ล่าหุ้นห่านทองคำอย่างเซียน
คุณ กวี ได้ให้ความรู้เรื่องการเลือกหุ้นให้ฟัง มีทั้งหมด 9 ข้อ แต่ผมจดมาได้ 8 ข้อ ขออภัย
1. เลือกบริษัทที่ทำธุรกิจแบบ Monopoly ( ผูกขาด ) โดยมี Market Share ครอบคลุมตลาด
2. เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สินมากนัก
3. ย้อนดูข้อมูลย้อนหลัง โดยดูที่ค่า EPS ( Earning Per Share ) ที่ค่อนข้างนิ่ง
4. เป็นบริษัทที่ลงทุนในธุรกิจที่ตนเองถนัด มีธุรกิจเยอะจะค่อนข้างเสี่ยง ( อันนี้จะคล้ายๆของ ดร.นิเวศน์ )
5. ROE ( Return On Equity ) หรือ กำไรสุทธิ / ส่วนของผู้ถือหุ้น จะต้องโตอย่างสม่ำเสมอ
ROE ยิ่งสูงๆยิ่งดี หมายความว่า บริษัทสามารถสร้างกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้ดีกว่าคู่แข่ง
โดยจะต้องเปรียบเทียบ ROE นี้ในหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
6. เป็นบริษัทที่มีอำนาจการต่อรองเหนือคู่แข่ง คุณกวี ได้ยกตัวอย่างบริษัทแบบนี้ เช่น โรงพยาบาล คือ
เวลาหมอบอกให้คุณผ่าตัด หมอก็บอกราคาไป คุณไม่สามารถต่อรองราคาได้ หรือ 7-11
เวลาคุณไปกดเสลอบี้ ที่ว่าเซียนนักเซียนหนากดจนล้นก็ยังเอาหลอดมาเสริมคานไม่ให้หก
ถึงเวลาจ่ายตังค์ที่เค้าท์เตอร์ คุณยังจะไปต่อพนักงานอีก อันนี้ต่อไม่ได้ -_-" ( จิงๆไม่โดนด่าก็บุญจะตายแล้ว )
7. เลือกบริษัทที่ไม่ต้องลงทุนเยอะเพื่อกำไรในอนาคต
8. ผู้บริหารต้องมีธรรมมาภิบาล
ส่วนคุณ เทพ อัันนี้ถือเป็นอาจารย์ของผมอีกคนที่ผมดำเนินแนวทางการเลือกซื้อหุ้นแบบท่าน
โดยเขาได้ให้ข้อคิดว่า "ต้องมีทุนสำรองอยู่เสมอ" หมายความว่า เวลาเห็นหุ้นดีๆราคาหล่น
เมื่อเกิดวิกฤติ คุณจะได้มีเงินไว้สำหรับช้อนซื้อ
1. เลือกบริษัทที่ทำธุรกิจแบบ Monopoly ( ผูกขาด ) โดยมี Market Share ครอบคลุมตลาด
2. เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สินมากนัก
3. ย้อนดูข้อมูลย้อนหลัง โดยดูที่ค่า EPS ( Earning Per Share ) ที่ค่อนข้างนิ่ง
4. เป็นบริษัทที่ลงทุนในธุรกิจที่ตนเองถนัด มีธุรกิจเยอะจะค่อนข้างเสี่ยง ( อันนี้จะคล้ายๆของ ดร.นิเวศน์ )
5. ROE ( Return On Equity ) หรือ กำไรสุทธิ / ส่วนของผู้ถือหุ้น จะต้องโตอย่างสม่ำเสมอ
ROE ยิ่งสูงๆยิ่งดี หมายความว่า บริษัทสามารถสร้างกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้ดีกว่าคู่แข่ง
โดยจะต้องเปรียบเทียบ ROE นี้ในหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
6. เป็นบริษัทที่มีอำนาจการต่อรองเหนือคู่แข่ง คุณกวี ได้ยกตัวอย่างบริษัทแบบนี้ เช่น โรงพยาบาล คือ
เวลาหมอบอกให้คุณผ่าตัด หมอก็บอกราคาไป คุณไม่สามารถต่อรองราคาได้ หรือ 7-11
เวลาคุณไปกดเสลอบี้ ที่ว่าเซียนนักเซียนหนากดจนล้นก็ยังเอาหลอดมาเสริมคานไม่ให้หก
ถึงเวลาจ่ายตังค์ที่เค้าท์เตอร์ คุณยังจะไปต่อพนักงานอีก อันนี้ต่อไม่ได้ -_-" ( จิงๆไม่โดนด่าก็บุญจะตายแล้ว )
7. เลือกบริษัทที่ไม่ต้องลงทุนเยอะเพื่อกำไรในอนาคต
8. ผู้บริหารต้องมีธรรมมาภิบาล
ส่วนคุณ เทพ อัันนี้ถือเป็นอาจารย์ของผมอีกคนที่ผมดำเนินแนวทางการเลือกซื้อหุ้นแบบท่าน
โดยเขาได้ให้ข้อคิดว่า "ต้องมีทุนสำรองอยู่เสมอ" หมายความว่า เวลาเห็นหุ้นดีๆราคาหล่น
เมื่อเกิดวิกฤติ คุณจะได้มีเงินไว้สำหรับช้อนซื้อ