งานหลักของมดงาน

มีคนอีก เยอะมากเวลาพูดถึงตลาดหุ้นจะมีอาการเกร็งและกลัว
เลย ยังติดใจฝากเงินกับแบ็งก์ต่อไปทั้งๆที่รู้ว่าดอกเบี้ยที่ได้รับ
ต่ำ มากเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อในฐานะนักลงทุนมดงานซึ่งจัดเป็นรายย่อยในตลาด หุ้น
ขอพูดจากประสบการ์ณว่าการจะอยู่ให้รอดปลอดภัยและได้ เก็บเกี่ยวผลประโยชน์มีงานที่ต้องทำใหญ่ๆ อยู่ 4 เรื่อง คือ
1)  เข้าใจหุ้น
2) เลือกหุ้น
3) ตี มูลค่าหุ้น
4) บริหารพอร์ตหุ้น เรื่องเข้าใจหุ้น เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าใครยังไม่เข้าใจการทำงานของหุ้นไม่ควรลงทุนในหุ้น มิฉะนั้น มีโอกาสเจ็บตัวสูง
 การเข้าใจหุ้นทำได้ไม่ยาก ขอให้มองให้ออกว่า หุ้นคือ สินค้าพิเศษ ที่มีการสร้างมูลค่า (Value Creation) หรือ ทำลายมูลค่า (Value Destruction) คือมีทั้งบวก และลบ  พอรู้ อย่างนี้ งานของนักลงทุน ก็ต้องพยายามเรียนรู้ ว่าการสร้างมูลค่า คืออะไร อย่างด่วนจี๋
 ถ้าเข้าใจการสร้างมูลค่าแล้ว จะเข้าใจหุ้นอย่างแท้จริง
 น่าเสียดายมาก ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามเรื่องนี้ ทำให้ไม่เข้าใจการทำงานของหุ้น เลยขาดหลักสำคัญ ในการลงทุนกับหุ้น
 เมื่อเข้าใจหุ้นดีแล้ว เรื่องที่สองคือ การเลือกหุ้น (Stock Selection) ก็ไม่ ใช่เรื่องยาก
 ข้อมูลที่มีให้ ไม่ว่าจะมาจากบริษัทเจ้าของหุ้น จากตลาดหุ้น จากนักวิเคราะห์ รวมทั้งจากสื่อต่างๆ มีมากมาย
 การเลือกหุ้น ในชั้นนี้ ยังไม่ต้องไปสนใจราคาหุ้น
 เพราะที่ต้องการ คือเรื่องคุณภาพ  ถามว่า คุณภาพอะไร? ขอตอบว่า คุณภาพการสร้างมูลค่าครับ
ส่วนหุ้นที่ทำลายมูลค่า ไม่ต้องไปสนใจให้เสียเวลา
 หุ้นที่มีการสร้างมูลค่า จะมีข้อมูลที่ออกมาดี เช่น ROE สูง ROE คือ Return on Equity หรืออัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ฟังแล้วอย่าเพิ่งงงครับ
 ROE ง่ายๆก็คือ แต่ละปีเงินของผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนเท่ากับกี่%
 ถ้าเกิน 15% ก็พอใช้ได้ ต่ำกว่านี้ ต้องถือว่า CEO ยังไม่เก่ง CEO  บางแห่งทำ ROE ได้เกิน 30% ยังมีเลยครับ
 ที นี้ พอเลือกหุ้นคุณภาพได้แล้ว อย่าเพิ่งรีบซื้อ ต้องทำเรื่องที่ 3 ก่อน เรื่อง ที่3 คือ การตีมูลค่าหุ้น (Stock Valuation) เพื่อจะได้รู้ว่า หุ้นคุณภาพที่ว่าดี และ เลือกไว้แล้ว ควรจะมีมูลค่า(Value)ออกมาเท่าใดตอนนี้ คงพอเห็นว่า Stock Valuation คือ การหา Value ของ หุ้นนั่นเอง
 การหามูลค่าหุ้น ตามประสามดงาน ก็ทำแบบชาวบ้าน ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก
 มดงานอย่างผม ก็ใช้เรื่องเงินปันผลนั่นแหละ แล้วคิดกลับเป็นมูลค่า แบบที่เรียกว่า “ผลตอบแทนจาก เงินปันผล” หรือ Dividend Yieldพอได้มูลค่ามา ปุ๊บ ก็มาถึงเรื่องที่ 4 คือ การบริหารพอร์ตหุ้น (Port Management)
โดย ดูว่า ราคาหุ้นตอนนั้น สูง หรือ ต่ำกว่ามูลค่าเรื่องนี้ สำคัญมาก เพราะสมัยก่อน พอมีใครเชียร์ว่า หุ้นตัวไหนจะวิ่ง ก็รีบทะเร่อทะร่าเข้าไปซื้อ เพราะกลัวตกรถไฟ
 โดย หารู้ไม่ว่า ราคาที่กำลังวิ่ง ด้วยแรงของคุณกระทิง มันสูงกว่ามูลค่าไปตั้งเยอะแล้ว
 ผลก็เลย เจ็บตัว กลายเป็นแมงเม่า บินเข้ากองไฟ
 รอดออกมาได้ แต่ปีก 2 ข้างไหม้หมด กลายร่างเป็นมดงาน ที่ทำอะไรไม่ผลีผลาม
 เดี๋ยว นี้ มีสติมากขึ้น ไม่ได้ปล่อยให้ ความโลภ ความกลัว ครอบงำอย่างแต่ก่อน
 นอก จาก จะพยายามซื้อหุ้นดีๆ ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าแล้ว ยังใช้กลยุทธตกแต่งสวน
ทำ ให้พอร์ตโตขึ้น มีหุ้นทำงานให้มากขึ้น สรุปแล้ว งานหลักของนักลงทุน มี 4 เรื่องคือ
• Value Creation
• Stock Selection
• Stock Valuation
• Port Management
ถ้าทำ 4 เรื่อง นี้ได้ดี จะพบว่าหุ้น มีเสน่ห์กว่าที่คิด
 ถ้าถามว่าทั้ง 4 เรื่องนี้ อะไรสำคัญที่สุด?
 ขอตอบว่า สำคัญทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง Value Creation สำคัญ มากๆ
 ต้องรีบเข้าใจให้ดีนะครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘