย
แต่หากผมไม่ขายโรงแรม ผมยังมีรายได้ และหากสะสมรายได้ไว้เรื่อย ๆ ผมอาจได้โรงแรมแห่งที่ 2 .... 3 .... 4 .... 10 ตามมาครับ
คงมองเห็นภาพนะครับสำหรับเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงไม่สนใจมูลค่าพอร์ต แต่สนใจเพียงสิ่งเดียวคือ รายได้ที่เกิดจากพอร์ต
.....................
นี่แหละครับ หัวใจสำคัญมากของหนังสือ .... พ่อรวยสอนลูก .....
....................
สวัสดีครับ คุณ Dalglish และ คุณ warit
.........................
ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ
นอนหลับฝันดีครับ เพื่อน ๆ
จากคุณ : เด่นศรี - [ 5 ส.ค. 47 01:33:28 ]
ความคิดเห็นที่ 160
อ่านแล้ว รู้สึกรัก และชื่นชมคุณเด่นศรีมากๆค่ะ ขอบคุณด้วยความรู้สึกดีๆค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
จากคุณ : ครูนางฟ้า - [ 5 ส.ค. 47 02:07:53 ]
ความคิดเห็นที่ 161
ในชีวิตผม ผมยอมรับ และ นับถือ ผู้คนอยู่ไม่กี่คน
ในวันนี้ คุณเด่นศรี สอน และสร้างมุมมอง สร้างความคิด ให้กับผม ทำให้ผมได้เข้าใจความหมายที่แท้จริง ของการลงทุนในหลักทรัพย์ จากเมื่อก่อน ที่กล้าๆกลัวๆ กับตลาดหุ้นมาโดยตลอด ผมเลยหันไปลงทุนกับทองแท่ง ซึ่งมันช้ามากๆ เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น
หลายๆวันที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ศึกษาจากกระทู้ของคุณเด่นศรี ผมก็ลองสร้างแบบจำลองการซื้อขายหุ้นและการบริหารพอร์ตใน Excel
โดยการใช้ข้อมูลหุ้นย้อนหลัง และทำการซื้อขาย ในหลายๆวิธี และหนึ่งในนั้น คือวิธีที่คุณเด่นศรี ได้สอนไว้
นั่น...ทำให้ผมได้เห็นอะไรๆ หลายๆ อย่าง แบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน วิธีที่คุณเด่นศรีได้สอนไว้ มหัศจรรย์มาก
ขอเพียง มีแผนการและแนวทางที่แน่นอน อย่าหวั่นไหว
สิ่งที่ได้กลับมา นั่นคือ โรงแรมของผมใหญ่ขึ้น มีห้องให้เช่ามากขึ้น กำไรที่ได้จากค่าเช่า ผมก็เอาไปสร้างห้องเพิ่ม โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มซักบาทเดียว แม้มูลค่าโรงแรมในปัจจุบัน จะลดลงมากก็ตามที ผมก็ไม่กลัว ผมยังมีรายได้จากค่าเช่าตลอดเวลา
คุณเด่นศรี จุดประกายทางความคิด และมุมมอง ให้กับเด็กวัยร้อยสลึงอย่างผม ซึ่งมันมีค่ามากๆ สำหรับผมจากวันนี้ และต่อไปในวันข้างหน้า
ผมถือว่า คุณเด่นศรี เป็นผู้มีพระคุณ และเป็นครูของผมครับ
แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 47 05:36:33
จากคุณ : ลูกศิษย์ออนไลน์ (Teerasae) - [ 5 ส.ค. 47 05:33:15 ]
ความคิดเห็นที่ 162
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า สู่วันที่ท้องฟ้าสดใส
............แม้จะมีเมฆขุ่นมัว...............
และอย่าลืมยิ้มรับ กับวันที่ตัวเลขเป็นสีแดงนะครับ
จากคุณ : Teerasae - [ 5 ส.ค. 47 05:44:11 ]
ความคิดเห็นที่ 163
สวัสดีครับคุณ ครูนางฟ้า
ขอบคุณมากครับ
...................
สวัสดีครับคุณ ลูกศิษย์ออนไลน์ (Teerasae)
ขอบคุณมากเช่นกันครับ และขอแสดงความยินดีด้วยครับ
คราวนี้ก็เหลือแค่ในสนามจริงแล้วนะครับ ขอให้ประสบความสำเร็จครับ
...................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 5 ส.ค. 47 09:29:16 ]
ความคิดเห็นที่ 164
ตกลงแล้ว
ตอนนี้อยากให้ set วิ่งไปทางไหนล่ะคับ
5555+
เอ รึว่าช่วงนี้ที่มันกระแทกแรงๆ กระทู้นี้ก็อาจมีส่วนร่วม
ให้เกิดปรากฎการณ์หว่า
5555+
ล้อเล่นครับ ล้อเล่น
หุหุหุหุ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 5 ส.ค. 47 09:35:18 ]
ความคิดเห็นที่ 165
ว่าแล้วก็ลืม คิดแผนเล่นขาขึ้นไว้บ้างนะครับ
ไม่ใช่ว่าสนุกกับขาลง
จนลืมไปว่าจะทำยังไงกับขาขึ้นจะทำยังไง
ยังไงก็เอาไปปรับเล่นละกันนะคับ
ผมว่าขาขึ้นทุกคนเล่นเป็นแน่นอน
แต่จะปรับให้เข้ากับแผนที่เล่นไว้ช่วงขาลงนี่สิคับ
จะทำได้ดีขนาดไหน
ขอบคุณคับ
แต่เมื่อวานผมคิดจิงๆนะ แต่คิดเล่นๆ
ว่าที่ลงเนี่ย เพราะ......
5555+ เหอๆๆๆๆ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 5 ส.ค. 47 09:50:53 ]
ความคิดเห็นที่ 166
สวัสดีครับ คุณ ปิงป่องแชะ
คิดเหมือนผมเลยครับ เอ .... หรือว่า เราคิดไปเองน้อ ( ยิ้ม )
จากคุณ : เด่นศรี - [ 5 ส.ค. 47 09:52:59 ]
ความคิดเห็นที่ 167
ฮาฮา คงไม่สามารถทำได้มังครับ
ผมได้มาไม่กี่ร้อยบาท (แต่คุณเด่นศรีเมื่อวานคงได้หลาย)
ผมรู้สึกเปลืองพลังงานตอนหุ้นลง (หนักกาย สบายใจ)
แต่ตอนขึ้นทั้งสบายกายสบายใจ (แน่อยู่แล้ว)
จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 5 ส.ค. 47 10:36:08 ]
ความคิดเห็นที่ 168
คุณเด่นศรี ครับ ที่ว่าขาย 10%ที่ 2 ช่วงราคา ถ้าเราขายไปที่ 10.6 พอราคาลงมาถึง 10.4 เราควรจะซื้อคืนเลยหรือขายต่ออีก10% จะเอาอะไรมาเป็นหลักเกณฑฑ์ในการพิจารณาครับ
จากคุณ : อ๋อออ - [ 5 ส.ค. 47 11:28:23 ]
ความคิดเห็นที่ 169
สอบถาม.......ความคิดเห็นที่ 153
ผมอยากอ่านเรื่อง ตำนานแมงเม่า บ้างอะครับ
ตอบคุณ darude ครับ
ความหมายของคำถามคล้ายของคุณ x-philes รบกวนคุณ darude อ่านที่ผมตอบให้คุณ x-philes เลยนะครับ
.................
จากคำถาม ..... อย่างนั้นในสภาพหุ้นขาลงแบบปัจจุบันนี้เราก็ต้องรออย่างเดียวซิครับว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาเหมือนเก่าเมื่อไหร่ เพราะว่าถ้าเราเข้าซื้อตั้งแต่ช่วงดัชนี 800 จนถึงปัจจุบัน คงยังขาดทุนกันอยู่แน่ ใช่มั้ยครับ อยากใหคุณเด่นศรีอธิบายเพิ่มเติมตรงนี้หน่อย ......
ตอบ ถ้าให้ผมตอบ เกี่ยวกับมูลค่าพอร์ต ผมมั่นใจว่า หากเทียบกับตอน ดัชนี 800 จุดแล้ว ณ.ตอนนี้ ส่วนใหญ่ พอร์ตจะมีมูลค่าลดลงครับ ( แต่จะขาดทุนหรือกำไร นั้นเป็นอีกกรณีหนึ่งนะครับ ) แม้แต่ต่างชาติ พอร์ตก็มีมูลค่าลดลง
แต่ ......... พอร์ตของต่างชาติ จะมีจำนวนหุ้น เพิ่มขึ้นมากมายครับ
พอร์ตของผมก็เช่นกัน หากเทียบกับตอน 800 จุด มูลค่าพอร์ต จะลดลง ( ลดลงไปประมาณ 1 -2 ล้าน ) แต่ ปริมาณหุ้นเพิ่มขึ้นมาประมาณ 60 เปอร์เซนต์
ผมไม่ค่อยสนใจมูลค่าพอร์ตครับ แต่ผมสนใจปริมาณหุ้นมากกว่าครับ
เพราะหากตลาดยังเป็นอย่างนี้ สิ้นปี ผมคิดว่าปริมาณหุ้นผมคงจะเพิ่มขึ้นอีก 100 เปอร์เซนต์
ตรงนี้จะอธิบายยากนิดหนึ่งครับ แต่ลองอ่านดูที่ตอบไว้ที่ คห. 54 ครับ ตรงจุดที่บอกว่า
......ตอนที่ผมทำเริ่มแรก ผมมีหุ้นอยู่ตัวเดียว ที่ราคา 25.00 x 40,000 หุ้น ผ่านไป 1 ปี มันกลายเป็น 15.00x100,000 หุ้น
นั่นคือ หุ้นราคาตกลงมาเกือบ 10 บาท แต่ปริมาณหุ้นผมมากขึ้นเป็นเท่าตัว มูลค่าพอร์ตก็ยิ่งโตตามด้วยครับ
พอมองเห็นภาพมั้ยครับ
และหาก SET ยังอยู่ที่ ไม่เกิน 650 แต่หุ้นผมกลับมีมากกว่าตอน SET 800 อยู่เท่าตัว หาก SET กลับไปถึง 800 มูลค่าพอร์ตน่าจะเพิ่มอีกเกือบเท่าตัวครับ
แต่หากเราถือหุ้นไว้เฉย ๆ จากเซต 800 มาถึงปัจจุบัน ก็จะติดลบ แต่ถ้าถือต่อจน เซต 800 ก็จะกลับมาเสมอตัว ...... แต่ของผม จะโตเป็นเท่าตัว
มองเห็นภาพมากขึ้นมั้ยครับ
แต่หากเซตขึ้นไม่ถึง 800 แต่เวลาผ่านไปอีก 1 ปี ( สิ้นปี 2548 ) พอร์ตผมก็น่าจะโตขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องสนใจ SET ครับ
มันเหมือนการหารายได้ซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องสนใจอะไรรอบตัวครับ สนใจอย่างเดียวว่า วันนี้ ได้รายได้ ( กระแสเงินสดแฝง ) กลับมาเท่าไหร่ เดือนนึงจะได้เท่าไหร่ ปีนึงจะได้เท่าไหร่ และ 10 ปีข้างหน้าจะได้เท่าไหร่
จากนั้นคำว่า ต้นทุน หรือ กำไร มันจะกลายเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ครับ
เพราะพอร์ตยิ่งโตมาก กระแสเงินแฝงจะมากตามด้วย จนกระทั่งจุดหนึ่ง กระแสเงินแฝงที่เกิดจากการซื้อคืนแค่ 10 เปอร์เซนต์ ( แค่ 10 % นะครับ ) จะไล่ทันเงินต้นทุนทั้งก้อนที่เริ่มลงทุน
.........................
ที่รออยู่ ก็แค่เวลาครับ
........................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 5 ส.ค. 47 01:12:52 ]
ความคิดเห็นที่ 159
ขอตอบคุณ darude เพิ่มอีกนิดครับ ( ลืมตอบ )
จากที่คุณ darude กล่าวไว้ว่า " ....... ดูเหมือนว่าการเล่นหุ้นแบบนี้จะตั้งอยู่ในสมมุติฐานที่ว่า ยังไงก็ตามราคาหุ้นที่ซื้อไปก็จะกลับมายืนอยู่ที่ราคาเก่า โดยในช่วงระหว่างเวลาขึ้นลง เราก็ได้เงินสดแฝงจากการช็อตออกไปเรื่อยๆ แล้วซื้อกลับเข้ามาที่ราคาถูกกว่า ...... "
ตอบ จะไม่เกี่ยวกับการขึ้นมายืนอยู่ที่ราคาเก่าครับ สำหรับผมเอง ผมไม่เคยสนใจตรงจุดนั้น หรือจะเรียกว่า ไม่สนใจราคาเลยก็ว่าได้ครับ
เพราะผมถือว่า เมื่อผมลงทุนซื้อทรัพย์สินมาแล้ว มันจะราคาเท่าไหร่ไม่สำคัญ สำคัญแค่เพียงว่า มันทำรายได้กลับมาให้เราตลอดชีวิตเราหรือไม่
ราคาสินทรัพย์ที่ซื้อมา จะขึ้นหรือลง ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญสำหรับผมคือ รายได้จากสินทรัพย์นั้นเพียงอย่างเดียวครับ
แม้ว่าสินทรัพย์ ( หุ้น )นั้น จะราคาขึ้นไปมหาศาล ผมก็จะไม่ขายมันแค่เพียงเพื่อทำกำไร เพราะหากขายทำกำไรไปแล้ว ผมก็จะไม่มีรายได้อีกเลย ต้องวิ่งหาทรัพย์สินชิ้นใหม่ไม่มีที่สิ้นสุด
ยกตัวอย่าง นะครับ
สมมุติ ผมซื้อโรงแรมมา 1 แห่ง เป็นเงิน 100 ล้านบาท
ปีต่อมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ โรงแรมของผมอาจเหลือมูลค่าแค่ 60 ล้านบาท ...... แต่ ผมไม่เคยสนใจ ขอเพียงมันยังทำเงินค่าเช่าห้องพักให้ผมทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี
อีก 2 ปี ถัดมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ดีดตัวขึ้น โรงแรมผมขึ้นมามีมูลค่า 200 ล้าน ผมก็ไม่ขายหรอกครับ เพราะผมไม่ได้ต้องการกำไร แต่ผมต้องการรายได้จากโรงแรม
หากขายโรงแรมไป ผมได้กำไรก็จริง แต่จะไม่มีรายได้อีกเลย
แต่หากผมไม่ขายโรงแรม ผมยังมีรายได้ และหากสะสมรายได้ไว้เรื่อย ๆ ผมอาจได้โรงแรมแห่งที่ 2 .... 3 .... 4 .... 10 ตามมาครับ
คงมองเห็นภาพนะครับสำหรับเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงไม่สนใจมูลค่าพอร์ต แต่สนใจเพียงสิ่งเดียวคือ รายได้ที่เกิดจากพอร์ต
.....................
นี่แหละครับ หัวใจสำคัญมากของหนังสือ .... พ่อรวยสอนลูก .....
....................
สวัสดีครับ คุณ Dalglish และ คุณ warit
.........................
ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ
นอนหลับฝันดีครับ เพื่อน ๆ
จากคุณ : เด่นศรี - [ 5 ส.ค. 47 01:33:28 ]
ความคิดเห็นที่ 160
อ่านแล้ว รู้สึกรัก และชื่นชมคุณเด่นศรีมากๆค่ะ ขอบคุณด้วยความรู้สึกดีๆค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
จากคุณ : ครูนางฟ้า - [ 5 ส.ค. 47 02:07:53 ]
ความคิดเห็นที่ 161
ในชีวิตผม ผมยอมรับ และ นับถือ ผู้คนอยู่ไม่กี่คน
ในวันนี้ คุณเด่นศรี สอน และสร้างมุมมอง สร้างความคิด ให้กับผม ทำให้ผมได้เข้าใจความหมายที่แท้จริง ของการลงทุนในหลักทรัพย์ จากเมื่อก่อน ที่กล้าๆกลัวๆ กับตลาดหุ้นมาโดยตลอด ผมเลยหันไปลงทุนกับทองแท่ง ซึ่งมันช้ามากๆ เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น
หลายๆวันที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ศึกษาจากกระทู้ของคุณเด่นศรี ผมก็ลองสร้างแบบจำลองการซื้อขายหุ้นและการบริหารพอร์ตใน Excel
โดยการใช้ข้อมูลหุ้นย้อนหลัง และทำการซื้อขาย ในหลายๆวิธี และหนึ่งในนั้น คือวิธีที่คุณเด่นศรี ได้สอนไว้
นั่น...ทำให้ผมได้เห็นอะไรๆ หลายๆ อย่าง แบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน วิธีที่คุณเด่นศรีได้สอนไว้ มหัศจรรย์มาก
ขอเพียง มีแผนการและแนวทางที่แน่นอน อย่าหวั่นไหว
สิ่งที่ได้กลับมา นั่นคือ โรงแรมของผมใหญ่ขึ้น มีห้องให้เช่ามากขึ้น กำไรที่ได้จากค่าเช่า ผมก็เอาไปสร้างห้องเพิ่ม โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มซักบาทเดียว แม้มูลค่าโรงแรมในปัจจุบัน จะลดลงมากก็ตามที ผมก็ไม่กลัว ผมยังมีรายได้จากค่าเช่าตลอดเวลา
คุณเด่นศรี จุดประกายทางความคิด และมุมมอง ให้กับเด็กวัยร้อยสลึงอย่างผม ซึ่งมันมีค่ามากๆ สำหรับผมจากวันนี้ และต่อไปในวันข้างหน้า
ผมถือว่า คุณเด่นศรี เป็นผู้มีพระคุณ และเป็นครูของผมครับ
แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 47 05:36:33
จากคุณ : ลูกศิษย์ออนไลน์ (Teerasae) - [ 5 ส.ค. 47 05:33:15 ]
ความคิดเห็นที่ 162
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า สู่วันที่ท้องฟ้าสดใส
............แม้จะมีเมฆขุ่นมัว...............
และอย่าลืมยิ้มรับ กับวันที่ตัวเลขเป็นสีแดงนะครับ
จากคุณ : Teerasae - [ 5 ส.ค. 47 05:44:11 ]
ความคิดเห็นที่ 163
สวัสดีครับคุณ ครูนางฟ้า
ขอบคุณมากครับ
...................
สวัสดีครับคุณ ลูกศิษย์ออนไลน์ (Teerasae)
ขอบคุณมากเช่นกันครับ และขอแสดงความยินดีด้วยครับ
คราวนี้ก็เหลือแค่ในสนามจริงแล้วนะครับ ขอให้ประสบความสำเร็จครับ
...................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 5 ส.ค. 47 09:29:16 ]
ความคิดเห็นที่ 164
ตกลงแล้ว
ตอนนี้อยากให้ set วิ่งไปทางไหนล่ะคับ
5555+
เอ รึว่าช่วงนี้ที่มันกระแทกแรงๆ กระทู้นี้ก็อาจมีส่วนร่วม
ให้เกิดปรากฎการณ์หว่า
5555+
ล้อเล่นครับ ล้อเล่น
หุหุหุหุ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 5 ส.ค. 47 09:35:18 ]
ความคิดเห็นที่ 165
ว่าแล้วก็ลืม คิดแผนเล่นขาขึ้นไว้บ้างนะครับ
ไม่ใช่ว่าสนุกกับขาลง
จนลืมไปว่าจะทำยังไงกับขาขึ้นจะทำยังไง
ยังไงก็เอาไปปรับเล่นละกันนะคับ
ผมว่าขาขึ้นทุกคนเล่นเป็นแน่นอน
แต่จะปรับให้เข้ากับแผนที่เล่นไว้ช่วงขาลงนี่สิคับ
จะทำได้ดีขนาดไหน
ขอบคุณคับ
แต่เมื่อวานผมคิดจิงๆนะ แต่คิดเล่นๆ
ว่าที่ลงเนี่ย เพราะ......
5555+ เหอๆๆๆๆ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 5 ส.ค. 47 09:50:53 ]
ความคิดเห็นที่ 166
สวัสดีครับ คุณ ปิงป่องแชะ
คิดเหมือนผมเลยครับ เอ .... หรือว่า เราคิดไปเองน้อ ( ยิ้ม )
จากคุณ : เด่นศรี - [ 5 ส.ค. 47 09:52:59 ]
ความคิดเห็นที่ 167
ฮาฮา คงไม่สามารถทำได้มังครับ
ผมได้มาไม่กี่ร้อยบาท (แต่คุณเด่นศรีเมื่อวานคงได้หลาย)
ผมรู้สึกเปลืองพลังงานตอนหุ้นลง (หนักกาย สบายใจ)
แต่ตอนขึ้นทั้งสบายกายสบายใจ (แน่อยู่แล้ว)
จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 5 ส.ค. 47 10:36:08 ]
ความคิดเห็นที่ 168
คุณเด่นศรี ครับ ที่ว่าขาย 10%ที่ 2 ช่วงราคา ถ้าเราขายไปที่ 10.6 พอราคาลงมาถึง 10.4 เราควรจะซื้อคืนเลยหรือขายต่ออีก10% จะเอาอะไรมาเป็นหลักเกณฑฑ์ในการพิจารณาครับ
จากคุณ : อ๋อออ - [ 5 ส.ค. 47 11:28:23 ]
ความคิดเห็นที่ 169
สอบถาม.......ความคิดเห็นที่ 153
ผมอยากอ่านเรื่อง ตำนานแมงเม่า บ้างอะครับ