กิน 'กล้วย' ก็สวยได้?

อยู่ดี ๆ กล้วยก็ขายหมดเกลี้ยงในญี่ปุ่น... ก็จะให้มีขายได้ยังไง 
ในเมื่อสาวๆ (และหนุ่มๆ) แห่กันไปซื้อกล้วยมากิน 'ลดความอ้วน' กันซะงั้น 
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ :   เคย์โกะ อาคาอิ กำลังรู้สึกเซ็ง 
เพราะนักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 21 ปีคนนี้ กำลังวางแผนที่จะรับประทานกล้วย
เพื่อลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่สามารถเริ่มได้ เพราะไม่มี ‘กล้วย’ ให้เธอลอง 

“ฉันพยายามไปดูตามร้านโอเค สโตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้านฉันทุกวัน 
อันที่จริง ฉันก็เพิ่งไปมาเอง แต่ไม่มีกล้วยเหลืออยู่บนชั้นเลย 
และมันก็เป็นอย่างนั้นมาได้สักเดือนหนึ่งแล้ว”    สาวสวยเล่าให้ฟัง 

อาคาอิ ไม่เคยหนักเกิน 45 กิโลกรัมมาก่อน และเธอก็ผอมมาก
ขนาดที่สามารถใส่กระโปรงยี่ห้อซาร่าขนาด XS แล้วก็ยังหลวม 
อันที่จริง เธอไม่ควรจะลดความอ้วนเลยด้วย แต่เด็กสาวชาวญี่ปุ่นทุกคน
ดูจะชื่นชอบไปกับเทรนด์การลดความอ้วนทุกชนิดที่มาใหม่ 
ดังนั้นเมื่อ อาคาอิ ได้รับรู้เรื่องของนักแสดงชื่อดังคนหนึ่ง 

ที่สามารถลดน้ำหนักได้ 11.7 กิโลกรัม จากสูตรการรับประทานกล้วยในมื้อเช้า 

เธอจึงนึกอยากลองบ้าง และความขาดแคลนกล้วย ตามร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต
แถวบ้านเธอ และในอีกหลายแห่ง ก็เป็นประจักษ์พยานได้ดีถึงแฟชั่นใหม่ 
ของอาหารลดความอ้วน ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้ 

ช่วยด้วย! กล้วยขาดตลาด 

 “ร้านใหญ่ๆ ไม่มีกล้วยขายตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว แม้แต่ร้าน อิโต โยคาโดะ 
(ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่) ก็ยังยังขายหมดก่อนบ่ายสาม” 

โทโมยูกิ โฮริยูจิ ตัวแทนฝ่ายขายจาก โตเกียว เซย์กะ โบเอกิ 
บริษัทขายผักและผลไม้บอกเล่าสถานการณ์กล้วยขาดตลาดให้ฟัง 

ส่วน ฮิโรมิ โอตากิ แห่งบริษัท โดเล่ เจแปน ซึ่งเป็นผู้นำเข้ากล้วย
รายใหญ่ของญี่ปุ่น บอกว่า ความนิยมครั้งนี้มาจากเมนูลดอาหารที่ชื่อว่า 

'สูตรการรับประทานกล้วยในมื้อเช้า'  

                  

เนื่องจากปกติแล้ว กล้วยขายไม่ดีเท่าไหร่ในฤดูร้อน ถ้าเทียบกับแตงโม
หรือผลไม้ฉ่ำน้ำประเภทอื่น แต่ช่วงฤดูร้อน 4 เดือนที่ผ่านมา 
อันเป็นฤดูที่อากาศร้อนมาก กล้วยกลับขายดีเป็นประวัติการณ์ 
เฉพาะของ โดเล่ เองต้องเพิ่มการนำเข้ากล้วยถึง 25 เปอร์เซ็นต์ 
ซึ่งแม้แต่ผู้ผลิตเองก็ยังไม่สามารถปลูกกล้วยได้ทันกับความต้องการ 

“มันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินเลยทีเดียว” โอตากิเล่าเสริมว่า 
ที่ผ่านมา โดเล่ ญี่ปุ่นนำเข้ากล้วย 90 เปอร์เซนต์จากฟิลิปปินส์มาตลอด 40 ปี 

“แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเราและมันยากที่จะจัดการ” 

หลักการของ ‘สูตรการรับประทานกล้วยในมื้อเช้า’ นั้นไม่ยุ่งยาก 
เริ่มจากการรับประทานกล้วย 1 ผล (หรือมากเท่าที่คุณต้องการ) 
พร้อมกับน้ำในอุณหภูมิห้องสำหรับมื้อเช้า จากนั้นก็รับประทานอะไรก็ได้
ในมื้อกลางวันและมื้อเย็น (แต่ต้องก่อนสองทุ่ม) อาจจะเพิ่มอาหารว่าง
ตอนบ่ายสาม แต่ต้องงดของหวานหลังมื้ออาหารโดยเด็ดขาด 
พร้อมทั้งเข้านอนก่อนเที่ยงคืน 

สุมิโกะ วาตานาเบ เภสัชกรจากโอซาก้าเป็นคนคิดสูตรอาหารลดความอ้วน
อันเรียบง่ายนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารให้กับ ฮิโตชิ วาตานาเบ 
สามีผู้มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน สืบเนื่องมาจากคอร์สนี้ทำให้ วาตานาเบ้ 
ลดน้ำหนักลงได้ถึง 16.6 กิโลกรัม เขาจึงได้แนะนำสูตรอาหารนี้ลงบน mixi 
ซึ่งเป็นชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น 
เดือนมีนาคมหลังจากนั้น หนังสือ 'สูตรการรับประทานกล้วยในมื้อเช้า' 
จึงได้รับการตีพิมพ์และจำหน่ายไปกว่า 730,000 เล่ม อีกทั้งยังได้รับการแปล
เป็นภาษาเกาหลีและไต้หวัน โดยได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกเมื่อรายการ
ทีวี ดรีม เพรส-ชา ได้ออนแอร์วันที่ 19 กันยายน นำเสนอเรื่องราวของ คูมิโกะ โมริ 
นักร้องโอเปร่าเจ้าของน้ำหนักตัวร่วมร้อยกิโลกรัมที่สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 7 กิโลกรัม 
ในเวลาแค่ 6 อาทิตย์ จากสูตรอาหารนี้ และหลังจากที่รายการทีวีได้แพร่ภาพออกไป 
ปรากฏการณ์กล้วยขาดตลาดก็ได้เกิดขึ้น 

“กล้วยหมดจากชั้นวางขายทันทีและมียอดขายเพิ่มขึ้นเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซนต์
ภายในอาทิตย์เดียว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว” 

ทาเคชิ โอซากิ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของไลฟ์ คอร์เปอร์เรชั่น ที่มีซุปเปอร์มาร์เก็ต
จำนวน 201 สาขาทั่วประเทศบอก 

ศาสตราจารย์ มาซาฮิโกะ โอคาดะ แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ นิงาตะ กล่าวถึง
ปรากฏการณ์กล้วยที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ว่า ร่างกายของคนเรา
ต้องการสารอาหารหลักอยู่ 3 อย่าง คือ คาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีน 

“หลักการที่สำคัญคือ การสร้างความสมดุลระหว่างสารอาหารสามชนิดนี้ 
และจำนวนแคเลอรี่ที่เรานำเข้าสู่ร่างกายในแต่ละวัน เมื่อคุณเข้าใจหลักการเหล่านี้ 
คุณก็ไม่จำเป็นที่จะทำตามแฟชั่น ในการลดความอ้วนแบบใด ไม่ว่าจะเป็นหัวบุกหรือกล้วย” 

แต่ก็แน่นอนว่า คำแนะนำเหล่านี้มักจะไม่ค่อยผ่านไปถึงหูผู้บริโภคเท่าใดนัก 
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์บอกว่า ญี่ปุ่นนำเข้ากล้วยจำนวน 970,000 ตัน
ในปี 2007 ส่วนใหญ่มาจากไต้หวันและฟิลิปปินส์ 

“ปกติแล้ว การปลูกกล้วยจะใช้เวลาสิบถึงสิบห้าเดือนกว่าจะได้ผลผลิต 
จึงไม่ได้เรื่องง่ายที่จะปลูกให้ทันกับความต้องการที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน” 

โอตากิ แห่งโดเล่ บอก 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ โดเล่ ญี่ปุ่นต้องพยายามติดต่อเจรจากับ 
บริษัทโดเล่ สาขาต่างๆ ในหลายประเทศ ส่งผลให้ราคากล้วยสูงขึ้นกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ 
อันเนื่องมาจากการขาดตลาดในครั้งนี้ 
  
ใครๆ ก็ (ลอง) กินกล้วย 

โยโกะ ทาคาฮาชิ แม่บ้านชาวโตเกียวบอกว่า โทชิอากิ สามีของเธอ
ได้เริ่มสูตรอาหารนี้เมื่อต้นฤดูร้อน หลังจากที่ได้อ่านโฆษณาเกี่ยวกับ
สูตรรับประทานกล้วยในมื้อเช้า ซึ่งทำให้เขาลดน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม 

“สามีของฉันไม่เคยทานมื้อเช้ามาก่อน แต่ตอนนี้ เขาทานกล้วย
วันละ 1 ลูกตอนเช้าทุกวัน ซึ่งมันก็สะดวกและง่ายดี” 

ส่วน ยานางิฮาระ (เผยแต่นามสกุล) ครูสอนภาษาวัย 40 ปีบอกว่า 
เธอเองก็ได้ลองสูตรอาหารนี้มาเป็นระยะเวลา 1 เดือนและน้ำหนักลดลงไป 2 กิโลกรัม 
แต่เธอไม่คิดว่าเป็นเพราะสูตรอาหารนี้ 

“ฉันทดลองสูตรลดความอ้วนมาแล้วหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ถั่วเหลือง 
หรือชาลดน้ำหนัก แต่ไม่มีสูตรไหนได้ผลเลย ฉันมักจะลดได้ประมาณ 2 กิโลกรัม
จากสูตรอาหารเหล่านี้ แต่แล้วน้ำหนักก็จะกลับมาเท่าเดิมอย่างรวดเร็ว 
มันอาจจะดูน่าทึ่งที่คูมิโกะ โมริ ลดน้ำหนักได้ถึง 7 กิโลกรัม แต่มันก็คงเป็น
เรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะลดน้ำหนักเท่านี้ เพราะว่าเธอเป็นคนน้ำหนักมากอยู่แล้ว”  

ทั้งนี้ กล้วยไม่ใช่สูตรอาหารลดความอ้วนอันแรก ที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น 
ในช่วงยุค 70 ชาวญี่ปุ่นนิยมลดความอ้วนด้วยชาอู่หลงและหัวบุก 
ยุค 80 นิยมสูตรอาหารเด็กคือ กล้วยและไข่ต้ม ยุค 90 เป็น แอปเปิ้ล 
วุ้นกะทิ โก้โก้ และพริกหยวก ในช่วงทศวรรษนี้ก็คือ จิ๊กโฉ่ว น้ำแครอท 
นมถั่วเหลือง คินาโกะ (แป้งถั่วเหลืองย่า) ส่วนเมื่อปลายปีที่แล้วคือ 
นัตโตะ (ถั่วหมัก) ที่ขายหมดเกลี้ยงตามห้างสรรพสินค้า 
สูตรใครก็สูตรใคร ชอบสูตรไหนก็ไปทดลองกันเองนะ 

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘