นักลงทุนในตลาดหุ้น

เมื่อดูจาก หนังสือพิมพ์ จะพบว่ามีการแยกกลุ่มของนักลงทุน ออกเป็น 3 พวก คือ สถาบัน  รายย่อย  และ ต่างชาติ ซึ่งเท่าที่ผ่านมา  มักปรากฏว่า นักลงทุนต่างชาติ  มี อิทธิพลมาก ต่อการเปลี่ยนของราคาหุ้น                กล่าวคือ  หาก เขาซื้อสุทธิติดต่อกัน หุ้นก็จะขึ้น  แบบเขียวยกแผง กลับกันครับ  ถ้าเขาขายสุทธิติดต่อกันบ้าง หุ้นก็จะลง  แบบ เลือดท่วมจอ                เลยพากันคิดว่า นักลงทุนต่างชาติ คือกลุ่มคนที่สำคัญที่สุด ที่จะชี้นำเกี่ยวกับหุ้น                คงจะจริงครับ เพราะเงินของเขามีมาก เวลาซื้อหรือขายแต่ละที จึงสั่นสะเทือนไปทั้งตลาด                ขอ อย่างเดียว  ชาวหุ้นไทยอย่าตกใจเกินไป ขอให้มีสติ  ให้ เข้าใจว่าหุ้นจะดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับ CEO มากกว่าปัจจัยภายนอก แล้วใช้จังหวะการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ให้เป็นประโยชน์ในการปรับพอร์ต                กลับ มาพูดถึงนักลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง เพราะพอดูดีๆแล้ว จะพบว่า นักลงทุนน่าจะมีมากกว่า 3 พวก เพื่อให้ง่าย  ขอจัดแบ่งเป็น 2 ประเภทนะครับ คือ รายย่อย และ รายใหญ่พวกรายย่อยน่าจะแบ่งออก ได้เป็น 3 ชนิด คือ

1.        นักเก็งกำไร (แมงเม่า)

2.        นักปั่นหุ้น (แมงมุม)

3.        นักทำการบ้าน (มดงาน)

ส่วนพวกรายใหญ่นั้น เท่าที่ทำกัน จะแบ่งออกเป็น  2  ชนิดคือ

1.        สถาบัน

2.        ต่างชาติ

แต่ผมขออนุญาตเติมอีก ชนิดคือ

3.        ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

ผมจะมองนักลงทุนสถาบัน เหมือนกับสิงโต คือคอยคุ้มครองสัตว์ตัวเล็กๆ ในป่า เพราะฉะนั้นพวกเหล่าแมงเม่า มดงาน ถ้าไม่อยาก เจ็บตัวเพราะแมงมุม ก็สามารถเลือกทุนตามกลยุทธ์ชกผ่าน สิงห์ได้                สำหรับนักลงทุนต่างชาติ ผมเคยยกย่องให้เกียรติเป็นนกอินทรี แต่พอดูๆไป  นักลงทุนต่างชาติหลายแห่ง เริ่มจะไม่ทำตัวเป็นนกอินทรีด้วยการลงทุนแบบระยะยาว แต่มักจะมาตีหัวเข้าบ้านโดยลงทุนแบบระยะสั้นผมจึงขอให้ภาพของพวกนักลงทุนต่างชาติ แบบมาเร็ว ไปเร็ว เป็นเหมือนนกอีแร้ง ชัดเจนกันไปเลย                ดัง นั้นนะครับ เวลาต่างชาติเข้ามาลุยซื้อหุ้น ดัชนีพุ่งพรวดๆ ก็ต้องระวังดูไว้ให้ดีว่าเป็นฝีมือ ของนกอินทรีหรืออีแร้งกันแน่ จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง                สำหรับนักลงทุนผู้ถือหุ้นราย ใหญ่ ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญ ในการสร้างมูลค่าหุ้น                ผม ขอมองผู้ถือหุ้นใหญ่เหมือนกับช้าง เพราะในจินตนาการของผม มักจะนึกถึงช้างที่ทำงานให้คนไม่ว่าจะเป็นการลากท่อนซุงออกจากป่า หรือแม้ในอดีตเคยเป็นพาหนะให้พระมหากษัตริย์ เข้าร่วมจู่โจมประจัญบาญกับกองทัพของราชศัตรู อย่างที่เห็นในหนังสุริโยไทหรือพระนเรศวร                ช้างที่ผม หมายถึงผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังขอแบ่งเป็น 3 เกรดครับคือ พญาคชสีห์ สำหรับบริษัทที่มีผลงานดีเด่น โดยเฉพาะมีสภาสงครามที่มีคุณธรรม คอยดูแลแม่ทัพที่ดีและมีฝีมือออกรบ เพื่อสร้างผลงานดีๆให้กับประชาชาวหุ้น ใครได้ลงทุนในหุ้นที่พญาคชสีห์ถือหุ้นอยู่ ถือว่าชีวิตและอนาคตมีความปลอดภัย นอนหลับฝันดีได้                เกรด ที่สอง คือ ช้างสาร ธรรมดา คือทั้งสภาสงครามและตัวแม่ทัพ ก็พอมีความสามารถ สร้างผลการรบได้บ้างแต่ไม่ถึงกับเจิดจ้า อาณาจักรก็เติบโตแบบไปเรื่อยๆ ลงทุนกับหุ้นแบบนี้ ก็พอสบายใจได้บ้าง แต่จะเอาผลตอบแทนมากมายคงไม่ได้                เกรดสุดท้าย คือ ช้าง เกเร หุ้น อย่างนี้ใครมีก็กลุ้มใจ เพราะสภาสงครามก็ไม่ทำหน้าที่ ปล่อยให้แม่ทัพลุยไปคนเดียว ตะแกเลยคุยโวโอ้อวด ดีไม่ดี ไปร่วมมือกับเจ้าแมงมุม ใครหลงเชื่อ ก็มักจะเจ็บตัว                กว่า คนจะรู้ถึงพฤติกรรม บางทีมันก็สายไป แมงเม่าที่ชอบเรื่องเก็งกำไร พอได้ยินเสียงปี่เสียงกลองเห็นแสงไฟเขียวๆพรึบพรับไปทั่วตลาด ก็อดหวั่นไหวไม่ได้ หลงคารมไปซื้อหุ้นแย่ๆของช้างเกเรเข้ามา สุดท้ายก็ตายเพราะชอบเล่นกับไฟ                ผมเคยเป็นแมงเม่ามา ก่อน เคยเจ็บเพราะหุ้นจนกลัวการเข้าถ้ำเสือ แต่เมื่อตั้งสติได้ ปรับตัวเองมาเป็นมดงาน ลงทุนโดยเลือกซื้อหุ้นห่านทองคำเป็น หลัก ในยุคที่พี่หมีเป็นใหญ่ ซึ่งในขณะนั้นแมงมุมมักจะหลับอยู่                ครั้นพออีแร้งตี ปีกกลับมา พี่หมีก็เลยเงียบ  ให้พี่กระทิงเป็น ใหญ่บ้าง ในช่วงนี้แหละ เหล่าช้างเกเรและแมงมุม ก็จะเริ่มทำงาน  เชียร์ ให้แมงเม่าซื้อตาม                พวกผมเหล่ามดงานก็ไม่หลงคารม ถือเป็นจังหวะที่จะทยอยขายหุ้นห่านทองคำออกไปบ้าง เพื่อลดต้นทุนหุ้นห่านทองคำในมือ และก็หลายครั้งที่ได้มีโอกาสซื้อหุ้นกลับ ในราคาที่ถูกลง                ที่สำคัญ  ชาวมดงาน จะพยายาม เลือกซื้อหุ้นห่านทองคำประเภทพญาคชสีห์ หรืออย่างน้อยก็ประเภทช้างสาร ส่วนหุ้นของช้างเกเรนั้น จะหลีกหนีให้ไกลที่สุด เพราะไม่อยากเจ็บตัว                พอทำอย่างนี้ พวกอีแร้งเอย  ช้างเกเรเอย  แมงมุงเอย ก็เลยทำอะไรมดงานไม่ได้                ทีนี้ ก็อยู่ในถ้ำเสืออย่างปลอดภัยไร้กังวล ไม่ว่าพี่หมี  หรือพี่ กระทิงจะผลัดกันเข้ามาเป็นใหญ่เพราะถือว่าหมีก็เพื่อน กระทิงก็เพื่อนครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘