DSM concept ตอนที่ 49
เพราะหากหมายถึงการกู้เงินจากธนาคาร เค้าไม่ให้ผมกู้สำหรับลงทุนในหุ้น ( แต่เคยมีธนาคารหนึ่ง เคยทำเรื่องให้ผม โดยมีข้อแม้ว่า ผมจะต้องซื้อหุ้นของธนาคารดังกล่าวนั้น จำนวน 1 ล้าน หุ้น ( รวมประมาณ 10 ล้าน บาท ) ซึ่งผมก็ตกลง แต่ .... ปรากฎว่า ..... จองไม่ได้ เลยอดเลยครับ
ตอนนั้นผมยังดีใจเนื้อเต้นเลยครับว่า ผมใช้เงินผู้อื่นได้แล้ว แต่ ...... ก็ไม่ได้ ( ยิ้ม )
..................
แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่า การที่ผมสร้างหุ้นขึ้นมาจากเงินผู้อื่น ( จากกระแสเงินสดแฝง ) จะถือเป็นการลงทุนด้วยเงินผู้อื่นด้วยหรือเปล่า เพราะ ดังที่บอกครับว่า ตอนนี้ถ้าผมชักเงินส่วนของผมที่เริ่มต้นออกทั้งหมด ผมก็เท่ากับว่า ไม่ได้ใช้เงินตัวเองเลย
................
คุณ นกเพนกวินอ้วน มีใจความสำคัญที่จะบอกผมบ้างหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
.................
คุณ Gain ครับ
ผมก็คิดเหมือนกันครับเรื่องอุปการะเด็ก แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะใจหนึ่งก็อยากขอเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกเลย เพราะคิดว่าเราสามารถให้อะไรเค้าได้มากกว่า รวมทั้งความอบอุ่น ก็เลยต้องรอเวลาครับ ( ยิ้ม )
ขอให้มีความสุขครับ คุณ Gain
................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 2 ส.ค. 47 16:08:50 ]
ความคิดเห็นที่ 110
สำนวนที่ว่าอุปการะเด็กของดิฉัน
ไม่ใช่ขอเด็กมาเลี้ยงค่ะ
แต่เป็นการบริจาคค่าอาหารกลางวัน
วันละ 15 บาท ต่อเด็ก 1 คน
( หรือเดือนละ 450 บาท
หรือ 5,400 บาท / ปี / คน)
ตอนแรกไม่บอกรายละเอียดเนื่องจากเกรงว่าจะมีคนคิดว่าดิฉันมาโฆษณามูลนิธิค่ะ
แต่พอคุณเด่นศรีพูดเรื่องขอเด็กมาเลี้ยง
จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจง
ขอให้คุณเด่นศรีและครอบครัวมีความสุขเช่นกันค่ะ
จากคุณ : Gain - [ 2 ส.ค. 47 17:00:13 A:unknown X:202.12.73.9 ]
ความคิดเห็นที่ 111
คุณเด่นศรีได้เอื้อเฟื้อยกตัวอย่างและอธิบายวิธีการที่ถูกต้องมาบ้างแล้ว จึงอยากจะรบกวนให้ช่วยกล่าวถึงวิธีการที่ผิดพลาดซึ่งคุณเด่นศรีและเพื่อนได้มีประสบการณ์ในอดีตด้วยครับ
จากคุณ : เด็กแก่แดด (เด็กแก่แดด) - [ 2 ส.ค. 47 18:02:14 ]
ความคิดเห็นที่ 112
ถึง คุณ เด่นศรีครับ
"ช่องว่างนี้ ทำให้ทุกการลงทุนมาหยุดอยู่ที่จุดเดียวกันได้อย่างกลมกลืนและสมดุล ครับ
...............
ผมไม่แน่ใจว่า การโยกเงินของต่างชาติ จะเกี่ยวกับช่องว่างตัวนี้หรือไม่ แต่ช่องว่างตัวนี้ สามารถทำให้การโยกเงินเป็นไปได้อย่างสมดุล"
1. ผมสงสัยว่า คำว่า สมดุลนี่คืออะไรครับ อะไรสมดุลครับ ถ้าสิ่งนั้นสมดุลแล้วจะเป็นยังไง แล้วถ้าสิ่งนั้นไม่สมดุลจะเป็นยังไงครับ
2. แสดงว่า ขณะนี้สิ่งนั้นกำลังไม่สมดุลอยู่ใช่ไหมครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า สิ่งนั้นกำลังไม่สมดุลครับ
ขอบคุณคุณเด่นศรีมากครับ
จากคุณ : yellowman (yellowest) - [ 2 ส.ค. 47 19:31:32 ]
ความคิดเห็นที่ 113
ผมอาจเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนก็เป็นไปได้ครับ
ตามที่ผมเข้าใจ (จากหนังสือ) การกู้เงิน หรือ การมีผู้อื่นนำเงินให้มาลงทุน ---> เงินนั้นก็ยังคงเป็น หนี้ อยู่ครับ.......แต่จะเป็น หนี้ดี หรือ หนี้เสีย อันนี้แล้วแต่ผู้นำไปใช้ครับ........ซึ่งคนละความหมายกับ การเล่นด้วยเงินคนอื่น......และคุณ F (kidmai) ได้กล่าวไว้แล้วครับ ว่าหมายถึงแบบใหน
ส่วนแผนการลงทุนในหุ้น ผมมะมีความคิดเห็นครับ........เพียงแต่ถ้าปรับมุมมอง การซื้อ-ขาย ให้พิจารณาที่แนวโน้ม (ตามหลักการวิเคราะห์ทางเทคนิค) น่าจะเป็นแนวทางที่ใช้ได้ครับ (ต้องลองศึกษา) .....ข้อดีมีหลายข้อ แต่ที่มองอย่างชัดเจน ก็ การส่งเงินไปทำงานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ส่วนการคัดเลือกหุ้น มุมมองของผม มองว่าถ้ามีการคัดเลือกด้วยปัจจัยพื้นฐาน น่าจะเป็นตัวกรองที่ดีเพิ่มขึ้น
.........เพื่อเร่งให้เงินนั้นทำงานให้เรา ให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เงินจะได้ไม่ขี้เกียจครับ (focus stocks)
ส่วนว่าทำไมต้องวิเคราะห์หุ้น ด้วยปัจจัยพื้นฐาน หรือวิเคราะห์ด้วยเทคนิค ในหนังสือมีกล่าวไว้แล้วครับ........ส่วนการเล่นเกมกระแสเงินสด เป็นการฝึกความเร็วในการคิดครับ
^.^....... ที่กล่าวมา เกิดจากการอ่านจากใหนหนังสืออะครับ ** มะได้คิดเองหรอก **
แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 47 00:11:41
แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 47 20:39:40
แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 47 20:35:31
จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน - [ 2 ส.ค. 47 20:30:12 ]
ความคิดเห็นที่ 114
วันนี้อ่านอีกครึ่งเล่ม 55555
ได้อะไรอีกเยอะ
คือได้รู้ว่าที่ผ่านมา ผมเป็นได้แค่นักลงทุนทั่วไป (เศร้า)
ขอบคุณ และ ยินดีที่ได้รู้จักคุณเด่นศรีครับ
จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 2 ส.ค. 47 20:32:48 ]
ความคิดเห็นที่ 115
เรียนคุณเด่นศรี
ได้ไปอ่านกระทู้ที่คุณเคยติดต่อกับคุณยา ตอนเดือน เมย. น่ะค่ะ .. แล้วอยู่ๆ กระทู้ก็จบไป .. ไม่ทราบว่าไปต่อตรงไหนคะ .. อยากตามไปอ่านต่อจัง.. เหมือนติดหนังจีนชุดเลยค่า...
แล้วตอนนี้ คุณยา .. เป็นอย่างไรบ้างคะ พอร์ตเป็นไงบ้าง.. ได้หุ้นเพิ่มขึ้นหรือยังแค่ไหนคะ
พอลองตามอ่าน.. ก็พอเข้าใจมากขึ้นค่ะ.. แต่มันก็ยากที่ "ใจ" จริงๆ นะคะ
พรุ่งนี้จะลองเริ่มแล้วค่ะ .. ถ้าตลาดลง..ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยนะคะ คุณเด่นศรี
ปล. ฝากขอบคุณภรรยาคุณด้วย ที่เข้าใจคุณ และให้โอกาสคุณอีกครั้งในตลาดหุ้น .. เพราะถ้าเธอไม่ให้โอกาสตอนนั้น ตอนนี้ก็คงไม่มีกระทู้นี้เกิดขึ้นเป็นวิทยาทานกับคนอื่นแน่เลยค่ะ
จากคุณ : อาซ้อสี่ค่า - [ 2 ส.ค. 47 23:42:51 A:202.133.162.183 X: ]
ความคิดเห็นที่ 116
จากคห. 91
ตอบ ในขณะที่มันลงมา ของผมเองจะขายทุก 2 ช่อง
เช่น 18.00....17.80....17.60....17.40....17.20...และ 17.00
ถ้าหากมันยังลงต่อ ผมก็จะขายต่อ
แต่ปรากฎว่ามันงอหัวขึ้นมา 5 ช่อง เช่น จาก 17.00 .... 17.10 .... 17.20 ......17.30 .....17.40
พอถึง 17.40 ผมก็ซื้อกลับคืน แต่ซื้อเฉพาะที่ขายไปที่ราคา 17.60 .... 17.80 และ 18.00 ครับ
ส่วนจากนั้น ถ้ามันขึ้นต่อ ผมก็ไม่ขาย แต่จะถือไปเรื่อย ๆ
แต่หากมันลงต่อ ถ้ายังลงไม่ถึง 16.80 ผมก็จะไม่ขาย
>>ซ้องง หน่อยค่ะว่า .. ถ้าราคาซื้อคืนที่ 17.4 แล้ววันถัดไป ราคาลงไปอีกที่ 17.2 17.00 ทำไมเราไม่ซื้อกลับคืนที่ 17.00ก่อน เพื่อจะ cover กับ อีก 2 ข่องที่เราขายไปล่ะคะ.. ..
จากคุณ : อาซ้อสี่ค่า :) - [ 2 ส.ค. 47 23:52:09 A:202.133.162.183 X: ]
ความคิดเห็นที่ 117
ตามความคิดผมนะครับ
เล่นด้วยเงินผู้อื่น
คล้ายๆการยืมหุ้นชาวบ้านมาทำ short อะคับ
รึไม่ก็เป็นบัญชีแบบ โนไมนี่ ส่วนคนลงทุนด้วยเงินผู้อื่น
ก็กิน % ตามข้อตกลง
เพราะผมคิดว่าการลงทุน
จะยังไงก็ต้องมีการขาดทุน ไม่ใช่แต่กำไร
ดังนั้น ผมคิดว่าบัญชีประเภทนี้มีส่วนใกล้เคียงกับ วลี ที่ว่า
ฉะนั้น ที่ผมตีความได้ คือ ไม่ต้องลงทุนเอง แต่รับกำไร
รวมไปถึงรับผิดชอบความผิดพลาดของผลนั้นด้วยคับ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 2 ส.ค. 47 23:53:46 ]
ความคิดเห็นที่ 118
คุณ gor-gorและ คุณ ratchaya ถ้าตามอ่านอยู่ ตอนนี้อยากให้แสดงตัว และบอกผลงานของพอร์ตตัวอย่างหน่อยค่ะ.. ทั้งนี้ไม่ต้องการละลาบละล้วงนะคะ .. แต่อยากทราบว่า ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง .. แล้ว "ใจ" นิ่งขึ้นมากมั้ยคะ.. แล้วตอนนี้ทำได้เอง หรือยัง.. รู้จังหวะ อะไรต่างๆ หรือยังคะ
อยากเป็นเหมือนคุณ ปิงปองแชะได้เร็วๆ จังเยย ย่ะ
จากคุณ : Bubble "B" - [ 2 ส.ค. 47 23:55:18 A:202.133.162.183 X: ]
ความคิดเห็นที่ 119
อ่านมาหลายวัน ขอแจมด้วยคนนะครับ
นับถือน้ำใจคุณเด่นศรีนะครับ ที่กระตุ้น ให้คนนำไปพัฒนา 3 E
เรื่องการใช้เงินของคนอื่นเล่น ความเห็นของผม คือ ครายเครียดเรโช ลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก เมื่อราคาวิ่งไป 2 เท่า ขายออกไปครึ่งหนึ่ง ถอนเงินทุนคืนทั้งหมด ที่เหลือก็คือหุ้น นี่น่าจะเป็นหนึ่งในพาหนะ ใน bullish trend ในการเร่งความไวของกระแสเงินสด
จากคุณ : morefunthai - [ 3 ส.ค. 47 00:41:13 ]
ความคิดเห็นที่ 120
"ซ้องง หน่อยค่ะว่า .. ถ้าราคาซื้อคืนที่ 17.4 แล้ววันถัดไป ราคาลงไปอีกที่ 17.2 17.00 ทำไมเราไม่ซื้อกลับคืนที่ 17.00ก่อน เพื่อจะ cover กับ อีก 2 ข่องที่เราขายไปล่ะคะ.. .."
ความคิดของผมนะ ไม่รู้จะถูกรึเปล่า ต้องให้คุณเด่นศรีมาตอบอีกที ก็เพราะตามหลักการซื้อคืนของคุณเด่นศรีจะซื้อคืนก็ต่อเมื่อราคานั้นต่ำกว่าที่เคยขายครับ และราคาที่ซื้อคืนมันเป็นราคาที่มันเริ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่เคยขายไป อย่าง 17.2 17.0 คือจุดที่เราขายไปแต่เรายังไม่ได้ซื้อคืน ถ้ามันลงมาที่ 17.0 เราก็ยังไม่ต้องรีบซื้อกลับคืน เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะลงมาอีกรึเปล่า และเราจะเก็บราคาที่ 17.2 17.0 ที่เราขายไปให้ไปเป็นทัพหลังในการซื้อคืนถ้าราคามันลงไปต่ำกว่า 17.0 โดยการซื้อคืนที่ราคา 16.8 ในกรณีหลังจากที่มันลงไปที่ 16.8 16.6 แล้ววกมาที่ 16.8 เราก็ซื้อคืน 17.2 17.0 ที่ราคา 16.8โดยเราก็ขายไปที่ราคา 16.8 16.6 ด้วย เพื่อเป็นทัพหลังให้เราต่อไปกรณีมันยังลงมาอีก แต่ถ้ามันไม่ลงมันขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ให้จำนวนหุ้นที่เรามีอยู่ทำกำไรของมันไป ถ้ามันหมดแรงก็เริ่มตั้งจุดขายใหม่ ตามความเหมาะสมของเรา
แนวทางของคุณเด่นศรีเหมือนยังกับว่าชนะโดยการไม่พยายามจะเอาชนะ
จากคุณ : F (kidmai) - [ 3 ส.ค. 47 05:44:40 ]
ความคิดเห็นที่ 121
ตราบใดที่เรารู้ว่าเราซื้อที่ราคาต่ำกว่าที่ราคาที่ขายไป มันก็คือกำไรเสมอแหละครับ ก็เหมือนประโยคที่ว่ากำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่เมื่อขาย
จากคุณ : F (kidmai) - [ 3 ส.ค. 47 05:50:58 ]
ความคิดเห็นที่ 122
เห็นกระทู้เรตติ้งสูงๆทีไร
นึกเสียดายที่ไม่มีใครแปลงกระทู้เป็นหนังสือให้คนอ่าน
ถ้าบังเอิญมีท่านใดทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์
ฝากให้พิจารณาด้วยครับ
อย่างในกระทู้นี้
คุณเด่นศรีคงยินดีเผยแพร่ในวงกว้าง
หรือว่าควรจะรู้อยู่ในวงแคบๆดี ? ฮาๆๆๆ
จากคุณ : คลาย เครียด - [ 3 ส.ค. 47 08:21:31 ]
ตอนนั้นผมยังดีใจเนื้อเต้นเลยครับว่า ผมใช้เงินผู้อื่นได้แล้ว แต่ ...... ก็ไม่ได้ ( ยิ้ม )
..................
แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่า การที่ผมสร้างหุ้นขึ้นมาจากเงินผู้อื่น ( จากกระแสเงินสดแฝง ) จะถือเป็นการลงทุนด้วยเงินผู้อื่นด้วยหรือเปล่า เพราะ ดังที่บอกครับว่า ตอนนี้ถ้าผมชักเงินส่วนของผมที่เริ่มต้นออกทั้งหมด ผมก็เท่ากับว่า ไม่ได้ใช้เงินตัวเองเลย
................
คุณ นกเพนกวินอ้วน มีใจความสำคัญที่จะบอกผมบ้างหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
.................
คุณ Gain ครับ
ผมก็คิดเหมือนกันครับเรื่องอุปการะเด็ก แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะใจหนึ่งก็อยากขอเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกเลย เพราะคิดว่าเราสามารถให้อะไรเค้าได้มากกว่า รวมทั้งความอบอุ่น ก็เลยต้องรอเวลาครับ ( ยิ้ม )
ขอให้มีความสุขครับ คุณ Gain
................
เด่นศรี
จากคุณ : เด่นศรี - [ 2 ส.ค. 47 16:08:50 ]
ความคิดเห็นที่ 110
สำนวนที่ว่าอุปการะเด็กของดิฉัน
ไม่ใช่ขอเด็กมาเลี้ยงค่ะ
แต่เป็นการบริจาคค่าอาหารกลางวัน
วันละ 15 บาท ต่อเด็ก 1 คน
( หรือเดือนละ 450 บาท
หรือ 5,400 บาท / ปี / คน)
ตอนแรกไม่บอกรายละเอียดเนื่องจากเกรงว่าจะมีคนคิดว่าดิฉันมาโฆษณามูลนิธิค่ะ
แต่พอคุณเด่นศรีพูดเรื่องขอเด็กมาเลี้ยง
จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจง
ขอให้คุณเด่นศรีและครอบครัวมีความสุขเช่นกันค่ะ
จากคุณ : Gain - [ 2 ส.ค. 47 17:00:13 A:unknown X:202.12.73.9 ]
ความคิดเห็นที่ 111
คุณเด่นศรีได้เอื้อเฟื้อยกตัวอย่างและอธิบายวิธีการที่ถูกต้องมาบ้างแล้ว จึงอยากจะรบกวนให้ช่วยกล่าวถึงวิธีการที่ผิดพลาดซึ่งคุณเด่นศรีและเพื่อนได้มีประสบการณ์ในอดีตด้วยครับ
จากคุณ : เด็กแก่แดด (เด็กแก่แดด) - [ 2 ส.ค. 47 18:02:14 ]
ความคิดเห็นที่ 112
ถึง คุณ เด่นศรีครับ
"ช่องว่างนี้ ทำให้ทุกการลงทุนมาหยุดอยู่ที่จุดเดียวกันได้อย่างกลมกลืนและสมดุล ครับ
...............
ผมไม่แน่ใจว่า การโยกเงินของต่างชาติ จะเกี่ยวกับช่องว่างตัวนี้หรือไม่ แต่ช่องว่างตัวนี้ สามารถทำให้การโยกเงินเป็นไปได้อย่างสมดุล"
1. ผมสงสัยว่า คำว่า สมดุลนี่คืออะไรครับ อะไรสมดุลครับ ถ้าสิ่งนั้นสมดุลแล้วจะเป็นยังไง แล้วถ้าสิ่งนั้นไม่สมดุลจะเป็นยังไงครับ
2. แสดงว่า ขณะนี้สิ่งนั้นกำลังไม่สมดุลอยู่ใช่ไหมครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า สิ่งนั้นกำลังไม่สมดุลครับ
ขอบคุณคุณเด่นศรีมากครับ
จากคุณ : yellowman (yellowest) - [ 2 ส.ค. 47 19:31:32 ]
ความคิดเห็นที่ 113
ผมอาจเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนก็เป็นไปได้ครับ
ตามที่ผมเข้าใจ (จากหนังสือ) การกู้เงิน หรือ การมีผู้อื่นนำเงินให้มาลงทุน ---> เงินนั้นก็ยังคงเป็น หนี้ อยู่ครับ.......แต่จะเป็น หนี้ดี หรือ หนี้เสีย อันนี้แล้วแต่ผู้นำไปใช้ครับ........ซึ่งคนละความหมายกับ การเล่นด้วยเงินคนอื่น......และคุณ F (kidmai) ได้กล่าวไว้แล้วครับ ว่าหมายถึงแบบใหน
ส่วนแผนการลงทุนในหุ้น ผมมะมีความคิดเห็นครับ........เพียงแต่ถ้าปรับมุมมอง การซื้อ-ขาย ให้พิจารณาที่แนวโน้ม (ตามหลักการวิเคราะห์ทางเทคนิค) น่าจะเป็นแนวทางที่ใช้ได้ครับ (ต้องลองศึกษา) .....ข้อดีมีหลายข้อ แต่ที่มองอย่างชัดเจน ก็ การส่งเงินไปทำงานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ส่วนการคัดเลือกหุ้น มุมมองของผม มองว่าถ้ามีการคัดเลือกด้วยปัจจัยพื้นฐาน น่าจะเป็นตัวกรองที่ดีเพิ่มขึ้น
.........เพื่อเร่งให้เงินนั้นทำงานให้เรา ให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เงินจะได้ไม่ขี้เกียจครับ (focus stocks)
ส่วนว่าทำไมต้องวิเคราะห์หุ้น ด้วยปัจจัยพื้นฐาน หรือวิเคราะห์ด้วยเทคนิค ในหนังสือมีกล่าวไว้แล้วครับ........ส่วนการเล่นเกมกระแสเงินสด เป็นการฝึกความเร็วในการคิดครับ
^.^....... ที่กล่าวมา เกิดจากการอ่านจากใหนหนังสืออะครับ ** มะได้คิดเองหรอก **
แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 47 00:11:41
แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 47 20:39:40
แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 47 20:35:31
จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน - [ 2 ส.ค. 47 20:30:12 ]
ความคิดเห็นที่ 114
วันนี้อ่านอีกครึ่งเล่ม 55555
ได้อะไรอีกเยอะ
คือได้รู้ว่าที่ผ่านมา ผมเป็นได้แค่นักลงทุนทั่วไป (เศร้า)
ขอบคุณ และ ยินดีที่ได้รู้จักคุณเด่นศรีครับ
จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 2 ส.ค. 47 20:32:48 ]
ความคิดเห็นที่ 115
เรียนคุณเด่นศรี
ได้ไปอ่านกระทู้ที่คุณเคยติดต่อกับคุณยา ตอนเดือน เมย. น่ะค่ะ .. แล้วอยู่ๆ กระทู้ก็จบไป .. ไม่ทราบว่าไปต่อตรงไหนคะ .. อยากตามไปอ่านต่อจัง.. เหมือนติดหนังจีนชุดเลยค่า...
แล้วตอนนี้ คุณยา .. เป็นอย่างไรบ้างคะ พอร์ตเป็นไงบ้าง.. ได้หุ้นเพิ่มขึ้นหรือยังแค่ไหนคะ
พอลองตามอ่าน.. ก็พอเข้าใจมากขึ้นค่ะ.. แต่มันก็ยากที่ "ใจ" จริงๆ นะคะ
พรุ่งนี้จะลองเริ่มแล้วค่ะ .. ถ้าตลาดลง..ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยนะคะ คุณเด่นศรี
ปล. ฝากขอบคุณภรรยาคุณด้วย ที่เข้าใจคุณ และให้โอกาสคุณอีกครั้งในตลาดหุ้น .. เพราะถ้าเธอไม่ให้โอกาสตอนนั้น ตอนนี้ก็คงไม่มีกระทู้นี้เกิดขึ้นเป็นวิทยาทานกับคนอื่นแน่เลยค่ะ
จากคุณ : อาซ้อสี่ค่า - [ 2 ส.ค. 47 23:42:51 A:202.133.162.183 X: ]
ความคิดเห็นที่ 116
จากคห. 91
ตอบ ในขณะที่มันลงมา ของผมเองจะขายทุก 2 ช่อง
เช่น 18.00....17.80....17.60....17.40....17.20...และ 17.00
ถ้าหากมันยังลงต่อ ผมก็จะขายต่อ
แต่ปรากฎว่ามันงอหัวขึ้นมา 5 ช่อง เช่น จาก 17.00 .... 17.10 .... 17.20 ......17.30 .....17.40
พอถึง 17.40 ผมก็ซื้อกลับคืน แต่ซื้อเฉพาะที่ขายไปที่ราคา 17.60 .... 17.80 และ 18.00 ครับ
ส่วนจากนั้น ถ้ามันขึ้นต่อ ผมก็ไม่ขาย แต่จะถือไปเรื่อย ๆ
แต่หากมันลงต่อ ถ้ายังลงไม่ถึง 16.80 ผมก็จะไม่ขาย
>>ซ้องง หน่อยค่ะว่า .. ถ้าราคาซื้อคืนที่ 17.4 แล้ววันถัดไป ราคาลงไปอีกที่ 17.2 17.00 ทำไมเราไม่ซื้อกลับคืนที่ 17.00ก่อน เพื่อจะ cover กับ อีก 2 ข่องที่เราขายไปล่ะคะ.. ..
จากคุณ : อาซ้อสี่ค่า :) - [ 2 ส.ค. 47 23:52:09 A:202.133.162.183 X: ]
ความคิดเห็นที่ 117
ตามความคิดผมนะครับ
เล่นด้วยเงินผู้อื่น
คล้ายๆการยืมหุ้นชาวบ้านมาทำ short อะคับ
รึไม่ก็เป็นบัญชีแบบ โนไมนี่ ส่วนคนลงทุนด้วยเงินผู้อื่น
ก็กิน % ตามข้อตกลง
เพราะผมคิดว่าการลงทุน
จะยังไงก็ต้องมีการขาดทุน ไม่ใช่แต่กำไร
ดังนั้น ผมคิดว่าบัญชีประเภทนี้มีส่วนใกล้เคียงกับ วลี ที่ว่า
ฉะนั้น ที่ผมตีความได้ คือ ไม่ต้องลงทุนเอง แต่รับกำไร
รวมไปถึงรับผิดชอบความผิดพลาดของผลนั้นด้วยคับ
จากคุณ : ปิงป่องแชะ - [ 2 ส.ค. 47 23:53:46 ]
ความคิดเห็นที่ 118
คุณ gor-gorและ คุณ ratchaya ถ้าตามอ่านอยู่ ตอนนี้อยากให้แสดงตัว และบอกผลงานของพอร์ตตัวอย่างหน่อยค่ะ.. ทั้งนี้ไม่ต้องการละลาบละล้วงนะคะ .. แต่อยากทราบว่า ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง .. แล้ว "ใจ" นิ่งขึ้นมากมั้ยคะ.. แล้วตอนนี้ทำได้เอง หรือยัง.. รู้จังหวะ อะไรต่างๆ หรือยังคะ
อยากเป็นเหมือนคุณ ปิงปองแชะได้เร็วๆ จังเยย ย่ะ
จากคุณ : Bubble "B" - [ 2 ส.ค. 47 23:55:18 A:202.133.162.183 X: ]
ความคิดเห็นที่ 119
อ่านมาหลายวัน ขอแจมด้วยคนนะครับ
นับถือน้ำใจคุณเด่นศรีนะครับ ที่กระตุ้น ให้คนนำไปพัฒนา 3 E
เรื่องการใช้เงินของคนอื่นเล่น ความเห็นของผม คือ ครายเครียดเรโช ลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก เมื่อราคาวิ่งไป 2 เท่า ขายออกไปครึ่งหนึ่ง ถอนเงินทุนคืนทั้งหมด ที่เหลือก็คือหุ้น นี่น่าจะเป็นหนึ่งในพาหนะ ใน bullish trend ในการเร่งความไวของกระแสเงินสด
จากคุณ : morefunthai - [ 3 ส.ค. 47 00:41:13 ]
ความคิดเห็นที่ 120
"ซ้องง หน่อยค่ะว่า .. ถ้าราคาซื้อคืนที่ 17.4 แล้ววันถัดไป ราคาลงไปอีกที่ 17.2 17.00 ทำไมเราไม่ซื้อกลับคืนที่ 17.00ก่อน เพื่อจะ cover กับ อีก 2 ข่องที่เราขายไปล่ะคะ.. .."
ความคิดของผมนะ ไม่รู้จะถูกรึเปล่า ต้องให้คุณเด่นศรีมาตอบอีกที ก็เพราะตามหลักการซื้อคืนของคุณเด่นศรีจะซื้อคืนก็ต่อเมื่อราคานั้นต่ำกว่าที่เคยขายครับ และราคาที่ซื้อคืนมันเป็นราคาที่มันเริ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่เคยขายไป อย่าง 17.2 17.0 คือจุดที่เราขายไปแต่เรายังไม่ได้ซื้อคืน ถ้ามันลงมาที่ 17.0 เราก็ยังไม่ต้องรีบซื้อกลับคืน เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะลงมาอีกรึเปล่า และเราจะเก็บราคาที่ 17.2 17.0 ที่เราขายไปให้ไปเป็นทัพหลังในการซื้อคืนถ้าราคามันลงไปต่ำกว่า 17.0 โดยการซื้อคืนที่ราคา 16.8 ในกรณีหลังจากที่มันลงไปที่ 16.8 16.6 แล้ววกมาที่ 16.8 เราก็ซื้อคืน 17.2 17.0 ที่ราคา 16.8โดยเราก็ขายไปที่ราคา 16.8 16.6 ด้วย เพื่อเป็นทัพหลังให้เราต่อไปกรณีมันยังลงมาอีก แต่ถ้ามันไม่ลงมันขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ให้จำนวนหุ้นที่เรามีอยู่ทำกำไรของมันไป ถ้ามันหมดแรงก็เริ่มตั้งจุดขายใหม่ ตามความเหมาะสมของเรา
แนวทางของคุณเด่นศรีเหมือนยังกับว่าชนะโดยการไม่พยายามจะเอาชนะ
จากคุณ : F (kidmai) - [ 3 ส.ค. 47 05:44:40 ]
ความคิดเห็นที่ 121
ตราบใดที่เรารู้ว่าเราซื้อที่ราคาต่ำกว่าที่ราคาที่ขายไป มันก็คือกำไรเสมอแหละครับ ก็เหมือนประโยคที่ว่ากำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่เมื่อขาย
จากคุณ : F (kidmai) - [ 3 ส.ค. 47 05:50:58 ]
ความคิดเห็นที่ 122
เห็นกระทู้เรตติ้งสูงๆทีไร
นึกเสียดายที่ไม่มีใครแปลงกระทู้เป็นหนังสือให้คนอ่าน
ถ้าบังเอิญมีท่านใดทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์
ฝากให้พิจารณาด้วยครับ
อย่างในกระทู้นี้
คุณเด่นศรีคงยินดีเผยแพร่ในวงกว้าง
หรือว่าควรจะรู้อยู่ในวงแคบๆดี ? ฮาๆๆๆ
จากคุณ : คลาย เครียด - [ 3 ส.ค. 47 08:21:31 ]