ทำได้ แต่ต้องลงมือทำ ถึงจะรู้ว่าทำไม่ได้ !!!

เจ้ารถสีแดงคันนี้ ตัวแทนขายในประเทศไทยเสนอราคาขายขั้นต่ำเริ่มต้นอยู่ที่ 5.6 ล้านบาท หากวันนี้เอาเงินใส่ถุงกระดาษลายหมากฮอสหอบเงินไป 5 แสนบาทไปขอซื้อ มันคงหาว่าบ้าแน่ๆ เผลอๆมันไล่ออกมาซ๊ะอีก อย่าว่าแต่จะซื้อเลยแค่เงินวางดาวน์ไม่รู้จะพอไหม แต่หากเอาเงิน 5 แสนไปซื้อหุ้นหละ ต้องหาหุ้นที่ซื้อแล้วต้องทำกำไรให้ได้ 10 เท่าหรือ 1,000% ถึงจะได้เงินครบพอที่จะถอยเจ้ารถคันนี้ออกมาได้ มองโอกาสที่จะหาหุ้นที่ลากยาวๆแบบนั้นยากแฮะ วิธีอาจจะมี แต่อาจจะต้องกู้เงินหรือเล่น Margin (ผมไม่เล่นแบบนี้นะ) หรืออาจจะต้องรอนานหลายปีจนอายุเท่าไหร่ไม่รู้ อาจจะหมดแรงควบเจ้ารถคันนี้ไปแล้วก็ได้ ในการซื้อหุ้นเราจะกำไรได้มีทางเดียวคือ..หุ้นตัวที่ซื้อ..ซื้อแล้วราคาหุ้น ตัวนั้นต้องปรับขึ้นไปได้เท่านั้น(ห้ามลง) แต่หากเจอตลาดขาลง..หากเราไม่มีหุ้นก็คงไม่อะไรเกิดขึ้น ก็คงเฉยๆ นั่งมองผ่านไปเรื่อยๆไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอว่ามันลงมาราคาถูกแล้วก็ซื้อ คงทำได้แค่รอ รอ และรอ แต่หากเล่น Short Against Port ก็คงเพิ่มมูลค่าหุ้นได้เพิ่มกลับมาได้บ้าง แต่หากถือหุ้นในเวลาช่วงที่ตลาดปรับเป็นขาลง เวลาที่จะได้ครอบครองเจ้ารถคันนี้ก็ถูกยืดยาวออกไปอีก แล้วชาตินี้จะมีสิทธิ์ได้ควบเจ้ารถสีแดงเพลิงคันนี้ไหมเนี่ย มองไปทางไหนก็เห็นมีแต่ Futures นี่แหละที่พอจะมีความหวัง ด้วยการซื้อๆขายๆ Longๆ Shortๆ โอกาสที่เปิดกว้างให้เฉพาะนักลงทุนที่เป็นรายย่อยๆอย่างเราเท่านั้น ด้วยการหาประโยชน์ให้ได้ทั้ง 2 ทางคือทางลงและทางขึ้น ทำไมผมถึงบอกว่านี่เป็นโอกาสของนักลงทุนรายย่อยๆอย่างพวกเรา ประการสำคัญเลยคือสภาพคล่องของตลาดที่ ณ ปัจจุบันมันมีไม่มาก ไม่มากพอที่รายใหญ่จะใช้โอกาสตรงนี้ได้ง่าย ในตลาดหุ้นหากเล่นทางเดียวคือซื้อแล้วรอให้ราคาหุ้นปรับขึ้นไปอย่างเดียว เวลามันยาวนานเกินไปนะกว่าจะรอให้ครบ 1,000% งั้นลองมาสะสม Futures ให้ได้ 500 จุด (เงิน 5 แสนซื้อ Futures ได้ 10 สัญญา) อาจจะสะสมช่วง Long ไปเรื่อยๆทีละนิดละหน่อย เอาให้ได้ซัก 250 จุด แล้วช่วงตลาดปรับตัวเล่นทาง Short สะสมมาให้ได้อีกซัก 250 จุด เพราะมองโอกาสคงยากเหมือนกันที่จะ Long หรือ Short แล้วรอให้ได้ 500 จุดทีเดียว อย่าว่าแต่ 500 จุดเลยแค่ซัก 100 จุดผมก็ว่ามันยากแล้ว แต่หากมองหาเป็นรอบๆ ทั้งรอบ Long รอบ Short หยอดกระปุกเอาทีละ 10-30 จุด แยกสมุดบัญชีเทรด Futures เป็น 2 เล่ม เล่มนึงสำหรับเล่น Short อีกเล่มสำหรับเล่น Long (การที่แยกบัญชีเป็น 2 เล่มเพื่อให้ง่ายต่อการบริหารดูว่าตัวเองมีความสามารถในตลาดช่วง Long หรือ Short มากกว่ากันเท่านั้น) ผมว่าชีวิตนี้พอมีความหวังอยู่บ้างนะ ไม่อยากสมหวังเอาตอนที่หมดความกล้าที่จะเหยียบคันเร่งมิดไปแล้ว ตลาด Futures เป็นตลาดที่มีประโยชน์ยามตลาดพลิกกลับเป็นขาลง บวกกับการแกว่งที่รุนแรงหวือหวา หากจับทางถูก จับโอกาสได้ก็น่าสนใจ อยู่ที่ว่าเราจะทำกลับข้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นไหมเท่านั้น เพราะหากทำกลับข้างสวนทางกับความจริง คงเหลือแต่ถุงกระดาษเปล่าๆกลับมาบ้านก็ได้ แต่นี่คือโอกาสของความเป็นไปได้ที่เปิดท้าทายความสามารถที่จับต้องได้ มันน่าท้าทายนะ ส่วนใครจะจัดสัดส่วนมาเล่นกับความท้าทายใน Futures ก็ลองเล็กๆน้อยๆไปก่อน ก็น่าสนใจนะ
ในตลาดหุ้นเราสามารถทำให้คนทุกๆคนกำไรได้ทุก คน (ย้ำว่าทุกๆคน) การลงทุนในตลาดหุ้นหากไม่คำนึงถึงเวลาในการลงทุนที่สูญเสียไป ตลาดหุ้นในอุดมคติเราสามารถเห็นคนทุกๆคนกำไรได้หมดเลย จะกำไรมากน้อยก็เป็นอีกเรื่องนึงนะแต่ทุกคนกำไรได้แน่นอน...Confirm
แต่ตลาด Futures เป็นตลาด Zero Sum Games ที่ยิ่งมีกลุ่มคนที่กำไรมาก ก็จะมีอีกกลุ่มคนที่ขาดทุนมากในจำนวนเงินที่เท่ากัน เราไม่สามารถทำให้คนทุกๆคนกำไรในตลาด Futures ได้หมดทุกคน ดังนั้นมันก็ยากที่จะทำใจว่าต้องเข้ามาฉกฉวยโอกาสกับเพื่อนนักลงทุนคนไทย ด้วยกัน ก็คิดเสียว่ามันเป็นเกมส์ ที่มีต่างชาติที่ถือว่าเป็นเจ้ามือ ทั้งหมดที่เกริ่นมา ผมไม่ได้มองว่าเราจะได้อย่างเดียว แต่มองว่า "โอกาสที่เป็นไปได้" ทางความคิด...มันเป็นไปได้เท่านั้นเอง มันก็มีทางนี้ที่พอที่จะเป็นรูปเป็นร่างได้ในเวลาที่ไม่ยาวเกินไปนัก มันเป็นสิ่งที่ท้าทาย เรามองไปที่ความเป็นไปได้ ส่วนจะเป็นไปได้ไหม ต้องลอง ในที่สุดความเป็นไปได้อาจจะเป็นไปได้แค่ทางความคิดเท่านั้น แต่ทางการกระทำจริงๆมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ก็ได้ แต่..ตราบใดที่ยังไม่ได้ลอง เราคงไม่ไปตั้งกำแพงทางความคิดขวางเอาไว้โดยที่ไม่ได้ลองลงมือทำก็คงไม่ใช่ วิสัยแห่งความท้าทาย ต้องลอง !!!!

นี่เป็น Case Study โมดูลทางความคิดที่อยู่ในแผนการลงทุนที่ผมกำลังทำ..ไม่ใช่จะทำ แต่หากไม่ลงมือทำ มันก็คงได้แต่นั่งดูไปวันๆ เราจับเอารูปแบบการลงทุนมารวมเข้ากับเป้าหมายของความท้าทาย ผมอยากลองให้เพื่อนๆเอาไปวางกรอบความคิดในหัวสมองว่าการลงทุนจะปล่อยให้มัน ผ่านไปวันๆหรือว่าจะลองใส่ "เป้าหมาย" ลงไปบ้าง ผมเชื่อว่าเป้าหมายของคนทุกๆคนที่เดินเข้ามาในตลาดหุ้นแทบจะไม่แตกต่างกัน คืออยากกำไร ลองแตกความหมายของคำว่ากำไรออกมาว่ามันคืออะไร คงไม่ได้อยากได้คำตอบสั้นๆง่ายๆว่า...กำไรคือการที่ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทน กลับมาที่มากกว่าเงินที่ลงทุน..หากหาคำตอบได้แค่นี้ เลิกลงทุนในตลาดหุ้น หันไปหาทางทำมาค้าขายหรือเอาเงินไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ยไปวันๆดีกว่า อยากให้ลงลึกลงไปมากกว่านั้น กำไรในอาชีพที่เป็นอยู่มาจากไหน กำไรในงานอดิเรกเป็นอย่างไร กำไรในทางค้าขายเหยื่อยยากแค่ไหน แล้วกำไรในตลาดหุ้นหละมันควรจะเป็นอย่างไร กำไรในตลาดที่มีความเสี่ยงในบางช่วงบางเวลา..มันควรจะให้ผลตอบแทนมากน้อยแค่ ไหน ความพอใจของคนในตลาดหุ้น..บางครั้งเราก็ไม่อยากตอบ ไม่อยากหาอะไรมากกว่านี้ เลยชอบเอาคำว่า "พอเพียง" เอามาบดบังความจริง..ที่จริงๆแล้วเราก็ไม่ได้อยากพอเพียงกันนักหรอก แต่เป็นคำที่ดูเหมือนปลอบใจตัวเองได้ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้น(ยาม ขาลงหรือขึ้นไม่มาก)เท่านั้นเอง !!!
จะทำได้ไหม ก็ต้องลองลงมือทำ มันถึงจะรู้ว่าทำไม่ได้ !!!

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘