ตอน ที่ 13 : Trading Vs Gambling

ความเหมือนของการพนันเเละ การเทรดนั้นมีหลายๆเรื่องที่เหมือนกัน ในขณะเดียวกันก็มีบางเรื่องที่เเตกต่างกันไป เเต่สิ่งที่ นักพนันระดับเซียน กับเทรดเดอร์มืออาชีพคิดเหมือนกันตลอดเวลามีอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน อันได้แก่เรื่องของ.....
1.Win / loss Ratio หรือความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
2.เรื่องของ Risk / Reward Ratio
จากหนังสือเรื่อง "หลักการพนัน" ได้พูดถึงเกี่ยวกับการพนันไว้ว่า การพนันทอยเหรียญชนิดหนึ่ง มีกฏเกณฑ์ดังต่อไปนี้

-ถ้าเหรียญออกก้อย เราจะเสียเงิน 1,000 บาท ต่อครั้ง
-ถ้าเหรีญณออกหัวเราควรจะต้องได้เงิน น้อยเท่าไหร่ถึงจะเล่นการพนันชนิดนี้
ก. 1,000
ข.1,001
ค. 1,500
ง. มากกว่า 2,000
คำตอบในใจของคุณอาจ จะมีค่ามากกว่า 2,000 ขึ้นไป ถึงจะยอมเสี่ยง เเต่ในความเป็นจริงเเล้ว เราควรตอบรับที่จะเล่นการพนันชนิดนี้ทันทีถ้าเราได้รางวัลมากกว่า 1 พันเเม้เพียง 1 สตางค์ เเม้ในกรณีที่ออกหัว เพราะการพนันอย่างนั้นจะทำให้เรากลายเป็นอภิมหาเศรษฐีได้อย่างเเน่นอน เนื่องจากกำไรคาดหวังของการพนันชนิด นี้จะเป็นบวกเล็กน้อยคือเท่ากับ หนึ่งสตางค์ กำไรเพียงเเค่นี้จะทำให้เรารวยขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัดถ้าคุณเล่นการพนันชนิด นี้ติดต่อกันเรื่อยๆนับครั้งไม่ถ้วน

ที่ผมจะ สื่อคืออะไร
1.การ พนันที่ใช้การออกหน้าเหรียญ มีความน่าจะเป็นเกิดขึ้นได้ 2 ทางคือ ไม่หัวก็ก้อย ดังนั้น ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 50% กับ 50% --> ตรงนี้คือ Win/ loss ratio
2.ถ้า เราเเพ้เราต้องจ่าย 1,000 บาท = Risk
ถ้าเราชนะเราจะได้ 1,001 บาท = Reward
สังเกตุว่า Reward มากว่า Risk

ดังนั้นเซียนพนันจะตัดสิน ใจเลือกการพนันชนิดนี้ ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีการพนันชนิดไหน ที่จะมี Win/ loss ratio เเละ Risk / Reward ratio เเบบนี้ มีเฉพาะการเทรดเท่านั้นที่จะสามารถสร้างความผสมผสาน ของ2 ค่านี้ให้เราร่ำรวยอย่างไม่มีขีดจำกัด

หากเราทักษะการเทรดไม่ดีนัก เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นเทรด
1.ความ สามารถในการเทรดเราอยู่ที่ 50% ที่เราจะเดาทิศทางของตลาดได้ถูกต้อง
2. ถ้าเราขาดทุนเราจะ คัทลอส ที่ 1,000 บาทต่อครั้ง
ถ้าเรากำไรจะ Take Profit ที่เท่าไหร่ คำตอบก็เหมือนกัน คือมากกว่า 1,000 บาทต่อครั้ง สมมุติเรา Take Profit ที่ 1,100 บาทต่อครั้ง สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราเทรดครบ 100 ครั้งคือ
กำไร 50 ครั้งๆ ละ 1,100 บาท = 55,000 บาท
ขาดทุน 50 ครั้งๆ ละ 1,000 บาท = 50,000 บาท
สุทธิ ก็ยังกำไร = 50,000 บาท
คือเเม้ว่าเราเดาถูกเเค่ 50% เราก็ยังสามารถทำกำไร ถ้าเราสามารถรู้เรื่องการคำนวณ Risk/ Reward หรือสามารถรู้จักการบริหารเงินทุนที่ดี

หากเราทักษะการเทรดถูกพัฒนามากสามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้ เเม่นยำขึ้น
1.ความสามารถในการเทรดของเราอยู่ที่ 60% ที่จะเดาทิศทางของตลาดถูก
2.ถ้าเราขาดทุนเราจะคัทลอสที่ 1,000 บาทต่อครั้ง
คราวนี้เราสามารถ Take profit ที่ 1000 บาท ก็ยังได้ เพราะทุกๆการเทรด 100 ครั้งเราจะ
กำไร 60 ครั้ง ๆ ละ 1,000 = 60,000 บาท
ขาด ทุน 40 ครั้งๆ ละ 1,000 = 40,000 บาท
กำไรสุทธิก็ยังเป็น 20,000 บาท
ถ้า เราเดาถูกเพียง 60% ก็สามารถทำกำไรได้มากมาย

หากพัฒนาทักษะจนเป็นโปรเทรดเดอร์ มีความเเม่นยำในการเทรดสูงมาก
1.ความสามารถในการเทรดของ เราอยู่ที่ 70% ที่จะเดาทิศทางของตลาดถูก
2.ถ้าเราขาดทุนเราจะคัทลอสที่ 1,000 บาทต่อครั้ง
คราวนี้เราสามารถ Take profit ที่ 1000 บาท ก็ยังได้ เพราะทุกๆการเทรด 100 ครั้งเราจะ
กำไร 70 ครั้ง ๆ ละ 1,000 = 70,000 บาท
ขาด ทุน 30 ครั้งๆ ละ 1,000 = 30,000 บาท
กำไรสุทธิก็จะเป็น 40,000 บาท
ทั้งหมดที่ผมต้องการจะสื่อก็ คือในการเป็นเทรดเดอร์ที่จะสร้างกำไรนั้น ไม่จำเป็นว่าเราจะเก่งเเม่นยำถึงระดับ 80-90% เพียงเเค่เราคาดการณ์ให้ถูกเกินครึ่ง เราก็สามารถจะสร้างกำไรมหาศาลเเล้ว

ใน การลงทุนในตราสารออปชั่นนั้น มีกลยุทธ์นึงที่สามารถสร้างกำไรตามสถานการณ์ต่อไปนี้ กลยุทธ์นี้เกิดขึ้นจริงกับหุ้น Apple โดยใช้ Option Spread Trading
ถ้าหุ้นเเม่ลง มากกว่า 5% ..............Spread ทำกำไร 92.3%
ถ้าหุ้นเเม่ลง 5% ...........................Spread ทำกำไร 92.3%
ถ้าหุ้นเเม่ลง 2.5%.........................Spread ทำกำไร 92.3%
ถ้าหุ้นเเม่ไม่ เคลื่อนไหว..................Spread ทำกำไร 92.3%
ถ้าหุ้นเเม่ขึ้น 2.5%.........................Spread ทำกำไร 92.3%
ถ้าหุ้นเเม่ขึ้น 5%............................Spread ทำกำไร 35.7%
เเต่ถ้าหุ้นเเม่ขึ้นมากกว่า 10% .........Spread ขาดทุน 100%

สังเกตุว่า
1. Win/loss Ratio สูงมาก โอกาสที่จะชนะมีมากเกิน 75%
2. Reward / Risk ก็น่าสนใจ

Pay off ดังกล่าวนี้สามารถจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเรารู้จักการนำออปชั่น 2 ตัวมาผสมกัน เเล้วสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่ดี ก็สามารถทำให้เราสามารถสร้างผลตอบเเทนจากการเทรดระดับโปรเทรดเดอร์ได้ไม่ยาก นัก

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘